กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 22, 2024, 04:53:17 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2551  (อ่าน 2086 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« เมื่อ: กันยายน 07, 2008, 04:55:21 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา

ลักษณะอากาศทั่วไป 
 
ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทุกภาคมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย อาทิเช่นบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครนายก นครราชสีมา ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูลระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะ 2-3 วันนี้ไว้ด้วย 
 
พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล     
 
มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
 
คาดหมาย

     ในระยะนี้ ร่องมรสุมหรือร่องความกดอากาศต่ำกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น และในช่วงวันที่ 9-10 ก.ย. จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้าปลายแหลมญวน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นด้วย
     
ข้อควรระวัง
 
     ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย อาทิเช่นบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี นครนายก ปราจีนบุรี พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูลให้ระมัดวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 9 – 13 ก.ย. ไว้ด้วย

 


* weather.jpg (21.26 KB, 235x388 - ดู 257 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 07, 2008, 04:59:52 AM »

เดลินิวส์

นํ้าป่าถล่มน่านบ้านพังตาย2สูญหาย1


เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 6 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดน่าน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหลายหมู่บ้านใน ต.ตาลชุม และ ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา บ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมประมาณ 30 หลังคาเรือน โดยเฉพาะที่บ้านห้วยธนู หมู่ 9 ต.ตาลชุม มีบ้านเรือนถูกน้ำป่าพัดเหลือแต่เสาบ้านจำนวน 7 หลัง

ด้านนายมนัส ขันใส นายอำเภอท่าวังผา เปิดเผยภายหลังนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านว่า หลังจากฝนตกหนักติดต่อกัน ได้เกิดน้ำป่าไหลลงมาจากภูเขาเข้าถล่มหมู่บ้านห้วยธนู ทำให้บ้านเรือนถูกน้ำพัดเสียหายทั้งหลัง 7 หลังคาเรือน มีผู้บาดเจ็บ 10 ราย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลแล้ว และเสียชีวิต 1 ราย คือ นางอำพร ปาโน อายุ 60 ปี รวมทั้งผู้สูญหายอีก 2 ราย ทราบชื่อคือนางอ่อน อินธิวงค์ อายุ 61 ปี และนางสม ไชยสลี อายุ 64 ปี ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาผู้สูญหายอยู่ สำหรับความเสียหายอื่น ๆ พบว่าบ้านเรือนเสียหายบางส่วน 25 หลัง ถนนเสียหาย 2 สาย ฝาย 3 แห่ง ส่วนที่บ้านน้ำป้าก ต.ตาลชุม มีบ้านเรือนเสียหายบางส่วน 7 หลัง หมูตาย 20 ตัว

จากการสอบถามชาวบ้านคนหนึ่งผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ขณะตนและครอบครัวกำลังนอนหลับอยู่บนบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงดังคล้ายมีคนทุบดินมาแต่ไกล และเสียงดังเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ จึงพากันออกมาดูที่หน้าบ้าน เห็นน้ำป่ากำลังไหลบ่าลงมาตามถนนในหมู่บ้านด้วยความเร็ว จึง ตะโกนเรียกเพื่อนบ้านให้ตื่นขึ้นมาเก็บข้าวของหลบหนี แต่น้ำป่ามาเร็วและแรงมากจนตั้งตัวไม่ทัน จึงไม่สามารถเก็บของหลบหนีออกมาได้ เพราะน้ำป่าพัดบ้านพังหายไปกับสายน้ำ

ด้าน นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่รวมทั้งเวชภัณฑ์ จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รพ.สมเด็จพระยุพราชอำเภอปัว รพ.ท่าวังผา และเจ้าหน้าที่สถานี อนามัย ออกไปให้บริการประชาชนในหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้ว รวมทั้งจัดทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วเพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่อในพื้นที่ และให้ความรู้ประชาชนเรื่องการรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ และให้ใช้น้ำดื่มที่มี อย.รับรองคุณภาพ หรือดื่มน้ำต้มสุก ป้องกันโรคท้องร่วง ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค และอาหารเป็นพิษ

