เดลินิวส์นํ้าป่าถล่มน่านบ้านพังตาย2สูญหาย1เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 6 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดน่าน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหลายหมู่บ้านใน ต.ตาลชุม และ ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมประมาณ 30 หลังคาเรือน โดยเฉพาะที่บ้านห้วยธนู หมู่ 9 ต.ตาลชุม มีบ้านเรือนถูกน้ำป่าพัดเหลือแต่เสาบ้านจำนวน 7 หลัง
ด้านนายมนัส ขันใส นายอำเภอท่าวังผา เปิดเผยภายหลังนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านว่า หลังจากฝนตกหนักติดต่อกัน ได้เกิดน้ำป่าไหลลงมาจากภูเขาเข้าถล่มหมู่บ้านห้วยธนู ทำให้บ้านเรือนถูกน้ำพัดเสียหายทั้งหลัง 7 หลังคาเรือน มีผู้บาดเจ็บ 10 ราย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลแล้ว และเสียชีวิต 1 ราย คือ นางอำพร ปาโน อายุ 60 ปี รวมทั้งผู้สูญหายอีก 2 ราย ทราบชื่อคือนางอ่อน อินธิวงค์ อายุ 61 ปี และนางสม ไชยสลี อายุ 64 ปี ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาผู้สูญหายอยู่ สำหรับความเสียหายอื่น ๆ พบว่าบ้านเรือนเสียหายบางส่วน 25 หลัง ถนนเสียหาย 2 สาย ฝาย 3 แห่ง ส่วนที่บ้านน้ำป้าก ต.ตาลชุม มีบ้านเรือนเสียหายบางส่วน 7 หลัง หมูตาย 20 ตัว
จากการสอบถามชาวบ้านคนหนึ่งผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ขณะตนและครอบครัวกำลังนอนหลับอยู่บนบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงดังคล้ายมีคนทุบดินมาแต่ไกล และเสียงดังเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ จึงพากันออกมาดูที่หน้าบ้าน เห็นน้ำป่ากำลังไหลบ่าลงมาตามถนนในหมู่บ้านด้วยความเร็ว จึง ตะโกนเรียกเพื่อนบ้านให้ตื่นขึ้นมาเก็บข้าวของหลบหนี แต่น้ำป่ามาเร็วและแรงมากจนตั้งตัวไม่ทัน จึงไม่สามารถเก็บของหลบหนีออกมาได้ เพราะน้ำป่าพัดบ้านพังหายไปกับสายน้ำ
ด้าน นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่รวมทั้งเวชภัณฑ์ จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รพ.สมเด็จพระยุพราชอำเภอปัว รพ.ท่าวังผา และเจ้าหน้าที่สถานี อนามัย ออกไปให้บริการประชาชนในหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้ว รวมทั้งจัดทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วเพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่อในพื้นที่ และให้ความรู้ประชาชนเรื่องการรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ และให้ใช้น้ำดื่มที่มี อย.รับรองคุณภาพ หรือดื่มน้ำต้มสุก ป้องกันโรคท้องร่วง ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค และอาหารเป็นพิษ
ขณะที่นายธวัช เพชรวีระ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน กล่าวว่า ยังคงประกาศเตือนประชาชน 3 หมู่บ้าน ให้เฝ้าระวังน้ำป่าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพอากาศโดยรวมยังคงมีเมฆฝนปกคลุมอยู่ จึงได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังภัยและออกช่วยเหลือชาวบ้านตลอด 24 ชั่วโมง
ต่อมาเวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวราย งานว่า เจ้าหน้าที่ได้พบร่างนางสมผู้สูญหาย ในสภาพไร้วิญญาณ ถูกน้ำป่าพัดร่างลอยมาติดอยู่ริมแม่น้ำปั้ว อ.เวียงสา โดยจุดที่พบศพอยู่ห่างจากบ้านพักของผู้ตายประมาณ 60 กิโลเมตร ส่วนนางอ่อนผู้สูญหายอีกคนยังค้นหาไม่พบ.