กระดานข่าว Save Our Sea.net

หมวดหมู่ทั่วไป => คุยเฟื่องเรื่องดำน้ำ => ข้อความที่เริ่มโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 04, 2008, 01:12:15 AM



หัวข้อ: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 04, 2008, 01:12:15 AM

สิ่งต้องห้ามสำหรับการดำน้ำ คือ ไซนัสอักเสบ ...... ถ้ามีอาการเป็นประจำอยู่แล้ว ก็ไม่ควรเรียนดำน้ำ หรือ เรียนดำน้ำไปแล้ว มามีอาการในภายหลัง ก็ไม่ควรลงดำน้ำ

ในคอลัมน์สุขภาพกรุงเทพธุกิจวันนี้ ลงเรื่องราวเกี่ยวกับไซนัสไว้ค่อนล้างละเอียด .... อ่านกันดูนะครับ


 มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร


คงมีหลายคนที่อาจจะเคยหรือเคยเป็นโรคไซนัส แล้วคุณละรู้จักไซนัสมากมายแค่ไหน มาทำความรู้จักกันเถอะเพื่อจะได้ป้องกันก่อนที่จะเกิดขึ้นกับเรา หรือคนใกล้ชิด

ไซนัส (sinus) หมายถึง โพรงอากาศเล็ก ๆ ในกะโหลกซึ่งอยู่รอบ ๆ จมูกและมีทางเชื่อมต่อกับโพรงจมูก

 
(http://www.bangkokbiznews.com/2008/10/04/thumb/300444_snaligthumb3bkk.jpg)
 

ลักษณะทั่วไป

ไซนัส (sinus) หมายถึง โพรงอากาศเล็ก ๆ ในกะโหลกซึ่งอยู่รอบ ๆ จมูกและมีทางเชื่อมต่อกับโพรงจมูก ดังนั้น จึงอาจมีเชื้อโรคลุกลามจากโพรงจมูกเข้าไปในโพรงไชนัสได้ ตามปกติทางเชื่อมดังกล่าวจะเปิดโล่งให้มีการระบายของน้ำเมือกที่สร้างขึ้นในโพรงไซนัสได้สะดวกจึงไม่เกิดการอักเสบ แต่ถ้าหากทางเชื่อมดังกล่าวเกิดการอุดตันขึ้นมา (เช่น เป็นหวัด ผนังกั้นจมูกคด มีเนื้องอกในรูจมูก ได้รับบาดเจ็บ นั่งเครื่องบิน หรือดำน้ำ) น้ำเมือกในโพรงไซนัสไม่สามารถระบายได้ ก็จะทำให้เชื้อโรคที่อยู่ในโพรงไซนัส สามารถเจริญงอกงามทำให้เกิดการอักเสบ และเป็นหนองขังภายในโพรงไซนัสได้


สาเหตุ

เชื้อที่เป็นสาเหตุ ที่พบบ่อย ได้แก่ บีตาสเตรปโตค็อกคัส, สแตฟฟีโลค็อกคัส, นิวโมค็อกคัส, ฮีโมฟิลุส อินฟลูเอนซา

นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการลุกลามของเชื้อโรค จากบริเวณรากฟันที่เป็นหนองเข้าไปในโพรงไซนัสโดยตรงก็ได้ ไซนัสอักเสบเป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย มักพบเป็นโรคแทรกซ้อนของไข้หวัด, หวัดจากการแพ้, เยื่อจมูกอักเสบ, เนื้องอกในรูจมูก, ผนังกั้นจมูกคด, รากฟันเป็นหนอง


อาการ

ปวดมึน ๆ หนัก ๆ ตรงบริวเณหัวตา หน้าผากโหนกแก้มหรือรอบ ๆ กระบอกตา บางคนอาจรู้สึกคล้ายปวดฟัน บริเวณขากรรไกรบน อาการปวดอาจเป็นมากในเวลาเช้าหรือบ่าย เวลาก้มศรีษะหรือเปลี่ยน

ผู้ป่วยจะมีอาการคัดจมูก พูดเสียงขึ้นจมูก มีน้ำมูกข้นเหลืองหรือเขียว เจ็บคอ มีเสลดเหลืองหรือเขียวในลำคอ และอาจหายใจมีกลิ่นเหม็น ในรายที่เป็นไซนัสอักเสบเฉียบพลัน มักมีไข้ร่วมด้วย


สิ่งตรวจพบ

เยื่อจมูกบวมแดง คอแดงเล็กน้อย ที่สำคัญจะพบว่า ถ้าเคาะหรือกดแรง ๆ ตรงบริเวณหัวตา หน้าผาก หรือใต้ตาจะรู้สึกเจ็บ อาจมีไข้ (ในรายที่เป็นเฉียบพลัน)


