ปะการังทองโผล่เต็มหาด สิ่งสิริมงคล หน้ากองพล "นาวิกโยธิน"

[สายน้ำ]

ปะการังทองโผล่เต็มหาด  สิ่งสิริมงคล หน้ากองพล "นาวิกโยธิน"
 

 
ทหารเรือปลื้ม ปะการังสีทองโผล่เหลืองอร่ามเต็มชายหาดหน้ากองพลนาวิกโยธินสัตหีบ เชื่อเป็นสิ่งสิริมงคลเพราะเกิดขึ้น 2 ปีซ้อน ในโอกาสที่ในหลวงทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีเมื่อปี 49 และปี 50 ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา แต่ปีนี้มีจำนวนมากกว่า ถ้าคนนอกทราบข่าวคงแห่เข้ามาชมกันเพียบเหมือนปีที่แล้ว

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. พล.ร.ต.สนธยา น้อยฉายา ผบ.กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับรายงานจาก น.อ.สุวิทย์ ดีวงษ์ ผบ.กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน ว่าเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ จ.อ.กมล โกศัยกา นนท์ พาทหารลงไปเก็บขยะและทำความสะอาดบริเวณชายหาดได้พบปะการังสีทองโผล่เหลือง อร่าม อยู่ใต้น้ำทะเลบริเวณชายหาด เหมือนกับปรากฏการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 49 และในวันนี้ (18 มิ.ย.) เวลา 11.00 น. เป็นช่วงน้ำลง ทำให้ปะการังสีทองที่ขึ้นอยู่ชายหาดห่างจากฝั่งประมาณ 50 เมตร โผล่ให้เห็นอย่างชัดเจน เป็นสีเหลืองทองแลดูดาษดื่นเต็มชายหาด

ต่อมา พล.ร.ต.สนธยา ได้ไปตรวจสอบ พบว่าปะการังสีทองขึ้นอยู่เต็มหาดเหมือนกับปีที่แล้ว แต่มีปริมาณมากกว่า นอกจากนี้ยังมีดอก เล็ก ๆ กำลังโผล่ขึ้นมาจากผิวพื้นทะเลที่ปะปนไปด้วยซากหินปะการัง หินโสโครก และพืชทะเล สร้างความสนใจให้กับข้าราชการทหารและครอบ ครัวที่อาศัยอยู่ในค่าย แต่ขณะนี้บุคคลภายนอกยังไม่รู้ และถ้าทราบข่าวคงจะแห่เข้ามาชมกันเป็นจำนวนนับแสนคนเหมือนกับปีที่ผ่านมา

ด้าน น.อ.สุวิทย์ กล่าวว่า ปะการังสีทองที่เกิดขึ้นนั้นนักวิชาการบอกว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเพราะน้ำทะเลบริเวณนี้สะอาด และสภาพแวดล้อมดี แต่ประชาชนที่มาเยี่ยมชมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือสิ่งสิริมงคล ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อปี 49 และปีนี้ก็มีปะการังสีทองโผล่ให้เห็นอีกครั้งในท้องทะเล หน้ากองพลนาวิกโยธินถึง 2 ปีซ้อน ซึ่งเป็นปีที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนม พรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ เรื่องดังกล่าวแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล แต่สีเหลืองเป็นสีสิริมงคลของปวงชนชาวไทยทุกคน เมื่อปะการังสีเหลืองทองเกิดขึ้นอีกทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อนถือว่าเป็นสิ่งสิริมงคลแน่นอน.


จาก     :     เดลินิวส์   วันที่ 20 มิถุนายน 2550

[สายน้ำ]

ปะการังสีทองผุดเต็มชายหาดเป็นปีที่สอง

พลเรือตรีสนทยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับรายงานจากนาวาเอกสุวิทย์ ดีวงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน ว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2550 จ่าเอกกมล โกศัยกานนท์ ได้พาทหารลงไปเก็บขยะและทำความสะอาดตามชายหาด  ได้เห็นสีเหลืองอยู่ใต้น้ำทะเลบริเวณชายหาด ซึ่งเหมือนกับปรากฏการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 และวันที่ 18 มิ.ย.50 เวลาประมาณ 11.00 น. เป็นวันที่น้ำทะเลลงจำนวนมาก  ทำให้ปะการังสีทองที่ขึ้นอยู่ชายหาดห่างจากชายฝั่งประมาณ 50 เมตร ได้โผล่ให้เห็นอย่างชัดเจนจนเป็นสีเหลืองทองดาษดื่นเต็มชายหาด

