กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 22, 2024, 01:08:41 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2551  (อ่าน 1995 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: กันยายน 12, 2008, 12:18:30 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคกลางตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ เช่น บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ เลย สกลนคร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา กรุงเทพมหานคร นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรีและตราด ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากสภาวะ น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1- 2 วันนี้ (12-13 ก.ย.51)

อนึ่ง คลื่นลมในอ่าวไทย และทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 31 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 11-12 ร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่เกิดขึ้นได้

และในช่วงวันที่ 13-14 ก.ย. ร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ภาคเหนือมีฝนเพิ่มมากขึ้น

ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 15-17 ก.ย. ร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกอีกครั้งหนึ่ง ทำให้บริเวณดังกล่าวมี ฝนชุกหนาแน่นอีก สำหรับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรงเกือบตลอดช่วง ทำให้คลื่นลมใน ทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรส่วนมากในบริเวณที่ฝนฟ้าคะนอง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 11-13 และ15-17 ก.ย. ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะบริเวณจังหวัด นครราชสีมา บุรีรัมย์ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล และในช่วงวันที่ 13-15 ก.ย. ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และกาฬสินธุ์ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วม ฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือที่เดินเรือในทะเลอันดามันและอ่าวไทยขอให้เพิ่มความระมัดระวัง อันตรายในการเดินเรือโดยเฉพาะในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดทั้งสัปดาห์นี้ไว้ ด้วย



* Forecast2.jpg (41.32 KB, 684x423 - ดู 287 ครั้ง.)

* Earthquake.jpg (33.26 KB, 400x441 - ดู 283 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 12, 2008, 12:27:27 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


ก.ท่องเที่ยวจัดให้ 42 ล้าน เทศบาลกระบี่สร้างมารีน่า



กระบี่ - กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดสรรงบ 42 ล้านบาท ให้เทศบาลเมืองกระบี่ สร้างท่าเรือมารีน่าที่สวนสาธารณะธารา
       
       วันนี้ (11 ก.ย.) ห้องประชุมศรีหนุมาน สำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองกระบี่ ให้การต้อนรับคณะจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะโดย นายดำรงค์ แสงกวีเลิศ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สำนักพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามความพร้อมของเทศบาลเมืองกระบี่ ในการดำเนินการสร้างท่าเทียบเรือมารีน่า
       
       นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ กล่าวว่า “ตามที่เทศบาลได้มีเป้าหมายจะสร้างท่าเรือมารีน่า ที่บริเวณสวนสาธารณะธารา ที่ถนนคงคา ในเขตเทศบาล เพราะเห็นว่ามีความเหมาะสมหลายประการ แต่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ จึงต้องรองบประมาณมาเป็นเวลากว่า 3 ปี จนกระทั่งในปีงบประมาณ 2552 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดสรรงบประมาณส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยการสนับสนุนของ นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ให้แก่ เทศบาลเมืองกระบี่ เพื่อสร้างท่าเรือมารีน่า จำนวน 42 ล้าน 3 แสนบาท โดยจะเริ่มสร้างทันทีที่ได้รับการจัดสรรเงินมาให้เทศบาล
       
       นายกีรติศักดิ์ กล่าวต่อว่า การเดินทางลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงาน ของคณะทำงาน จากกระทรวงการท่องเที่ยงและกีฬาในครั้งนี้ เพื่อดูความพร้อมของเทศบาลเมืองกระบี่ ซึ่งเทศบาลเมืองกระบี่ได้นำเสนอแบบในการก่อสร้างท่าเทียบเรือพิเศษ หรือมารีน่า แก่ทางคณะ และได้นำคณะลงพื้นที่ชมสถานที่จริงที่จะดำเนินการก่อสร้าง การก่อสร้างสิ่งก่อสร้างของท่าเรือมารีน่าที่สวนสาธารณะธารา จะมีทุ่นจอดเรือที่สามารถรองรับให้เรือเข้าจอดได้ จำนวน 49 ลำ ทางสำหรับลงเรือ และศาลาสำหรับเฝ้าระวังดูแลเรือ
       
