รักกันอยู่ขอบฟ้า.......เขาเขียว

[สายน้ำ]

เราเดินตัดเข้าไปทางศูนย์ฝึกอบรมของป่าไม้ .... แต่ระหว่างทางพบเห็นขยะนานาชนิด ที่นักท่องเที่ยวทิ้งกันไว้เป็นระยะตามรายทาง

[สายน้ำ]

แม้แต่ตัวภาชนะสำหรับทิ้งขยะ ก็ไม่มีการจัดเก็บ ปล่อยไว้จนพวกกวาง พวกละมั่ง ที่เราเห็นกระโดดดึ๋งๆอยู่แถวนั้น มารื้อหาของที่กินได้ จนเศษขยะ โดยเฉพาะพวกถุงพลาสติคกระจัดกระจายไปทั่ว

สองสายเคยเห็นเต่าตนุที่ระยองตายเพราะกินถุงพลาสติคเข้าไป หรือ ฉลามวาฬที่คลองด่านตายเพราะกินหลอดนมกล่องเข้าไป มาแล้ว เมื่อมาเห็นสภาพแบบนี้ จึงอดสยองไม่ได้ ว่าคงจะมีพวกสัตว์ป่าในอุทยานฯที่ต้องตายเพราะกินขยะพลาสติคพวกนี้เข้าไปเช่นเดียวกัน

ตอนเดินกลับ เราจึงช่วยกันเก็บเศษขยะจากคนมักง่าย ที่ทิ้งไว้ตามทาง เท่าที่จะเก็บได้ มาทิ้งลงในถังขยะใกล้ๆที่พักของเรา

[สายน้ำ]

เดินผ่านศูนย์ฝึกอบรมฯไปทางด้านหลัง มีบึงน้ำ แต่ไร้นก จะมีที่พอเห็นได้อยู่เพียง 2-3 ตัวเท่านั้น

[สายน้ำ]

ต้นไม้ที่ยืนตายแห้งต้นนี้รูปทรงสวยดี มีกลุ่มเฟิร์นมาเกาะอยู่เป็นหย่อมๆดูแปลกตา แถมฟ้ายังเป็นฟ้าอีกด้วย  จึงอดไม่ได้ที่จะหามุมสวยๆ เก็บภาพตามธรรมเนียม

[สายน้ำ]

เลยออกไปอีกหน่อย จะเป็นบึงใหญ่ มองเห็นบ้านพักของป่าไม้อยู่ไกลๆ ซึ่งเริ่มมีคนเข้ามาพักแล้ว เพราะเป็นบ่ายของวันศุกร์

[สายน้ำ]

ระหว่างนั่งพัก คุณสายชลสังเกตเห็นที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่งริมน้ำ มีร่องรอยถลอก ....

ใครจะพอบอกได้หรือไม่ว่า เป็นฝีมือของสัตว์ชนิดใด และใช้ส่วนไหนของร่างกายทำให้เกิดร่องรอยได้ขนาดนี้

[สายน้ำ]

พี่ Milo15 มีเรื่องราวจากประสบการณ์มาเล่าให้สองสายได้ฟังมากมายหลายเรื่อง ฟังได้ไม่รู้จักเบื่อ และได้ความรู้มาประดับสมองอีกมากมาย

[สายน้ำ]

ค่ำนี้ พี่ๆได้นัดทหารอากาศไม่ขาดรักนายหนึ่งไว้ ให้เป็นผู้ขับรถพาพวกเราทั้งกลุ่มไปส่องสัตว์ยามค่ำคืนกัน

เรื่องความเย็นไม่ต้องพูดถึง สุดขั้วหัวใจ ยิ่งได้อารมณ์มากขึ้นเมื่อมีลมกรรโชกแรงมาเป็นระยะๆไม่ขาดสาย .....

