กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 22, 2024, 03:56:26 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพุธที่ 1 เมษายน 2552  (อ่าน 4793 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 12:46:45 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประกาศเตือนภัย  "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย"  ฉบับที่ 7 (65/2552) ลงวันที่ 01 เมษายน 2552
 
     บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนในขณะที่บริเวณดังกล่าวยังมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้เกิดมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น จึงขอให้ประชาชนในบริเวณที่กล่าวมาระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 1- 2 เมษายน 2552 นี้ โดยขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งหรือใต้ต้นไม้สูงเด่น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งควรงดใช้เครื่องมือสื่อสารหรือวัตถุที่อาจเป็นสื่อนำไฟฟ้าในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง

สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปถึงนราธิวาสมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. - 2 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมา ปกคลุมทะเลจีนใต้ และประเทศไทยตอนบนอีกครั้งหนึ่ง ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือในช่วงวันที่ 31 มี.ค. - 2 เม.ย. ทำให้บริเวณประเทศไทยมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตก ในบางพื้นที่ หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 3-6 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมทะเลจีนใต้ และประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวอากาศร้อนขึ้น


ข้อควรระวัง

 ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. - 2 เม.ย. ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน



* Forecast2.jpg (39.16 KB, 684x423 - ดู 364 ครั้ง.)

* Earthquake.jpg (39.41 KB, 450x499 - ดู 358 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 12:52:18 AM »

ไทยรัฐ


พบโลมาหัวบาตร 3 ตัวเกยตื้นใกล้ท่าเทียบเรือ จ.ตรัง



เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 30 มีนาคม  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายวินัย ชูเสียงแจ้ว อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ว่าพบปลาโลมาหัวบาตร จำนวน 3 ตัว กำลังเกยตื้นใกล้หมดสิ้นเรี่ยวแรงอยู่บริเวณกอหญ้าทะเล ม.4 บ้านปากอ่าว ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ห่างจากท่าเทียบเรือหาดปากเมงประมาณ 200 เมตร จึงประสานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง รุดไปช่วยเหลือ

เมื่อไปถึงพบโลมาหัวบาตรทั้ง 3 ตัว ลักษณะสีเทาเข้ม น้ำหนักประมาณ 180 กิโลกรัม ยาวประมาณ 3 เมตร ใกล้เคียงกันทุกตัว กำลังเกยตื้นอยู่ในระดับน้ำประมาณ 50 เซนติเมตร ตรงกอหญ้าทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ของพะยูน เจ้าหน้าที่ได้พยายามช่วยเหลือโดยใช้เรือหางยาวประคองลากตัวปลาโลมาออกไปยังจุดน้ำลึกกลางทะเล แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะปลาโลมาทั้ง 3 ตัว อยู่ในสภาพหมดสิ้นเรี่ยวแรงไม่สามารถว่ายน้ำออกไปจากปากอ่าวได้ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันประคองตัวอยู่ในทะเลนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยที่ปลาโลมาทั้ง 3 ตัว พยายามว่ายน้ำวนเวียนไปมารอบลำเรืออยู่หลายรอบเพื่อเรียกกำลัง ก่อนจะหายท้องฉีดพ่นน้ำและดีดตัวเหมือนเป็นการแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ช่วยชีวิตไว้ก่อนว่ายน้ำหายไปใต้ท้องทะเล ท่ามกลางเสียงปรบมือของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มายืนดู และบันทึกภาพเหตุการณ์บริเวณท่าเทียบเรือดังกล่าวกว่า 30 คน

นายวินัย ชูเสียงแจ้ว ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง กล่าวว่า ปลาโลมาพันธุ์หัวบาตร ทั้ง 3 ตัวดังกล่าวเป็นที่คุ้นเคยของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งมักจะว่ายเข้ามาเล่นน้ำบริเวณหน้าชายหาดปากเมงเป็นประจำบ่อยครั้ง แต่เหตุการณ์วันนี้ปลาโลมาดังกล่าว อาจจะว่ายน้ำติดตามฝูงปลาตัวเล็กมายังแหล่งหญ้าทะเลเพื่อจับเป็นอาหาร กระทั่งปริมาณระดับน้ำทะเลได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ปลาโลมาทั้งหมดหาทางกลับไม่พบ จึงเกยตื้นในแหล่งกอหญ้าทะเลดังกล่าว

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 12:58:41 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


ประกาศ!! ปิดอ่าวอันดามัน"กระบี่ พังงา ภูเก็ต"ถึงสิ้นเดือน มิ.ย.
 
       ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง เป็นประธานพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารการจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ ในฤดูปลามีไข่และวางไข่เลี้ยงลูก ฝั่งทะเลอันดามัน ประจำปี 2552 ซึ่งเริ่มปิดอ่าวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน - 30 มิถุนายน

        โอกาสนี้อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า บริเวณทะเลอันดามัน ในเขต จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง เป็นแหล่งสัตว์น้ำบางชนิด โดยเฉพาะปลาทู วางไข่และอาศัยเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ตั้งแต่เดือนเมษายน - มิถุนายน ดังนั้นเป็นการคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำ และสัตว์น้ำวัยอ่อน ให้มีความอุดมสมบูรณ์ จึงได้กำหนดปิดอ่าว ตั้งแต่ปลายแหลมพันวา จ.ภูเก็ต ถึงตะวันออกปลายแหลมหัวล้าน อ.เกาะยาว จ.พังงา เกาะปิด๊ะนอก ปลายแหลมเกาะลันตาใหญ่ จ.กระบี่ ปลายแหลมเกาะกาลิบง อ.กันตรัง ถึงปลายแหลมหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง รวมเนื้อที่ 4,696 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้ปลาวางไข่และเลี้ยงลูกวัยอ่อน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน - 30 มิถุนายนนี้

        เตือนชาวประมงห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงด้วยอวนลากทุกประเภท ทุกขนาดที่ใช้กับเรือกล อวนประเภทล้อมจับทุกชนิด อวนติดตา ขนาดช่องตาเล็กกว่า 4.2 เซนติเมตร ทำการจับสัตว์น้ำบริเวณดังกล่าว ฝ่าฝืนมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 - 10,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และริบเครื่องมือทำการประมงด้วย


*************************************************************************************************************************


รวบเรือประมงลอบจับสัตว์น้ำช่วงปิดอ่าวกว่า 10 คดี
 
จนท.ที่เกี่ยวข้องนำเรือตรวจการณ์ออกตรวจสอบจับกุมเรือประมงที่ลักลอบทำประมงช่วงประกาศปิดอ่าว 
 
กรมประมงเอาจริง ดำเนินการจับกุมผู้ลักลอบจับสัตว์น้ำในเขตหวงห้าม ตั้งแต่พื้นที่บางส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-สุราษฎร์ธานี ช่วงฤดูปลาวางไข่ ไปแล้วกว่า 10 คดี
       
       ในวันที่ 30 มีนาคม  นายจรูญศักดิ์ เพชรศรี หัวหน้าป้องกัน และปรามปรามประมงทะเลภาคใต้ จังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ผู้ช่วยประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ประมงอำเภอเกาะสมุย นำเรือตรวจการณ์ประมงทะเล 611 มีนายนิคม นิติรัตน์ หัวหน้าหน่วยป้องกัน และปราบปรามประมงทะเล เป็นผู้ควบคุม ออกตรวจสอบท้องทะเล เพื่อป้องกัน และปราบปรามการลักลอบจับฤดูปลาวางไข่ พื้นที่รอบหมู่เกาะอ่างทอง เกาะเต่า เกาะพะงัน และเกาะสมุย
       
       เนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศปิดอ่าวตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปี พร้อมประกาศห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด ทำการประมงในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน ตั้งแต่พื้นที่บางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
       
       นายจรูญศักดิ์ เพชรศรี หัวหน้าป้องกัน และปรามปรามประมงทะเลภาคใต้ จังหวัดชุมพร กล่าวว่า ตั้งแต่ประกาศปิดอ่าวสามารถจับกุมเรือประมงที่ลักลอบจับสัตว์ในพื้นที่ห้ามจับไปดำเนินคดีแล้วกว่า 10 คดี


**************************************************************************************************************************


