กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 21, 2024, 04:30:37 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2551  (อ่าน 1984 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: ตุลาคม 23, 2008, 12:58:22 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันนี้ (23 ต.ค.) ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นในระยะแรก(23-25 ต.ค.) ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้ผลกระทบในระยะต่อไป   

สำหรับร่องความกดอากาศต่ำค่อนข้างแรงที่พาดผ่านภาคใต้ตอนกลางและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นอีก (24-27 ต.ค.) ทำให้บริเวณดังกล่าวมี ฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ โดยเฉพาะบริเวณ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี พังงา นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรังและสตูล ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในช่วง 2-4 วันนี้ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ในช่วงวันที่ 25-27 ต.ค. 51 นี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 35 องศา  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 23-28 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศา กับมีลมแรง ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรส่วนมากในช่วงวันที่ 25-28 ต.ค.


ข้อควรระวัง

ในระยะนี้ขอให้ประชาชนในภาคใต้บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรังและสตูลระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ซึ่งจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ และชาวเรือขอให้ระวังอันตรายจากการเดินเรือในช่วงวันที่ 25-28 ต.ค. นี้ไว้ด้วย



* Forecast2.jpg (39.46 KB, 693x430 - ดู 266 ครั้ง.)

* Earthquake2.jpg (21.1 KB, 450x307 - ดู 254 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2008, 01:06:45 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


5 ประเทศร่วมมือแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน

 ที่ จ.ภูเก็ต ได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศ ที่ได้รับผลกระทบต่อมลพิษหมอกควันข้ามแดนทั้งจากประเทศไทย บรูไน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับผลการประชุมได้กำหนดแนวทางการแก้ปัญหาไว้คือ แต่ละประเทศให้มีการควบคุมไฟป่า และหมอกควัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหมอกควันข้ามแดน ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนแต่ละประเทศ รวมทั้งให้ศูนย์เชี่ยวชาญด้าอุตุนิยมวิทยาแห่งอาเซียน จัดประชุมเชิงปฏิบัติการที่ประเทศสิงคโปร์ในปีหน้า เพื่อรายงานข้อมูลการเกิดหมอกควัน และการติดตามผลการกระจายตัวของหมอกควัน โดยอาศัยปริมาณของฝุ่นละอองขนาดเล็ก นำไปเปรียบเทียบเชิงวิเคราะห์ และเป็นข้อมูลในการแก้ไขปัญหาหมอกควันระยะยาวต่อไป

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2008, 01:13:36 AM »

ข่าวสด


สัตว์โลกใต้น้ำ



คณะ ช่างภาพของสถานีโทรทัศน์บีบีซี นำโดยนายพอล โรส อดีตหัวหน้าการสำรวจแอนตาร์กติกอังกฤษ ถ่ายภาพความสวยงามใต้น้ำมาให้ชม มีทั้งพะยูนที่ว่าย อยู่นอกชายฝั่งของประเทศโมซัมบิก วาฬสเปิร์ม ซึ่งเมื่อโตเต็มที่จะยาวถึง 16 เมตร มังกรสาหร่ายในอ่าวฟอร์เตสคิว เกาะแทสมาเนีย และปลาซันฟิชที่อยู่บริเวณทะเลแห่งคอร์เตซ


****************************************************************************************************************************


ผู้ดีต่อเรือดำน้ำขนาดมหึมา



ราชนาวีอังกฤษต่อเรือดำน้ำลำใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยต่อมาในอังกฤษ คือ "เรือรบแอสทูต" และ "เรือรบแอมบุช"

เรือ ทั้ง 2 ลำซึ่งใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการเดินเรือ มีความยาวลำละ 318 ฟุต ระวาง 7,400 ตัน หรือเท่ากับวาฬสีน้ำเงิน 62 ตัว ได้ติดตั้งระบบช่วยชีวิต เช่น การเปลี่ยนน้ำทะเลมาเป็นออกซิเจนและน้ำดื่มให้กับลูกเรือ 98 นาย และตามหลักแล้ว เรือสามารถอยู่ในน้ำได้นาน 25 ปี โดยไม่ต้องขึ้นมาเลย แต่เมื่อใช้งานจริง เรือต้องขึ้นมาบนผิวน้ำประมาณ 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง เพื่อรับเสบียงอาหาร