พลเรือตรีสนทยาได้ไปตรวจสอบ พบว่าปะการังสีทอง ซึ่งมีสีเหลืองทองได้ขึ้นอยู่เต็มหาดเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาเมื่อปีที่แล้ว แต่ที่ปรากฏเห็นชัดก็คือ มีปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมา และยังมีดอกเล็กๆ  กำลังโผล่ขึ้นมาจากผิวพื้นทะเลที่ปะปนไปด้วยซากหินปะการัง  หินโสโครก และพืชทะเลปะปนอยู่ด้วย และในวันที่ 18 มิ.ย. เป็นวันที่น้ำลงสูงสุดเวลาประมาณ 10.00 น. ทำให้เห็นปะการังโผล่เหนือน้ำสร้างความสนใจให้กับข้าราชการ ครอบครัว พลทหารภายในหน่วยอย่างมาก แต่ขณะนี้บุคคลภายนอกยังไม่ล่วงรู้เรื่องนี้ ถ้ารู้คงจะมาชมกันเป็นจำนวนมากเหมือนปีที่ผ่านมา  คาดว่าประชาชนจากทั่วประเทศให้ความสนใจมาเยี่ยมชมกันนับแสนคน

นาวาเอกสุวิทย์  ดีวงษ์ กล่าวว่า ปะการังสีทองที่เกิดขึ้น นักวิชาการจะบอกว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่ประชาชนที่มาเยี่ยมชมได้ยึดหลักสิริมงคลในกรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อปี 2549 และปี 2550 ปรากฏว่าปะการังสีทองได้เกิดขึ้นซ้ำสอง  และเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 นี้ ทำให้เกิดปรากฏการณ์สีเหลืองขึ้นในทะเลชายหาด กองพลนาวิกโยธินถึง 2 ปีซ้อน เรื่องนี้แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล แต่สีเหลืองเป็นสีสิริมงคลของปวงชนชาวไทยทุกคน.



จาก     :     X-cite  ไทยโพสต์   วันที่ 20 มิถุนายน 2550

[WayfarinG]

แปลกดีแฮะ..มันเกิดขึ้นจากอะไรเหรอคะ..ไม่เหมือนกับที่มันกลายเป็นสีขาวใช่มั๊ยคะ...

[WayfarinG]

ข้อมูลจาก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง



ปะการังดังกล่าวเป็นปะการังอ่อนสกุล Sarcophyton sp. พบได้ทั่วไปในทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน มีการแพร่กระจายในระดับน้ำตื้นๆ จนถึงระดับน้ำลึกมากกว่า 40 เมตร ปะการังอ่อนชนิดนี้จะมีสีน้ำตาลอมเหลือง แต่ที่พบในครั้งนี้อยู่ในสภาพที่ผิดปกติ มีสีเหลืองทองหรือเกือบขาวซีด สืบเนื่องจากอุณหภูมิของน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้สาหร่ายเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ร่วมกับปะการังอ่อนดังกล่าวหลุดออกไป ทำให้เกิดการฟอกขาวของปะการัง (bleaching)

[สายน้ำ]

เรื่องเดียวกัน แต่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วครับ http://www.saveoursea.net/boardsmf/index.php?topic=738.0

[WayfarinG]

มันเกิดขึ้นทุกปีเลยเหรอพี่สายน้ำ..แปลกดีแฮะ..

