กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 05, 2024, 04:55:14 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขยะพลาสติกมรณะ ภัยสัตว์ทะเล-สัตว์ป่า  (อ่าน 4238 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: มิถุนายน 08, 2008, 12:20:58 AM »


ขยะพลาสติกมรณะ ภัยสัตว์ทะเล-สัตว์ป่า


 
กรณี "วาฬหัวทุยแคระ" ตายเพราะกินขยะพลาสติก เป็นเหตุสลดที่ประจานความมักง่ายมนุษย์ ทิ้งขยะไม่เลือกที่ ต้องว่ายมาเกยตื้นที่ชายหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ก่อนจบชีวิต

หลังการชันสูตรซาก ทางสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน (ภูเก็ต) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง เตรียมนำกระดูกของวาฬเคราะห์ร้ายตัวนี้ จัดแสดงเป็นมุมให้ความรู้ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงโทษภัยของขยะที่ถูกทิ้งลงทะเล

พร้อมทั้งตั้งชื่อให้มันว่า "ยะหยา"
เป็นที่ระลึก

เรื่องของ "ยะหยา" เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งชัดเจนว่า ขยะพลาสติกที่ถูกทิ้งลงในทะเล ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธรรมชาติของท้องทะเล โดยเฉพาะสัตว์ทะเลทั้งหลาย

ไม่เพียงแต่วาฬเท่านั้น จากข้อมูลและสถิติของสถาบันวิจัยและทรัพยากรทางทะเลฯ ยังพบว่า มีสัตว์ประเภทอื่นๆ ที่ตายจากขยะพลาสติกเหล่านี้ไปด้วย เช่น เต่าทะเล ถือว่าพบเป็นจำนวนมากกว่าชนิดอื่น โดยปีหนึ่งๆ มีเต่าทะเลเกยตื้นตาย 20-30 ตัว

ครึ่งหนึ่งมาจากการติดเศษอวนของชาวประมง ทำให้บางส่วนพิการ บางส่วนตาย ในขณะอีกครึ่งหนึ่งมีสาเหตุมาจากกินขยะพลาสติกเข้าไป แต่ส่วนใหญ่จะตายก่อนที่สัตวแพทย์จะรักษาได้ทัน

นางนิศากร โฆษิตรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ที่ผ่านมา พยายามรณรงค์ให้ประชาชนใส่ใจ และดูแลทะเลโดยไม่ทิ้งขยะลงไปในทะเล โดยเฉพาะขยะที่เป็นจำพวกพลาสติก ที่ไม่ย่อยสลาย
 


หรือหากเปลี่ยนพฤติกรรมลดการใช้จะเป็นการดีที่สุด แม้จะมีหลายฝ่ายจัดกิจกรรมช่วยกันเก็บขยะในทะเลอยู่เสมอ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะท้องทะเลกว้างใหญ่มาก ดังกรณีของวาฬ "ยะหยา" น่าจะบ่งบอกได้ว่า ปัจจุบันขยะไม่ได้มีอยู่แค่ชายฝั่งเท่านั้น แต่กำลังลุกลามออกไปไกลในท้องทะเลลึกอีกด้วย

ไม่เพียงแต่ขยะพลาสติก จะเป็นปัญหากับสัตว์น้ำในท้องทะเลเท่านั้น แต่ขยะที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ ยังสร้างปัญหาให้แก่สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในป่าบนบกด้วยเช่นกัน

โดยเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติ ที่มีพื้นที่ป่ากว้างขวาง มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่จำนวนมาก ในขณะเดียวกัน ก็เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมได้ ทำให้ขยะไม่พึงประสงค์เหล่านี้ถูกนำเข้าไปในพื้นที่ป่า เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะจัดเก็บอย่างเป็นที่เป็นทาง แต่ บางส่วนก็เล็ดลอดตกค้างในป่า ทำให้ที่ผ่านมา สัตวแพทย์ต้องรักษาสัตว์ป่าหลายชนิดที่ได้รับผลกระทบต่อขยะเหล่านี้อยู่เป็นประจำ

"สัตว์ป่าที่เราพบว่าเป็นปัญหากับขยะพลาสติกอยู่บ่อยๆ ได้แก่สัตว์จำพวก กวาง เก้ง และลิง ที่มักจะกินพวกถุงพลาสติก หรือเศษโลหะอันตรายเข้าไป เป็นสาเหตุของการเกิดอาการเจ็บป่วย เพราะถุงพลาสติกเข้าไปติดหลอดลม ทำให้หายใจลำบาก น้ำลายยืด กินอาหารอื่นไม่ได้ จะขย้อนออกมาหมด ทำให้หมดแรง ปวดท้องอย่างรุนแรง ถือว่าเป็นอาการที่ทรมานมาก"

"นอกจากนี้ บางครั้งเราพบกวาง ที่ขาไปติดอยู่ในกระป๋องน้ำอัดลม หรือถูกเศษแก้วบาดที่เท้า ทำให้ใช้ชีวิตในป่าลำบาก หรือถ้าช่วยไม่ทัน อาจทำให้พิการได้ สัตว์เหล่านี้ถ้าเห็นได้เร็ว จะสามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที แต่บางครั้งถ้าไม่มีใครเจอ มันก็จะต้องเจ็บปวดทรมานมากจนทนไม่ไหว หรือถ้าเป็นอันตรายมากๆ ก็จะตายในที่สุด" น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เล่าถึงประสบการณ์การให้ความช่วยเหลือสัตว์ป่าโชคร้าย

