กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 17, 2024, 10:08:25 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 9 มกราคม 2552  (อ่าน 2488 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 03:49:58 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา

ลักษณะอากาศทั่วไป
    บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลงทั่วไป โดยอุณหภูมิลดลงอีก 2-3 องศา กับมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 9-14 ม.ค. 52
 
คาดหมาย
     ในช่วงวันที่ 8-11 ม.ค. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง 2-5 องศา อากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไปและมีลมแรง ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ม.ค. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีก ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงอีก และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงต่อเนื่องออกไปอีก
     
ข้อควรระวัง
     ในช่วงวันที่ 9-14 ม.ค. ภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้น ชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่ง

 
 
 
 
 
 

 
 
 
บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 03:53:31 AM »

เดลินิวส์

เกิดแผ่นดินไหวที่คอสตาริกา มีผู้เสียชีวิตแล้ว3คน

 วันนี้ (9 ม.ค.) เกิดแผ่นดินไหวเมื่อเวลา 01.21 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในคอสตาริกา และตรงกับ 02.21 น. ในประเทศไทย มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากกรุงซานโฮเซ่ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 35 กิโลเมตร วัดความรุนแรงได้ 6.1 ริกเตอร์ แรงสั่นสะเทือนทำให้เกิดดินถล่มฝังกลบร่างของเด็กหญิง 2 คน ที่กำลังขายลูกกวาดให้กับนักท่องเที่ยวบริเวณแหล่งภูเขาไฟโปอัส จนเสียชีวิต ส่วนผู้เสียชีวิตอีกคนหนึ่งเป็นสตรี เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย

นอกจากนี้ แรงสั่นสะเทือนยังทำให้อาคารหลายแห่งเกิดรอยแตกร้าว กระจกหน้าต่างแตก และมีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 208 คน  ถนนหลายสายชำรุด ไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ ขณะที่สนามบินนานาชาติต้องระงับเที่ยวบินทุกเที่ยวเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ทางการได้ประกาศเตือนให้ระวังการเกิดดินถล่ม เนื่องจากยังคงมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง.
 
บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 04:04:52 AM »

ผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวศรีราชา-กองทัพเรือเตรียมความพร้อม รับนักท่องเที่ยวนับหมื่น หลั่งไหลเข้าชมเรือหลวงจักรีนฤเบศรในวันเด็กแห่งชาติ


       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องด้วยในวันเสาร์ที่ 10 มกราคม 2552 หรือเสาร์สัปดาห์ที่สองของปี ซึ่งทางรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง นั่นคือวันเด็กแห่งชาติ ถือเป็นวันที่ผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง และหน่วยงานต่าง ๆ ล้วนจัดกิจกรรมการละเล่น เพื่อมอบความรื่นเริง สร้างความสุข สนุกสนาน แก่เด็กและเยาชน
       
       ซึ่งในปี 2552 นี้ ทางกองทัพเรือ โดยพลเรือเอกศุภกร บูรณดิลก ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้ พลเรือตรี สรชา ศรประทุม ผู้บัญชาการกองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ดำเนินการเตรียมความพร้อมในส่วนของเรือหลวงจักรีนฤเบศ ร ซึ่งจะจอดเทียบท่าให้ประชาชนเข้าชม ณ บริเวณท่าเทียบเรือจุดเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
       
       โดยในปีนี้ เรือหลวงจักรีนฤเบศรจะเปิดให้ประชาชนเข้าชม พร้อมกับเรือหลวงพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก สำหรับกิจกรรมภายในงาน จะมีการแสดงนิทรรศการ ภารกิจของกองทัพเรือ สาธิตการปฏิบัติการทางทหารในรูปแบบต่างๆ การแสดงท่าประกอบอาวุธของนักเรียนจ่าทหารเรือ การแสดงการปฏิบัติงานของสุนัขทหาร การบริการทางการแพทย์ การแข่งขันกีฬา การแข่งขันตอบปัญหา การแจกของขวัญ ของรางวัลต่างๆ อีกมากมาย และการจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ อากาศยาน อาทิเช่น ยานหุ้มเกราะ เฮลิคอปเตอร์ และอาวุธปืนชนิดต่าง ๆ จำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อให้เยาวชนได้ศึกษาหาความรู้อย่างใกล้ชิดกับยุทโธปกรณ์ประเภทต่าง ๆ และสนุกสนานเพลิดเพลินกับการแสดง โดยในปีนี้คาดจะมีผู้ปกครองนำบุตรหลานเดินทางเข้าชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร และร่วมกิจกรรม จำนวนกว่า 20,000 คน
       
