พฤษภาคม 21, 2024, 07:02:43 PM
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว
: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
สมาชิก
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กระดานข่าว Save Our Sea.net
>
หมวดหมู่ทั่วไป
>
ห้องรับแขก
(ผู้ดูแล:
สายชล
,
สายน้ำ
) >
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2552
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2552 (อ่าน 2316 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2552
«
เมื่อ:
มีนาคม 27, 2009, 01:00:41 AM »
กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป
บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมทะเลจีนใต้และประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง และลมใต้กับลมตะวันออกเฉียงใต้จะเริ่มพัดเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองลดลงและลมกระโชกแรงในระยะนี้
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
คาดหมาย
ส่วนในช่วงวันที่ 27-28 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมทะเลจีนใต้และประเทศไทยตอนบนจะมีกำลัง อ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจายและอุณหภูมิสูงขึ้น หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 29 มี.ค. - 1 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมา ปกคลุมทะเลจีนใต้ และประเทศไทยตอนบนอีกครั้งหนึ่ง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นกับลมกระโชกแรงบางแห่ง
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 29 มี.ค.-1 เม.ย. ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงไว้ด้วย
Forecast2.jpg
(39.6 KB, 684x423 - ดู 309 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2552
«
ตอบ #1 เมื่อ:
มีนาคม 27, 2009, 01:19:40 AM »
ข่าวสด
ทะเลที่มองไม่เห็น
:
เก็บเรื่องมาเล่า ชนา ชลาศัย
นิตยสาร "เส้นทางสีเขียว" ฉบับเดือนม.ค.-เม.ย. อาจทำให้นักบริโภคอาหารทะเลเกิดความสงสัยไม่น้อย กับคำกล่าวที่ว่า อาหารทะเลกำลังจะหมดไปจากโลก?
จริงไม่จริง ดูข้อมูลหลักฐานที่นำเสนออยู่ในนิตยสารเล่มนี้
จากข้อมูลในวารสารด้านวิทยาศาสตร์ชื่อ Science ฉบับเดือนพ.ย. พ.ศ.2549 ตีพิมพ์งานวิจัยของคณะนักวิจัยจากแคนาดา ปานามา สวีเดน อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา จำนวน 14 คน โดย ศ.บอริส เวิร์ม นักชีววิทยาทางทะเลจากมหาวิทยาลัยดัลฮูซี เมืองฮาลิแฟกซ์ แคนาดา เป็นหัวหน้าคณะผู้วิจัย
สรุปว่า
การประมงเกินขนาด มลพิษ และปัจจัยสิ่งแวดล้อมอื่นๆ จะทำให้สัตว์ทะเลหายไป
การวิจัยครั้งนี้เริ่มต้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทีมผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาระบบนิเวศทางทะเล 32 จุด ตรวจสอบพื้นที่สภาพชายฝั่งในรอบ 1,000 ปีผ่านมา จำนวน 12 แห่งทั่วโลก โดยการสืบค้นข้อมูลจากเอกสาร บันทึกการประมง หลักฐานทางโบราณคดี และสภาพชั้นตะกอนตามแนวชายฝั่ง และสถิติการจับสัตว์น้ำทั่วโลกระหว่างพ.ศ.2493-2546 ซึ่งรวบรวมโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสถิติสหประชาชาติ (เอฟเอโอ)
เพื่อตอบคำถามว่า
จะมีอาหารทะเลเพียงพอต่อการบริโภคไปอีกกี่ปี?
คำตอบที่น่าตกใจคือ 40 ปี!
อีก 40 ปี ข้างหน้า (ค.ศ.2048 หรือพ.ศ.2591) ปลาและสัตว์ทะเลแทบทุกสายพันธุ์จะหมดไปจากโลก!
