กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 22, 2024, 06:45:58 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพุธที่ 3 ธันวาคม 2551  (อ่าน 2029 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Sri_Nuan.Ray
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1808



เว็บไซต์
« เมื่อ: ธันวาคม 03, 2008, 01:20:22 AM »



กรมอุตุนิยมวิทยา

    ลักษณะอากาศทั่วไป 
   
   
บริเวณ ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปก คลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีก ส่วนบริเวณยอดดอยในภาคเหนือมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะ 1-2 วันนี้ สำหรับภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปถึงนราธิวาสมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนบริเวณอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
   
         
     พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล         
   
อากาศเย็น อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศา และมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา สูงสุด 31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
   
   
   
   คาดหมาย
     ใน ช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค.บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นกับจะมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะ มีกำลังอ่อนลงด้วย ทำให้มีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างสุดของภาค สำหรับในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค.จะมีบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปก คลุมประเทศไทยตอนบนอีกครั้งหนึ่ง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง 2-5 องศากับมีลมแรง ส่วนภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้อีก และคลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร
     
   ข้อควรระวัง
     ใน ระยะนี้ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัด พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสยังคงต้องระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วม ฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 ธ.ค. ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย





แผ่นดินไหวที่ TAIWAN
ขนาด    : 5.2 ริกเตอร์
จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว    : TAIWAN
วันที่    : 02 ธันวาคม 2551 10:16 น.
ละติจูด    : 23° 18' 00'' เหนือ
ลองจิจูด    : 121° 34' 48'' ตะวันออก
ความลึกจากระดับผิวดิน    : 17 กิโลเมตร


* SEch2.jpg (109.97 KB, 600x600 - ดู 237 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 03, 2008, 01:22:37 AM โดย Sri_Nuan.Ray » บันทึกการเข้า

~~~ หากเราหยุดนิ่ง ทุกอย่างที่ผ่านมา คือ อดีต.... ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อมันจะได้เป็นอดีตที่มีค่าแก่ ความทรงจำของเรา  ~~~
Sri_Nuan.Ray
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1808



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2008, 01:41:36 AM »

วันนี้อ่านข่าวแล้ว ไม่ค่อยมีอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับ สิ่งแวดล้อมเลย

มีแต่ความคืบหน้าเกี่ยวกับการเมือง และ ผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วๆไป

วันนี้จบข่าวค่ะ      

อ๋อ ....ทราบมาจากน้าปุ๊ การบินไทยว่า สนามบินสุวรรณภูมิ น่าจะเปิด Flight แรก วันที่ 5 ธันวาคม เที่ยวแรก 00.01 น.

จริงหรือเปล่าน๊า.......

ดังนั้น กิจกรรมที่กระบี่ น่าจะใช้บริการรถตู้ สะดวกที่สุดจ๊ะ...ใกล้เดินทางแล้วนะ เตรียมตัวกันดีหรือยังจ๊ะ
บันทึกการเข้า

~~~ หากเราหยุดนิ่ง ทุกอย่างที่ผ่านมา คือ อดีต.... ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อมันจะได้เป็นอดีตที่มีค่าแก่ ความทรงจำของเรา  ~~~
เด็กน้อย
สี่ดาวยังอยู่แค่เอื้อม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 190


« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2008, 02:01:05 AM »

ขอแถมนะครับพี่

จาก เดลินิวส์

สานต่องานสิ่งแวดล้อมตามพระราชดำริ
 
 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ร่วมกับ กรมป่าไม้ สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมวิชาการเกษตร จัดงาน “ฟิวเจอร์พาร์ค สานต่องาน “พ่อ”สร้าง” เพื่อเฉลิมพระเกียรติและเชิญชวนให้ประชาชนเห็นความสำคัญและใส่ใจสิ่งแวดล้อมร่วมปลูกต้นไม้ ดำเนินรอยตามแนวพระราชดำริในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จแทนพระองค์ทรงเปิดงาน ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และประทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดจัดสวนหย่อม และทรงพระดำเนินยังบริเวณ Alive Park ทอดพระเนตรการจัดสวนเฉลิมพระเกียรติผ่านการจัดสวนสวย 5 สไตล์ 5 ประเทศ ,สวนหย่อมตามแนวพระราชดำริชนะการประกวด ในแนวคิดต่างๆฯลฯ
 
น.ส.จิตตินันท์ หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ให้ความสำคัญเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ ดำเนินการกิจกรรมตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาทิ ปลูกป่าถวายในหลวง,อนุรักษ์พลังงานภายในอาคาร,รีไซเคิลขยะ การนำน้ำใช้แล้วกลับมาใช้อีกครั้ง เป็นต้น และในทุกๆ ปีเชิญชวนให้ประชาชนให้ความสนใจและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่ทำสม่ำเสมอคือแจกกล้าไม้แก่ลูกค้านำกลับไปปลูกที่บ้าน เพราะต้องการปลูกฝังว่าการปลูกต้นไม่ไม่ใช่ปลูกในป่าอย่างเดียวเท่านั้น แต่สามารถปลูกที่บ้านได้ ซึ่งในปีนี้แจกกล้าไม้ 81,081 ต้น
 
“การจัดงานในปีนี้ดำเนินรอยตามแนวพระราชดำริในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเพื่อให้คนไทยร่วมกันสานต่องานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริ กิจกรรมมุ่งเน้นการเผยแพร่พระเกียรติคุณ และพระอัจฉริยภาพในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่ออำนวยประโยชน์แก่คนไทยทั้งประเทศ”
 