อาการแทรกซ้อน

อาจทำให้เป็นหูชั้นกลางอักเสบ , หลอดลมอักเสบ , ปอดอักเสบ , ฝีรอบกระบอกตา (Periorbital abscess), เยื่อกระดูกอักเสบ (Osteomyelitis) ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงแต่พบได้น้อย ได้แก่ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ , ฝีในสมอง


การรักษา

1. ให้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ , ยาแก้คัดจมูก อาจช่วยลดการบวมของเนื้อเยื่อที่อักเสบ ซึ่งจะช่วยถ่ายเทหนอง ส่วนยาแก้แพ้  ไม่ควรให้ อาจทำให้น้ำเมือกในโพรงไซนัสเหนียว ถ่ายเทออกได้ไม่ดี ยกเว้นในรายที่มีอาการของภูมิแพ้มาก เช่น จาม มีน้ำมูกมาก อาจให้เพียง 2-3 วัน เพื่อบรรเทาอาการ

2. ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น อะม็อกซีซิลลิน , อีริโทรไมซิน   หรือ โคไตรม็อกซาโซล   ปกติอาการจะทุเลาหลังกินยา 2-3 วัน ควรให้กินติดต่อกันนาน 10-14 วันในรายที่เป็นเรื้อรัง ขณะที่มีอาการกำเริบ ควรให้ยาปฏิชีวนะนาน 3-4 สัปดาห์

ถ้าอาการไม่ดีขึ้น หรือกำเริบบ่อย ควรส่งโรงพยาบาล เพื่อตรวจเอกซเรย์ไซนัส ถ้ามีหนองขังอยู่อาจต้องทำการเจาะล้างโพรงจมูก ในรายที่เป็นมาก อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด


ข้อแนะนำ

1. ขณะที่มีอาการกำเริบ ควรงดว่ายน้ำ ดำน้ำ ขึ้นเครื่องบิน ประมาณ 2 สัปดาห์

2. โรคนี้มักเป็นเรื้อรัง แต่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือแก้ไขสาเหตุ เช่น ผนังกั้นจมูกคด

3. ไม่ควรรักษากันเองตามแบบพื้นบ้าน เช่น ใช้สารกรดบางอย่าง หยอดเข้าจมูก(ทำให้มีน้ำมูกไหลออกมามาก เพราะเกิดการระคายเคืองต่อเยื่อจมูก) อาจทำให้เกิดการอักเสบ และจมูกพิการได้

4. ระวังอย่าให้เป็นหวัดบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้คัดจมูกหรือจาม (เช่น ฝุ่น อากาศเย็น ขนสัตว์)และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ



หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ ตุลาคม 04, 2008, 02:44:52 AM
แป่ว .....  ปวดกระบอกตาบ่อย ๆ แต่น่าจะเกิดจากการใช้คอมฯ เยอะ ๆ อ่ะค่ะ
หวังว่าคงไม่ใช่ไซนัส..... ??? ???

ขอบคุณค่ะ  :-* :-* :-*


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: zmax ที่ ตุลาคม 04, 2008, 03:09:28 AM
1. ให้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ , ยาแก้คัดจมูก อาจช่วยลดการบวมของเนื้อเยื่อที่อักเสบ ซึ่งจะช่วยถ่ายเทหนอง ส่วนยาแก้แพ้  ไม่ควรให้ อาจทำให้น้ำเมือกในโพรงไซนัสเหนียว ถ่ายเทออกได้ไม่ดี ยกเว้นในรายที่มีอาการของภูมิแพ้มาก เช่น จาม มีน้ำมูกมาก อาจให้เพียง 2-3 วัน เพื่อบรรเทาอาการ

ว่าแต่กินยาแก้แพ้เป็นประจำนี่จะทำให้เป็นไซนัสได้ป่าวอ่ะครับ เพราะผมกินยาพวก Zytec เกือบทุกวันเลย แก้ผื่นลมพิษ


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: myjoefiend ที่ ตุลาคม 10, 2008, 10:45:05 AM
น่ากลัวจัง ยิ่งชอบปวดหัวปวดตาบ่อยอยู่ :'(


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: Molecule ที่ ธันวาคม 23, 2008, 03:38:54 AM
แล้วมันทำให้ปวดฉี่ในน้ำบ่อยๆ หรือป่าวครับ กำลังมีปัญหานี้อยู่เลย


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: payoon ที่ ธันวาคม 23, 2008, 04:59:55 AM
งื่อ เพิ่งอักเสบอีกรอบตอนกลับจากกระบี่อ่ะ แย่จัง  ???