พร้อมแสดงความคิดเห็นด้วยว่า ในกรณีของป่าบก อาจจะแตกต่างๆ จากท้องทะเล เพราะแม้บางครั้ง นักท่องเที่ยวจะพยายามเก็บขยะเหลือใช้ จำพวกวัสดุที่ย่อยสลายยากลงถังอย่างมิดชิดแล้วก็ตาม แต่สัตว์ป่าก็เฉลียวฉลาดพอที่จะลงมาคุ้ยเขี่ยหาเศษอาหารที่หลงเหลืออยู่กินได้เอง

เนื่องจากคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว ทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนไป โดยเฉพาะกวาง หรือลิง ที่มักได้รับอาหารจากผู้ที่เข้าไปเที่ยวในป่า แต่มันก็ไม่รู้มากกว่านั้นว่าอะไรที่เป็นอันตรายหากกินเข้าไป ทำให้หลงกินขยะจำพวกถุงพลาสติก เข้าไปจนได้

ดังนั้น นอกจากการทิ้งขยะให้มิดชิดแล้ว การเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์ให้หันมาลดการใช้วัสดุสังเคราะห์ จำพวก พลาสติก กล่องโฟม หรือกระป๋องโลหะ ในระหว่างเข้าไปเที่ยวป่า น่าจะเป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง ที่อาจจะสามารถลดปัญหาผลกระทบจากขยะที่ส่งผลถึงความเป็นอยู่ของสัตว์ป่าในผืนป่าได้

"สิ่งที่ทุกคนควรตระหนักก็คือ ผลกระทบที่เกิดจากการใช้วัสดุสังเคราะห์ ย่อยสลายยาก จำพวกพลาสติก กล่องโฟม หรืออื่นๆ ทำให้ธรรมชาติต้องรับภาระหนัก เนื่องจากย่อยสลายได้ยาก และไม่เพียงแต่ธรรมชาติเท่านั้น แต่สัตว์ต่างๆ ทั้งสัตว์น้ำ สัตว์ทะเล หรือสัตว์ที่อยู่บนบก ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน"

"โดยเฉพาะในภาวะที่โลกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง ทุกฝ่ายควรจะช่วยกันดูแลในเรื่องนี้ให้มากขึ้น การลดการใช้ หรือเปลี่ยนพฤติกรรมจากเคยใช้วัสดุสังเคราะห์มาใช้วัสดุธรรมชาติ น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยได้อย่างมาก" น.สพ.ภัทรพล กล่าว

เรื่องของ "ยะหยา" วาฬทุยหัวแคระ โชคร้ายที่หาดป่าตอง เต่าทะเลเคราะห์ร้ายอีกหลายตัว รวมไปถึงเพื่อนสัตว์ป่าบก อย่าง ลิง เก้ง กวาง จะไม่หยุดแค่นี้ หากมนุษย์ไม่ตระหนัก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และมักง่าย



จาก                        :                   ข่าวสด    วันที่ 9 มิถุนายน 2551
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2008, 03:08:28 AM »

วันก่อน ไปดูนิทรรศการภาพถ่ายทางอากาศ ที่ central world เค้าบอกแบบนี้เหมือนกัน.. ว่าสัตว์ตายเพราะ พลาสติกเยอะ..

อย่างที่อินเดีย.. วัว ซึ่งเค้าถือว่าเป็นเทพเจ้า ยังตายด้วยพลาสติกเลย.. 
บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2008, 04:39:09 AM »

ถ้าจำได้.....เต่าตัวหนึ่งที่ระยอง ตายมาแล้วเพราะถุงพลาสติก  ฉลามวาฬตัวหนึ่งที่คลองด่าน สมุทรปราการ ตายมาแล้วเพราะหลอดพลาสติกเล็กๆเพียงหลอดเดียว

เมื่อวันก่อน....ดูข่าวในทีวี เห็นภาพการผ่าตัดกระเพาะวาฬหัวทุยตัวนี้ที่มาเกยตื้นที่ป่าตอง  พบแต่เศษพลาสติกอยู่เต็มกระเพาะ

มันน่าเศร้าจริงๆเลยนะคะ....

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 08, 2008, 04:45:27 AM โดย สายชล » บันทึกการเข้า

Saaychol
frappe
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1114



« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2008, 07:35:55 AM »

 

ดูเหมือนมนุษย์จะเป็นต้นกำเนิดจากความเสียหายที่กระทบต่อธรรมชาติในทุกๆเรื่อง
สิ่งใดที่มนุษย์พัฒนาให้มีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ก็มักจะมีโทษตามมาเสมอ
คุณสมบัติของพลาสติกที่มีความแข็งแรงทนทาน กันน้ำได้ ทำให้ถูกเอามาใช้งานเป็นบรรจุภัณฑ์ต่างๆของสินค้ามากมาย
ขณะเดียวกัน ข้อดีในเรื่องความทนทานของพลาสติก ก็เป็นข้อเสียต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองในธรรมชาติ   
บันทึกการเข้า

มีใจเป็นมิตร มีจิตเป็นเพื่อน
WayfarinG
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2388



« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2008, 01:20:32 PM »



ดูเหมือนมนุษย์จะเป็นต้นกำเนิดจากความเสียหายที่กระทบต่อธรรมชาติในทุกๆเรื่อง
สิ่งใดที่มนุษย์พัฒนาให้มีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น ก็มักจะมีโทษตามมาเสมอ



เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง.. แต่ตอนนี้ธรรมชาติก็ตามมาทำลายล้างเราแล้วเหมือนกันนิ.. 
บันทึกการเข้า

If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home.  -- > James Michener
Sky
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2506



« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 03:19:27 AM »

ยิ่งอยู่ในทะเล คนเรายิ่งใช้ถุงพลาสติกกันใหญ่เลย เพราะว่ามันกันน้ำได้... น่าสงสารจังเลยนะ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.024 วินาที กับ 21 คำสั่ง