สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 05:40:33 AM » |
|
ศรีเทพ .....เมืองโบราณอันรุ่งเรืองแห่งลุ่มน้ำลพบุรี - ป่าสัก
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2016, 01:02:43 PM โดย สายชล »
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 07:10:10 AM » |
|
เมื่อเกือบสามสิบปีก่อน.....สองสายผลัดกันขับรถเดินทางไปอำเภอชนแดน ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ครั้งแรก เพื่อพาคุณพ่อและคุณแม่ของคุณสายน้ำไปส่งมอบโรงเรียนที่ครอบครัวสร้างขึ้นมาให้กับชาวบ้านในถิ่นทุรกันดาร
จากนั้น....เราก็ต้องเดินทางไปเพชรบูรณ์กันบ่อยขึ้นๆทุกที เพราะนอกจากจะไปสร้างโรงเรียนให้แล้ว ก็มีงานสร้างสถานีอนามัย งานบริจาคสิ่งของให้โรงพยาบาล และอื่นๆตามมา
จนในที่สุด....คุณพ่อก็ไปซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านพักเพื่อที่จะมีเวลาไปทำสวนสาธิตให้ชาวบ้านได้เห็นว่าการทำเกษตรแบบอย่างยั่งยืน ไม่ใช่การทำไร่เลื่อนลอยอย่างที่ชาวบ้านเคยทำมานั้นเป็นอย่างไร
นับจากนั้นเป็นต้นมา.....เพชรบูรณ์เลยกลายเป็นบ้านที่สองของครอบครัวเราไปโดยปริยาย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 09, 2008, 07:23:43 AM โดย สายชล »
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 07:51:20 AM » |
|
ตามปกติแล้ว....เราเดินทางจากกรุงเทพฯไปเพชรบูรณ์โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน ) แล้วไปแยกขวาเข้าทางหลวงสาย 21 (สระบุรี - หล่มสัก) ที่บริเวณสวนพฤกษศาสตร์ พุแค ตรงกม.ที่ 125 ผ่านอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี....วิ่งเร็วรี่ผ่าน อำเภอศรีเทพ ต่อไปอีกจนถึงสี่แยกวังชมพู จังหวัดเพชรบูรณ์ แล้ววิ่งแยกซ้ายตรงไปจนถึงชนแดน ระยะทางรวมราว 400 กิโลเมตร
ในระยะแรกๆ ถนนหนทางยังไม่สะดวกสบายนัก แถมระหว่างทางยังไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไร เรามักออกจากกรุงเทพฯแต่เช้า แวะทานข้าวเหนียว - ไก่ย่างวิเชียรบุรีเป็นอาหารมื้อเที่ยงที่แสนอร่อย แล้วก็ตรงดิ่งเข้าไร่ นั่งหัวสั่นหัวคลอนไปในรถที่วิ่งอยู่บนถนนลูกรัง ซึ่งกว่าจะถึงไร่ก็เกือบจะมืดค่ำย่ำสนธยา ใช้เวลารวมกว่า 8 ชั่วโมง
ในราวปี 2525....คุณพ่อได้เล่าให้เราฟังว่า มีการขุดค้นเมืองโบราณที่ศรีเทพ อำเภอเล็กๆของเพชรบูรณ์ ที่อยู่ติดกับเมืองชัยบาดาลของลพบุรี ที่เราขับรถผ่านทุกครั้งที่จะขึ้น - ลง เพชรบูรณ์
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 09, 2008, 12:46:07 PM โดย สายชล »
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 08:12:23 AM » |
|
ในปีถัดมา....ครอบครัวของเราตั้งใจไปเยี่ยมเยือนเมืองโบราณนามศรีเทพ ที่กำลังอยู่ระหว่างการพลิกฟื้นและบูรณะซ่อมแซมจนพอจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา แม้ขณะนั้นจะยังไม่เรียบร้อยดี แต่ก็ทำให้เราประทับใจในความใหญ่โตของโบราณสถานแห่งนี้มาก
ในปี 2529 เราได้มีโอกาสไปเยือนเมืองโบราณศรีเทพอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางสร้างความประทับใจในความสวยงามและอลังการของโบราณสถานของเมืองแห่งนี้ได้มากขึ้น
หลังเวลาผ่านไปกว่ายี่สิบปี.....เมื่อเดือนมีนาคม ปีนี้ สองสายจึงมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนเมืองศรีเทพอีกครั้ง.......
ในครั้งนี้เมืองโบราณศรีเทพที่เราเคยไปเยือน ได้รับการยกชั้นขึ้นเป็น อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ไปแล้ว
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 09, 2008, 07:47:24 PM โดย สายชล »
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 08:48:42 AM » |
|
เมื่อผ่านประตูด่านเก็บเงิน (ผู้ใหญ่คนละ 10 บาท ค่ารถยนต์ผ่านด่านคันละ 50 บาท ) เข้าไปในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ....เราได้รับการแนะนำให้เข้าไปขอรับข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ที่ศูนย์บริการก่อน
ตัวอาคารศูนย์บริการเป็นตึกหุ้มด้วยศิลาแลงที่เราดูกี่ครั้งๆก็เห็นเป็นบังเกอร์ หรือหลุมหลบภัยทุกที....
