กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 21, 2024, 05:05:51 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อขวดน้ำเป็นภัยใน.....รถยนต์..!!!!  (อ่าน 8819 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
conundrum
อีกไม่กี่กระทู้ก็ได้5ดาวแล้วเร่งมือหน่อย
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 454


« ตอบ #15 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2008, 07:30:35 AM »

ระวังอีกอย่างคือ ขวดน้ำจะกลิ้งเข้าไปติดในคันเบรก + คันเร่ง (+ คลัชท์ สำหรับเกียร์แมนนวล)
บันทึกการเข้า
Vita
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 983


อยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ เป็นดี..!


« ตอบ #16 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2008, 07:33:06 AM »

ปัจจุบันมีการใช้กล่องโฟม ถุงพลาสติกใส่อาหารร้อน และเย็นรวมทั้งขนมและน้ำดื่มที่นิยมบรรจุในขวดพลาสติกขุ่นและใส
นอกจากปัญหาในการกำจัดขยะแล้ว ยังมีอันตรายแฝงมาด้วย ซึ่งผู้คนส่วนมากทั้งผู้ขายและผู้ซื้อไม่รู้
ในบทความนี้จะพูดถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับคนเรา หากไม่ระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยง

พลาสติกที่ผลิตกันทุกวันนี้ แบ่งออกได้ 7 ชนิดด้วยกัน
แต่ละชนิดจะระบุเป็นตัวเลข 1-7 ภายในเครื่องหมายลูกศรสามเหลี่ยมให้คนสามารถดูได้
เช่น หากเป็นขวดหรือน้ำดื่มก็จะอยู่ด้านล่างสุดของขวด

ชนิดที่ 1 เป็น พีอีทีอี (PETE) ชื่อเต็ม คือ polyethylene terephthalate ethylene
เป็นพลาสติกใสใช้บรรจุน้ำดื่ม น้ำอัดลม เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ น้ำยาซักผ้า น้ำยาทำความสะอาด และ อาหารบางชนิด

ชนิดที่ 2 เป็น เอชดีพีอี (HDPE) ชื่อเต็มคือ high density polyethylene เป็นพลาสติกสีทึบ ใช้บรรจุนมสด
น้ำดื่ม น้ำยาฟอกขาว น้ำยาซักผ้า แชมพู ขวดยา และถุงพลาสติก

ชนิดที่ 3 เป็นพีวีซี (PVC) เป็นชื่อย่อของ polyvinyl chloride ใช้เป็นพลาสติกสำหรับห่อหุ้ม
เชือกพลาสติก เป็นขวดบรรจุชนิดบีบ มักจะใช้บรรจุน้ำมันพืช น้ำมันซักผ้า น้ำยาเช็ดกระจก ที่ใช้กันมากคือ
ถุงหิ้วที่ใช้ใส่ของกันตามร้านค้า ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อ

ชนิดที่ 4 เป็นแอลดีพีอี (LDPE) ชื่อเต็มเป็น low density polyethylene ใช้เป็นถุงหิ้ว
ใช้ห่อหุ้ม ขวดพลาสติกบางชนิด และที่ใช้กันมากที่สุดก็คือ ถุงเย็นใส่อาหาร ขนม กาแฟเย็น ชาเย็น

ชนิดที่ 5 เป็นพีพี (PP) ชื่อเต็มคือ polypropylene ใช้เป็นยางลบ ใช้ บรรจุภาชนะไซรัป
โยเกิร์ต หลอดดูด ขวดนมเด็ก ถุงร้อนใช้สำหรับบรรจุอาหารร้อน เช่น ก๋วยเตี๋ยว กาแฟร้อน
เป็นถ้วยกาแฟ ชา ชนิดใช้แล้วทิ้ง

ชนิดที่ 6 เป็นพอลีสไตรีน (polystyrene) เป็นพลาสติกที่ใช้เรียกทั่วไปว่าโฟม ใช้บรรจุรองรับการกระแทกพวกอุปกรณ์
ตู้เย็น วิทยุ วิทยุ โทรทัศน์ฯลฯ ในกล่องกระดาษอีกที ใช้ทำกล่องสำหรับบรรจุอาหารที่เรียกว่า ข้าวกล่อง ที่ใส่ไข่
ถ้วยที่ใช้แล้วทิ้ง ช้อน ส้อม มีดพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้ง