       พลเรือตรี สรชา ศรประทุม ผู้บัญชาการกองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ได้กล่าวว่า เพื่อให้การจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2552 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงได้มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และได้มีการวางรั้วขอบเขตบนดาดฟ้าเรือเพื่อป้องกันอันตรายเด็กตก ตลอดจนทำความสะอาดเรือ อีกทั้งจัดเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้มีความพร้อมที่จะเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ขึ้นชมอีกด้วย จึงขอให้ผู้ปกครองที่ได้พาบุตรหลานเข้ามาเที่ยวชมยังท่าเทียบเรือจุดเสม็ด จะได้รับความสุข สนุกสนาน และความปลอดภัยกลับบ้านอย่างแน่นอน
 
บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 04:09:14 AM »

แพนด้ากัดหนุ่มเคราะห์ร้าย ปีนลงบ่อเก็บของเล่นให้ลูก



เอเจนซี่ - แพนด้ายักษ์ “กู๋กู่” ซึ่งเป็นดาวเด่นของสวนสัตว์ปักกิ่ง ได้กัดเข้าที่ขาของชายผู้หนึ่ง เมื่อวานนี้ (7 ม.ค.) ก่อนที่เจ้าหน้าที่ประจำสวนสัตว์ได้ช่วยชายคนดังกล่าวเอาไว้ได้ทันเวลา
       
       ชายผู้เคราะห์ร้ายคนนี้ ชื่อว่า จางเสี้ยว เป็นนักท่องเที่ยวจากมณฑลอันฮุย โดยเขาบอกว่าต้องการเก็บของเล่นที่ลูกชายของเขาทำหล่นลงไปในบ่อที่อาศัยของแพนด้ายักษ์ แต่หาเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ให้มาช่วยเก็บไม่ได้ จึงได้กระโดดลงไปเอง
       “เจ้าแพนด้ากัดที่ขาทั้งข้างซ้ายและขวาของผม ผมไม่คิดมาก่อนมาแพนด้ายักษ์จะกัดคนได้” นายจาง กล่าวด้วยความเสียใจที่ประมาทในครั้งนี้
       
       หลังจากเมื่อเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ช่วยเขาขึ้นมาได้ นายจางถูกนำส่งโรงพยาบาล และอาการไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
       
       แพนด้ายักษ์ “กู๋กู่” เคยก่อเหตุกัดคนมาแล้ว สามครั้ง โดยในปี 2006 ได้กัดชายขี้เมาคนหนึ่ง ที่ปีนลงไปในบ่อที่อาศัยของแพนด้ายักษ์ เพื่อจะกอดมัน
       
       ปีต่อมา เจ้า“กู๋กู่” ก็กัดเด็กชายอายุ 15 ปี ที่ลงไปในบ่อแพนด้า เพราะต้องการเข้าไปลูบหัวเจ้าแพนด้ายักษ์ และ นายจาง เสี้ยว ก็เป็นผู้เคราะห์ร้ายคนล่าสุด
       
       เจ้าหน้าที่ประจำสวนสัตว์ บอกว่า ถึงแม้ว่าแพนด้ายักษ์จะกินใบไผ่เป็นอาหาร แต่ด้วยสัญชาติญาณความเป็นสัตว์ป่า มันก็สามารถจะทำร้ายคนได้ โดยเฉพาะเมื่อมันตกใจ หรือรู้สึกว่าถูกบุกรุกที่อยู่
       
       แพนด้ายักษ์ “กู๋กู่” ปีนี้อายุ 9 ขวบ หรือเทียบเท่ากับคนหนุ่มวัยฉกรรจ์อายุ 25ปี สูง180ซม. น้ำหนักตัว 110กก. โดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ บอกว่า ตลอดวันนี้ เจ้า“กู๋กู่” ยังตกใจไม่หาย ไม่ค่อยกินอาหาร
       
       ทั้งนี้ แพนด้ายักษ์ ถือเป็น สัตว์สัญลักษณ์ ที่มีเฉพาะในประเทศจีน จึงทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ต้องการเข้าไปสัมผัสอย่างใกล้ชิด ทั้งๆที่ทางสวนสัตว์ติดป้ายเตือนเอาไว้เเล้ว จนหลายครั้งเกิดเหตุการณ์แพนด้ายักษ์กัดคน
บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 04:17:43 AM »