ประมงเรือเล็กระยองเฮ! หลังศาลพิพากษาให้ประกาศเขตควบคุมมลพิษ 

   
ประมงเรือเล็ก   
 
       ระยอง - ประมงเรือเล็กระยองดีใจหลังทราบว่าศาลปกครองพิพากษาให้ประกาศเขตควบคุมมลพิษ
       
       นายณรงค์ฤทธิ์ แสวงหา ประธานกลุ่มประมงเรือเล็กฯ กล่าวว่ากลุ่มประมงที่อาศัยทำมาหากินในท้องทะเล ต้องประสบปัญหาร้ายแรงคือเรื่องน้ำทะเล พอทราบว่าศาลปกครองระยองพิพากษาให้ประกาศเขตควบคุมมลพิษ ดีใจมาก จะได้รู้ผู้ที่สร้างปัญหาให้กับชุมชนคือใคร เมื่อประกาศแล้วรัฐบาลจะเอาจริงแค่ไหน แต่ประกาศแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นก็รู้สึกเสียใจ ที่ผ่านมาเมื่อเกิดปัญหาเรื่องฝุ่น กลิ่นเหม็น และเรื่องน้ำเสียที่ไหลลงคลองชากหมากแห่งนี้ ก็มีการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการโรงงานขอให้มีมาตรการแก้ไขที่ดีกว่านี้
       
       นายณรงค์ฤทธิ์กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้มีน้ำเสียจากโรงงานไหลลงคลองชากหมากออกสู่ทะเล ทำให้ปู ปลา หอยตายจำนวนมาก ปัญหาเรื่องมลพิษหากมีการเสนอข่าวออกไป หลายหน่วยงานจะรีบเข้ามาสอบถามกันจ้าละหวั่น แต่ก็ไม่เคยนำปลาตายไปพิสูจน์หาสาเหตุว่าตายเพราะสาเหตุใด ในทุกปีไม่ต้องการให้มีเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม เพราะใน 3 เดือนนี้จะเกิดปัญหาเรื่องน้ำเสียทำให้กุ้ง หอย ปู ปลา ตายจำนวนทุกปี
       
       ประธานกลุ่มประมงฯ ได้พานักศึกษาไปดูน้ำในคลองชากหมากที่ไหลลงสู่ทะเล ซึ่งมักเกิดปัญหาน้ำเสียจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรร มาบตาพุด ที่สร้างปัญหาในช่วงเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม ทำให้ กุ้ง หอย ปู ปลา ตายเป็นประจำ

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 01:20:27 AM »

แนวหน้า


ชาวบางสะพานร้อง ทส. ขอเพิกถอนพื้นที่ป่าสงวน เร่งออกน.ส.3ให้เข้าทำกิน   

ประจวบคีรีขันธ์:นายสนอง ภู่เขียว อดีตประธานสหกรณ์นิคม อ.บางสะพาน ในฐานะแกนนำกลุ่มพิทักษ์ที่ทำดินกิน 60 ปี ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เปิดเผยว่า ชาวบ้านจาก 8 ตำบล ประกอบด้วย ทองมงคล ร่อนทอง ชัยเกษม พงศ์ประศาสน์ และ ธงชัย อ.บางสะพาน และจาก ไชยราช ปากแพรก บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย กว่า 3 พันคน จะรวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือต่อนายธวัชชัย วิสมล นายอำเภอบางสะพาน ส่งต่อให้นายปานชัย บวรรัตนปราณ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอให้เพิกถอนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองกรูดไชยราช และป่าพรุน้ำเค็ม อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย เนื้อที่กว่า 1 แสนไร่ ซึ่งชาวบ้าน 2 หมื่นครัวเรือนได้อาศัยทำกินมานานกว่า 60 ปี