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: WayfarinG ที่ ธันวาคม 23, 2008, 08:45:40 AM
ไม่เป็นอะไรดีที่สุดเลย..  :)


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ ธันวาคม 24, 2008, 06:02:46 AM
เพิ่งกลับจากพัทยา เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา.... คาดว่า จะกำเริบ  ??? เจ็บปวดทรมานยิ่งนักค่ะ ตอนนี้


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ ธันวาคม 24, 2008, 06:09:31 AM
ขออนุญาตเล่าประสบการณ์จากการรักษาโพรงไซนัสอักเสบที่ผ่านมาให้ฟังกันค่ะ เผื่อจะมีประโยชน์ค่ะ

ประสบการณ์ใหม่ของ Sky (บันทึกไว้เมื่อวันที่ 20 ตุลา)

เจ็บปวดจากการปวดโพรงไซนัสมานานหลายเดือน ตอนดำน้ำ ก็เจ็บมั่ง ปวดมั่ง ถึงเวลาที่ต้องรักษาอย่างจริงจัง อันเนื่องมาจาก ปวดหัวอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็ปวดมาก บางครั้งก็ปวดน้อย เพิ่งออกจากโรงพยาบาลวันนี้วันแรก ยังปวดแผล ปวดหัวอยู่ หมอบอก อีกอาทิตย์คงจะหาย...

เริ่มจากเสียงเปลี่ยน ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นหวัด.... ตอนเรียน Divemaster ครูสอนว่า โพรงไซนัส มีประโยชน์คือ สร้างความชื้น  และทำให้คนเรามีเสียงต่างกัน.... ถ้าเราเสียงเปลี่ยนไป ก็แปลว่า โพรงไซนัสเราไม่ปรกติน่ะสิ แล้วอาการปวดหัวอีก.. บางครั้ง ลงดำน้ำ ลงไปได้แค่ 3 เมตร ก็ปวดหัวอย่างรุนแรง ไม่สามารถดำลงไปได้มากกว่านั้นอีก ก็เลยคิดว่า ถึงเวลาที่จะต้องหาหมอรักษาอย่างจริงจังแล้วล่ะ

2 ตุลา...พอเอ็กซ์เรย์... ก็พบว่า โพรงไซนัสไม่โล่ง อยู่ 2 โพรง ข้างหัวตาโพรงนึง อีกโพรง ที่กลางสมอง ต้นเหตุของการปวดหัว หมอให้ยามากิน 1 สัปดาห์ แล้วให้ไปหาหมออีกรอบ

9 ตุลา...รอบสอง... เสียงก็ยังเปลี่ยนอยู่ อาการปวดหัว ก็ไม่หาย กินยาพาราเซตามอล ก็ไม่หายปวด หมอก็เริ่มเปลี่ยนยา ให้เป็นยาที่แรงขึ้นอีกยี่ห้อนึง.... ไม่หาย

16 ตุลา...รอบสาม... ยังปวดหัวอยู่มาก นอนโรงพยาบาล 1 คืน หมอขอทำ CT Scan เพื่อดูโพรงไซนัสให้ชัดๆ ผลสแกนคอมพิวเตอร์ พบว่า โพรงไซนัสที่หัวตา ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย และที่หน้าผากก็ไม่โล่ง แต่ที่กลางสมอง ดีขึ้น.... สรุป หมอบอกว่าจะผ่า

การผ่า ก็คือการเจาะโพรงไซนัสของเรา โพรงที่มันไม่โล่งนั่นแหล่ะ แล้วดูดเอาหนองออกให้โล่ง คราวนี้ เราก็จะไม่ปวดหัว เพราะมันไม่อักเสบ ไม่บวม

17 ตุลา...ตัดสินใจผ่าวันเสาร์นี้เลย...ตอนตัดสินใจว่าจะผ่า ก็ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจสำหรับการเจ็บปวดเลย... ลืมคิดไปได้ไงไม่รู้ คิดแต่ว่า ผ่าแล้วหายเลย ส่วนใหญ่ ไม่กลับมาเป็นอีก ก็เลยตัดสินใจด้วยความคิดชั่ววูบ..... วูบละ 55,000 บาท

วันเสาร์ที่ 18 ตุลา หมอนัดผ่า 9 โมงเช้า แต่ให้ไปถึงที่โรงพยาบาลตั้งแต่ 7 โมงเพื่อเจาะเลือด ฉีดยาต่างๆ นานา เข็มแรกที่จิ้มเข้าไป น้ำตาไหลพราก.... เจ็บปวดจริงๆ แต่ตอนนั้นมีเวลาเจ็บไม่เท่าไหร่ เพราะมัววุ่นวายกับการโทรหาหมอหัวใจ ที่อยู่อีกโรงพยาบาลนึง เพราะรู้สึกแปลกๆ ว่า เราจะต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ยังไม่ได้รับยาฆ่าเชื้ออะไรเลย (เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไวรัสที่ลิ้นหัวใจของเรา)...

