กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 22, 2024, 09:32:03 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2551  (อ่าน 1841 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2008, 12:01:24 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประกาศเตือนภัย  "พายุโซนร้อน “นูล (Noul)”"  ฉบับที่ 3 (407/2551) ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2551

เมื่อเวลา 05.30 น. วันนี้(17 พ.ย.51) พายุโซนร้อน “นูล (Noul)” ในทะเลจีนใต้ตอนกลางมีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกห่างจากเมืองโฮจิมินทร์ ประมาณ 550 กิโลเมตร หรือ ที่ละติจูด 11.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 18 กม./ชม. คาดว่า จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนใต้ในช่วงวันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2551 ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออก และภาคตะวันออกของประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นโดยจะมี คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรในช่วงวันที่ 18-21 พฤศจิกายนนี้ ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศให้ทราบเป็นระยะๆต่อไป


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 16-17 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัด ปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลงด้วย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศอุ่นขึ้น กับมีหมอกเพิ่มมากขึ้นในตอนเช้า สำหรับภาคใต้มีจะมีฝนเป็นแห่ง ๆถึงกระจาย และคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 18-22 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลง มาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก และอุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศา โดยจะมีอากาศหนาวเย็นลง ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น


ข้อควรระวัง

ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 พ.ย. ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ในวันที่ 19-22 พ.ย. ประชาชนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือควรรักษาสุขภาพ ส่วนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไประมัด ระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่ง ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงเวลาดังกล่าว



* Forecast2.jpg (39.39 KB, 693x430 - ดู 360 ครั้ง.)

* Earthquake.jpg (35.61 KB, 400x442 - ดู 352 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2008, 12:07:14 AM »

ไทยรัฐ


เกิดแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งอินโดฯถึง 7.5 ริกเตอร์

วันนี้ (17 พ.ย.) สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นเมื่อเวลา 00.34 น.ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย ศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 21 กิโลเมตร ห่างจากชายฝั่งเมืองโกรันตาโล บนเกาะสุลาเวสี นอกชายฝั่งทางตะวันออกของอินโดนีเซีย ประมาณ 135 กิโลเมตร

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 7.5 ริกเตอร์ จากนั้นเกิดแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว (อาฟเตอร์ช็อก) ตามมาอีก 1 ครั้ง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6 ริกเตอร์

หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ทางการอินโดนีเซียได้ประกาศเตือนประชาชนให้ระวังภัยจากคลื่นสึนามิทันที แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือการเกิดคลื่นสึนามิแต่อย่างใด


***************************************************************************************************************************


กรมอุทยานเตือน นักเที่ยวป่า-เขา

นาย อุทัย วายุพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยเมื่อ 16 พ.ย.ว่า เนื่องจากขณะนี้เป็น ช่วงฤดูการท่องเที่ยวอุทยานฯ หลังฤดูหนาวเริ่มย่างกรายเข้ามา เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆ จึงขอให้นักท่องเที่ยวได้เตรียมตัวในการเข้าท่องเที่ยวอุทยานฯดังนี้ คือ อันดับแรกต้องเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนเดินทาง ศึกษาข้อมูลอุทยานฯที่จะไปท่องเที่ยวจากเว็บไซต์ของกรม เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว และเมื่อเดินทางไปถึงอุทยานฯ ต้องเข้ารับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและการปฏิบัติ ตนเมื่ออยู่ในเขตอุทยาฯ และสถานที่ที่รับแจ้งกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เป็นต้น

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวอีกว่า ส่วนการท่องเที่ยวตามป่าเขา นักท่องเที่ยวควรเตรียมอุปกรณ์จำเป็นที่ใช้ในการเดินป่า เช่น ไฟฉาย เต็นท์ เสื้อกันฝน ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น ฯลฯ สำหรับผู้ที่ต้องการกางเต็นท์พักแรม จะต้องกางเต็นท์บริเวณที่อุทยานฯกำหนดให้เท่านั้น ไม่ให้ กางบริเวณร่องน้ำ ที่โล่งแจ้งลมแรง หรือใต้ต้นไม้ใหญ่ เพราะกิ่งไม้อาจหล่นใส่เป็นอันตรายได้ และนักท่องเที่ยวควรสวมเสื้อผ้าที่แห้งง่ายสวมสบาย เป้ที่สะพายควรมีขนาดเหมาะกับตัวเองและสัมภาระ หากมีโรคประจำตัวควรเตรียมยาไปให้พร้อมหรือแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯให้ทราบ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวไม่ควรนำภาชนะที่ทำด้วยโฟม ถุงพลาสติก แก้ว อะลูมิเนียม เข้าไปในอุทยานฯ และอย่าส่งเสียงดังหรือสร้างความรำคาญให้แก่สัตว์ป่าและผู้อื่น รวมถึงไม่ไปเที่ยวในที่ที่เป็นอันตราย หากจะไปให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้ดูแลควบคุมให้เกิดความปลอดภัย และให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามป้ายคำเตือนที่ประกาศไว้อย่างเคร่งครัด หากยึดถือปฏิบัติตามแนวทางนี้แล้ว จะทำให้การท่องเที่ยวในอุทยาฯ มีความปลอดภัย สามารถเก็บเกี่ยวความรู้ ความงามจากการสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างแท้จริง

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2008, 12:19:52 AM »

ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าหน้าที่เร่งย้ายฝูงบินปะการังจัดสมดุลก่อนขนขึ้นเรือ



ศูนย์ข่าวภูเก็ต- เจ้าหน้าที่เร่งย้ายเครื่องบิน “ฝูงบินบินปะการัง” มาจัดสมดุลก่อนขนขึ้นเรือ คาดใช้เวลาในการขนย้าย 2 วัน
       