ขณะที่นายธวัช เพชรวีระ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน กล่าวว่า ยังคงประกาศเตือนประชาชน 3 หมู่บ้าน ให้เฝ้าระวังน้ำป่าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพอากาศโดยรวมยังคงมีเมฆฝนปกคลุมอยู่ จึงได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังภัยและออกช่วยเหลือชาวบ้านตลอด 24 ชั่วโมง

ต่อมาเวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวราย งานว่า เจ้าหน้าที่ได้พบร่างนางสมผู้สูญหาย ในสภาพไร้วิญญาณ ถูกน้ำป่าพัดร่างลอยมาติดอยู่ริมแม่น้ำปั้ว อ.เวียงสา โดยจุดที่พบศพอยู่ห่างจากบ้านพักของผู้ตายประมาณ 60 กิโลเมตร
ส่วนนางอ่อนผู้สูญหายอีกคนยังค้นหาไม่พบ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 07, 2008, 05:16:35 AM โดย แมลงปอ » บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 07, 2008, 05:12:29 AM »

ผู้จัดการออนไลน์

กรมทรัพยากรน้ำเตือน อ.แม่สาย ระวังน้ำท่วม

นายศิริพงศ์ หังสพฤกษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า เนื่องจากมีฝนตกอย่างต่อเนื่องบริเวณตอนเหนือของประเทศ โดยเฉพาะในบริเวณลำน้ำแม่สาย จังหวัดเชียงราย จนทำให้ระบบเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มของกรมทรัพยากรน้ำ ได้ส่งสัญญาณเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่กลางดึกของวันที่ 6 กันยายน 2551 ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมกันแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์แล้ว จนกระทั่งในช่วงเช้ามืดของวันนี้ (7 ก.ย.) ในบริเวณตลาดแม่สายและพื้นที่ใกล้เคียงได้เกิดภาวะน้ำท่วม ต่อมาในเวลาประมาณ 08.30 น. ปริมาณน้ำในลำน้ำแม่สายได้สูงขึ้นอยู่ในระดับ 3.36 เมตร ทำให้ภาวะน้ำท่วมขังมีระดับสูงขึ้น และมีแนวโน้มที่ระดับน้ำท่วมขังจะเพิ่มขึ้น เพราะในพื้นที่ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นด้วย

สหรัฐฯ เร่งอพยพนักท่องเที่ยว-ปชช.เกาะฟลอริดา คีย์ หนี "ไอค์"

นักท่องเที่ยวบนหมู่เกาะฟลอริดา คีย์ ต้องเร่งเก็บข้าวของออกจากพื้นที่เป็นการด่วน หลังจากพายุเฮอริเคนไอค์ ที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่ในทะเลแคริบเบี้ยนกำลังบ่ายหน้าเพื่อขึ้นฝั่ง
        ทางการสหรัฐฯ ประกาศให้นักท่องเที่ยวบนหมู่เกาะฟลอริดา คีย์ เก็บข้าวของเตรียมออกจากพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (6 ก.ย.) และมีแผนอพยพประชาชนในวันนี้ (7 ก.ย.) ขณะที่เจ้าหน้าที่เคาน์ตี้ มอนโร ในรัฐฟลอริดา ตัดสินใจวางแผนปิดโรงเรียนและสถานที่ราชการหลายแห่ง ทั้งยังจะไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์เข้าสู่เมืองคีย์เวสต์ ตั้งแต่คืนวันนี้ และสนามบินจะไม่เปิดทำการจนกว่าพายุจะเคลื่อนออกจากพื้นที่
        ทั้งนี้ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังคำประกาศของรัฐฟลอริดา พายุเฮอริเคนไอค์ได้ทวีความรุนแรงเป็นระดับ 4 ด้วยความเร็วลมเกือบ 216 กม. ต่อชั่วโมง โดยเมื่อเวลา 20.00 น.วานนี้ ตามเวลาในสหรัฐฯ ศูนย์กลางของพายุอยู่ห่างจากทิศตะวันออกของหมู่เกาะแกรนด์ เติร์กส์ และไคคอส ซึ่งเป็นอาณานิคมของอังกฤษ 90 กิโลเมตร