ชนิดที่ 7 เป็นชนิดอื่นๆ เช่น พอลีคาร์บอนเนต (polycarbonate) ทำเป็นขวดน้ำ เหยือกน้ำ ขวดนม
ขวดน้ำบรรจุ 5 ลิตร ขวดน้ำนักกีฬา ใช้บุกระป๋องโลหะสำหรับใส่อาหาร เป็นถ้วยใส ช้อนส้อม มีดชนิดใส

ขณะนี้เริ่มมีพลาสติกชนิดใหม่ คือพลาสติกชีวภาพ (bio-based plastics) เป็นพลาสติกที่ทำจากวัตถุดิบที่เป็นของธรรมชาติ เช่นแป้งมัน ข้าวโพด

ทุกวันนี้จะเห็นว่ามีการใช้ถุงพลาสติกใส่อาหารหิ้วกลับบ้านกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารร้อนและ เย็น
เช่น น้ำเต้าหู้ ก๋วยเตี๋ยว แกง หรือผัดต่างๆ กาแฟเย็น ชาเย็น โอเลี้ยง ขนมหวาน ผลไม้ปอก และ
อาหารสำเร็จรูปเป็นต้น

สำหรับอาหารประเภทที่ไม่มีน้ำ จะนิยมใส่กล่องโฟมเป็นภาชนะที่นิยมใช้กันมากมาย เช่น ข้าวผัด ผัดไทย ข้าวแกง
ข้าวไข่เจียว โรตี รวมทั้งถ้วยที่ใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เพียงแค่ใส่น้ำร้อนก็พร้อมกินได้

ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาห้ามใช้พวกพลาสติกที่เป็นโฟมที่ทำจากสไตรีนมาเป็นภาชนะที่จะบรรจุอาหารร้อนและเย็น
หากจะใช้ต้องไม่ใช้กับของร้อน เพราะสารสไตรีนมีโอกาสหลุดออกมา สารเคมีตัวนี้จะไปทำลายฮอร์โมนในร่างกายของเรา
มีผลต่อสมอง ระบบประสาท เม็ดเลือดแดง ตับ ไต

ในพลาสติกพวกโพลีคาร์บอนเนตจะมีสาร BPA ออกมา ซึ่งสารตัวนี้เป็นสารที่มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน
(estrogen) ของเพศหญิง ทำให้สเปริม์ลดลง เปลี่ยนพฤติกรรมเพศ ต้านทานอินซูลิน (insulin) มีโอกาสเกิดเป็นมะเร็ง

พลาสติกชนิดที่ 3 ที่เป็นพีวีซี สารไวนิลคลอไรด์ (vinyl chloride) เป็นสารพิษต่อคนพบว่ามีคนงานที่สัมผัสกับ
สาร พีวีซี เป็นมะเร็งตับ นอกจากนี้จะปล่อยสาร DEHA ออกมาด้วย พบว่านิยมใช้ถุงหิ้วขนาดเล็กใส่ปาท่องโก๋
กล้วยแขก ซึ่งเป็นอันตรายดีที่บางรายใช้กระดาษขาวรองรับแต่ก็มีส่วนสัมผัสกับอาหาร

พลาสติกทุกชนิดยกเว้นที่เป็นพลาสติกชีวภาพล้วนแล้วแต่มีพิษมากน้อยต่างกัน รวมทั้งที่เป็นขวดน้ำดื่มชนิดใส
ชนิดทึบ อย่างเช่นมีสาร DEHA เป็นสารที่เติมลงไปในการผลิตพลาสติก ดังนั้นจึงมีข้อแนะนำว่า
ไม่ควรเอากลับมาใช้แล้วใช้อีกเพราะว่าการใช้แบบนี้จะทำให้สารเคมีค่อยๆ ถูกชะละลายออกมาทีละน้อย
ตามอายุการใช้งาน

อันตรายอีกประการหนึ่งก็คือพลาสติกหลายชนิดโดยเฉพาะพวกที่เป็นแผ่นฟิลม์หุ้มห่อ จะต้องไม่เอาไปทำให้ร้อนด้วยไมโครเวฟ โดยเฉพาะอาหารที่เป็นไขมัน เพราะว่าจะทำให้ชะละลายสารเคมีออกมา ต้องเป็นชนิดที่ระบุว่าปลอดภัยกับไมโครเวฟเท่านั้น เช่นพวกเอสดีพีอี และ พีพี

