กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 21, 2024, 04:28:45 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552  (อ่าน 1875 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กน้อย
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 190


« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2009, 02:14:53 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา

สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางได้แผ่ปกคลุมถึงประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่า จะแผ่ปกคลุมทะเลจีนใต้ ประเทศเวียดนามตอนบน ลาว และจะแผ่เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยก่อนภาคอื่นๆในวันนี้( 20 ก.พ. ) ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะดังกล่าวจะทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 20-21 ก.พ. นี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

คาดหมาย

สำหรับในช่วงวันที่ 20-25 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 20-22 ก.พ. นี้


ข้อควรระวัง

ในระยะนี้ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย โดยในช่วงวันที่ 20-22 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงไว้ด้วย


* Forecast200209.JPG (22.12 KB, 398x382 - ดู 265 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
เด็กน้อย
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 190


« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2009, 02:22:12 AM »

โพสต์ทูเดย์

ท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่ ในเกาะช้าง 
รายงานโดย :ม.ล.สราลี กิติยากร


สวัสดีค่ะ เที่ยวละไม...ไทยแลนด์เวิลด์ สัปดาห์นี้ น้อยอาสาพาน้ำผึ้งไปเที่ยวแบบเทรนด์ใหม่บนเกาะช้าง


ตอนแรกน้ำผึ้งก็สงสัยกับคำว่าเที่ยวแบบเทรนด์ใหม่ของน้อยเหมือนกันว่า มันจะเป็นอย่างไรหนอ เพราะถ้าหากเราพูดถึงการไปเที่ยวเกาะ เราต้องนึกถึงการได้ไปนอนอาบแดด เหยียบทรายนุ่มๆ ดำน้ำดูปะการัง แต่มันไม่ใช่อย่างที่คิดเอาซะเลยค่ะ
เราเดินทางมายัง จ.ตราด มุ่งหน้าสู่ท่าเรืออ่าวธรรมชาติ เป็นท่าเรือเฟอร์รีที่เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวล่าสุด โดยใช้เวลาในการเดินทางไปยังเกาะช้างสั้นลงเพียงแค่ 20 นาที เราก็ได้ไปเหยียบทรายบนเกาะแล้วล่ะค่ะ ซึ่งแต่ก่อนเวลาเราจะเดินทางไปเที่ยวเกาะช้าง เราจะต้องไปลงเรือที่ท่าเรือแหลมงอบ หรือไม่ก็ที่ท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อยท์เท่านั้น ตอนนี้ก็มีทางเลือกให้นักท่องเที่ยวมากขึ้นค่ะ พอเราไปถึงเกาะช้าง เส้นทางที่เราไปดูจะแตกต่างจากเส้นทางของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ โดยสิ้นเชิง นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เริ่มออกจากท่าเรือซะแล้วค่ะ น้ำผึ้งสังเกตเห็นรถกี่คันที่ผ่านสายตาไป ล้วนแล้วแต่เลี้ยวขวา แต่เส้นทางโปรแกรมการท่องเที่ยวของเราครั้งนี้กลับเลี้ยวซ้ายไม่เหมือนคนอื่น ซึ่งจากท่าเรือเรามุ่งหน้าไปยังที่พัก น้อยรับประกันกับน้ำผึ้งว่า รับรองต้องชอบที่นี่แน่นอน ตลอดเส้นทางที่เราไป จะเป็นสวนมะพร้าวและบ้านเรือนของคนถิ่น ได้กลิ่นอายของวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนบนเกาะ ด้วยบรรยากาศรอบด้านที่เงียบสงบร่มรื่นท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว มองไปทางไหนก็สบายตา น้ำผึ้งว่าเหมาะแก่การมาพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง จากที่เคยคิดว่ามาเที่ยวเกาะจะต้องมาเห็นทะเลเพียงอย่างเดียว ได้อารมณ์แบบนี้ก็แปลกไปอีกแบบ


รีสอร์ตที่เรามาพักชื่อว่า เดอะ สปา เกาะช้างรีสอร์ท เป็นรีสอร์ตแนวสุขภาพ ที่ให้บริการด้านการอดอาหารล้างสารพิษในร่างกาย ที่เรียกว่า โคลินิกเออริเกชัน และสปาเพื่อสุขภาพแบบครบวงจร พร้อมทั้งบริการที่พิเศษสุด ไม่ว่าจะเป็นการนวดบำบัดแผนต่างๆ การอบไอน้ำสมุนไพร การฝึกโยคะและสมาธิ ทั้งยังมีบริการทางทันตกรรม รวมถึงให้บริการอาหารสุขภาพและอาหารมังสวิรัติแบบสากล โดยร้านอาหารของที่นี่ได้รับการโหวตเป็น 1 ใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกจากนิตยสาร UK Magazine มาแล้วด้วยค่ะ