Birds (of) my View ดูนกด้วย "ใจ"
 



 
"เมื่อเราอยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร เมื่อนั้นแหละเราจะมีความสุข และรู้จักตัวเองได้ดีที่สุด"      นายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล
       
       กระแสการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์หรือเชิงนิเวศ (Ecotourism) กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่บางส่วนที่นิยมไปท่องเที่ยวในแหล่งสถานที่ธรรมชาติ แต่หลายครั้งการเข้าไปของนักท่องเที่ยว กลับนำมาซึ่งความเสื่อมโทรมและมลพิษที่ถูกปรุงแต่งของคนเมืองที่แปลกปลอมจากป่า
       
       การหันหลับมาพิจารณาแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆ ตัวเมือง อย่างพื้นที่ตามแนวถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล สุดเขตตามแนวจังหวัดกรุงเทพมหานคร ไปจนถึงชายทะเลแถบสถานตากอากาศบางปู จังหวัดสมุทรปราการ แทนการดั้นด้นบุกป่าฝ่าเขา เพื่อไปชมธรรมชาติด้วยการดูนกอพยพริมฝั่งอ่าวไทยแทนนั้น นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนเมืองที่มีหัวใจอนุรักษ์ แต่ไม่อยากรบกวนธรรมชาติมากเกินไป
       
       จากอ่าวไทยถึงดงโรงงาน
       
       การท่องเที่ยวธรรมชาติเป็นภาคส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเติบโตเร็วที่สุดในระดับโลก ในช่วงทศวรรษ 1990 การท่องเที่ยวธรรมชาติเติบโตร้อยละ 20-30 ต่อปี เมื่อเปรียบเทียบกับการเติบโตร้อยละ 4 ต่อปีของการท่องเที่ยวทั้งหมด สำหรับการท่องเที่ยวธรรมชาติรูปแบบต่างๆ "การดูนก" นับเป็นส่วนสำคัญที่นำผลประโยชน์มาให้ทั้งนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือน และชุมชนท้องถิ่น
       
       แต่ในขณะเดียวกัน ผลประโยชน์ที่ตามมาจากธุรกิจการท่องเที่ยว กลับมีแนวโน้มจะนำมาซึ่งผลกระทบด้านลบที่การท่องเที่ยวจะทำให้เกิดกับนก คน ชุมชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่
       
       พื้นที่ใกล้เคียงกรุงเทพมหานครอย่างเช่นจังหวัดสมุทรปราการ นับเป็นแหล่งดูนกใกล้เมืองที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนกน้ำหลายพันธุ์ เช่น นกตีนเทียน นกตะขาบทุ่ง นกแว่นตาขาวสีเหลือง นกกะติ๊ดขี้หมู และนกนางนวล ซึ่งเป็นนกที่สร้างชื่อเสียงให้กับบางปูเป็นอย่างมาก
       
       ในช่วงต้นฤดูหนาว พร้อมกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ชุ่มน้ำบางปูจะเปี่ยมชีวิตชีวาด้วยเหล่าผู้มาเยือน ซึ่งเดินทางมาไกลจากแผ่นดินตอนเหนือที่สร้างชื่อให้กับบางปูก็คือ นกนางนวลธรรมดา จากการสำรวจโดยองค์การพื้นที่ชุมน้ำนานาชาติแห่งประเทศไทย และสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย พบว่าบางปูมีนกนางนวลธรรมดาอาศัยอยู่ตลอดฤดูหนาวไม่ต่ำกว่า 5,000 ตัว อาจกล่าวได้ว่า เป็นพื้นที่ที่มีการรวมกลุ่มของนกนางนวลธรรมดามากที่สุดที่พบในแถบอ่าวไทยตอนใน
       
       อีกด้านหนึ่ง...พื้นที่เมืองสมุทรปราการที่อยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม และรายล้อมด้วยดงโรงงานล้อมรอบ น้ำเสียและมลพิษที่ถูกปล่อยทิ้งลงแหล่งน้ำโดยไม่ได้รับการบำบัดที่ถูกวิธี อาจนำมาซึ่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและนกอพยพ
       