แต่ .... จะเป็นเพราะอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงกระทันหันไปหรือไง ไม่ทราบได้ จึงทำให้บรรดาสัตว์ทั้งหลายที่เคยออกหากิน กลับหลบลี้หายหน้าไปหมด เหลือให้ได้พบเห็นเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น ในช่วงกลางวันก็เช่นกัน จะหานกดูสักตัวก็ยากเย็นแสนเข็ญ

[สายน้ำ]

ไม่ได้ตั้งกล้องไว้ล่วงหน้า ไปตั้งเอาตอนอยู่ท้ายกระบะ หนาวก็หนาวจนมือไม้สั่น มองก็มองไม่เห็น เลยตั้งเท่าที่ตั้งได้ เลนส์ก็ใช้มาโคร 105 หน้ากล้องกว้างสุด 2.8 แต่อัด ISO เข้าไป 1600 .... ภาพก็เลยได้มาแบบเนี๊ยะ

ตัวนี้ สุนัขจิ้งจอก ตัวก็เล็ก อยู่ก็ไกล แสงก็น้อย ภาพจึงไม่ค่อยชัด .... ไม่เป็นไรนะครับ ดูเอาบรรยากาศก็พอ

[สายน้ำ]

จิงโจ้ ..... หมา ..... เก้ง ..... ไม่น่าจะใช่ทั้งนั้น คิดว่าเป็น ละมั่ง มั๊ง

[Sea Man]

  .....เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งกับความมักง่ายของคนที่ไปเที่ยว..และการไม่ดูแลจากเจ้าของสถานที่...เพราะผมขึ้นเขาใหญ่ตั้งแต่ พ.ศ.2523

สภาพตอนนี้กับเมือก่อนนี้ต่างกับแบบฟ้ากับเหวเลย...น่าสมเพสและสงสารผืนป่าจริงๆ...

[สายน้ำ]

เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งกับความมักง่ายของคนที่ไปเที่ยว..และการไม่ดูแลจากเจ้าของสถานที่

เห็นจะจริงครับ ..... ความเลวอันดับหนึ่ง ต้องยกให้คนไปเที่ยวที่เป็นคนทิ้ง ซึ่งอยากถามว่า ตอนที่อยู่บ้าน เค้าทิ้งกันอย่างนี้ในบ้านหรือเปล่า และถ้าเพื่อนๆที่ไปเที่ยวบ้านเค้า ทิ้งขยะในบ้านเค้ากันแบบนี้บ้าง จะว่ายังไง .... คนที่ต้องถูกตำหนิต่อไปคือ คนดูแล ภาชนะสำหรับทิ้งขยะควรจะมีมากเพียงพอ และต้องปิดมิดชิดไม่ให้สัตว์มารื้อได้ และควรจะต้องดูแลความสะอาดแทบทุกจุดเป็นประจำและสม่ำเสมอ


อ่ะ ..... ภาพต่อไป เป็นกวางรุ่นกระทง พ่อหนุ่มตัวนี้ เดินมาให้ชมโฉมกันถึงข้างรถเลย

[สายน้ำ]

.... กวางตัวเมีย  .....  ที่อยู่ข้างๆกัน ถ้าไม่ใช่ลูกสาว ก็คงเป็นน้องสาวครับ

[WayfarinG]

เรื่องขยะที่ทิ้งไม่เป็นที่เป็นทางของนักท่องเที่ยว เป็นเรื่องที่แก้ไม่เคยตก ..


เคยหลายครั้งที่ถามคนที่จะทิ้งเลยว่า .. ตอนกินทำไมถือได้ หนักกว่าตั้งเยอะ .. ทำไมกินเสร็จแล้ว เบาจะตายถืออกไปทิ้งให้ถูกที่ไม่ได้หรือ .. ดีนะ ไม่โดนรุมตืบบบ ..  


จะบอกว่า ความักง่าย รักสบายของคน มันเยอะนัก ทำให้บดบังสิ่งที่สมควรจะทำให้ถูกต้องไปจนหมดสิ้น .. เพราะฉะนั้น ที่ไหนที่คนไปถึง ที่นั่นย่อยยับหมดแหละ ..  

[สายน้ำ]

ภาพสุดท้ายจากการส่องสัตว์คือ กวางวัยรุ่น ที่โผล่ขึ้นมาจากพงหญ้าข้างทาง

ผมสังเกตุเห็นรอยถลอกบริเวณคอที่ต่อไปที่อก ของกวางทั้งภาพนี้ และภาพก่อนหน้านี้ ..... มันเกิดขึ้นจากอะไรครับ ใครก็ได้ช่วยตอบด้วย