"เรือรบแอสทูต" และ "เรือรบแอมบุช" ใช้เครื่องยนต์โรลสรอยส์ PWR2 มีท่อน้ำกว่า 23,000 ชิ้น เดินสายไฟความยาวรวม 62 ไมล์ ใช้คนกว่า 4,000 คน ในการต่อเรือ ราคาลำละ 65,000 ล้านบาท

ทั้งสองลำจะไม่ขนหัวรบนิวเคลียร์ แต่จะเน้นที่พลังการยิง เช่น สามารถยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กได้พร้อมๆ กัน 38 ลูก พร้อมติดตั้งกล้องใต้น้ำ ให้กัปตันเรือมองเห็นสภาพของท้องน้ำได้ 360 องศา - เดลี่เมล์

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2008, 01:21:37 AM »

แนวหน้า


ระบบติดตามเรือประมง อีกก้าวหนึ่งของการใช้เทคโนโลยี GIS กรมประมง (รายงานพิเศษ)

ปัจจุบันเทคโนโลยีภูมิสาสตร์สารสนเทศ(GIS) ได้นำมาประยุกต์ใช้งานหลากหลายด้วยกัน ล่าสุดกรมประมงได้จัดทำโครงการทดสอบการประมวลผลข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจ ทรัพยากร ร่วมกับระบบติดตามเรือเพื่อตรวจหาตำแหน่งเรือประมงโดยขณะนี้ได้เปิดให้ผู้ ประกอบการเรือปะมงเข้าร่วมโครงการแล้ว ส่วนจะได้รับผลประโยชน์อย่างไรนั้น

ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวถึงโครงการทดสอบการประมวลผลข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจทรัพยากรร่วมกับระบบ ติดตามเรือเพื่อตรวจหาตำแหน่งเรือประมง ว่าเป็นโครงงานความร่วมมือการจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และ คอมพิวเตอร์แห่งชาติ(NECTEC) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ในการนำเทคโนโลยีด้านภูมิสารสารสนเทศ หรือ GIS มาใช้ในการติดตามเรือประมงเพื่อเก็บข้อมูลการเดินเรือในแต่ละครั้ง โดยเจ้าของเจ้าของเรือและกรมประมง จะได้รับประโยชน์จากระบบติดตามเรือนี้สามารถสรุปได้ดังนี้

1. เจ้าของเรือประมง

-ลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น โดยเจ้าเรือสามารถทราบตำแหน่งตำบลที่เรือ ณ ปัจจุบันได้ตลอดเวลา หากมีปัญหาเรือเกิดอุบัติเหตุ เครื่องยนต์เสีย เรือจม เรือถูกปล้นกลางทะเล ต้องการความช่วยเหลือด่วนเจ้าของเรือสามารถประสานติดต่อผู้เกี่ยวข้องให้ ความช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์

-เส้นทางการเดินเรือ การนำเทคโนโลยีประเภทนี้มาใช้แบบเรียลไทม์ จะทำให้ได้ใช้ข้อมูลเรือตั้งแต่การออกจากท่า การเดินเรือ พฤติกรรมของเรือ จนถึงปลายทางที่เป็นจริงทันต่อเหตุการณ์ นำมาวิเคราะห์เพื่อนำมาวางแผนงานและสามารถควบคุมได้เพื่อกำหนดเส้นทางที่ดี หรือเหมาะสมที่สุด สั้นที่สุด คุ้มค่าที่สุด

-ประหยัดต้นทุนน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงระหว่างทาง โดยเจ้าของเรือสามารถจำกัดความเร็วเรือที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา กำหนดมาตรการห้ามมิให้พนักงาน ติดเครื่องยนต์ในช่วงที่ไม่จำเป็นกำหนดแผนงานก่อนดำเนินงานจริงในแต่ละครั้ง เพื่อคำนวณหาเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดในการทำการประมง และกำหนดระยะเวลาในการซ่อมบำรุงเรือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อลดอัตราสึกหรอและลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงระหว่างทาง