แหม...มาที่นี่แล้วลืมทะเลได้อย่างไม่น่าเชื่อ เค้าตกแต่งรีสอร์ตได้สวยน่าอยู่มากๆ ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ ทั้งกิจกรรมก็น่าสนใจไปเสียหมด ดังนั้นหลังจากที่นำสัมภาระไปเก็บบนห้องพักเสร็จเรียบร้อยแล้ว น้ำผึ้งจึงไม่วายขอผ่อนคลายด้วยการนวดตัวเสียหน่อย
จากนั้นน้อยได้พาน้ำผึ้งไปเที่ยววัดวัชคามคชทวีป หรือวัดสลักคอก ตามประวัติวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ มีอายุกว่า 100 ปีแล้ว แต่เดิมวัดนี้อยู่ห่างจากที่ตั้งปัจจุบันไป 3 กิโลเมตร ด้วยทำเลไม่เหมาะสมเป็นภูเขา จึงย้ายมาตั้งยังพื้นที่ราบ ความสำคัญของวัดนี้อยู่ที่ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ได้เคยเสด็จประพาสยังวัดนี้ และได้พระราชทานนามวัดนี้ว่า วัดวัชคามคชทวีป ภายในอุโบสถของวัดนี้มีพระพุทธรูปไม้เก่าแก่ที่มีลักษณะผุพัง เหลือร่องรอยบางส่วนที่ทำให้เรายังคงเห็นว่าเป็นองค์พระพุทธรูปอยู่ น้อยบอกว่าการมาเที่ยวครั้งนี้เป็นการเรียนรู้ประวัติของเกาะช้าง เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวอย่างเราควรรู้เรื่องราวของเกาะช้างในอดีตกันบ้าง น้อยเลยพาน้ำผึ้งไปที่อนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้าง อันเป็นสถานที่ที่เคยเกิดการรบทางเรือ ระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นการรบทางเรือเต็มรูปแบบครั้งสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย โดยการรบครั้งนั้นทหารไทยได้เสียชีวิตไป 36 นาย ส่วนเรือรบไทยเสียหายไป 3 ลำค่ะ จากประวัติทำให้ทราบว่ากองทัพเรือไทยเพียงแค่หยิบมือเดียว อาจดูเล็กมากเมื่อเทียบกับกองทัพเรือฝรั่งเศส แต่ทหารไทยก็สู้ยิบตาจนกองทัพฝรั่งเศสต้องถอยร่นไปค่ะ


สำหรับโปรแกรมการท่องเที่ยวครั้งนี้ น้อยพาน้ำผึ้งไปปิดฉากการเที่ยวบนเกาะช้างแบบเทรนด์ใหม่ ด้วยการไปดินเนอร์บนเรือมาด มันช่างเก๋ไก๋มากๆ เลยค่ะ นั่งเรือเลียบป่าชายเลนเพื่อไปชมพระอาทิตย์ตกดินโรแมนติกซะ พร้อมๆ กับการเสิร์ฟอาหารให้เราได้รับประทานมื้อค่ำ เรียกว่าอิ่มทั้งท้องและอิ่มทั้งบรรยากาศ ต้องขอชมไอเดียนี้ที่ชุมชนบ้านสลักคอกได้รวมตัวกันตั้งเป็นชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก กิจกรรมนั่งเรือมาดจึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ด้วยความแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร หากใครที่เคยนั่งเรือกอนโดลาชมเมืองเวนิซที่ประเทศอิตาลีกันมาแล้ว ลองมานั่งเรือมาดฉบับไทยแลนด์ที่เกาะช้างเป็นต้องถูกใจ

นี่แหละ...เที่ยวอย่างคนรุ่นใหม่ ต้องไม่เหมือนใคร เป็นการเติมความแปลกใหม่ให้กับตัวเอง ชีวิตจะได้มีรสชาติยังไงล่ะค่ะ ติดตามชมเที่ยวแบบเทรนด์ใหม่ ในเกาะช้าง ได้ในรายการเที่ยวละไม...ไทยแลนด์เวิลด์ อาทิตย์นี้ เวลา 06.25 น. ทาง ช่อง 3
บันทึกการเข้า
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2009, 02:12:13 PM »


ขอบคุณน้องเด็กน้อยที่มาช่วยทำข่าวค่ะ....

เมื่อไรจะได้ไปดำน้ำทำงานด้วยกันอีกคะ....
บันทึกการเข้า

Saaychol
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.025 วินาที กับ 20 คำสั่ง