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 09, 2008, 09:19:31 AM โดย สายชล »
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 08:54:22 AM » |
|
ด้านหน้ามีรถนำเที่ยวที่ทำตัวถังเหมือนกับรถรางจอดคอยให้บริการอยู่ ในรถมีทีวีฉายบรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของโบราณสถานแห่งนี้ โดยไม่ต้องมีคนบรรยายเพิ่มเติมแต่อย่างใด
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 09, 2008, 12:47:40 PM โดย สายชล »
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 09:15:52 AM » |
|
เราเดินเข้าไปในบังเกอร์.....เอ๊ยยยย....ศูนย์บริการการท่องเที่ยว แล้วบังเกิดประทับใจกับการบริการของเจ้าที่อุทยานประวัติศาสตร์สาวใหญ่ที่รีบวิ่งออกมาจากหลังร้านขายหนังสือและของที่ระลึกเพื่อให้การต้อนรับ และต้อนเราไปยืนอยู่หน้าแผนผังแสดงที่ตั้งของอุทยานฯและโบราณสถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ แล้วเริ่มบรรยายความให้เราฟังในแต่ละจุดที่น่าสนใจได้อย่างฉะฉานและตั้งใจจริง
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 05, 2008, 03:12:31 AM โดย สายชล »
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 09:32:12 AM » |
|
หลังจากฟังคำบรรยายแล้ว....เราก็สรุปได้ว่า นั่งรถบริการของอุทยานฯเหมาคัน ในราคาเพียง 100 บาท (จะนั่งกี่คนก็ได้แต่ต้องไม่เกิน 10 คน เกินจากนั้นคิดอีกคนละ 10 บาท) ซึ่งนับเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวของสองตายายในอาณาเขตของอุทยานฯ ที่ใหญ่โตกว้างขวางถึง 2,889 ไร่ หรือ 4.7 ตร.กม.
แต่ก่อนจะไปนั่งรถเที่ยวรอบเมือง....ขอเวลาไปซื้อของที่ระลึกซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับเมืองศรีเทพ และเสื้อยืดก่อน จากนั้นก็เดินฉิวๆเข้าไปในพิพิธภัณฑ์เล็กๆที่ตั้งอยู่ข้างร้านค้านั่นเอง
ถึงจะเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ....แต่ก็เล็กพริกขี้หนู เพราะการตกแต่งด้วยวัตถุโบราณและภาพถ่ายนั้น ทำได้อย่างยอดเยี่ยมและสวยงาม อีกทั้งยังสะอาดสะอ้านกลิ่นหอมรื่นชวนแอบนอนมากๆ....
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 05, 2008, 03:13:43 AM โดย สายชล »
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 09:34:31 AM » |
|
เมืองโบราณศรีเทพนั้น เดิมชื่อ "เมืองอภัยสาลี" ..... ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็น" เมืองศรีเทพ" สืบสาวราวเรื่องได้ความว่า เป็นเมืองที่สร้างขึ้นในยุคของขอมเรืองอำนาจ ซึ่งคาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี
เมืองศรีเทพ เป็นเมืองที่มีคูน้ำและคันดินล้อมรอบ ภายในตัวเมืองศรีเทพแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
เมืองส่วนใน มีลักษณะเป็นรูปเกือบกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 กม. มีช่องทางเข้าออก 8 ช่องทาง พื้นที่ภายในเป็นที่ราบลอนคลื่น มีสระน้ำและหนองน้ำกระจายอยู่ทั่วไป และมีโบราณสถานที่ขุดแต่งแล้ว และยังไม่ได้ขุดแต่งประมาณ 70 แห่ง
เมืองส่วนนอก มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าต่อกับเมืองส่วนใน มีขนาดเป็น 2 เท่าของเมืองส่วนใน มีช่องทางเข้าออก 7 ช่องทาง มีสระน้ำกระจายอยู่ทั่วไป และมีโบราณสถานกระจายอยู่แบบเดียวกับเมืองส่วนใน
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 09, 2008, 07:53:42 PM โดย สายชล »
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
WayfarinG
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 09:57:35 AM » |
|
พี่สายชล... ไปไหนแล้ว.. รออยู่นะ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
If you reject the food, ignore the customs, fear the religion and avoid the people, you might better stay home. -- > James Michener
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 10:01:54 AM » |
|
เมืองโบราณศรีเทพ ตั้งอยู่บนขอบด้านตะวันตกของที่ราบสูงโคราช ลักษณะพื้นที่ลาดเอียงจากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก โดยมีลำน้ำไหลผ่าน 2 สาย คือ แม่น้ำป่าสัก ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกราว 5 กม. และลำน้ำเหียง ซึ่งอยู่ห่างออกมาทางตะวันออกของแม่น้ำป่าสัก ราว 2 กม.