       จุดเด่นของท่าเรือแห่งนี้ คือ ความลึกของน้ำจะอยู่ระหว่าง 3-6 เมตร ขณะน้ำลงต่ำสุด ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่เรือของนักท่องเที่ยวได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ รองรับความเจริญในอนาคต ต่อยอดท่าเทียบเรือออกไปได้ทั้งซ้ายและขวา ของท่าเพื่อรองรับจำนวนเรือที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต อีกทั้งในพื้นที่ต่อเนื่องจากมารีน่า เทศบาลจะจัดสรรงบประมาณก่อสร้างอนุสรณ์สถานจำลองจากอนุสรณ์สถานรำลึกเหตุ การณ์สึนามิ เรียกว่า สึนามิเมมโมเรียล โดยได้รับความร่วมมือการออกแบบจากสถาปนิกของสำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัด กระบี่
       
       “เดิมที เป็นโครงการที่กรมทางหลวงชนบทประสานความร่วมมือขอใช้พื้นที่มายังเทศบาล ซึ่งเทศบาลเมืองกระบี่ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในส่วนของงบประมาณในการก่อสร้างสึนามิเมมโมเรียลนั้น ทางท่านผู้ว่าฯ ศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ รับปากจะสนับสนุนงบประมาณการก่อสร้างอนุสรณ์สถานสึนามิจำลองให้อีกทางหนึ่ง ด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่ไม่ได้เดินทางไปชมอนุสรณ์สึนามิที่เกาะ พีพี ได้มีโอกาสชมที่สวนสาธารณะธาราแทน”


*****************************************************************************************************


“ชาวประมงระยอง” พบถังพลาสติกขนาด 1,000 ลิตรบรรจุสารไวไฟ “อะซิโตน” กลางทะเล
 

 
  ระยอง - ชาวประมงตำบลพลา จังหวัดระยอง พบถังพลาสติกขนาด 1,000 ลิตรบรรจุสารไวไฟ “อะซิโตน” ลอยกลางทะเล 10 ถัง พร้อมลากเข้าฝั่งหวั่นเกิดอันตราย
       
       เวลา 09.30 น.วันนี้ (10 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ชาวประมงชายฝั่ง หมู่ 2 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง พบถังพลาสติกมีตะแกรงอะลูมิเนียมครอบขนาดความจุ 1,000 ลิตร ภายในบรรจุสารเหลวมีกลิ่นเหม็นฉุน ลอยอยู่กลางทะเล ห่างจากฝั่ง 6 กิโลเมตร จำนวน 10 ถัง ชาวประมงบางคนลากไปเข้าฝั่งที่ช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 5 ถัง ส่วนชาวประมงใน ต.พลา อ.บ้านฉาง ลากเข้าฝั่งเป็นถังเปล่า 2 ถัง มีสาร 3 ถังรวม 5 ถัง จึงเดินทางไปดูที่เกิดเหตุ
       
       นายลือเก็จ สุวรรนาวุธ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลบ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หัวหน้าศูนย์เฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมเขต 4 เดินทางมาดูที่เกิดเหตุพร้อมด้วยนายณัฐธัญ ละอองทอง ผู้จัดการศูนย์ควบคุมภาวะฉุกเฉินบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ(เอ็นพีซี) จำกัด (มหาชน) เข้าตรวจสอบถังบรรจุสารไม่ทราบชนิดมีความจุขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 3 ถัง มีภาษาอังกฤษเขียนไว้ที่ข้างถัง LAEM - CHABANG MADE IN TAIWAN อีกด้านหนึ่งเขียนว่า NAN NY STAB B - TIN SD - 4017 B LOT - 7010 คาดว่าถังบรรจุสารดังกล่าวบรรทุกมาทางเรือ อาจประสบอุบัติเหตุคลื่นลมทำให้ถังดังกล่าวตกลงทะเล ทราบว่าชาวประมงได้ลากเข้าฝั่งตรงข้ามร้านอาหาร “ตาลคู่ซีฟูด ”หมู่ 2 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง
       
       ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นสารอะซิโตน ซึ่งเป็นสารตัวทำละลายชนิดหนึ่ง เป็นสารไวไฟ ขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง และได้ติดต่อเจ้าหน้าที่เทศบาล ต.พลา อ.บ้านฉาง มาขนย้ายไปไว้ที่เทศบาลฯก่อน เนื่องจากเป็นสารไวไฟเกรงจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
       
       นายสิทธิ์ ทรัพย์ทวี อายุ 54 ปี เลขที่ 7 หมู่ 2 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง อาชีพวางลอบจับปลาหมึกกล่าวว่าขณะนำเรือออกไปในทะเลห่างจากฝั่งประมาณ 6 กิโลเมตร ขณะนั้นนายสันต์ ทรัพย์ทวี อายุ 50 ปีน้องชาย เห็นถังกล่าวลอยอยู่กลางทะเลจึงช่วยกันลากถังกลับเข้าฝั่ง บรรจุสาร 3 ถังและถังเปล่าอีก 2 ถัง ส่วนอีก 5 ถังเรือประมงได้ลากเข้าฝั่งที่ช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งในขณะนั้นก็รู้สึกงงมากว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และหากสารตัวดังกล่าวมีอันตราย
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านบริเวณชายหาดพลากล่าวว่า เรือประมงที่ลากถังเข้าฝั่งเพื่อต้องการนำถังพลาสติกไปขาย โดยไม่ทราบว่าถังบรรจุสารดังกล่าวมีอันตรายหรือไม่

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 12, 2008, 12:34:48 AM »

คม ชัด ลึก


กทม.ขอมรดกโลกเสนอขึ้นทะเบียนพื้นที่ริมฝั่งเจ้าพระยา

กทม.เตรียมผลักดันที่ริมฝั่งเจ้าพระยาตั้งแต่ท่าวาสุกรีถึงสะพานพุทธ เป็นมรดกโลก ระบุเป็นจุดเริ่มต้นแห่งอารยธรรมแหล่งกำเนิดกรุงรัตนโกสินทร์   แสดงถึงคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในรูปของภูมิทัศน์วัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์

    น.ส.อัญชลี  ปัทมาสวรรค์  ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง  กรุงเทพมหานคร  (กทม.) เปิดเผยเมื่อวันที่  11 กันยายนนี้ว่า สำนักผังเมืองเตรียมการขึ้นทะเบียนพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นมรดก โลก  โดยเฉพาะพื้นที่ตั้งแต่ท่าวาสุกรี  ถึงสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์  (สะพานพุทธ)  เพื่อแสดงถึงความสำคัญของพื้นที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นแห่งอารยธรรม  กำเนิดกรุงรัตนโกสินทร์  และวิวัฒนาการการเป็นกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน  อีกทั้งเป็นการแสดงถึงคุณค่า ทางด้านประวัติศาสตร์  และด้านวัฒนธรรมในรูปของภูมิทัศน์วัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ รวมถึงเพื่อดึงทุกภาคส่วนร่วมมือกันอนุรักษ์พื้นที่ให้คงคุณค่าสืบไป

    "สำหรับการเตรียมการขึ้นทะเบียนพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นมรดกโลกใน ขณะนี้ สำนักผังเมืองกำลังจัดเตรียมเอกสารที่ใช้ในการนำเสนอเพื่อขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก  เข้าสู่บัญชีรายชื่อของคณะกรรมการมรดกโลก  พร้อมกับการจัดทำแผนการบริหารจัดการ และที่สำคัญ กรุงเทพมหานครจะเร่งอนุรักษ์ บูรณะสถานที่สำคัญ รวมถึงสภาพแวดล้อมในรูปแบบโครงการ"