ขวดน้ำดื่มพลาสติกทุกชนิดจะต้องไม่ใส่น้ำร้อน เพราะว่ามันจะไปเพิ่มความสามารถในการชะละลายสารเคมีออกมาได้มากขึ้น

ขวดนมเด็กจะต้องไม่เป็นพอลีคาร์บอนเนต หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ให้ใช้อย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ
ถ้ามีรอยขีดข่วนต้องทิ้งไปต้องอุ่นนมนอกขวดแล้วจึงเทใส่เข้าไป อย่าอุ่นทั้งขวด

พลาสติกเกือบทุกชนิดก่อปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เพราะว่าเมื่อนำไปฝังกลบแล้วมันจะไม่ย่อยสลาย ถึงจะเบาแต่ก็
มีปริมาณมากทำให้สิ้นเปลืองเนื้อที่ ส่วนการเผาขยะที่เป็นพลาสติกชนิดพีวีซี จะเป็นตัวก่อให้เกิดสารไดออกซิน (dioxin)
ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ยกเว้นต้องเผาที่เตาอุณหภูมิสูงถึง 1300 องศาเซลเซียส

นอกจากนี้ยังพบว่ากระบวนการทำพลาสติกจะต้องใช้พลังงานมากกว่าการทำแก้ว ดังนั้นควรจะกลับมาใช้
ขวดแก้วบรรจุน้ำดื่ม น้ำอัดลม และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ การผลิตพลาสติกแต่ละชนิดมีการปล่อยสารพิษ
เข้าไปในอากาศ ในน้ำทำให้เกิดภาวะมลพิษ รวมทั้งต่อสุขภาพของคน และต่อสิ่งแวดล้อม

มีพลาสติกชนิดที่ 1 และ 2 เท่านั้นที่นำมา รีไซเคิล(recycle) ได้ จะต้องไม่นำพลาสติกทุกชนิดกลับมาใช้ใหม่ (reuse)

ในกรณีที่จะต้องใช้บรรจุอาหาร จะต้องเป็นพลาสติกชนิดที่ 1, 2, 4 และ 5 เท่านั้น ต้องหลีกเลี่ยงพลาสติกพวก
3 , 6 และ 7 ยกเว้นพลาสติกจากสารธรรมชาติเท่านั้น หลีกเลี่ยงดื่มน้ำจากขวดพลาสติก ยกเว้นการเดินทาง
น้ำประปานั้นดื่มได้หากไม่ค่อยมั่นใจก็ให้กรองอีกครั้งด้วยคาร์บอนกัมมันต์

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพควรจะปฏิบัติดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะที่เป็นพลาสติกในการทำให้อาหารร้อนด้วยไมโครเวฟ โดยเฉพาะอาหารที่เป็นพวกน้ำมันและ
ไขมัน เพราะว่าจะไปชะละลายสารเคมีออกมามากขึ้น
2. ระวังไม่ใช้แผ่นพลาสติกห่อหุ้มอาหาร ควรใช้กระดาษที่เป็นไข หรือกระดาษเช็ดมือปิดอาหาร และอย่าให้พลาสติกสัมผัสอาหาร
3. ใช้ภาชนะอื่นๆ แทนพลาสติก เช่น กล่องกระดาษ หม้อปิ่นโต กระทงใบตอง


กล่าวโดยสรุป ภาชนะที่เป็นพลาสติกมีหลายชนิดไม่เหมาะสม ที่จะนำมาบรรจุอาหาร ขนม รวมทั้งไม่เหมาะสมนำมาบรรจุน้ำดื่ม เพราะว่าร่างกายมีโอกาสที่จะได้รับสารพิษทีละน้อยๆ โดยเฉพาะกล่องโฟมที่นิยมใช้กันทุกวันนี้ ซึ่งจะปล่อยสไตรีนโมนอเมอร์ออกมาเป็นสารก่อมะเร็ง ต้องไม่ใช้กล่องโฟมบรรจุอาหารร้อน ต้องไม่ใช้พลาสติกที่ทำด้วยพีวีซี ใส่อาหารของกินต่างๆ จึงควรใช้เฉพาะกรณีที่จำเป็น และไม่ควรบริโภคอาหารและน้ำจากภาชนะพวกนี้เป็นประจำ

