เต่า "กาก้า"กลัดมัน กดเมียตายคาบ่อ

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผบ.สอ.รฝ.) ให้อิสรภาพเจ้า "กาก้า" เต่ารุ่นวัย 15 ปี กลัดมันป่วนบ่อเลี้ยงไล่ผสมพันธุ์เต่าเล็กกระเจิง กดเต่าเล็กวัย 5 ปี ปล่อยน้ำเชื้อนานเกินควรโผล่หายใจไม่ได้ตายคาบ่อ ต้องรีบปล่อยคืนสู่ธรรมชาติด่วนหาตัวเมียในทะเล ส่วนเจ้าโตโต้วัยเดียวกัน กลัดมันจับแยกขังเดี่ยวเพียง 1 คืน ตรอมใจตาย

เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 10 มิ.ย. พลเรือตรีชัยวัฒน์ ศรีอักขรินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผบ.สอ.รฝ.) อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับรายงานจาก นาวาเอกโฆสิต เจียมศุภกิติ์ ผู้อำนวยการศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผอ.ศสร.สอ.รฝ.) และนาวาเอกทินกร กาญจนเตมีย์ รองผู้อำนวยการศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (รอง ผอ.ศสร.สอ.รฝ.) ว่า ลูกเต่าตะนุเพศเมียวัย 5 ปี ที่เลี้ยงไว้ในบ่อรวมถูกเจ้ากาก้า เต่าเพศผู้วัย 15 ปี น้ำหนักประมาณ 70-80 กิโลกรัม ความยาวลำตัว 84 เซนติเมตร กว้าง 77 เซนติเมตร ไล่ปล้ำกดทับผสมพันธุ์เพื่อปล่อยน้ำเชื้อนานเกินไปไม่สามารถโผล่ขึ้นมาหายใจได้ตายจำนวน 1 ตัว ภายในบ่อเลี้ยงรวม

หลังจากทราบเรื่อง พลเรือตรีชัยวัฒน์ได้เดินทางมายังศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ซึ่งอยู่ในความดูแลของศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ศสร.สอ.รฝ.) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมตัดสินใจนำเจ้ากาก้า วัย 15 ปี ปล่อยลงสู่ทะเลเพียงตัวเดียวที่หาดทรายหน้าศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เพื่อให้อิสระไปหาเต่าเพศเมียผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ เพราะเต่าเพศผู้เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์จะปล่อยน้ำเชื้อให้เพศเมียได้ถึง 4-8 ตัว แต่ในบ่อเต่าไม่มีเพศเมียวัยเดียวกันให้ผสมพันธุ์ ทำให้เกิดปัญหาไล่กดทับปล่อยน้ำเชื้อสู่เต่าวัยอ่อนกว่าจนตายในที่สุด ตามธรรมชาติเต่าเพศผู้เกิดมามีหน้าที่ผสมพันธุ์ปล่อยน้ำเชื้อให้เพศเมียอย่างเดียว เมื่อปล่อยลงสู่ทะเลแล้วจะไม่มีโอกาสกลับขึ้นสู่บนบกจนกว่าจะตายในที่สุด และก่อนทำพิธีปล่อยได้ฝังไมโครชิฟ ล็อต 2679 หมายเลข 122762095 A ไว้ด้วย เมื่อผู้ใดจับได้จะได้ทราบว่าเป็นเต่าพ่อพันธุ์ที่ปล่อยไปจากศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือสัตหีบ ชลบุรี

พลเรือตรีชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เพียงไม่นานได้มีพ่อเต่าวัยเจริญพันธุ์ 15 ปี ชื่อโตโต้ ตรอมใจตายหรือหัวใจวายตายไปแล้ว 1 ตัว เพราะสาเหตุไล่ผสมพันธุ์กดทับเต่าเพศเมียที่อายุน้อยกว่าระยะเวลานานๆ จนเต่าอายุน้อยอ่อนเพลียไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นมาหายใจตายไปแล้ว 1 ตัว เกรงว่าเต่าจะตายเพิ่มอีกจึงได้จับเจ้าโตโต้แยกขังเดี่ยว เพียงไม่ทันข้ามคืนก็ตาย ส่วนสาเหตุที่ต้องปล่อยเจ้าเต่า กาก้า คืนสู่ธรรมชาติก็เช่นกัน เพราะเกรงว่าประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก หรือถ้าขืนขังรวมไว้กับเต่าตัวอื่นๆ คงไล่ปล้ำกดทับเต่าเพศเมียที่อายุอ่อนกว่าและยังไม่ถึงวัยเจริญพันธุ์ตายซ้ำอีก จึงตัดสินใจปล่อยคืนสู่ธรรมชาติไปหาเพศเมียผสมพันธุ์ในทะเล