       กวิน ชุติมา นายกสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย (เบิร์ดไลฟ์ในประเทศไทย) กล่าวว่า แหล่งธรรมชาติสำหรับดูนกในเขตอ่าวไทยตอนในมีความสำคัญมาก และเป็นพื้นที่สำคัญระหว่างประเทศ คือ เป็นแหล่งพักพิงของนกอพยพในทวีปเอเชียจนถึงออสเตรเลีย ปีหนึ่งจะมีนกอพยพเข้ามาบริเวณอ่าวไทยตอนในประมาณ 500,000 ตัว ซึ่งนอกจากอ่าวไทยแล้ว ก็ยังมีอีกแห่งหนึ่งที่ใหญ่ขนาดนี้ที่เกาหลี แต่ปัจจุบันเป็นที่น่าเสียดายว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกถมทะเลไปแล้ว
       
       "นกเป็นตัวชี้วัดธรรมชาติได้อย่างหนึ่ง ถ้ามีอาหารและมีความปลอดภัยนกก็จะบินมา และหากคนไม่ไปคุกคามมันก็จะมา" ทางสมาคมฯ จึงมีโครงการอนุรักษ์อ่าวไทยตั้งแต่พื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ กรุงเทพ สมุทรสาคร เพชรบุรี ซึ่งจะมีจุดต่างๆ ที่คอยติดตามการอพยพของนก โดยทำงานร่วมกับปกครองท้องถิ่น 28 ตำบลที่อยู่บริเวณชายฝั่ง และมีการจัดการอบรมให้กับเด็กๆ และเยาวชน เพื่อให้เด็กๆ มีความเข้าใจเกี่ยวกับการดูนก
       
       ปรัชญาในการดูนก
       
       การท่องเที่ยวธรรมชาติได้รับการส่งเสริมอย่างกว้างขวางให้เป็นทางออกทางหนึ่ง ต่อแรงกดดันที่ระบบนิเวศตามธรรมชาติต้องเผชิญ อันเป็นผลมาจากกระบวนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม ถ้าหากไม่มีการกำกับดูแลและจัดการอย่างระมัดระวัง การท่องเที่ยวธรรมชาติอาจจะสร้างแรงกดดันต่อสัตว์ป่า และธรรมชาติได้จากการรบกวนมลภาวะของมนุษย์
       
       ปรัชญาของการท่องเที่ยวดูนกที่เบิร์ดไลฟ์สากลให้นิยามไว้ คือ การท่องเที่ยวธรรมชาติที่เน้นไปที่นก ควรจะได้รับการพัฒนาไปในทางที่ไม่มีผลเชิงลบต่อนกและถิ่นที่อยู่อาศัยของนก แต่น่าที่จะมีส่วนในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ นำผลประโยชน์มาสู่ชุมชนท้องถิ่นที่รับนักท่องเที่ยว และเสริมสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์ให้แก่ผู้มาเยือน
       
       การยึดมั่นในปรัชญาของการท่องเที่ยวดูนก หมายความว่า จะต้องรอบคอบ ไวต่อปฏิกิริยาของนก และเคารพต่อธรรมชาติและผู้คน หมายถึงการนำชุมชนที่รับนักท่องเที่ยวเข้ามาเกี่ยวข้องในการวางแผนและดำเนินการ เพื่อทำให้การท่องเที่ยวเป็นไปในลักษณะที่พวกเขามีส่วนร่วมและยังประโยชน์กับพวกเขาอย่างยั่งยืน
       
       ในพื้นที่ด้านตะวันออกของสะพานสุขตาของสถานตากอากาศบางปู นับตั้งแต่แนวป่าแสมริมถนนสุขุมวิท ไล่ลงมาถึงแนวเขื่อนกั้นน้ำทะเล เรื่อยไปถึงพื้นที่หาดโคลนกว้างใหญ่กินบริเวณไปถึงตัวอาคารสุขใจ สภาพธรรมชาติโดยรวมจะเป็นป่าแสมที่กำลังฟื้นตัว และบึงใหญ่ที่เคยเป็นบ่อเลี้ยงกุ้ง ทางศูนย์ศึกษาธรรมชาติบางปูได้จัดทำเส้นทางเดินเท้า ศึกษาธรรมชาติที่สามารถเดินชมได้ด้วยตัวเอง โดยเส้นทางเดินเท้านี้จะผ่านระบบนิเวศแบบพื้นที่ชุ่มน้ำ ผ่านดงต้นแสมอันเป็นจุดเกาะพักของนกนานาชนิด เส้นทางสายนี้จะเป็นทางเดินวงรอบระยะทางประมาณ 1,400 เมตร ผ่านถิ่นที่อยู่อาศัยของนกหลากชนิดพันธุ์ และจะมีหอชมเรือนยอดแสมที่สามารถจะมองเห็น พื้นที่ของศูนย์ศึกษาธรรมชาติในมุมสูงได้เช่นกัน
       