งาน“ฟิวเจอร์พาร์ค สานต่องาน “พ่อ”สร้าง” จัดถึงวันที่  7 ธ.ค.นี้ ณ บริเวณ Casata ชั้น G  และ Alive Park ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต โดยส่วนที่ 1 การอนุรักษ์ป่าไม้ จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์นักพัฒนา” และสวนสะท้อนศิลปวัฒนธรรม 5 ประเทศ สวนญี่ปุ่นกนกนารี เฟิร์นอายุ 100 ปีและต้นหลิวลู่ลมแคระสูง 1.5 ซม. ,สวนอังกฤษต้นรักแรกพบสายพันธุ์สีชมพู แดง ส้ม,สวนโมร็อคโคพืชทนแล้งตระกูลกระบองเพชร,สวนแอฟริกาปรงใบไผ่จากยูนานและสวนเนเธอร์แลนด์ตกแต่ง กังหันลมสัญลักษณ์ประเทศ และการประกวดจัดสวนหย่อมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามแนวพระราชดำริ ส่วนที่ 2 Green@ Heart นิทรรศการสืบสานแนวพระราชดำริ ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ศูนย์การค้าฯดำเนินมา 10 ปี และส่วนที่ 3 จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อันเนื่องมาจากโครงการในพระราชดำริ
 
***********************************************************************************************

โครงการทุ่งทะเลหลวง....แก้มลิงของชาวสุโขทัย
 ช่วยคนลุ่มน้ำยมพ้นภัย- อีก 3 ปีคงไม่ช้าเกินรอ !


จังหวัดสุโขทัย ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี จึงรู้กันดีว่าเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก แต่แหล่งรองรับ และเก็บกักน้ำไม่เพียงพอ แม่น้ำมีขนาดเล็ก แคบ และตื้นเขิน เมื่อฝนตกหนักน้ำมีปริมาณมาก บางพื้นที่มากถึงดินโคลนถล่มลงมาจากภูเขา สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงประเมินค่าไม่ได้มาหลายครั้งหลายหน
 
ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยา ยามหาทางแก้ไขปัญหา แต่ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วม และ ภัยแล้งได้ จนเมื่อประมาณ   ปี 2546 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นว่า ขืนมัวรอสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นคงไม่ทันการ จึงได้ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกพื้นที่กับการแก้ปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้ง พร้อมมอบหมายให้สำนักงานชลประทานที่ 4 ไปทำการศึกษาเพิ่มเติมจนได้ข้อสรุป จนกระทั่งเป็นที่มาของโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแก้มลิงขนาดใหญ่ “ทุ่งทะเลหลวง”
 
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายมงคล วิเชียรชิต ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 4 พร้อม          ด้วย นายสุเมธ อุนจะนำ นายช่างชลประทาน 7 โครงการก่อสร้าง 1 สำนักชลประทานที่ 4 ผู้ประกอบการและคณะ นำสื่อมวลชนเดินทางดูความคืบหน้าโครงการก่อสร้าง “ทุ่งทะเลหลวง” หรือโครงการแก้มลิงจังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นโครงการที่เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2549 และก่อสร้างแล้วเสร็จเฉพาะตัวโครงการไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2551 ด้วยงบประมาณกว่า 850 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้สามารถเก็บกักน้ำได้ในระดับหนึ่ง  แต่ยังไม่สามารถดำเนินการในลักษณะแก้มลิงได้อย่างเต็มรูปแบบ เพราะการก่อสร้างในส่วนของระบบระบายน้ำยังไม่แล้วเสร็จ และต้องรองบประมาณที่จะใช้ในการก่อสร้างอีกจำนวนหนึ่ง
 
สำหรับโครงการนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จครบทุกองค์ประกอบในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และจะสามารถเป็นแหล่งเก็บกักน้ำถาวรในลักษณะแก้มลิงขนาดใหญ่ โดยมีหลักการคือ เก็บน้ำที่มีปริมาณมากในฤดูฝน จากแม่น้ำลำคลอง เป็นการบรรเทา ปัญหาอุทกภัยในเขตชุมชนเมือง โดยจะรับระดับน้ำจากแม่น้ำยม ที่ไหลบ่าล้นตลิ่งฝั่งขวา จากน้ำห้วยท่าแพ จากน้ำแม่มอก ที่ไหลบ่าจาก อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง และน้ำจากแม่ลำพัน น้ำจากแม่กอยค่าย ที่ไหลบ่าจาก อ.บ้านด่านลานหอย ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย เป็นแหล่งเก็บกักน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตรในฤดูแล้งช่วงขาดแคลนน้ำ ทำให้ราษฎรและเกษตรกรสามารถประกอบอาชีพได้ ตลอดจนเป็นแหล่งน้ำสำรองในการผลิตน้ำประปาในยามขาดแคลนของพื้นที่ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
 
นายมงคล ผอ.ชลประทานที่ 4 กล่าวว่า จังหวัดสุโขทัยเป็นจังหวัดหนึ่งที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติเนื่องจากวิกฤติน้ำท่วม น้ำแล้งเป็นประจำทุกปี ทำให้รายได้เฉลี่ยของประชาชนลดลง และค่อนข้างต่ำในยามประสบภัยฯ เมื่อเปรียบกับรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะปัญหาการเกิดอุทกภัยน้ำท่วมซ้ำซากในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
 
โครงการทุ่งทะเลหลวง หรือโครงการแก้มลิงจังหวัดสุโขทัย ถือเป็นหนึ่งในจำนวนอีกหลายโครงการที่จะช่วยประชาชนที่อยู่สองฝั่งลำน้ำยม ซึ่งจะได้รับการแก้ไขเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนของกรมชลประทาน.
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.114 วินาที กับ 21 คำสั่ง