    น.ส.อัญชลี กล่าวว่า  จะประสานการทำงานร่วมกับโครงการเรารักษ์เจ้าพระยา  และคณะกรรมการกองทุนเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูแม่น้ำเจ้าพระยา ที่กำลังผลักดันเป็นข้อบัญญัติอยู่ในขณะนี้  เพื่อให้แม่น้ำเจ้าพระยาสะอาด  สวยงาม  สิ่งแวดล้อมดี เป็นสมบัติและมรดกที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์สืบไป

    ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กทม.กล่าวว่า หลังเตรียมรายละเอียดต่างๆ แล้ว กทม.จะประสานงานกับกรมศิลปากร  ซึ่งเป็นหน่วยข้อมูลหลัก  สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดก โลก  และเตรียมจัดตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานของ กทม. ซึ่งการนำพื้นที่ริมฝั่งเจ้าพระยาเป็นมรดกโลกนั้น  กทม.จะรับฟังความคิดเห็นประชาชนในทุกขั้นตอน เพื่อให้เกิดเครือข่ายและการมีส่วนร่วมต่อไป.

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
Plateen
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 522



« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 12, 2008, 08:08:55 AM »

ขออนุญาตเสริมข่าวนี้ด้วยครับ

พายุหมุนกระหน่ำกลางอ่าวพัทยา
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 กันยายน 2551 13:53 น.
 
 
 
       ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดพายุหมุนสูงขนาดเท่าตึก 30 ชั้น พาฝนกระหน่ำทั่วเมืองพัทยา
       
       มีรายงานว่าในช่วงค่ำวานนี้ (11 ก.ย.) ได้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ซึ่งมีลักษณะเป็นพายุหมุนขนาดใหญ่ เกิดขึ้นที่บริเวณกลางอ่าวพัทยา ห่างจากชายฝั่งประมาณ 2 กม. ซึ่งคาดคะเนระดับความสูงจากพื้นน้ำทะเลถึงท้องฟ้าเท่ากับตึกขนาด 30 ชั้น โดยปรากฏการณ์นี้กินเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง สร้างความแตกตื่นให้แก่คนเมืองพัทยา และนักท่องเที่ยวที่กำลังเล่นน้ำทะเลเป็นอย่างมาก
       
       ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นบริเวณอ่าวจอมเทียน ก่อนจะหมุนตัวไล่มาจนถึงบริเวณกลางอ่าวพัทยา กินเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนจะหายไป ซึ่งครั้งแรกที่เห็นเป็นการรวมตัวจากลูกเล็กๆ ก่อนจะก่อตัวเป็นลูกขนาดใหญ่ ซึ่งลักษณะดังกล่าวคล้ายกับพายุหมุนที่เกิดขึ้นที่บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ จึงทำให้รู้สึกตกใจมากเนื่องจากไม่เคยพบเห็นมาก่อน
       
       ขณะที่นักอุตุนิยมวิทยาอธิบายว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเหตุการณ์ทางธรรมชาติ เป็นเรื่องของคลื่นความกดอากาศต่ำไปปะทะกับคลื่นความกดอากาศสูงอย่างกะทันหันเหนือท้องน้ำ ทำให้เกิดมีไอน้ำรวมตัวกันและถูกพัดหมุนเป็นเกลียวขึ้นสู่ท้องฟ้าความสูงกว่า 100 เมตร จนดูคล้ายกับพายุทอร์นาโดในต่างประเทศ
 
 ที่มา

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000108291
บันทึกการเข้า

For God so loved the world, that he gave his only begotten Son, that whosever believeth in him should not perish, but have everlasting life[John3:16]
Sri_Nuan.Ray
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1808



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 16, 2008, 11:41:51 AM »

ขอบคุณพี่เล้งค่ะ...มีข่าวดีๆ อ่านอีกแล้ว เวลา พี่สองสายไม่อยู่   
บันทึกการเข้า

~~~ หากเราหยุดนิ่ง ทุกอย่างที่ผ่านมา คือ อดีต.... ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อมันจะได้เป็นอดีตที่มีค่าแก่ ความทรงจำของเรา  ~~~
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.025 วินาที กับ 20 คำสั่ง