วันนี้ (16 พ.ย) ที่บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่จำนวน 10 คน ใช้รถเทรลเลอร์ และรถเครน ทำการเคลื่อนย้ายซากเครื่องบินจำนวน 10 ลำ ซึ่งเป็นซากเครื่องบินปลดประจำการที่จะนำไปวางเป็น “ฝูงบินปะการังเพื่อทะเล” ที่บริเวณอ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จากบริเวณด้านหลังท่าเทียบเรือมาวางที่บริเวณด้านหน้าท่าเทียบเรือท่าเรือ น้ำลึกจังหวัดภูเก็ต เพื่อจัดเตรียมความพร้อม วัดความสมดุลก่อนที่จะขนขึ้นเรือเพื่อนำไปจมทะเลเพื่อสร้างเป็นฝูงบิน ปะการังเพื่อทะเล
       
นายสุทิน ศรีรัฐ ผู้รับผิดชอบโครงการฝูงบินปะการังเพื่อทะเล ของสมาคมดำน้ำ TDA (ประเทศไทย) กล่าวว่า สำหรับการเคลื่อนย้ายซากเครื่องบินทั้ง 10 ลำ ต้องใช้ความระมัดระวังในการดำเนินการเป็นอย่างมาก ซึ่งการขนย้ายในครั้งนี้ใช้คนงานและผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินการประมาณ 10 คน รถเทเลอร์สำหรับขนเครื่องบิน 1 คัน และรถเครนสำหรับยกตัวเครื่องบิน 1 คัน การใช้เครื่องบินในแต่ละลำต้องใช้เวลานานพอสมควร โดยเฉพาะเครื่องบินที่มีการติดปีกสมบูรณ์แล้ว


       
อย่างไรก็ตาม สำหรับการย้ายซากเครื่องบินทั้ง 10 ลำ จากด้านหลังท่าเทียบเรือมาไว้ที่บริเวณด้านหน้าท่าเทียบเรือจะใช้ระยะเวลา ประมาณ 2 วัน หลังจากนั้น จะใช้เวลาอีก 8 วัน เพื่อจัดสมดุลของตัวเครื่องบินกับฐานรองเครื่องบิน และเตรียมความพร้อมของเครื่องบินทั้งหมด และจะเริ่มนำลงเรือเพื่อขนไปยังจุดที่จะจมเครื่องบินในวันที่ 23 พ.ย นี้ ซึ่งจะใช้เรือจำนวน 1 ลำ ในการขนเครื่องบินทั้งหมด และเริ่มจมเครื่องบินลำแรกในวันที่ 24 พ.ย 2551 หลังจากนั้นจะมีการทยอยจมเครื่องบินเรื่อยๆ จนถึงวันที่มีการจัดพิธีอย่างเป็นทางการ คือ วันที่ 29 พ.ย 2551


*******************************************************************************************************************************


ชมโลมา ที่ท่าข้าม



เทศบาลตำบลท่าข้าม ฉะเชิงเทราชวนร่วมเทศกาล “ชมโลมา...ที่ท่าข้าม” บริเวณปากแม่น้ำบางปะกง ช่วง พ.ย. 51 ถึง ก.พ. 52 โดยนักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับ โลมาอิรวดี โลมาหัวขวด โลมาหลังโหนก และโลมาหัวบาตรหลังเรียบ ที่จะออกหากินกันในช่วงนี้
       
เทศบาลตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดพิธีเปิดงานเทศกาล “ชมโลมา...ที่ท่าข้าม” ณ บริเวณเชิงสะพานเทพหัสดิน (สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง) ซึ่งภายในงานมีการจัดนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งการออกร้านจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ของจังหวัด ฉะเชิงเทราและจังหวัดใกล้เคียง
       
ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นช่วงเวลาที่น้ำทะเล หนุนเข้ามาในน้ำจืดบริเวณปากแม่น้ำบางปะกงมากกว่าฤดูกาลอื่น กระแสน้ำได้ชักนำโลมาเข้ามาด้วย ทำให้ที่ตำบลท่าข้ามกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศซึ่งแตกต่างจากที่ อื่นๆ ในบริเวณนี้จะพบโลมาอิรวดีมากที่สุด โลมาอิรวดีเป็นสัตว์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 138 คือ ห้ามล่า ห้ามค้า ห้ามครอบครอง หรือห้ามเพาะพันธุ์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังพบโลมาชนิดอื่นด้วย เช่น โลมาหัวขวด โลมาหลังโหนก และโลมาหัวบาตรหลังเรียบ เป็นต้น

สำหรับเทศกาลชมโลมา...ที่ท่าข้าม จัดขึ้นในปีนี้เป็นปีที่ 6 โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันอย่างรู้คุณค่าและยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบริเวณลุ่มแม่น้ำบางปะกง รวมทั้งการจัดระเบียบการชมโลมาอย่างถูกวิธี ทำให้การจัดกิจกรรมล่องเรือชมโลมาเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น และเดินทางมาท่องเที่ยวช่วงเทศกาลชมโลมามากขึ้นทุกปี ช่วยทำให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น
       
เทศกาลชมโลมา...ที่ท่าข้าม มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2551 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 บริเวณปากแม่น้ำบางปะกง ตำบลท่าข้าม จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว คือ การล่องเรือชมโลมาบริเวณปากอ่าว ชมเกาะธรรมชาติท่าข้าม (เกาะนก) ที่มีนกนานาชนิดอาศัยอยู่ และชมวิถีชีวิตของชาวประมงในบริเวณนั้น
   
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.023 วินาที กับ 20 คำสั่ง