[สายชล]

ถ้าฝนตกหนักๆ สลับกับแดดร้อนเปรี้ยง แถมน้ำลดต่ำกว่าปกติอย่างช่วงนี้ละก็.....โอกาสเกิดปะการังฟอกขาวจะมีมากขึ้นค่ะ

สาเหตุเกิดจากสาหร่ายเซลเดียวซูแซนแทลลี่ (ที่อาศัยอยู่ในปะการังและมีส่วนให้ปะการังมีสีสันอย่างที่เห็น) เกิดทนน้ำทะเลที่ความเข้มข้นลดลง (เพราะมีน้ำฝนลงมาผสมมากขึ้น) และ/หรือ ทนแสงแดดที่แผดเผาจนร้อนกว่าปกติไม่ไหว จึงกระโดดหนีไปอยู่ที่อื่น หรือตายไป ปะการังจึงเกิดอาการฟอกขาว สีซีดจางลง

[WayfarinG]

 

[zmax]

ตกลงเหตุการณ์นี้มันไม่ดีกับปะการังใช่ป่ะคับ

[แมลงปอ]

แต่มันก็เกิดไปตามธรรมชาตินี่ค่ะ  อย่างงี้คงต้องแก้ที่ต้นตอ....เกี่ยวเนื่องจาก ภาวะโลกร้อน ด้วยใช่มั้ยค่ะ 

[สายชล]

ใช่ค่ะ...การฟอกสีของปะการังนั้น เป็นความงามบนความตาย

ขาดคุณซูแซนแทลลี่....สาหร่ายเซลเดียวที่ช่วยสร้างอ๊อกซิเจนและให้สารอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลกับปะการังไปมากๆ ปะการังก็อ่อนแอและตายไปได้ในที่สุด

[WayfarinG]

แล้ว..เราสามารถเพาะพันธุ์สาหร่ายชนิดนี้ได้มั๊ย...

[สายชล]

สาหร่ายชนิดนี้เป็นชนิดเดียวกับที่อยู่ในเนื้อหอยมือเสือ และเคยได้ยินน้องแม่หอยเล่าว่าสามารถแยกสาหร่ายพันธุ์นี้จากอุจจาระและเนื้อของหอยมือเสือได้

น้องแม่หอยอยู่ไหนคะ.....ขอเชิญน้องแม่หอยมาช่วยอธิบายเรื่องนี้ให้พวกเราฟังด้วยนะคะ

[แม่หอย]

  หายไปหลายวัน ไปเกาะเต่ามาค่ะ เจอปะการังสีทองบ้างหรอมแหรม..
สาหร่ายซูแซนเทลลี ไม่ต้องเพาะหรอกค่ะ มันมีอยู่ในธรรมชาติแล้ว เกิดมาใหม่บ้าง ตายไปบ้าง และระหว่างที่อยู่ก็วนเวียนผลุบเข้าผลุบออกจากบ้านคือในเนื้อเยื่อปะการัง หอยมือเสือ ดอกไม้ทะเล ฯลฯ สลับกับล่องลอยไปในมวลน้ำทะเลอยู่แล้ว  หากบรรยากาศดี ปะการังอยู่ดีมีสุข สาหร่ายก็สุขด้วย พออุณหภูมิแปรปรวนร้อนจัด หรือมีสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมหลายประการ ปะการังอยู่ไม่เป็นสุข สาหร่ายก็ชิงหนีตีจากไป หากจากไปไม่นานอะไรๆ ดีขึ้น เขาก็กลับมาเจริญเติบโตอยู่ในเนื้อเยื่อปะการังให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ แต่ถ้าสภาพแวดล้อมแย่มากๆ เป็นเวลานานๆ สาหร่ายไม่กลับมา ปะการังก็ตาย..

วันนี้ไม่ทราบเป็นอะไรค่ะ  อธิบายอะไรไม่ค่อยออกเลย สงสัยเมาเรือไม่หาย แล้วมามึนเรื่องน้ำตาพยูนในกระทู้เมตตามหานิยมของคุณประชาชาติอีก  เจอเรื่องปะการังสีทองอีก หดหู่เศร้าหมองพิลึก ..
 

[สายน้ำ]

ไขปริศนาปะการังสีทอง ส่งสัญญาณทรัพยากรทะเลป่วยไข้
 

 
 ปรากฏการณ์ปะการังสีทองเกิดขึ้นอีกครั้ง หน้าหาดกองพล  นาวิกโยธิน ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า (ค่ายแสมสารเดิม) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นช่วงเวลาเดียวกับเมื่อปีที่ผ่านมา และวันเดียวกันคือวันที่ 9 มิถุนายน 2549 และวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ปีนี้ปะการังสีทองมีจำนวนมาก กว่าครั้งที่แล้ว หลังจากทหารจากกรมทหารราบที่ 1 กองพล นาวิกโยธิน ออกไปสำรวจในช่วง วันน้ำลดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา 
 
...ทุ่งปะการังสีทองกลาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ย่านสัตหีบ หลังจากมีข่าวออกไปมีประชาชนจำนวนมากสนใจเข้าไปเยี่ยมชม...