จนกระทั่งเวลา 8:40 น. โทรหาหมอหัวใจอีกครั้ง บอกว่า จะเข้าห้องผ่าตัดอยู่แล้วนะ... พอได้คุยกับหมอภากร หมอภากรใจดีอย่างมากมาย โทรติดต่อหมออานนท์ ที่เป็นเพื่อนกันให้ สรุปว่า หมอภากร แนะนำว่าควรจะให้อ็อคแมนตินเพื่อป้องกันไว้ก่อนจะดีกว่า...เราก็เลยได้ยา ฉีดผ่านเส้นเลือดไปอีกอย่าง... ปวดมาก

อืม ลืมไปเลย หมอฉีดยาอะไรไม่รู้มากมาย ผ่านเส้นเลือดที่เจาะไว้ มีดรามามีนด้วย กันวิงเวียน พอได้ดรามามีนเข้าไปเท่านั้นแหล่ะ ไม่วิงเวียนเลย แต่ง่วงจนแทบหลับ แหม เราก็นะ อุตส่าห์ ตื่นเต้น ไม่เคยเข้าห้องผ่าตัด กะจะมองๆ จดจำห้องผ่าตัดซักหน่อย ง่วงจนแทบลืมตาไม่ขึ้น ตอนหมอทำโน่นทำนี่กะจมูกเรา ก็เปิดไฟสว่างจ้า หมอสั่งให้หลับตา

หมอฉีดยาชาเข้าไปในจมูก ทันทีที่ยาชาไหลเข้าสู่ร่างกาย หัวใจเราก็เต้นแรง อย่างระทึกเลย... หมอบอกว่า ยาชาเค้าผสมอะดีนาลีน เพื่อให้เลือดไม่ไหลออกมาก แต่หัวใจเราที่รั่วๆ อยู่แล้วเนี่ย ปรกติก็ผลิตอะดีนาลีนไม่รู้เวล่ำเวลาอยู่แล้ว ก็เลยเกิดอาการใจสั่น หมอก็เห็นเราใจสั่น ก็คอยถาม ไหวมั้ย... ไหวค่ะ จะไม่ไหวได้ไง มาถึงขึ้นนี้แล้ว หมอเลยบอกว่า หมอจะค่อยๆ ผ่าละกันนะ ค่อยๆ ทำ หมอฉีดยาช้าๆ นะ หมอตัดสินใจผ่าข้างที่เป็นน้อยก่อน เราก็หอบไปด้วย หมอก็เจาะไป นี่ขนาดมียาชานะ เจ็บชะมัด... และแล้วก็เสร็จไปข้างนึง

แต่พอจะทำอีกข้าง... หมอก็ต้องฉีดยาชาให้อีก หมอเลือกฉีดยาชาแบบไม่มีอะดีนาลีน ใจเราก็ยังสั่น หมอถามว่า ไหวมั้ย เราก็เสียงสั่นตอบกลับไปว่า ไหวค่ะ... แต่หมอคงเห็นท่าไม่ไหวแล้วหล่ะ หมอบอก หมอจะหัวใจวายซะก่อน หมอขอวางยาสลบละกันนะ.....แต่หมอบอก หมอวางยาสลบจะมาตอนหัวค่ำ หัวค่ำค่อยมาทำต่อ  - -"  เฮ้ย.... ได้ไง

เราเสียงสั่นบอกหมอไปว่า... หมอคะ ไหนๆ เจ็บแล้ว ขอเจ็บทีเดียวได้มั้ยคะ ทำต่อเลยได้มั้ยคะ หนูจะอดทน... หมออุตส่าห์จะชมว่าเราใจสู้ ... ไม่ใช่หรอกค่ะหมอ หนูกลัวเจ็บหลายรอบตะหาก

ระหว่างนั้น อยู่ดีๆ ก็มีอะไรไหลผ่านคอ.... โอ้ว ผ้ากอส รู้สึกเหมือน ในคอ มี 2 ชิ้น แต่เอาออกมาได้แค่ชิ้นเดียว... หมอกะพยาบาล ช่วยกันนับชิ้นผ้ากอสใหญ่เลย เอ้า ของพยาบาลหนูมีกี่ชิ้น ของหนูครบยัง ของหมอมี 2 ชิ้น ... อ้าว ของหนูขาดไปชิ้นนึงเหรอ อ่อออ ของหมอเกินมาชิ้นนึง อืมมมม พอดีๆ ครบละ - -"