ทั้งนี้ความเดือดร้อนในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผ่านมาคณะกรรมการจัดสรรที่ดินทำกิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทอดทิ้งให้ชาวบ้านให้อยู่อาศัยในที่ดินของรัฐอย่างผิดกฎหมายมานานตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จึงไม่มั่นใจและหวาดระแวงและว่าอาจจะถูกขับไล่ โดยชาวบ้านจะยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติคลองกรูดไชยราช และป่าพรุน้ำเค็ม 2.ให้ ทส. มอบที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้กรมที่ดินนำไปออกเอกสารสิทธิ์ นส.3 หรือโฉนดที่ดิน เพื่อให้ราษฎรมีสิทธิ์ในที่ดินอย่างถูกกฎหมาย และ 3.ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เสนอ ครม.มีมติออกเอกสารสิทธิ์ให้ชาวบ้านมีที่ดินทำกินต่อไป

ด้านนายธวัชชัย วิสมล นายอำเภอบางสะพาน กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดได้เรียกประชุม กำนัน ผู้ใหญ่ บ้าน ผู้นำท้องถิ่น ทุก อบต. ในพื้นที่ อ.บางสะพาน บางสะพานน้อย เพื่อหาข้อมูล และสรุปข้อมูลครั้งสุดท้าย โดยจังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ ป่าต้นน้ำ และป่าชุมชนให้ชัดเจนอีกครั้ง และนำมาพิสูจน์สิทธิ์ โดยดูจากอายุการเพาะปลูกพืชผลของชาวบ้าน รวมทั้งระยะเวลาการเข้าครอบครอง จากนั้นเสนอให้หน่วยงานรัฐส่วนกลางที่เกี่ยวข้องพิจารณา เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) นำเข้าสู่สภา เพื่อขอมติเห็นชอบให้ยกเลิกมติ ครม. เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2513 และตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าสงวนแห่งชาติปี 2507 เพื่อนำที่ดินในเขตป่าเสื่อมโทรม รวมทั้งที่ดินสหกรณ์นิคม ทั้ง 2 อำเภอ ประมาณกว่า 1 แสนไร่ นำมาจัดสรรออกเอกสารสิทธิ์เป็นที่ดินทำกินและทำการเกษตรให้กับชาวบ้านต่อไป 

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 02:40:11 AM »


น่าดีใจจริงๆค่ะ โลมาเกยตื้นที่ตรังรอดชีวิตไปได้เพราะความช่วยเหลือของชาวบ้าน...  


ขอขอบคุณผู้ให้ความช่วยเหลือโลมาทุกๆท่านด้วยค่ะ  ส่วนโลมาก็ขอให้อยู่รอดปลอดภัย  อย่าได้เห็นแก่กินจนลืมตัวเผลอเข้ามาในเขตน้ำตื้นอีกนะคะ....
บันทึกการเข้า

Saaychol
วาฬเผือก^^
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107



« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 03:51:51 AM »

ไทยรัฐ

พบโลมาเกยตื้นที่ภูเก็ต จนท.เข้าช่วยนำปล่อยทะเล [31 มี.ค. 52 - 15:58]

เวลา ประมาณ 06.00 น. วันนี้ (31 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งรับแจ้งจากมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตว่า พบโลมาเกยตื้นบริเวณหาดทรายหน้าสวนสาธารณะสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต 1 ตัว จึงเข้าตรวจสอบพบโลมา ฟราเซอร์ เพศเมีย ยาว 2.05 เมตร น้ำหนัก 70 กิโลกรัม อายุประมาณ 10 ปี ลักษณะภายนอกไม่พบบาดแผลและมีสุขภาพแข็งแรงดี เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุการเกยตื้นไม่น่าจะมาจากการเจ็บป่วย

 

ทั้ง นี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ฉีดยาเพื่อป้องกันภาวะช็อกให้กับโลมา จากนั้น จึงย้ายไปยังบ่ออนุบาลโลมาที่ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลฯ เพื่อตรวจอาการโดยละเอียด ซึ่งถ้าผลการตรวจไม่พบการติด เชื้อเวลาประมาณ 16.00 น. วันนี้ จะนำโลมาตัวดังกล่าว ไปปล่อยสู่ทะเลต่อไป



* break15.58_1.jpg (11.31 KB, 220x168 - ดู 336 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
วาฬเผือก^^
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107



« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 03:57:38 AM »

วันก่อน โลมาเกยตื้นที่ตรัง
เมื่อวาน โลมาเกยตื้นที่ภูเก็ต

นี่มันอะไรกันคะ 
บันทึกการเข้า
chickykai
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 108



« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 05:05:06 AM »

ช่วงนี้โลกประหลาด สงสัยจะเข้าสมัยที่เค้าว่าแกนโลกจะเปลี่ยนทำให้สนามแม่เหล็กโลกเพี้ยน สัวต์ที่ใช้สนามแม่เหล็กนำทางเลยเกยตื้นกันเป็นว่าเล่นรึเปล่าเนี่ย
บันทึกการเข้า

***********************************************************************
ไม่สวย แต่เลือกมาก
ทางเลือกเป็นของทุกคน แต่เลือกแล้วต้องยอมรับผลทั้งหมดที่ตามมา
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 05:24:22 AM »


อืมมมม....แกนโลกเอียง น่าจะมีส่วนนะคะ.....

อิๆ....เพราะระยะนี้  ใช่แต่สัตว์ที่ออกจะผิดๆเพื้ยนๆ   มนุษย์เดินดินอย่างเราๆท่านๆก็ผิดๆเพีัยนๆ  เดินไม่ค่อยจะตรง  เอียงไปก็เอียงมา  แถมเดินหลงทางเข้าป่าเข้ารกกันเป็นแถวๆ.....
บันทึกการเข้า

Saaychol
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 05:25:33 AM »


ทำไมมีแต่โลมาเกยตื้น ... ทีนักการเมืองไทยที่ขาดคุณธรรมนำทางที่มีอยู่เต็มสภา ถึงไม่ไปเกยตื้นบ้างก็ไม่รู้

  อุ๊ย! พูดอารายออกปาย .... ไม่อาวม่ายพูด  

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
Udomlert
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 162


« ตอบ #10 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 06:36:51 AM »

 
 
บันทึกการเข้า
chickykai
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 108



« ตอบ #11 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 07:33:23 AM »

แหมพี่สายน้ำขา งั้นหนูมองอีกแง่ดีกว่า

เรื่องคือ จริงๆนักการเมืองบ้านเราเนี่ยเป็นคนดี คิดดี ทำดี แต่พอโลกร้อน แกนโลกเอียงทำให้คลื่นสมองของพวกเค้าถูกรบกวนด้วยสนามแม่เหล็กโลก
ซึ่งส่งผลให้กิริยา ความคิดและการแสดงออกของพวกเค้าเหล่านั้นเพี้ยนไป จากดีก็กลายเป็น....

ถ้าเราสามารถช่วยโลกให้หายร้อน กลับมาอยู่ในสภาพสมดุล พวกเค้าเหล่านั้นก็จะกลับมาเป็นปกติ คือ คิดดี ทำดีได้

พอมีหวังบ้างมั้ยคะ
บันทึกการเข้า

***********************************************************************
ไม่สวย แต่เลือกมาก
ทางเลือกเป็นของทุกคน แต่เลือกแล้วต้องยอมรับผลทั้งหมดที่ตามมา
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #12 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 08:55:42 AM »


เอ้า....ไปกันใหญ่แล้ว....


ที่นี่ห้ามพูดเรื่องการเมือง (รวมคนการเมืองด้วย) ไม่ใช่หรือจ๊ะคุณสายน้ำ.....หรือว่าอากาศมันแปรปรวน  คน SOS เลยอารมณ์ชักจะแปรปรวนรวนเรไปด้วย....


เอ....หรือว่าจะเปิด "ห้องราชดำเนินเกยตื้น"  อีกสักห้องหนึ่งดีไหม....


จะได้ไปเที่ยวคุก....กินข้าวแดงฟรี......หนีภาวะเศรฐกิจตกต่ำกันได้เร็วหน่อย....



บันทึกการเข้า

Saaychol
kungkings
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 791



« ตอบ #13 เมื่อ: เมษายน 01, 2009, 09:39:08 AM »

ขอแค่ไปเที่ยวแถว...ซอยสุขุมวิท 20 เจ้าของบ้านดี้ดี มีอาหารอร่อยๆ ขนมรสเลิศ ต้อนรับก็พอแล้วค้า...ที่อื่นมะอยากไป 
บันทึกการเข้า

ทำวันนี้ และวันหน้าให้ดีที่สุด...
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.057 วินาที กับ 21 คำสั่ง