       เดิมทีศูนย์ศึกษาธรรมชาติบางปู จะมีหอดูนกขนาดเล็กที่การออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ สำหรับให้เด็กๆ และเยาวชนตลอดจนครอบครัวที่สนใจจะเริ่มต้นดูนกเข้าเยี่ยมชม ในหอนี้จะช่วยให้การสังเกตพฤติกรรมของนกในธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด ทั้งยังมีอุปกรณ์ดูนก ได้แก่ กล้องสองตา กล้องเทเลสโคป และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ ออกนำเดินชมธรรมชาติและดูนก
       
       แต่ด้วยความที่มีนักท่องเที่ยวสนใจมาดูนกกันมากขึ้น ทำให้ทางศูนย์ฯ ไม่สามารถรองรับผู้ที่สนใจอยากมาดูนกที่ริมชายทะเลบางปูได้ทั้งหมด จึงนำมาสู่การสร้างหอดูนกแห่งใหม่ที่มีชื่อว่า "บ้านรักษ์นก" ขึ้น
       
       เปิดบ้านรักษ์นก บางปู
       
       "ปัจจุบันนี้เราทำร้ายธรรมชาติกันมากเลยทีเดียว ทั้งโลกต่างก็ต้องหันมาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งสิ่งแรกที่เราต้องทำ คือ การปลูกฝังจิตสำนึกให้รักสิ่งแวดล้อม และเราก็คิดว่าเยาวชนก็เหมือนต้นกล้าที่เราจะสามารถปลูกฝังให้เขาคิดและตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม" สุนิดา สกุลรัตนะ กรรมการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวถึงจุดประสงค์และเป้าหมายสูงสุดในการกิจกรรม "เปิดบ้านรักษ์นก" เพื่อเยาวชนจะได้มาศึกษาธรรมชาติที่นี่ ด้วยงบประมาณการก่อสร้างประมาณ 1 ล้านบาท
       
       เดิมทีหอดูนกจะติดอยู่กับฝั่งทะเล เอาไว้ใช้สำหรับดูนกในช่วงที่น้ำลง เพราะเวลาน้ำลงนกจะออกมาหากินจำนวนมากหลายพันตัว ในส่วนของหอดูนกตรงจุดนี้จะอยู่ในป่าชายเลนที่กำลังจะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ หอแห่งนี้นอกจากสร้างเพื่อประโยชน์ในการดูนกแล้ว ยังใช้ประกอบกิจกรรมอนุรักษ์ในกลุ่มของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้ที่สนใจทั่วไปด้วยจะเห็นได้ว่าภายในหอดูนกจะประกอบไปด้วยนิทรรศการที่ให้ความรู้โดยเฉพาะแผนที่นกอพยพในซีกโลกตะวันออก ซึ่งจะใช้เวลาศึกษาได้เป็นวันเพื่อความเข้าใจในการอพยพของนก และมีความรู้ในเรื่องของป่าชายเลน, เรื่องนกนางนวลในหอดูนกด้วย
       
       ตั้งแต่ปีใหม่ ทางศูนย์ฯ จะเปิดบ้านรักษ์นกให้เข้าชมได้ทุกวัน ซึ่งจะมีวิทยากรนำเข้าไปเนื่องจากพื้นที่ป่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ไม่อยากให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเองหากไม่มีความรู้ โดยจะจัดเป็นรอบเป็นกลุ่มตั้งแต่ 6 คนขึ้นไปไม่เกิน 15 คน และจะมีอุปกรณ์ดูนกอยู่ที่หอดูนกจัดเตรียมไว้สำหรับนักท่องเที่ยว
       
       "การมีหอดูนกมีข้อดีคือเรามีที่กำบัง แต่ถ้าเป็นที่แจ้งเรายืนอยู่มันก็อาจจะบินหายไป ซึ่งหอดูนกเราเข้าไปดูเงียบๆนกเขาก็รู้สึกปลอดภัยด้วยแล้วช่วงที่เวลาน้ำลงนกก็จะมาเกาะ มาหาอาหารและนกมันก็จะเดินเข้ามาเรื่อยๆ ถ้าเขาคุ้นชินและปลอดภัยมันก็ยิ่งจะเดินเข้ามา หอดูนกจะสร้างไว้ข้างนอกแนวป่าชายเลน ที่อ่าวไทยมี 500,000 ตัว ที่บางปูก็มี 10,000 ตัว เพราะเขารู้สึกว่าปลอดภัย" กวินอธิบาย
       