ในที่สุด ก็ตามหมอวางยาสลบมาในระยะเวลาไม่นาน หรือเรามึนๆ ก็ไม่รู้นะ พอเค้าให้หายใจลึกๆ สองสามอึก ทุกอย่างก็ ดับวูบ

ประมาณ เที่ยง ในห้อง ICU..."คุณคะ! คุณคะ! รู้สึกตัวมั้ยคะ" พยาบาลพยายามปลุกเรา พอเรารู้สึกตัวเท่านั้นแหล่ะ หายใจไม่ออก เหมือนคนจมน้ำ ก็เค้าปิดจมูกเราแน่นเลย ต้องหายใจทางปาก และเราคอแห้งอย่างมาก และแสบคอไปหมด เราถึงกับคลั่งเลย ทั้งร้องทั้งดิ้น พยาบาลกี่คนไม่รู้ มาช่วยกันจับ เราก็ร้องไห้ไปขอน้ำไป เค้าก็ไม่ให้ บอกหมอให้งดอาหารงดน้ำ เราก็ยิ่งร้อง ตอนนั้น ตัวเราชาไปหมดแล้ว เริ่มละ อาการที่เคยเป็น มือเท้าเริ่มชา แขนขาเริ่มชา ซักพัก ได้ยินเสียงพี่อู๊ดถามว่า "อ้าว...ทำไมคนไข้ร้องไห้" พี่อู๊ดเล่าให้ฟังตอนหลัง ว่าพอพี่อู๊ดเข้ามาถาม พยาบาลทุกคนที่รุมรอบเตียงเราอยู่ก็ผงะถอยหลังไป พี่อู๊ดคงทำเสียงดุใส่เค้าน่ะสิ แต่ก็เหมือนพระเอกขี่ม้าขาวจริงๆ นะ ทันทีที่พี่อู๊ดเข้ามา เราบอกพี่อู๊ดขอน้ำหน่อย อุ้มเจ็บคอไปหมดแล้ว พี่อู๊ดก็ไปหาน้ำมาให้เราจนได้ ใช้สลิงค่อยๆ หยอดใส่ริมฝีปากเรา โอ.....รอดตาย

ระหว่างที่อยู่ในห้อง ICU พยาบาลก็บอกว่า คงต้องเจ็บคอหน่อย เพราะเค้าสอดเครื่องช่วยหายใจผ่านคอ.... แหม.. เจ็บนะเนี่ย เค้าเก็บเราไว้ในห้อง ICU ประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่รู้เอาพักไว้ทำไม เหมือนดำน้ำแล้วต้องทำ Safety Stop เลย ยังดีนะ ยังมีพี่อู๊ดอยู่ด้วยตลอด 2 ชั่วโมง คอยหยอดน้ำให้เราเป็นระยะ ระยะ โดนพี่อู๊ดแซวเล็กน้อย ว่าขอได้ชักจะขอถี่นะเนี่ย

บ่ายสาม... ได้กลับมาที่ห้องพักผู้ป่วย ดีใจ จะได้ดื่มน้ำให้หายคอแห้งเลย แต่ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่พอเพราะมันคงอักเสบไปแล้ว แล้วอีกอย่าง เราหายใจทางปาก คอก็เลยแห้งไม่เลิก เหน็ดเหนื่อยจากการผ่าตัดมาแล้ว ก็ยังนอนไม่ได้อีก เพราะโดนปิดจมูกเอาไว้ ตามปรกติ คนเราถ้ามีสติอยู่ได้ ก็จะหายใจทางปากได้ แต่พอหลับแล้ว ร่างกายก็จะถูกปรับให้ไปหายใจปรกติคือ หายใจทางจมูก พอเราหายใจทางจมูกไม่ได้ ก็จะสะดุ้งตื่นเป็นระยะๆ สรุป ก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอนอยู่ดี.... พอช่วงเย็นๆ หมอมาเยี่ยม หมอก็เลยเอาผ้ากอสที่ปิดจมูกเราออกให้ข้างนึง ตอนที่หมอดึงออกมา โอ้โห.... ยาวสิบเซนติเมตรได้มั้ง ยัดอยู่ในจมูกเรานี่นะ มิน่า ปวดชะมัด -*- พอหายใจทางจมูกได้ข้างนึง คราวนี้ก็เลยหลับได้หลับดี

อาหารสำหรับวันนี้คือ.... อาหารเหลว ใส ตอนแรกพี่อู๊ดคิดว่าน้ำเปล่าซะอีก - -" สรุปว่าเค้าให้เราดื่มน้ำข้าว แก้วเล็กๆ แก้วเดียวเอง - -"

วันที่ 19 ตุลา ตีสาม... เกิดอาการคัดจมูก ขอยาลดน้ำมูกกับพยาบาล เค้าก็ไม่ให้ เพราะหมอไม่ได้สั่ง อีกอย่าง เราลิ้นหัวใจรั่ว หมอจึงห่วงมาก เรื่องการให้ยากับเรา ก็เลยต้องนอนพะงาบๆ ต่อไป...