-ตรวจสอบจำนวนเที่ยวการออกไปทำประมงและป้องกันการทุจริต ระบบจะบันทึกแหน่งการเดินเรือทุกลำบนแผนที่ ให้มีการเดินเรือตามแผนงานที่กำหนดไว้ ไม่มีการออกนอกเส้นทางเดินเรือ มีการส่งหรือรับสินค้าตามกำหนด ประมาณการเตรียมน้ำแข็งเพียงพอเพื่อรักษาคุณภาพของวัตถุดิบ ทำให้สามารถบริหารการจัดการเรือและประหยัดค่าใช้จ่ายได้

-เป็นการแสดงการทำประมงอย่างรับผิดชอบ บันทึกระบบติดตามเรือยังสามารถใช้เป็นหลักฐานที่สำคัญในการต่อสู้ทางการศาล ในกรณีถูกจับกุมข้อหารุกล้ำน่านน้ำ หรือผิดกฎหมายเกี่ยวกับเขตการประมง

2. หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง

-ระบบติดตามเรือสามารถช่วยในการแจ้งเตือนภัยเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินในบาง พื้นที่ เช่น กรณีเกิดแผ่นดินไหว เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ หรือเกิดพายุ นอกเหนือจากการแจ้งเตือนปกติโดยแจ้งเตือนไปยังเรือประมงที่ไปทำประมงบริเวณ นั้นเป็นประจำ

-กรณีเรือประมงประสบเหตุร้ายกลางทะเล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าช่วยเหลือกู้ภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากทราบเส้นทางเดินเรืออย่างสม่ำเสมอ

-สามารถกำหนดให้มีการตั้งระบบการเตือนเมื่อเรือเดินทางเข้าสู่พื้นที่เฝ้า ระวัง หรือเขตอนุรักษ์ (Preservation zone) พื้นที่อันตราย หรือเดินทางออกจากพื้นที่เฝ้าระวัง โดยผู้ใช้งานสามารถสร้างบริเวณพื้นที่เฝ้าระวังนั้นไว้ล่วงหน้า และสามารถส่งรายงานการเตือนผ่านไปยังที่อีเมล์ของผู้ใช้งาน ผ่านระบบดาวเทียมสื่อสาร หรือผ่านระบบ SMS ของมือถือได้ด้วย

-หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องสามารถติดตามควบคุมเรือประมงในพื้นที่ควบคุม ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ป้องกันปราบปรามการลักลอบการค้าน้ำมันเถื่อน และป้องกันปราบปราม การลักลอบทำประมงในพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้าน

ดร.พุธชพล สุวรรณชัย หัวหน้าโครงการ กล่าว่า ระบบติดตามเรือผ่านระบบเครือข่ายมือถือนี้ เป็นระบบที่มีการส่งสัญญาณข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งตำบลที่ของเรือผ่านทาง เครือข่ายมือถือ GSM ซึ่งระบบนี้มีข้อจำกัดในการส่งสัญญาณและข้อมูลคือจะกระทำได้เมื่อเรือประมง นั้นปฏิบัติงานอยู่ภายในเขตพื้นที่ที่เครือข่าย GSM นี้ครอบคลุมถึงเท่านั้น ในการทำงานของระบบเครือข่ายมือถือนี้ประกอบด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ 3 ภาคส่วน คือ ส่วนของTracking Module ส่วนของ Control Track Center และส่วนของ Display Terminal

สำหรับเจ้าของเรื่อที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดตั้งระบบและอุปกรณ์ฟรี และทดลองใช้ฟรี ประมาณ 1 ปี ครึ่ง หลังจากนั้นกรมประมงอาจจะมอบให้เจ้าของเรือ เป็นตัวอย่างแก่เจ้าของเรือประมงรายอื่นๆ เจ้าของเรือสามารถเรียกดูตำแหน่งเรือของตนเองได้ตลอดเวลาผ่านระบบอิน เทอร์เนต ซึ่งปัจจุบันนี้ใช้ง่ายมากขึ้นและมีใช้ตามบ้านทั่วไปได้ แจ้งมาที่อธิบดีกรมประมง 02-562-0523 Fax 02-5620493

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.029 วินาที กับ 22 คำสั่ง