เมืองศรีเทพเดิมเป็นเมืองที่รกร้างอยู่กลางป่า ไม่มีผู้ใดทราบว่าแท้จริงเป็นเมืองอะไร ใครเป็นผู้สร้าง และสร้างมานานเพียงใด มีเพียงชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันตามพระธุดงค์ที่จาริกมาพบว่า เมืองอภัยสาลี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 10:05:10 AM » |
|
ในปี 2477....สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระอนุชาในรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้รับการเชิดชูว่าเป็นพระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย ได้เสด็จมาตรวจราชการที่มณฑลเพชรบูรณ์ ในฐานะเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ได้ทรงค้นพบเมืองโบราณ ซึ่งพระองค์ท่านได้ลงความเห็นเป็นสองอย่างคือ
ประการแรก.....เมืองโบราณแห่งนี้เป็นต้นเค้าของเมืองศรีเทพ ซึ่งเป็นชื่อเมืองเก่าของเมืองวิเชียรบุรี
ประการที่สอง....สมัยเมื่อขอมปกครองเมืองไทย เมืองศรีเทพคงเป็นมหานคร หรือเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง เช่นเดียวกับที่ดงศรีมหาโพธิ์ (ปราจีณบุรี) และเมืองสุโขทัย ในสมัยนั้น ท้องที่แห่งนี้คงทำไร่ทำนาได้ผลอุดมดี มีไพร่บ้านพลงเมืองมาก จึงสามารถสร้างเป็นเมืองใหญ่โตได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 10:10:09 AM » |
|
จากพระวินิจฉัยของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพดังกล่าว....ทางกรมศิลปากรจึงได้เรียกชื่อเมืองนี้ว่า "เมืองศรีเทพ" สืบมาจนถึงปัจจุบัน
แต่หากจะมีการค้นพบหลักฐานต่อไปในอนาคตว่าเมืองนี้มิใช่ "เมืองศรีเทพ" แล้วไซร้ ชื่อก็อาจจะเปลี่ยนไปตามพยานหลักฐาน
เมื่อยังไม่มีการค้นพบหลักฐานใหม่ ก็จะคงชื่อ "เมืองศรีเทพ" นี้ไว้ตลอดไป.....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 10:29:44 AM » |
|
ชุมชนดั้งเดิม ของเมืองศรีเทพนั้น สันนิษฐานจากโครงกระดูกที่ขุดค้นได้ พบว่ามีการตั้งถิ่นฐานที่บริเวณนี้ราวพุทธศตวรรษที่ 5 - 7 หรือเมื่อประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว
การค้นพบนี้สอดคล้องกับการขุดค้นในบริเวณแหล่งโบราณที่อยู่ใกล้เคียง คือกลุ่มลุ่มแม่น้ำลพบุรี - ป่าสัก ได้สำรวจพบแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายอีกหลายแหล่ง แสดงถึงความหนาแน่นของการตั้งหลักแหล่งในชุมชน ที่แพร่กระจายอยู่ในบริเวณนี้
เมืองศรีเทพผ่านร้อนผ่านหนาวยาวนานเรื่อยมา เริ่มจากการรวมกลุ่มปกครองกันเอง นับถือภูติผีปีศาจ จนมาอยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรทวารวดี ที่นับถือพุทธศาสนานิกายเถรวาทและมหายาน (พุทธศตวรรษที่ 12 - 16) ต่อมาขึ้นอยู่กับอาณาจักรขอม (พุทธศตวรรษที่ 16 - 18) ที่นับถือทั้งศานาพุทธและฮินดู....รวมเวลากว่า 700 ปี
จนถึงกาลล่มสลายของเมืองศรีเทพจากการเกิดโรคระบาดอหิวาต์จากความแห้งแล้ง และไข้มาลาเรียหรือไข้ป่าจากยุง....
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 23, 2008, 05:37:16 AM โดย สายชล »
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
ออฟไลน์
กระทู้: 8186
Saaychol
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 11:11:26 AM » |
|
เราเดินออกจากพิพิธภัณฑ์เล็กๆแห่งนั้น ด้วยหูตาที่สว่างจากความรู้ที่ได้รับ.....
ที่นี้ก็พร้อมแล้วค่ะที่จะออกไปชื่นชมกับความงามของโบราณสถานและภูมิทัศน์ที่อยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้
รถนำเที่ยวและโชเฟอร์ของเรา (สองคน) พร้อมจะพาเราออกรอบแล้วล่ะค่ะ.....ตามมาสิคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Saaychol
|
|
|
|