ที่มา: วารสารเชียงใหม่ปริทัศน์ฉบับเดือนตุลาคม 2549, หน้า19
[/color]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 21, 2008, 07:36:31 AM โดย Vita » บันทึกการเข้า

สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
สายชล
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8186


Saaychol


« ตอบ #17 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2008, 07:34:37 AM »



หุๆ....สงสัยผู้ชายที่บ้านและแถวบ้านสองสายเป็นมะเร็งกันไปหมดแล้ว เพราะดื่มน้ำจากขวดพลาสติกมาหลายปี รวมใช้พลาสติกห่อหุ้มอาหารอีก.....
บันทึกการเข้า

Saaychol
Vita
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 983


อยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ เป็นดี..!


« ตอบ #18 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2008, 07:45:42 AM »

เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้ฟังงานวิจัย(ในไทย) ที่ศึกษาเกี่ยวกับ ซีโนเอสโตรเจน(xeno-estrogen)
พบว่า ผลิตภัณฑ์พลาสติก แทบทุกชนิด เมื่อได้รับ ความร้อนประมาณ 50 องศาเซนติเกรด ขึ้นไป
ที่ผิวพลาสติกนั้น จะเกิด สารซีโนเอสโตรเจน(xenoestrogen) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็ง

และก็ได้เตือนถึงน้ำขวดพลาสติก ที่เก็บไว้ในรถ ว่า.....ไม่ควรทิ้งน้ำไว้ในรถ ที่มีอุณหภูมิสูง
เมื่อซื้อมาแล้วควรรีบดื่มให้หมด ไม่ควรเก็บไว้นาน

นอกจากนี้ยังได้พูดถึง การนำภาชนะพลาสติกอื่นๆ เช่น ถ้วย ชาม ถุง ฯลฯ เมื่อนำมาใส่ของร้อน
ที่มีอุณหภูมิ มากกว่า 50 องศาเซนติเกรด ว่า ล้วนก่อให้เกิดสาร ซีโนเอสโตรเจน(xeno-estrogen)
บันทึกการเข้า

สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #19 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2008, 07:47:59 AM »


อเคครับ.....ต่อไปนี้ผมจะไม่ดื่มน้ำที่บรรจุในถุงยางอนามัย....เอ๊ยไม่ใช่น้ำในขวดพลาสติกอีกแล้ว

เพราะผมกลัวจะเป็นมะเร็งปากมดลูก......เอ๊ยไม่ใช่.....มะเร็งรังไข่.....เอ๊ยไม่ใช่.....มะเร็งเต้านมอันอวบอั๋นของผม....

เฮ้ออออ.....ทิดวิทย์นี่ เอาสองเรื่องมาปนกัน จนทำใหผมชักจะแปรปรวน.....


บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
Vita
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 983


อยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ เป็นดี..!


« ตอบ #20 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2008, 07:48:27 AM »

ชายควรหมั่นตรวจ มะเร็งเต้านม(ด้วยตนเอง)!!!

เพราะพบมะเร็งเต้านมในผู้ชายเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากสารซีโนเอสโตรเจนไปกระตุ้นยีนมะเร็งในร่างกายให้ทำงาน
โดย สารชนิดนี้สามารถเข้าสู่ร่างกาย เช่น การดื่มน้ำเย็นจากขวดน้ำพลาสติก พลาสติกที่ใช้ห่ออาหาร  
อาหารกระป๋อง การใช้เครื่องสำอาง ลิปสติก โลชั่นทาผิว ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของเมทิลพาราเบน
รวมไปถึงการใช้ถุงยางอนามัยแบบฆ่าเชื้ออสุจิ  
บันทึกการเข้า

สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
Vita
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 983


อยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ เป็นดี..!


« ตอบ #21 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2008, 07:56:13 AM »

อัตรตายด้วยโรคมะเร็งประเทศไทย 
2545        จำนวน      46,874     คน     ต่อแสนประชากร        อันดับ 1
2546        จำนวน      49,682    คน     ต่อแสนประชากร         อันดับ 1
2547        จำนวน       60,818    คน     ต่อแสนประชากร        อันดับ 1
2548       
2549       
2550       

มีข้อมูลแค่ 3 ปี ข้อมูลล่าสุดหายากมาก
แต่ดูแนวโน้มแล้วน่ากลัวครับ...........ในปี 2547 คนไทยทุกๆ 10 คน เป็นมะเร็ง 6 คน !!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 21, 2008, 07:59:19 AM โดย Vita » บันทึกการเข้า

สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
Vita
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 983


อยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ เป็นดี..!