เฮติวิกฤตเฮอร์ริเคนถล่มตายกว่า500แถมพายุจ่อซ้ำอีกระลอก



  เอเอฟพี - มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 รายในเฮติ ขณะที่ความช่วยเไหลือจากนานาชาติเมื่อวันเสาร์(6) เริ่มทยอยถึงราษฎรผู้จนตรอกที่ไม่ได้ทานอะไรมาหลายวัน นับตั้งแต่ถูกเฮอร์ริเคนฮันนาพัดถล่ม แถมยังมีพายุอีกลูกจ่อซ้ำอีกระลอก
       
       ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่า หลังเผชิญภัยพิบัติจากพายุฮันน่า ประเทศที่ยากจนที่สุดในทวีปอเมริกาแห่งนี้ กำลังมีแนวโน้มว่าจะเผชิญพายุที่มีความรุนแรงลูกใหม่อย่างไอเค่ ที่มีความรุนแรงลมในระดับอันตรายสูงสุดด้วย ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือที่เปราะบางของเฮติ ที่อาจทำให้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นอย่างน่าวิตก
       
       "ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกชั่วโมง" สำนักงานเพื่อกิจการความร่วมมือด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ หรือ COHA กล่าวเตือน "ข้อมูลจากรัฐบาล พบว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คนแล้ว" จากพายุฮันน่าที่พัดถล่มเฮติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
       
       กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟเตือนว่า มีประชาชน 650,000 คน ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม รวมทั้งเด็ก 3 แสนคน สะพานที่สำคัญหลายแห่งถูกกระแสน้ำพัดเสียหาย กีดขวางถนนหลายสาย เป็นอุปสรรคต่อการส่งความช่วยเหลือด้านการบรรเทาทุกข์ของกลุ่มต่าง ๆ ไปยังผู้ประสบภัยพิบัติ
       
       พื้นที่ที่ได้รับหายนะหนักที่สุดคือเมืองโกเนฟส์ ที่อยู่ชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งขณะนี้ถูกน้ำท่วมสูง หลังจากเมื่อ 4 ปีก่อน ประชาชนในเมืองนี้ล้มตายไปถึง 3 พันคน หลังจมอยู่ใต้น้ำเพราะถูกพายุโซนร้อนจีนพัดถล่ม
       
       วุฒิสมาชิกยูริ ลาตอร์ตู ที่เป็นผู้แทนของเมืองโกเนฟส์ กล่าวว่า มีประชาชน 2 แสนคน ยังไม่ได้รับประทานอาหารมาหลายวันแล้ว
       
       การตัดไม้ทำลายป่าอย่างหนัก ทำให้เฮติเปราะบางต่อการเกิดน้ำท่วมและดินถล่ม หลังพายุฮันน่าพัดถล่ม ประชาชนส่วนใหญ่ต้องหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือโดยเฮลิคอปเตอร์ของสหประชาชาติ
       
       "ปัญหาคือไม่มีอาหารเพียงพอสำหรับประชาชนทุกคนในสถานที่ลี้ภัย แหล่งที่ประชาชนหลายพันคนอพยพมาอยู่ที่นี่" ยูเดไลน์ เยเซฟ เจ้าหน้าที่บอกกับเอเอฟพี
       
       โคเน่ อามาร่า ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมในเฮติขององค์กรบรรเทาทุกข์ อ๊อกแฟม เปิดเผยว่า สถานการณ์ในเมืองโกเนฟส์ ที่มีประชากร 3 แสนคน รุนแรงอย่างยิ่ง ไม่มีอาหารและประชาชนที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวกำลังจะเผชิญปัญหาด้านสุขอนามัย
       
       อ๊อกแฟม ได้เตรียมจะส่งความช่วยเหลือเป็นน้ำดื่ม 2 พันขวด ภายใต้ความช่วยเหลือของโครงการอาหารโลกไปทางเรือ แต่ยังหาเรือไม่ได้จนกว่าจะถึงวันจันทร์( ทั้งนี้อ๊อกแฟมอาจส่งความช่วยเหลือโดยเส้นทางบก แต่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ เนื่องจากวิตกด้านความปลอดภัย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 07, 2008, 05:25:04 AM โดย แมลงปอ » บันทึกการเข้า
แมลงปอ
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 681


« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 07, 2008, 05:46:41 AM »