จากข้อมูลการจับปลาเพื่อการค้าทั่วโลกเมื่อปีพ.ศ.2546 (ข้อมูลล่าสุดที่มีบันทึกไว้ขณะทำวิจัย) พบว่าชนิดของปลาเพื่อการค้าหายไปถึง 29 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ารวดเร็วกว่าเท่าตัว เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อปีพ.ศ.2532
ที่ชนิดของปลาหายไปเพียง 13.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยปัจจุบันชาวประมงจับปลาได้ลดลง 1,736 ชนิด เหลือปลาที่จับเป็นการค้าทั่วโลกเพียง 7,784 ชนิดเท่านั้น
ทางแก้ที่คณะวิจัยกลุ่มนี้นำเสนอก็คือ การกำหนดวัตถุประสงค์ของการใช้พื้นที่ทางทะเลแต่ละจุดอย่างชัดเจน ควรมีมาตรการบริหารจัดการระบบนิเวศวิทยาทางทะเล โดยการตั้งเขตสงวน ห้ามมนุษย์เข้าไปทำกิจกรรมใดๆ โดยเด็ดขาด
รวมทั้งบริหารจัดการการประมงรูปแบบใหม่ คือ ให้อุตสาหกรรมประมงเข้ามามีส่วนร่วมปกป้องรักษาปริมาณสัตว์น้ำในท้องถิ่นให้เหลืออยู่ในระดับที่เหมาะสม
ที่สำคัญต้องเข้าไปสร้างความเข้าใจกับกลุ่มผู้ทำประมงว่า
ถ้าเร่งจับสัตว์น้ำจนหมด ผลสุดท้ายจะจบลงด้วยสภาพทะเลที่ไร้ปลา
เรื่องนี้ถือเป็นข่าวร้ายของนักบริโภคอาหารทะเลจริงๆ
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2552
«
ตอบ #2 เมื่อ:
มีนาคม 27, 2009, 01:26:42 AM »
คม ชัด ลึก
กรุงเทพ-ปากน้ำไฟดับ เสาร์-อาทิตย์นี้
การไฟฟ้านครหลวง มีความจำเป็นต้องทำงานเกี่ยวกับสายป้อนไฟฟ้าแรงสูง จึงจำเป็นต้องงดจ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นการชั่วคราวบางพื้นที่ในบริเวณดังต่อไปนี้
วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2552
กรุงเทพมหานคร
เวลา 09.00-16.00 น. - ซอยสุภาพงษ์ 2 ถ.ราษฎร์พัฒนา รวมทั้งกรมที่ดิน หมู่บ้านมัณฑิรารามคำแหง หมู่บ้านอาเคดีย พาร์ควิลล์
สมุทรปราการ
เวลา 08.00-17.00 น. - ซอยหมู่บ้านพัชราภรณ์ (ดับทั้งหมู่บ้าน) ถ.สุขสวัสดิ์ ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง
วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2552
กรุงเทพมหานคร
เวลา 08.00-16.00 น. - ถ.ราษฎร์บูรณะ (ฝั่งซอยเลขคี่) ตั้งแต่ซอยราษฎร์บูรณะ 33 ถึงซอยราษฎร์บูรณะ 39 และริมถนนเขตราษฎร์บูรณะ
เวลา 08.00-16.00 น. - ซอยเทียนทะเล 20 (ดับตลอดซอย) ถ.บางขุนเทียนชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน
เวลา 08.00-17.00 น. - ซอยประชาอุทิศ 54 ตั้งแต่ซอยย่อยที่ 9 ไปจนถึงสุดซอย
สมุทรปราการ
เวลา 08.00-15.30 น. - ถ.ทางเข้านิคมเมืองใหม่บางพลี (ฝั่งทิศตะวันออก) ไฟฟ้าดับตั้งแต่นิคมบางพลี ซอย 1 และซอย 2
*************************************************************************************************************************
โจรสลัดโซมาเลียยึดเรือสินค้า 2 ลำ ภายใน 24 ชม.
โจรสลัดโซมาเลียขยายฐานปฏิบัติการ บุกยึดเรือสินค้าสองลำในมหาสมุทรอินเดียภายใน 24 ชม. ส่วนลำที่สามหนีไปได้
(27มี.ค.) กองเรือที่ 5 ของสหรัฐฯ ซึ่งลาดตระเวนตามแนวอ่าวเอเดนซึ่งชุกชุมไปด้วยโจรสลัดของโซมาเลียแถลงยืนยันว่า ได้เกิดเหตุโจรสลัดติดอาวุธชาวโซมาเลียที่มีปืนกลเป็นอาวุธ บุกยึดเรือบรรทุกสารเคมีขนาดระวางขับน้ำ 23,000 ตัน ชื่อ"โบว อาซีร์" ของนอรเวย์ ที่นอกชายฝั่งโซมาเลีย400 กิโลเมตร เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี และว่ามีลูกเรือ 23 คน แต่ทางบริษัทนอรเวย์ซึ่งเป็นเจ้าของเรือระบุจำนวนลูกเรือว่ามี 27 คน พร้อมกัปตันชาวนอรเวย์
เหตุร้ายนี้เกิดขึ้นเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากเมื่อบ่ายวันพุธ เพิ่งมีเรือบรรทุกสารเคมีขนาดระวางขับน้ำ 9,000 ตัน ชื่อ"นิพาเยีย"ของกรีก พร้อมลูกเรือชาวฟิลิปปินส์ 18 คน กับกัปตันเรือ ชาวรัสเซีย ถูกโจรสลัดบุกยึดไปในน่านน้ำแถบเดียวกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือที่แน่นขนัดที่สุดของโลก และปัจจุบันมีโจรสลัดชุกชุมที่สุด แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสารเคมีในเรือทั้งสองลำ