       นอกจากจะพบนกนางนวลที่นี้บางปูที่มากที่สุดในประเทศไทย มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านดูนก สมาคมดูนกกำลังศึกษาข้อมูลอยู่ว่าน่าจะพบมากที่สุดในเอเชีย คือศูนย์ศึกษาธรรมชาติร่วมกับสมาคมอนุรักษ์นกจะทำการลงมือนับจำนวนนกอพยพทุกปีในช่วงที่ผ่านมา เท่าที่ปรากฏนกนางนวลอพยพจะพบ 8,000-10,000 ตัว ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม
       
       "ถ้าเรารักษาถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติเอาไว้ เขาจะมาเรื่อยๆ แต่ในอ่าวไทยตอนในปัจจุบันนี้ มีนกที่ถูกคุกคามจนใกล้จะสูญพันธุ์อย่างนกชายเลนปากช้อน พบที่จังหวัดเพชรบุรี มีคนยอมบินมาจากทั่วโลกเพื่อมาดูนกชนิดนี้ ซึ่งเป็นนกที่หายากในโลกมีไม่ถึงหนึ่งพันตัว" กวินบอกเล่าถึงการทำงานอนุรักษ์และรักษาเส้นทางในพื้นที่อพยพของนกน้ำในเมืองไทย
       
       ตั้งแต่พื้นที่ตามแนวถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล สุดเขตตามแนวจังหวัดกรุงเทพมหานคร, นาเกลือโคกขามไปทางด้านตะวันออกจนสุดเขตจังหวัดสมุทรสาคร, สถานีวิจัยป่าชายเลนอ่าวมหาชัย และพื้นที่ชุ่มน้ำโดยรอบ, บริเวณศูนย์ศึกษาธรรมชาติบางปูด้านตะวันออกและตก และพื้นที่ริมฝั่งชายทะเลอ่าวไทยอีกหลายแห่ง คือเส้นทางสำรวจโครงการนับนกน้ำช่วงฤดูหนาวของเอเชียในปีที่ผ่านมา โดยทางสมาคมจะเปิดรับอาสาสมัครที่ประสงค์จะเข้าร่วมกิจกรรมนับนกน้ำอพยพในพื้นที่บริเวณอ่าวไทยตอนใน เพื่อร่วมสำรวจประชากรนกน้ำหนีหนาวมาพักยังประเทศไทย
       
       ทำไมต้องนับนกน้ำ
       
       การนับนกน้ำในช่วงกลางฤดูหนาว หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "Midwinter census" เป็นช่วงเวลาที่กำหนดให้มีการนับนกน้ำมาแล้วกว่า 35 ปี และจนถึงปัจจุบันการนับนกน้ำในช่วงสัปดาห์ที่สอง และสามของเดือนมกราคม ยังคงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของกิจกรรมการนับนกน้ำทั่วโลก
       
       กิจกรรมการนับนกน้ำในเอเชียนั้น เป็นความพยายามที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1987 ด้วยการเล็งเห็นถึงความสำคัญว่านกน้ำเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ชุ่มน้ำได้เป็นอย่างดี เพราะความหลากชนิดและความชุกชุมของนกน้ำเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นถึงระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์ของพืชน้ำและสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ ในพื้นที่ชุ่มน้ำนั้นๆ ได้ สิ่งที่แตกต่างจากโครงการสำรวจสัตว์ป่าโครงการอื่นๆ ก็คือเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้คนธรรมดาที่สนใจในเรื่องของธรรมชาติ และมีทักษะในเรื่องของการจำแนกชนิดนกเข้าร่วมได้อย่างกว้างขวาง
       
       นอกจากนี้กิจกรรมที่ทำในประเทศไทยนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการประเมินประชากรนกน้ำนานาชาติ (International Waterbird Census - IWC) จึงทำให้ข้อมูลที่เรารวบรวมนั้นได้ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในระดับโลก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการศึกษานกน้ำย้ายถิ่นระหว่างภูมิภาคต่างๆ โครงการ IWC เป็นการสำรวจระยะยาวโดยใช้ข้อมูลจากนักวิจัยและนักดูนกจาก 4 ทวีป ที่ผ่านมาข้อมูลจากโครงการดังกล่าวได้กลายเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญในการดำเนินงานอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำทั่วโลก
       
