สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน 2551

[สายน้ำ]

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิลดลง 2-3 องศา และลมแรง มีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไป สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซียตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระมัดระวังภัยจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดซ้ำได้อีก ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ (25-30 พ.ย.)


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็น อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงนี้ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณดังกล่าวอากาศจะหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร


ข้อควรระวัง

ในระยะนี้ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปควรระวังอันตรายจากสภาวะฝนหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงด ออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งของภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย

[สายน้ำ]

มติชน


แผ่นดินไหวใต้ทะเลรัสเซีย ก่อนยกเลิกเตือนสึนามิ

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อเวลา 21.05 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันเดียวกันนี้ เกิดเหตุแผ่นดินไหวมีความรุนแรงขนาด 6.6 ริคเตอร์ บริเวณพื้นที่ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย โดยแผ่นดินไหวเกิดลึกลงไปใต้ทะเลอ็อคฮอตส์ของรัสเซีย ซึ่งอยู่ระหว่างคาบสมุทรคัมชัตกาและชายฝั่งแปซิฟิกของเกาะซัคคาลิน ราว 300 กิโลเมตร แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว แม้ว่าจะมีการประกาศเตือนให้ระวังคลื่นยักษ์สึนามิก็ตาม แต่ก็ได้มีการยกเลิกคำเตือนดังกล่าวในเวลาต่อมา


***************************************************************************************************************************


เครือข่ายสิ่งแวดล้อมไทยชี้ทำฝายแม้วในอุทยานฯผิด กม. ระบุชัดห้ามปิด-กีดขวางทางน้ำ



เครือข่ายสิ่งแวดล้อมไทยเผยสร้าง"ฝายแม้ว"ในอุทยานฯขัดพ.ร.บ.คุ้มครองรักษา ชี้ชัดห้ามปิด-กีดขวางทั้งทางน้ำบก ติงไม่จำเป็น ป่าเหนือสมบูรณ์อยู่แล้ว กมธ.สภาฯท้ากรมป่าไม้โชว์เอกสารรับรอง

นายสุรพล ดวงแข ประธานเครือข่ายสิ่งแวดล้อมไทย ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน เกี่ยวกับการก่อสร้างฝายต้นน้ำแบบผสมผสาน หรือ "ฝายแม้ว" ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ทำตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพราะปกติพื้นที่ที่ถูกกำหนดไว้เพื่อเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ จะต้องเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ แต่หลักการสร้างฝายแม้วต้องการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ป่า โดยการกระจายความชุ่มชื้น แต่พื้นที่ภาคเหนือส่วนใหญ่เป็นป่าสมบูรณ์และมีความชุ่มชื้นอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องสร้างฝายก็ได้ ที่สำคัญ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ระบุไว้ชัดว่า การเปลี่ยนแปลงทางน้ำในพื้นที่อุทยานแห่งชาติจะทำได้ต่อเมื่อพื้นที่บริเวณนั้นมีปัญหา หรือทำตามความจำเป็นเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ไม่สามารถทำได้ ความจริงแล้วเรื่องแผนการจัดการอุทยานแห่งชาติแต่ละแห่งนั้นมีอยู่แล้ว แต่นักการเมืองที่เข้ามาบริหารไม่สนใจเรื่องนี้ว่าจะจัดการอุทยานฯอย่างไร

อนึ่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ หมวดที่ 3 การคุ้มครองและดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติ มาตรา 16 ระบุว่า "ห้ามมิให้บุคคลใดเปลี่ยนแปลงทางน้ำ หรือทำให้น้ำในลำน้ำ ลำห้วย หนอง บึงท่วมท้นหรือเหือดแห้ง...ปิดหรือทำให้กีดขวางแก่ทางน้ำหรือทางบก"

นายนริศ ขำนุรักษ์ รองประธานคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายสมชาย จารุสัมพันธ์จิต ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ ระบุฝายแม้วที่กรมป่าไม้สร้าง 4 หมื่นแห่งเรียบร้อยดีและได้รับคำชมจากกรรมการตรวจสอบว่า ในวันที่เรียกผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจง ขอให้นำเอกสารรับรอง หรือคำชมดังกล่าวไปแสดงด้วย หากไม่มีถือว่ากล่าวเท็จต่อสาธารณะ แต่เบื้องต้นได้ข้อมูลว่ามีปัญหาทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ

[สายน้ำ]

แนวหน้า


ทส.ปรับใหญ่กระบวนการทำEIA เน้นโปร่งใส-ลดข้อขัดแย้งชุมชน

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรื้อใหญ่การทำงานรายการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ "อีไอเอ" เน้นกระบวนการที่โปร่งใส ลดข้อขัดแย้งกับชุมชนที่มีส่วนได้เสีย

นายชาตรี ช่วยประสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า กระทรวงได้จัดให้มีการดำเนินโครงกาก้าวใหม่ EIA ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาที่นำเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA เนื่องจากที่ผ่านมามีกรณีการร้องเรียนหรือการชุมนุมคัดค้านโครงการพัฒนา และมักจะถูกนำพามาเชื่อมโยงหรือพาดพิงกับกระบวนการ EIA เช่น ข่าวคัดค้านการก่อสร้างโรงงงานถลุงเหล็ก โรงงานไฟฟ้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความเข้าใจและทัศนคติของกลุ่มต่างๆที่มีต่อกระบวนการ EIA ยังไม่สู้ดีนัก

ทั้งนี้ทางกระทวงได้ทำการการเปิดตัวโครงการ "ก้าวใหม่ EIA" กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีนโยบายปรับปรุงกฎระเบียบ พัฒนากระบวนการขั้นตอนของ EIA รวมทั้งสร้างช่องทางและเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับ EIA อย่างเปิดกว้าง โปร่งใส และให้มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรับรู้เข้าใจ เกิดความเชื่อมั่นมีทัศนคติที่ดีต่อ EIA โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ EIA เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ภายใต้หลักการ 4 พ คือ เพิ่มคุณภาพ เพิ่มความเร็ว เพิ่มความโปรงใส และเพิ่มความรับผิดชอบ

การดำเนินงานโครงการก้าวใหม่ EIA จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และจะดำเนินการต่อเนื่องในปีต่อไป โดยการปรับปรุงกฎระเบียบ พัฒนากระบวนการลดขั้นตอนของ EIA รวมทั้งสร้างช่องทางและเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับ EIA อย่างเปิดกว้าง โปร่งใส เพื่อนำไปสู่ความเชื่อมั่น และก่อให้เกิดธรรมมาภิบาลในกระบวนการ EIA ทุกขั้นตอนก็จะทำให้การดำเนินงานได้เร็วขึ้นอีกอย่างน้อย 20%