« ตอบ #22 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2008, 08:05:19 AM »

        นพ.ดุสิต ศรีสกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลานนา เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรคมะเร็งเป็นปัญหาใหญ่ของสาธารณสุขโลก
โดยแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งถึง 6.2 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 12.6 ของสาเหตุการตายทั้งหมด
ซึ่งมากกว่าการตายด้วยโรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย

         นอกจากนี้สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ยังได้วิเคราะห์จากข้อมูลสถิติของมะเร็งที่พบบ่อยและมีผลกระทบต่อการสาธารณสุข
ได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม แล้วประมาณการอนาคต
โรคมะเร็งในประเทศไทยไว้ด้วยว่า แนวโน้มของมะเร็งที่จะคุกคามชีวิตของสตรีไทยมากขึ้น คือมะเร็งเต้านม แตกต่างจากอดีต
ที่พบว่ามะเร็งปากมดลูกมาเป็นอันดับ 1 ในขณะที่มะเร็งเต้านมอยู่ในอันดับรองลงมา

โดยในปี 2551 นี้ คาดว่า จะมีผู้ป่วยใหม่ด้วยโรคมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นเป็น 12,000 ราย มากกว่า มะเร็งปากมดลูก
ที่คาดว่าจะมีผู้ป่วย 8,000 ราย และผู้ป่วยส่วนใหญ่มีช่วงอายุระหว่าง 30-50 ปี

ที่มา:เชียงใหม่นิวส์ /Update วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2551
บันทึกการเข้า

สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
Plateen
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 522



« ตอบ #23 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2008, 08:57:13 AM »


อเคครับ.....ต่อไปนี้ผมจะไม่ดื่มน้ำที่บรรจุในถุงยางอนามัย....เอ๊ยไม่ใช่น้ำในขวดพลาสติกอีกแล้ว

เพราะผมกลัวจะเป็นมะเร็งปากมดลูก......เอ๊ยไม่ใช่.....มะเร็งรังไข่.....เอ๊ยไม่ใช่.....มะเร็งเต้านมอันอวบอั๋นของผม....

เฮ้ออออ.....ทิดวิทย์นี่ เอาสองเรื่องมาปนกัน จนทำใหผมชักจะแปรปรวน.....





ก๊ากกก....
เอผมว่าชักยังไง ย้ายไปไว้ห้องนั่งเล่นดีกว่าไม๊ครับ


ขอบคุณเฮียซีแมนที่สรรหาข้อมูลมาฝากกันเสมอ
คราวนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่น่ากลัวเหมือนคราวที่เรื่องมือถือระเบิด เล่นเอาต้องวิ่งหาซื้อซองมาใส่ซะให้วุ่น

แต่ผมสงสัยว่าพออ่านเรื่องของทิดวิทย์แล้วผมอาจต้องหิ้วปิ่นโตติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเผื่อซื้ออาหารกลับเข้าบ้านจะได้ให้ร้านเค้าใส่ให้เลย
บันทึกการเข้า

For God so loved the world, that he gave his only begotten Son, that whosever believeth in him should not perish, but have everlasting life[John3:16]
Vita
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 983


อยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ เป็นดี..!


« ตอบ #24 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2008, 09:01:07 AM »

ทำซองใส่มือถือกันระเบิด ดีไหมครับ
ผลิตจากเส้นใยเคฟล่า(ที่ใช้ทำเสื้อเกราะ มีความเหนียวเป็นพิเศษ) 
บันทึกการเข้า

สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา  สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา
Sea Man
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2208


ท้องฟ้า/ภูเขา/ป่าไม้/ทะเล


« ตอบ #25 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2008, 09:39:00 AM »

....จ๊ากๆๆๆๆ..........
บันทึกการเข้า

.....รู้จักคิด....ฟังความคิดผู้อื่น....พร้อมเปลี่ยนแปลง....ไปสู่สิ่งใหม่และดีกว่า.....
หน้า: 1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.32 วินาที กับ 22 คำสั่ง