นาวาเอกทินกร กาญจนเตมีย์ รองผู้อำนวยการศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทางศูนย์ฯ ได้นำเต่าขนาดใหญ่และขนาดกลางประมาณ 30 ตัว เลี้ยงรวมกันไว้ในบ่อยาวประมาณ 10 เมตร กว้าง 5 เมตร เพื่อไว้สำหรับนักเรียน นิสิตนักศึกษา ประชาชน นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม ศึกษาวงจรชีวิตเต่าทะเลได้ชมกันทุกวัน แต่ปริมาณเต่าไม่สมดุลเรื่องเพศและวัยทำให้เกิดปัญหา เมื่อเต่าถึงวัยเจริญพันธุ์แล้วไม่มีตัวเมียผสมพันธุ์ ต้องไล่กดทับผสมกับตัวอื่นที่วัยไม่พร้อมเจริญพันธุ์หรืออายุน้อยกว่าหลายปี ทำให้เกิดปัญหาตามมา ต่อจากนี้ไปจะต้องนำเต่าเพศผู้เพศเมียที่กำลังเจริญพันธุ์จับแยกเลี้ยงไว้ด้วยกัน เพื่อไม่ให้เต่าขัดหรือฝืนต่อธรรมชาติ และจะดำเนินการหาเต่ามาเลี้ยงให้เกิดความสมดุลต่อไปอีกด้วย

ทางด้าน นายมิคมินทร์ จารุจินดา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก เปิดเผยว่า สำหรับกรณีที่พ่อเต่าวัยเจริญพันธุ์ของศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือตายไปแล้วนั้น ได้ทราบถึงสาเหตุแล้ว ยอมรับว่าไม่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ถือว่าเป็นหนึ่งในล้านที่พบและเกิดขึ้น อาจเป็นเพราะว่าศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าในแต่ละแห่งที่มีการเลี้ยงเต่าทะเลมีเต่าเพศผู้น้อย หรือบางแห่งไม่มีเลย จึงได้มีโอกาสขังรวมกันจำนวนมากระหว่าง 2 เพศร่วมกันเหมือนของทหารเรือ ซึ่งโดยธรรมชาติมีความเป็นไปได้สูงที่เต่าอาจหัวใจวายฉับพลันได้ เนื่องจากขณะที่อยู่ร่วมกันก็จะกดทับตัวเมียอยู่ใต้น้ำเวลานาน และอาจกดทับหลายตัวทำให้ตัวเองเกิดความอ่อนเพลียไปด้วยและยังมีการหลั่งน้ำเชื้อออกมาจำนวนมากเมื่อจับแยกขังไว้ อีกทั้งยังมีการหลั่งน้ำเชื้อออกมาอีกนั้น ทำให้เกิดช็อกคอตกจมูกจมน้ำหายใจไม่ออก หัวใจวายฉับพลันได้ เป็นเรื่องแปลกสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพบหนึ่งในล้านตัว แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะเต่าก็เป็นสิ่งมีชีวิต อ่อนเพลีย หัวใจวายตายเหมือนกับสิ่งมีชีวิตทั่วไป ฉะนั้นถ้าเต่าเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ต้องหาแม่เต่าให้ผสมพันธุ์โดยเร็ว จะเกิดประโยชน์ในการแพร่ขยายพันธุ์เต่าให้มากขึ้นอีกด้วย.

ข่าวจาก X-cite ไทยโพสต์ ประจำวันที่ 12 มิถุนายน 2550

	ผู้เขียน	หัวข้อ: เต่า "กาก้า"กลัดมัน กดเมียตายคาบ่อ (อ่าน 3370 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้