อาหารเช้าของเรา ก็ยังคงเป็นน้ำข้าวแก้วเล็กๆ เหมือนเดิม

สายๆ หมอมาตรวจก็เอาผ้ากอสที่จมูกออกให้เราอีกข้าง ดีงออกมา 2-3 ชิ้น แต่ละชิ้น เป้งๆ ทั้งนั้น แทบจะยาวเข้าไปถึงสมองเลยมั้งนั่น แถมมีเลือดเหนียวๆ ติดออกมาอีก... ตอนหมอดึงออกมา เจ็บแทบตาย แต่ก็ต้องอดทน พอดีงออกมาเรียบร้อย โล่งเลย หายใจสบาย ค่อยหลับต่อได้....

ผลข้างเคียงของการที่เราได้รับน้ำเกลือมากเกินไป ทำให้เราบวมน้ำ ความดันสูงขึ้นจนน่าตกใจ หน้าบวม ตาบวม แขนก็บวม โดยเฉพาะข้างที่ให้น้ำเกลือ มันคงจะอักเสบ ตอนนี้ยังบวมอยู่เลย

วันพุธนี้ หมอนัดไปเอาฟองน้ำในจมูกเราอีกข้างออก ก็คงสบายขึ้นแล้ว ตอนนี้ก็ยังปวดหัว ปวดจมูกอยู่เป็นพักๆ หวังว่าจะหายทันไปทริปกระบี่เดือนธันวานะ ไม่งั้นคงจะเศร้าแย่เลย

ดีใจ มีพี่อู๊ดคอยดูแลตลอดเวลา ทั้งตอนหลับ ตอนตื่น โดยเฉพาะตอนเข้าห้องน้ำ พี่อู๊ดหลับอยู่ ก็ต้องตื่นมาคอยจูงเราเข้าห้องน้ำ คงกลัวเราหัวทิ่มล่ะมั้ง....

มีตอนนึง พี่อู๊ดเดินออกไปหาข้าวกิน พี่อู๊ดโดนพยาบาลดุว่า "อ้าว จะไปไหนคะ ไม่อยู่กับคนไข้เหรอคะ" พี่อู๊ดตกใจบอกว่า "ผมขอออกไปกินข้าวหน่อยคับ เดี๋ยวจะรีบกลับมา"...

(^^,)


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: Udomlert ที่ ธันวาคม 24, 2008, 06:20:30 AM
โอ้ว ววว ไม่เคยคาดคิดเลยว่า จะยุ่งยากและเจ็บปวดขนาดนี้ ขนาดกรอฟันยังเสียวมากๆ
หวังว่าคงไม่กลับไปเป็นอีกนะครับ คนที่ยังไม่เป็นก็รักษาสุขภาพด้วยครับ


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ ธันวาคม 24, 2008, 06:21:40 AM
ระแวงอยู่เลยค่ะพี่ Udomlert เพราะตอนนี้ เจ็บปวดบริเวณโพรงไซนัสมากๆ เลย  ???


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: WayfarinG ที่ ธันวาคม 24, 2008, 06:37:08 AM
พี่ว่า อุ้ม น่าจะหยุดดำน้ำซักพัก เอาให้แบบหายชัวร์ๆ แล้วค่อยดำดีกว่ามั๊ย..



ยังงัยรักษาสุขภาพเยอะๆ นะจ๊ะ..  :-*


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ ธันวาคม 24, 2008, 08:02:39 AM

อ่านแล้วรู้สึกเจ็บแทนหนูอุ้มเลย..... :(

ตอนไปดำน้ำที่กระบี่ ดูหนูอุ้มไม่มีปัญหาเลย  หรือเจ็บปวดแต่ไม่ยอมบอกพวกเราจ๊ะ... ;)

เห็นด้วยกับหนูพิงค์.....น้องอุ้มควรงดดำน้ำไว้ก่อน ให้หายดีจริงๆและหมออนุญาตแล้ว จึงค่อยมาลงดำน้ำใหม่

รักษาเนื้อรักษาตัว....อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่านะจ๊ะ.....