คมชัดลึก

"ยานใต้น้ำไร้คนขับ"ทร.ใช้ฝึกปราบเรือดำน้ำ

ความฝันของกองทัพเรือที่ต้องการจะมี "เรือดำน้ำ" เข้าประจำการในกองทัพเพื่อหลักประกันทางยุทธศาตร์ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ดูจะไกลเกินฝัน เนื่องจากเรือดำน้ำแต่ละลำมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท และการจัดซื้อจะต้องซื้อหลายลำเพื่อนำมาประกอบเป็นกำลังรบ

 แม้ความฝันในการมีกองเรือดำน้ำจะยากที่จะเป็นจริงแค่ไหน แต่กองทัพเรือไทยก็มุ่งมั่นที่จะไล่ตาม และพัฒนาเทคโนโลยีเรือดำน้ำขึ้นมาเองให้ได้ โดยได้พัฒนาโครงการ "ยานใต้น้ำ" ขึ้นมาเพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีเบื้องต้นของเรือดำน้ำเพื่อต่อยอดขึ้นสู่ระดับสูงในอนาคต

 เมื่อเร็วๆ นี้ พล.ร.อ.ศาสตราจารย์เกียรติคุณ วีรวัฒน์ วงษ์ดนตรี หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ปฏิบัติหน้าที่นายทหารโครงการวิจัย และพัฒนา ยานใต้น้ำไร้คนขับสำหรับฝึกปราบเรือดำน้ำ พร้อมนักวิจัยจากกองทัพเรือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริษัทนนทรี จำกัด ได้ร่วมทดสอบยานใต้น้ำไร้คนขับ บริเวณอ่าวสัตหีบ ระหว่าง เกาะตอม่อ กับ เกาะพระ

การทดสอบยานใต้น้ำครั้งนี้นับเป็นความก้าวหน้าของโครงการใน "ระยะสุดท้าย" ก่อนจะปิดโครงการภายในวันที่ 30 กันยายน เพื่อส่งมอบยานใต้น้ำไร้คนขับ จำนวน 3 ลำ ให้กองทัพเรือไว้ใช้ในราชการต่อไป

 พล.ร.อ.ศาสตราจารย์เกียรติคุณ วีรวัฒน์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ว่า ยานใต้น้ำไร้คนขับที่จัดสร้างขึ้นจะมีคุณลักษณะเหมือนเรือดำน้ำที่ใช้ในแวดวงการทหาร แต่มีขนาดเล็กกว่า

 กองทัพเรือ ตั้งเป้าจะใช้ยานใต้น้ำในโครงการนี้เพื่อ "ฝึกปราบเรือดำน้ำ" เนื่องจากปัจจุบัน ประเทศไทยยังไม่มีเรือดำน้ำประจำการ แม้โครงการเรือดำน้ำจะมีการริเริ่มมานานกว่า 60 ปี ตามพระดำริของ จอมพลเรือ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ครั้งยังทรงรับราชการอยู่ในกองทัพเรือ แต่หลังจากนั้นก็มิได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

พล.ร.อ.ศาสตราจารย์เกียรติคุณ วีรวัฒน์ กล่าวย้ำว่า เรือดำน้ำของข้าศึกเป็นภัยคุกคามสำคัญสำหรับเรือรบของกองทัพเรือ เนื่องจากการตรวจพบเรือดำน้ำทำได้ยาก แม้ว่าจะมีเครื่องมือที่ทันสมัยก็ตาม

 ดังนั้น กำลังพลประจำเรือผิวน้ำ จึงต้องฝึกฝนอย่างหนักถึงจะมีขีดความสามารถในการ "ปราบเรือดำน้ำ" ของข้าศึกได้

 การฝึกปราบเรือดำน้ำที่ดีที่สุด คือ การฝึกค้นหา และปราบเรือดำน้ำจริงๆ แต่เนื่องจากกองทัพเรือไม่มีเรือดำน้ำประจำการ จึงต้องรอคอยโอกาสที่เรือดำน้ำจากมิตรประเทศเดินทางมายังน่านน้ำไทย และอาศัยห้วงดังกล่าวทำการฝึกเป็นครั้งคราว