 
วรรณเกียรติ ทับทิมแสง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ให้ข้อมูลทางวิชาการของปรากฏ การณ์ปะการังสีทองว่า ปะการังชนิดนี้อยู่ในกลุ่ม sacrophyton species หรือชื่อที่ชาวบ้านเรียกว่า “ปะการังทองหยิบ” เพราะหน้าตาคล้ายกับขนมทองหยิบ สภาวะปกติของปะการังในกลุ่ม นี้คือดำคล้ำ 
 
แต่ที่ปรากฏเป็นสีทอง เพราะในช่วงหน้าฝนน้ำทะเล ลดลงประกอบกับฝนตก มีน้ำจืดจากฝั่งไหลลงสู่ทะเล มวลน้ำเค็มเกิดการผสมกับน้ำฝนซึ่งบริเวณหาดหน้ากองพลนาวิกโยธินเป็นอ่าวน้ำฝนระบายได้ช้า ทำให้ความเค็มของน้ำทะเลลดลง ส่งผลให้สาหร่ายเซลล์เดียวชื่อ “ซูเซ็นเทอร์รี่” ที่เกาะติดกับปะการังหลุดออกจากตัวปะการัง ทำให้ปะการังสีซีดลงกลายเป็นสีเหลือง
 
“ปะการังกับสาหร่ายเซลล์เดียว ในระบบนิเวศต่าง พึ่งพากัน สาหร่ายเซลล์เดียวกับปะการังจะแลกเปลี่ยนอาหารซึ่งกันและกัน เมื่อสาหร่ายเซลล์เดียวหลุดออกจากปะการังเท่า กับปะการัง ขาดแคลนอาหารต้องรอตัวอ่อนของสาหร่ายเซลล์เดียวงอกตัวขึ้นมาใหม่เพื่อมาสังเคราะห์อาหารให้กับปะการังอีกที ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับความเค็มของน้ำทะเล และปราศจากการรบกวนจากปัจจัยภายนอกด้วย”
 
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อธิบายถึงระบบนิเวศของปะการังว่า ปรากฏการณ์ของปะการังสีทองนั้นคือ ปรากฏการณ์ฟอกขาวของปะการัง และ ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นจาก 2 สาเหตุด้วยกัน อุณหภูมิของน้ำทะเลที่สูงขึ้น จะกินพื้นที่บริเวณกว้าง และน้ำทะเลเปลี่ยนแปลงความเค็มลักษณะนี้จะกินพื้นที่แคบ เฉพาะจุด ผลจากน้ำจืดหรือ น้ำฝนไหลลงสู่ทะเล ทำให้ความเค็มลด


 
ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว จะได้รับผลกระทบ  ทั้งปะการังอ่อนและปะการังแข็ง ปะการังแข็งเช่น ปะการังเขา กวาง ปะการังสมอ ปะการังก้อน เมื่อเกิดวิกฤติจะมีสีขาว หากเกิดกับปะการังอ่อนจะมีสีซีดลงอย่างเช่น ปะการังทองหยิบ ที่เห็นอยู่ ซึ่งกินเวลาไม่นาน เมื่อธรรมชาติเข้าสู่ภาวะปกติก็กลับมาเหมือนเดิม
 
ปกติแล้วปะการังน้ำตื้นชนิด sacrophyton spicy พบทั่วไปทั้งอ่าวไทยและอันดามัน แต่บริเวณฐานทัพที่พบเห็นได้ ง่ายและจำนวนมาก เพราะทะเล อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ ไม่ถูกรบกวน น้ำใสสะอาด อยู่ใน ระดับน้ำตื้น ทำให้เห็นได้ชัดเจน
 