ด้วยรักและห่วงใยจ้ะ..... :-* :-* :-*
 


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: ไอนุ ที่ ธันวาคม 24, 2008, 09:10:47 AM
อ่านของ sky ได้อารมณ์มากๆ 
( ผมยิ่งกลัวพวกการผ่าตัด แพ้เลือดอยู่....  เคยเป็นลมตอนไปเจาะเลือดเพื่อตรวจสุขภาพมาแล้ว  เป็นลมต่อหน้าต่อหน้ารัตน์เลย ... โชว์ความแมนมากๆ ฮุฮุ )

แล้วอาการลิ้นหัวใจรั่ว ของ sky เนียะ  จะรู้ได้ไงอะว่าเป็น


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: Oo ที่ ธันวาคม 24, 2008, 10:57:24 AM
เอื๊อก อ่านของพี่อุ้มจบแล้ว
หนูกัวง่ะ :( :( :(

พี่อุ้ม...รักษาสุขภาพนะคะ
 :P :P :P :P :P
เอาให้หายชัวร์ๆ แล้วมาเที่ยวเล่นกันต่อ

อ่ะ...เป็นกำลังใจให้หายไวๆ
ให้คนสวย 1 รูป


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: frappe ที่ ธันวาคม 24, 2008, 11:04:28 AM
นั่นสิ
พักให้หายดีก่อน
แล้วค่อยกลับมาดำ+ไฮเปอร์ใหม่ก็ยังไม่สายนะ Sky  :)

พักผ่อนเยอะๆนะ


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ ธันวาคม 24, 2008, 11:35:43 AM

อ่านแล้วรู้สึกเจ็บแทนหนูอุ้มเลย..... :(

ตอนไปดำน้ำที่กระบี่ ดูหนูอุ้มไม่มีปัญหาเลย  หรือเจ็บปวดแต่ไม่ยอมบอกพวกเราจ๊ะ... ;)

เห็นด้วยกับหนูพิงค์.....น้องอุ้มควรงดดำน้ำไว้ก่อน ให้หายดีจริงๆและหมออนุญาตแล้ว จึงค่อยมาลงดำน้ำใหม่

รักษาเนื้อรักษาตัว....อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่านะจ๊ะ.....

ด้วยรักและห่วงใยจ้ะ..... :-* :-* :-*
 

 :-* ซึ้งใจและขอบคุณมากๆ ค่ะ ตอนไปกระบี่หมอสั่งให้กินยา Pseudoephedrine ก่อนลงน้ำทุก dive ... ก็มีบาง dive ที่เตรียมตัวไม่ทันบ้าง ลืมกินบ้าง -*- ตอนดำน้ำก็ยังดำได้อยู่คะ ตอนขึ้นจากน้ำ จะได้ยินเสียงลั่น ปิ๊ดส์ ในหัวนิดๆ หน่อยๆ ค่ะ แต่ไม่เจ็บไม่ปวดอะไรเลย ยังดีใจ ว่าหายแล้วชัวร์

แต่เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา.... วันเสาร์ ก็ยังสบายดีอยู่... พอวันอาทิตย์ ช่วงเช้าลงดำเรือจมสุธาทิพย์ สบายๆ พอตอนลงไปช่วยครูดูนักเรียน... ก็รู้ว่า จะขึ้นๆ ลงๆ เหมือนวันเสาร์ไม่ได้ ก็เลยช่วยครูดูนักเรียนใต้น้ำ ถ้าจะขึ้นก็จะขึ้นทีเดียว....

พอขึ้นพ้นน้ำ... ซักพัก ดันทำกล้องหลุดมือ จมลงน้ำ... ดีว่าลึกแค่ 7 เมตร หนูหัวใจแทบหลุดจากร่าง รีบมุดน้ำลงไปเก็บ อารามรีบร้อนไปหน่อย... เจ็บปวดโพรงไซนัสมาก แต่ก็ยังตะเกียกตะกายลงไปเก็บ ท่องในใจว่า "อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว อย่าเพิ่งระเบิด" พอเก็บได้ก็ค่อยๆ ขึ้น ช้าๆ พร้อมกับความเจ็บปวด... หลังจากนั้น ก็ขอพี่ๆ เค้าว่า ขอไม่ลงแล้ว ลงไม่ไหว เจ็บมาก...