ด้วยอุปสรรคประการสำคัญนี้ทำให้คณะวิจัยของกองทัพไทย นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และช่างเทคนิค จากทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมกันพัฒนายานใต้น้ำไร้คนขับเพื่อใช้เป็น "เป้าฝึกปราบเรือดำน้ำ" ตามนโยบายการพึ่งพาตนเองของกระทรวงกลาโหม

 ระยะแรก เริ่มขึ้นเมื่อปี 2543 โดยสามารถพัฒนายานใต้น้ำที่ขับเคลื่อนใต้น้ำได้จริง เป็นยานรูปร่างคล้ายตอร์ปิโด ความยาว 3 เมตร น้ำหนัก 300 กก. ดำน้ำลึกสุด 30 เมตร ใช้กำลังแบตเตอรี่ขับใบจักร อยู่ใต้น้ำติดต่อกันได้นาน 2 ชั่วโมง แล่นด้วยตัวเองในลักษณะอิสระ และจะลอยขึ้นเมื่อหมดพลังงานทำให้มีปัญหาในการเก็บกู้ และไฮโดรโฟน (เครื่องส่งสัญญานเสียงใต้น้ำ) ของยานก็ยังทำงานได้ไม่ดีพอ

 แต่มีข้อดี คือ ใช้งบประมาณการผลิตเพียง 3 แสนบาท...ขณะที่ต่างประเทศตั้งราคาขายตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป

ส่วนยานใต้น้ำลำปัจจุบันได้รับการปรับปรุงจนมีขีดความสามารถสูงกว่ารุ่นแรกมาก โดยสามารถอยู่ใต้น้ำได้นานต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง ความเร็วสูงสุด 5 น็อต มีระบบหาตำแหน่งด้วยสัญญาณดาวเทียม (GPS) และสามารถส่งคลื่นวิทยุบอกตำแหน่งไปยังเรือใหญ่ทำให้สามารถตามเก็บยานขึ้นจากน้ำได้ง่าย มีระบบส่งสัญญาณเสียงใต้น้ำ ทำให้เกิดสัญญาณปรากฏบนจอโซนาร์ของเรือผิวน้ำได้เหมือนสถานการณ์จริง ทั้งยังสามารถกำหนดรูปแบบการเคลื่อนที่ใต้น้ำ เพื่อประโยชน์สำหรับการฝึกพนักงานโซนาร์ให้ค้นหาเรือด้วยสัญญาณวิทยุได้ถึง 10 รูปแบบ

 ยานใต้น้ำในปัจจุบันใช้งบประมาณราว 9 แสนบาท...ถูกกว่าของต่างประเทศ 5 เท่าในยานที่มีประสิทธิภาพพอๆ กัน

 ผลการทดสอบเป็นที่น่าพอใจ เพราะทุกระบบสามารถทำงานได้ถูกต้องเที่ยงตรงตามที่ตั้งโปรแกรมไว้ ไม่มีปัญหาการรั่วซึม สามารถเคลื่อนที่ท่ามกลางกระแสน้ำ และสภาวะแวดล้อมจริงได้ดี

 ความสำเร็จของโครงการนี้เกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพกับหน่วยงานพลเรือน และภาคเอกชนต่างๆ ประกอบด้วย กรมอู่ทหารเรือ กรมอิเล็กทรอนิกส์ทหารเรือ ภาควิชาวิศวกรรมการบิน และอากาศยาน ม.เกษตรศาสตร์ และบริษัท นนทรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านการสร้างเครื่องจักรสำหรับงานอุตสาหกรรม

 "เราทำงานร่วมกันมายาวนานหลายปีด้วยความวิริยะอุตสาหะ ซึ่งนอกเหนือจากจะได้มาซึ่งยานใต้น้ำอันเป็นเป้าหมายแล้ว การแสดงบทบาทนักวิจัยไทยบนพื้นฐานการพึ่งพาตนเองยังเป็นอีกตัวอย่างที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้มีความรู้ความสามารถในสาขาอื่นหันมาใช้ศักยภาพของตนริเริ่มพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่จะยังประโยชน์แก่ประเทศชาติในอนาคตต่อไป"


เรื่อง/ภาพ : กอบภัค พรหมเรขา

 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.024 วินาที กับ 19 คำสั่ง