โจรสลัดโซมาเลียอาละวาดหนักสุดเมื่อปีที่แล้ว โดยโจมตีเรือ 111 ลำ และยึดไปได้ 42 ลำ ส่วนใหญ่ในอ่าวเอเดน ส่วนปีนี้มีเรือถูกยึดไปแล้ว 7 ลำผู้เชี่ยวชาญระบุว่า โจรสลัดถูกปราบปรามอย่างหนักในอ่าวเอเดน จึงย้ายออกมาก่อเหตุในมหาสมุทรอินเดียทำให้ยิ่งยากที่จะจับกุม สอดคล้องกับถ้อยแถลงของโฆษกหญิงของกองเรือที่ 5 ที่ว่า เรือทั้งสองลำถูกบุกยืดในมหาสมุทรอินเดียซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล เกือบ 2 ล้านตารางกิโลเมตร ตรวจจับได้ยาก และว่าโจรสลัดได้พยายามบุกยึดเรือสินค้าชักธงชาติปานามาด้วยเมื่อวันพุธ แต่ลูกเรือใช้สายยางฉีดน้ำสกัด พร้อมเร่งเครื่องหนีได้ทัน
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 4627
Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2552
«
ตอบ #3 เมื่อ:
มีนาคม 27, 2009, 01:30:34 AM »
แนวหน้า
ประมงขยายเวลาปิดอ่าวอันดามัน อนุรักษ์สัตว์น้ำวางไข่ 3 เดือน พร้อมขยับพื้นที่คุ้มครอง 4 จังหวัด
ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ผลจากการที่กรมประมงประกาศใช้มาตรการปิดอ่าวฯ ฝั่งทะเลอันดามันบริเวณ จ.กระบี่ และ พังงา ในปีที่ผ่านๆมา พบว่า สามารถรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำที่กำลังมีไข่และเข้ามาวางไข่เลี้ยงลูก ให้เพิ่มปริมาณขึ้นได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า พื้นที่ใกล้เคียงก็เป็นแหล่งวางไข่และเลี้ยงตัววัยอ่อนของปลาผิวน้ำและปลาหน้าดินที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจหลายชนิดเช่นกัน
แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ บริเวณดังกล่าวนี้ มีความเสื่อมโทรมลงอยู่ตลอด ทรัพยากรสัตว์น้ำลดจำนวนลงอย่างมาก เนื่องจากมีการทำประมงที่มากเกินสมดุลของธรรมชาติที่จะเกิดผลผลิตใหม่ได้ทัน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการฟื้นฟูให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะพันธุ์เติบโต และอยู่อาศัยของสัตว์น้ำ
ดังนั้นกรมประมงจึงเสนอให้มีการประกาศเพิ่มพื้นที่และระยะเวลาการปิดอ่าว โดยได้มีการประชุมหารือกับผู้แทนทั้งภาครัฐ ชาวประมง และองค์กรเอกชน (NGO) ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันในการที่ขยายพื้นที่และระยะเวลาการปิดอ่าวออกไป กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32(1) (2) (4) และ(5) แห่งพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 ออกประกาศ กำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดทำการประมงในฤดูปลาที่มีไข่ และวางไข่เลี้ยงลูกในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง ตั้งแต่ 1 เมษายน-30 มิถุนายนของทุกปี และให้กรมประมงยึดหลักปฏิบัติโดยเคร่งครัดและเข้มงวดกวดขันไม่มีการผ่อนผันแต่อย่างใด
อธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า ในส่วนของมาตรการปิดอ่าวฝั่งอ่าวไทย เป็นระยะเวลา 3 เดือน (15 กุมภาพันธ์ - 15 พฤษภาคม) ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี นั้นได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี สำหรับฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งกรมประมงจะประกาศปิดอ่าวฤดูปลาที่มีไข่ฯ ในวันที่ 30 มีนาคม นี้ ณ บริเวณสวนสาธารณะธารา อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่
บันทึกการเข้า
ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
หมวดหมู่ทั่วไป
-----------------------------
=> ห้องรับแขก
=> กิจกรรมและผลงาน
=> เรื่องเล่าชาวทะเล
=> ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน
=> คุยเฟื่องเรื่องดำน้ำ
=> หลังเลนส์
=> สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล
=> คลังกระทู้เก่า
กำลังโหลด...