       สุรินทร์ วราชุน เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลและวิชาการ สมาคมอนุรักษ์นกฯ ชี้แจงว่า จุดประสงค์หลักจริงๆ ของการติดตามประชากรนกน้ำคือ การสร้างระบบเตือนภัยให้กับพื้นที่ชุ่มน้ำ เพื่อให้วงการอนุรักษ์ได้ทราบว่า อะไรคือภัยคุกคาม หรือปัญหาสำคัญในการอนุรักษ์นกน้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำ และปัญหานั้น มีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด จะมีวิธีการป้องกันหรือแก้ไขได้อย่างไร ถ้าเราไม่มีระบบการเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ ปัญหาที่ค่อยๆ กัดกร่อนความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอาจกลายเป็นหายนะที่คุกคามความอยู่รอดของระบบนิเวศโดยรวมทั้งหมด
       
       "ดังที่ทราบกันดีว่านกเป็นตัวแทนที่สำคัญของระบบนิเวศ เราจึงสามารถใช้นกเพื่อเป็นดัชนีชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี การบันทึกข้อมูลการพบเห็นนกและการนับจำนวนอย่างเป็นระบบ จึงเป็นเสมือนกุญแจสำคัญในการทำงานดูแลและปกป้องธรรมชาติ"
       
       อุปกรณ์ที่ใช้ในการนับนกน้ำนั้นไม่มีอะไรพิเศษมากไปกว่าอุปกรณ์พื้นฐานในการดูนกตามปกติ ได้แก่ อุปกรณ์ขยายภาพเพื่อช่วยให้ผู้สำรวจสามารถมองเห็นนกได้อย่างชัดเจนและนับจำนวนได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ผู้นับนกน้ำควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพื้นที่ชุ่มน้ำที่ต้องการทำการนับนกน้ำพอสมควร เพื่อช่วยให้การเดินทาง และการเตรียมพร้อมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
       
       เจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์นกฯ กล่าวว่า ผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมการนับนกน้ำ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในการจำแนกชนิดนกชายเลน เพราะข้อมูลพื้นฐานจากดูนกทุกคน เช่น เป็นนกกลุ่มอะไรมีจำนวนเท่าไร ล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มีข้อมูล สมาคมอนุรักษ์นกฯ จะทำการประสานงานกับสมาชิกและอาสาสมัครเพื่อจัดแบ่งทีมสำรวจ และทำการนับนกน้ำทั่วอ่าวไทยตอนในเป็นประจำทุกปี โดยในปี 2552 นี้ จะมีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการนับนกน้ำขึ้น ระหว่างวันที่ 11-25 ม.ค.นี้ โดยจะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการจำแนกชนิดนกชายเลนและนกน้ำกลุ่มหลักๆ เทคนิคการนับนกน้ำ และการวางแผนและแบ่งพื้นที่ในการนับนกน้ำบริเวณอ่าวไทยตอนใน
       
       กิจกรรมการนับนกน้ำเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักดูนกทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ได้โดยตรง ผ่านการติดตามความเปลี่ยนแปลงของจำนวนนก และสภาพธรรมชาติอันเป็นที่อยู่อาศัยของนก ข้อมูลที่ได้รับการบันทึก จะถูกรวบรวม วิเคราะห์ และนำเสนอสู่องค์กรระดับนโยบายเพื่อผลักดันให้เกิดการจัดการอนุรักษ์พื้นที่อย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป
       
       ที่สำคัญ คือ ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจยังสามารถนำมาใช้ในการเผยแพร่ สร้างจิตสำนึกที่ถูกต้องให้สาธารณะได้ตระหนักถึงความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และที่รวมของความอุดมสมบูรณ์อันยังประโยชน์ต่อสรรพชีวิตทั้งมวล
       
       - ข้อมูลจาก www.bcst.or.th สอบถามเพิ่มเติมที่สมาคมอนุรักษ์นกฯ โทร 02-691-4816, 02-691-5976

 
 
 
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 09, 2009, 04:20:00 AM โดย แมลงปอ » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.024 วินาที กับ 20 คำสั่ง