ขณะที่ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งว่า ปรากฏการณ์ของปะการังสีทองที่เกิดขึ้น 2 ครั้งแล้วเป็นสัญญาณเตือนว่าโลกร้อนขึ้น อุณหภูมิของ น้ำทะเลเปลี่ยนแปลงจากอิทธิพล ของเอลนิโญ ที่ทำให้อุณหภูมิ ของน้ำทะเลสูงกว่าปกติ ที่เห็นเป็นสีเหลืองแสดงว่าเขากำลังป่วยอ่อนแอกว่าสภาพปกติ


 
ปะการังชนิดนี้เป็นปะการังอ่อน ที่พบเห็นทั้งอ่าวไทยและอันดามัน เจริญเติบโตได้เร็วกว่าปะการังแข็ง ในฝั่งอันดามันบางครั้งอาจไม่เห็นว่าเป็น สีเหลืองเพราะน้ำขุ่น แต่ที่นี่ได้รับความสนใจกว่าปกติเพราะมีเยอะรวมตัวอยู่ในพื้นที่เดียว อยู่ในพื้นที่น้ำตื้น ประกอบกับอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ     
 
ดร.ธรณ์ฝากคำแนะนำว่า เมื่อ นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวชม อย่าพยายามไปรบกวน ด้วยการใช้มือไปจับแตะต้อง หรือถ้าจะจับ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่อยากสัมผัสควรให้น้อยที่สุด แค่ใช้มือแตะ การสัมผัสต้องอยู่ในความดูแลของผู้ผ่านการอบรม ซึ่งการสัมผัสปะการังผู้มีประสบการณ์จะต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียน อย่าสัมผัสปะการังจุดเดิมซ้ำ ๆ เวลา เดินลงน้ำลงไปดูปะการัง ระมัดระวังอย่าเผลอไผลไปเตะทรายฟุ้ง ถูกปะการังได้รับความเสีย หายได้ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ผู้ใหญ่ควรดูแลอย่าปล่อยให้วิ่งเล่นบนแนวปะการัง


 
ด้านนาวาเอกสุวิทย์ ดีวงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบ ที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน เล่าว่า เมื่อปีที่แล้วช่วงที่เกิดปะการัง  สีทองนานถึง 4-5 เดือน มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมวันละเกือบ หมื่น ซึ่งปกติในอาณาใกล้เคียงกับ ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า สัตหีบ มีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่นเรือจักรีนฤเบศร์ หาดนางรำ สถานีเพาะเลี้ยงเต่าทะเล ซึ่งสามารถเที่ยวได้จบภายในวันเดียว เมื่อมีแหล่งปะการังสีทองเพิ่มมาด้วย นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวมากกว่าปกติ 
 
ปีนี้ กรมทหารราบที่ 1 กองพล นาวิกโยธิน ได้จัดเตรียมเรือท้องกระจก จำนวน 2 ลำ ซึ่ง บรรจุนักท่องเที่ยวได้ลำละ 10- 15 คน และมีเรือขนาดเล็กติดที่นั่งได้ 3-4 คน อีก 4-5 ลำ คิดค่าบริการคนละ 30 บาท พานักท่องเที่ยวชมปะการังสีทองในพื้นที่ 500 คูณ 800 เมตร ในระดับน้ำลึกราว 1 เมตร ใช้เวลาราว 10-15 นาที ก็สามารถชมได้ทั่วแล้ว
 
“คาดว่าวันหยุดสุด  สัปดาห์จะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมจำนวนมาก แต่แนะนำวันเวลาที่เหมาะสมคือวันที่ท้อง  ฟ้าแจ่มใส มีแสงแดด จะเห็นปะการังสีทองอย่างชัดเจน”
 
ปะการังสีทองทำให้การ ท่องเที่ยวนี้มีชีวิตชีวา แต่ตัวปะการังสีเหลืองอร่ามที่เห็น อยู่ในภาวะป่วยไข้ การเที่ยวชมอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า ไป เป็นกำลังใจให้ปะการังฟื้นตัวกลับ สู่สภาพปกติให้เร็วขึ้น...โปรดร่วมมือร่วมใจชื่นชมปะการังสีทองด้วยความระมัดระวังยิ่ง.


จาก     :     เดลินิวส์   วันที่ 27 มิถุนายน 2550