'ปลาโอ' ถูกคุกคาม

[สายน้ำ]

 'ปลาโอ' ถูกคุกคาม


    ปลาทูน่า ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังถูกคุกคาม เพราะมีการจับกันมากเกินไปในบริเวณสามเหลี่ยมปะการัง

    ลีดา  เพ็ต  ซีด  นักวิจัยของกองทุนสัตว์ป่าโลก บอกว่า ในบริเวณสามเหลี่ยมปะการัง คือพื้นที่ที่ห้อมล้อมด้วยประเทศอินโดนีเซีย  มาเลเซีย  ฟิลิปปินส์ ปาปัวนิวกินี หมู่เกาะโซโลมอน และติมอร์ตะวันออก เป็นแหล่งวางไข่และอนุบาลลูกปลา และเป็นเส้นทางอพยพของปลาทูน่าถึง 90% ที่ถูกจับได้

    บรรดาเรือประมงจากแหล่งที่มีปลาให้จับร่อยหรอในส่วนอื่นๆ ของโลก  ได้พากันยกกองเรือมาจับปลาทูน่าในย่านนี้อย่างขนานใหญ่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง

    เธอบอกว่า สเปน ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ได้ตัดสินใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่จะห้ามทำประมงปลาทูน่าครีบน้ำเงินในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งนั่นจะทำให้บรรดากองเรือประมงพากันมาจับปลาในย่านนี้

    "ต้องมีการประสานความร่วมมือกันในการบริหารโภคทรัพย์ในระดับโลกชนิดนี้ร่วมกัน  มิฉะนั้นทุกฝ่ายจะเดือดร้อน" เธอว่า

    ผู้แทนจากหกประเทศในสามเหลี่ยมปะการัง บริษัททำประมง และกองทุนสัตว์ป่าโลก กำลังหารือกันที่กรุงจาการ์ตา เพื่อหาทางลดการจับปลาที่มากเกินไปในพื้นที่แถบนั้น

    เธอบอกว่า  ที่ประชุมกำลังพิจารณามาตรการสร้างแรงจูงใจในทำนองเดียวกับการซื้อขายแลก เปลี่ยนปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยจ่ายเงินให้แก่ประเทศที่เป็นแหล่งวางไข่ เช่น อินโดนีเซีย เพื่อแลกกับการที่อินโดนีเซียจะลดการจับปลาทูน่า

    ผู้แทนของอินโดนีเซียบอกว่า  การควบคุมการจับปลาโอทำได้ยาก  เพราะส่วนใหญ่เป็นเรือประมงขนาดเล็กที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับทางการ และไม่มีระบบโควตาในการจับปลาต่างๆ เว้นแต่ปลาโอครีบน้ำเงิน ซึ่งมีราคาแพง สำหรับทำซูชิและซาซิมิ

    เมื่อปี 2550 อินโดนีเซียจับปลาโอในปริมาณถึง 700,000 ตัน.



จาก               :                  X-cite  ไทยโพสต์  คอลัมน์โลกน่ารู้   วันที่ 24 ตุลาคม 2551