พรุ่งนี้ไปหาหมออีกครั้ง....สู้ สู้


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ ธันวาคม 24, 2008, 11:37:39 AM
ขอบคุณ พี่พิ้งค์ ไอนุ Oo และ Frappe จ้า... ขอโทษที่คอยทำให้เป็นห่วงกันตลอดเลย



ปล. ไอนุ แมนมากๆ  


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ ธันวาคม 24, 2008, 11:49:21 AM

อู้ววววว.....หนูอุ้มเอ๋ย  บุญรักษาแล้วที่ไม่เป็นอะไรมากไปกว่านี้.... :P

ถึงจะลงเร็วแต่ขึ้นสู่ผิวน้ำช้าๆก็พอจะช่วยบรรเทาไม่ให้อาการเลวร้ายมากนัก และดีที่ไม่ลงดำน้ำซ้ำอีกจ้ะ... ;)

หาหมอแล้วมาส่งข่าวด้วยนะจ๊ะว่าผลการตรวจเป็นอย่างไรบ้าง.....สู้ๆจ้ะ.... :-* :-* :-*   


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ ธันวาคม 24, 2008, 11:51:24 AM
ขอบคุณมากๆ ค่ะพี่น้อย... จะรีบส่งข่าวค่ะ  :-*


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: angel frog ที่ ธันวาคม 25, 2008, 03:56:08 AM
ดูแลตัวเองนะน้อง   
ตอนพี่เป็น  อดดำน้ำไปเต็มๆ 3 เดือน    แถมต่อจากนั้น ต้องระวังอย่าให้น้ำทะเลเข้าจมูก  ...โดยเด็ดขาด อีกด้วย   เพราะน้ำทะเลอาจมีเชื้อโรคอยู่  จะทำให้เชื้อเข้าไปในโพรงโซนัส และเกิดการอักเสปอีกได้ 
หายเร็วๆนะ   หายเร็วๆ


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: สายรุ้ง ที่ ธันวาคม 26, 2008, 01:21:53 AM
อ่านเรื่องนี้แล้วได้ความรู้เยอะจริงๆค่ะ ทั้งความรู้จากวิชาการ และ ผู้พบกับประสบการณ์ตรง

น้องอุ้มขา สิ่งหนึ่งที่อ่านจบแล้ว รู้สึกได้เลยว่า อุ้มเป็นคนที่เข้มแข็งและมีความอดทนสูงมาก 

ทั้งที่เห็นด้วยตา (ตอนล้มขณะก้าวขึ้นเรือ)  อุ้มก็สามารถลุกขึ้นได้เองอย่างรวดเร็ว  ในขณะที่ พี่ๆที่เห็นภาพนั้น

ตกใจกันหมดเลย   ด้วยไม่แน่ใจว่า อุ้มหน้ามืดจากอาการเดิม หรือ ก้าวพลาด

เป็นห่วงมากๆ  รักษาตัวนะค่ะ  เหมือนที่พี่ๆทุกคนบอก พักดำน้ำไว้ก่อนดีกว่า รักษาตัวให้หายดี

เมื่อร่างกายแข็งแรงแล้วค่อยไปดำน้ำใหม่น่ะ 



อ้อ อีกสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากเรื่องเล่าของอุ้ม  ความรัก ค่ะ ความรักและความห่วงใย

ที่พี่อู๊ดของอุ้ม มีให้อุ้มอยู่เต็มเปี่ยมเลย จริงๆ    :-* :-* :-* :-*


 TAKE  CARE   


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ ธันวาคม 26, 2008, 04:26:09 PM

.....ทั้งที่เห็นด้วยตา (ตอนล้มขณะก้าวขึ้นเรือ)  อุ้มก็สามารถลุกขึ้นได้เองอย่างรวดเร็ว  ในขณะที่ พี่ๆที่เห็นภาพนั้น

ตกใจกันหมดเลย ............


จริงๆ ที่รีบลุกเนี่ย... เพราะว่า "อาย" ค่ะ กลัวโดนเก็บภาพเป็นหลักฐาน... จำได้ว่า มีกล้องแถวนั้น ตรึมเลย  ???


ขอบคุณมากค่ะที่เป็นห่วง เมื่อวันพฤหัส พลาดนัดหมอ เนื่องด้วยติดภาระกิจมากมายจนไปไม่ทัน เลื่อนนัดใหม่เป็นเสาร์นี้.. คงได้ยาแก้อักเสบมารักษาต่อแน่เลย ผลเป็นยังไง จะรีบมา "เหลา" นะคะ
 :-*


หัวข้อ: Re: มารู้จัก "ไซนัส" ว่าเป็นเช่นไร
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ธันวาคม 27, 2008, 12:13:20 AM

ดูแลและเป็นห่วงตัวเองให้มากกว่านี้หน่อยน้องรัก  เก็บสังขารไว้ใช้นานๆ  พักได้ก็พัก  อดเปรี้ยวไว้กินหวานนะครับ .....

พี่สองสายจะเป็นกำลังใจและเอาใจช่วยให้หายขาดนะครับ