กระดานข่าว Save Our Sea.net
พฤษภาคม 21, 2024, 03:57:52 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 1 กันยายน 2551  (อ่าน 1880 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« เมื่อ: กันยายน 01, 2008, 12:47:01 AM »

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกระจายโดยที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 1– 6 ก.ย. ร่องความกดอากาศต่ำจะพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศมีฝนเพิ่มมากขึ้น


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 1 – 4 ก.ย. ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน และแพร่ระมัดวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักไว้ด้วย



* Forecast2.jpg (41.73 KB, 693x430 - ดู 192 ครั้ง.)

* Earthquake.jpg (35.4 KB, 400x442 - ดู 204 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 01, 2008, 12:58:18 AM »

ไทยโพสต์


นิวออร์ลีนส์อพยพคนหนีกุสตาฟ

เฮอริเคน "กุสตาฟ" เคลื่อนสู่แหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากถล่มคิวบาด้วยความรุนแรงระดับ 4 ทางการนิวออร์ลีนส์สั่งให้อพยพประชาชนหนี "โคตรเฮอริเคน"

  นักวิเคราะห์น้ำมันเตือนกุสตาฟอาจสร้างความเสียหายแก่แหล่งผลิตมากกว่า "แคทรินา" ที่พร่าผลาญนิวออร์ลีนส์เมื่อ 3 ปีก่อน

เฮอริเคนลูกนี้เข้าถล่มทั่วคิวบาตั้งแต่ช่วงบ่ายวันเสาร์ด้วยความรุนแรงระดับ 4 จากมาตรวัด  5 ระดับ   โดยได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชนและถนนหนทาง  ทำให้ต้นไม้และเสาโทรศัพท์หักโค่น แต่ทางการคิวบาได้เตรียมการรับมือโดยอพยพประชาชนล่วงหน้าอย่างน้อย 300,000 คน ใน 4 จังหวัดที่พายุพาดผ่าน จึงไม่มีรายงานความสูญเสียต่อชีวิต แต่มีคนบาดเจ็บหลายราย

สัปดาห์ก่อนหน้านี้กุสตาฟได้เข้าถล่มหลายประเทศแถบทะเลแคริบเบียน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 86 คน ในสาธารณรัฐโดมินิกัน, เฮติ และจาเมกา

ศูนย์เตือนภัยเฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐทำนายว่ากุสตาฟจะอ่อนกำลังลงหลังจากเคลื่อนผ่านคิวบา และมุ่งหน้าเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก โดยนักอุตุนิยมวิทยาเผยในวันอาทิตย์ว่า ความเร็วลมของพายุลูกนี้ลดลงเหลือเพียง   201 กม./ชม. หรือเท่ากับระดับ 3 แต่มีความเป็นไปได้ที่กุสตาฟจะเพิ่มกำลังเมื่อเคลื่อนผ่านกระแสน้ำอุ่นในอ่าว  โดยอาจกลับไปสู่ระดับ  4 ในวันจันทร์ขณะมันมุ่งหน้าเข้าเมืองชายฝั่งสหรัฐ  ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับเฮอริเคนแคทรินาที่เข้าถล่มเมืองนิวออร์ลีนส์ในมลรัฐลุยเซียนา เมื่อเดือนสิงหาคม 2548

ก่อนหน้านี้นักอุตุนิยมวิทยากล่าวกันว่า  กุสตาฟอาจเพิ่มกำลังเป็นโคตรเฮอริเคนระดับ 5 ที่มีความเร็วลมสูงกว่า  249 กม./ชม. ได้ในวันจันทร์ ช่วงที่มันเคลื่อนผ่านคิวบาเมื่อวันเสาร์นั้น ความรุนแรงของมันเฉียดใกล้โคตรเฮอริเคนขณะผ่านชุมชนลอสปาลาซิออสในเมืองปินาร์เดลริโอ   แหล่งผลิตยาสูบแหล่งใหญ่ของคิวบา  ศูนย์อุตุฯ  คิวบาเผยด้วยว่า สถานีตรวจสภาพอากาศแห่งหนึ่งวัดความเร็วลมของกุสตาฟได้ถึง 340 กม./ชม.

เจ้าหน้าที่ในเมืองนิวออร์ลีนส์ ซึ่งยังไม่ลืมเลือนเหตุการณ์ที่แคทรินาได้คร่าชีวิตคน 1,500 คน และสร้างความเสียหายแก่เมืองนี้  80,000 ล้านเหรียญฯ ได้สั่งการให้อพยพประชากรทั้งหมดจากพื้นที่ต่ำตั้งแต่  8  โมงเช้าวันอาทิตย์  "ผมต้องแจ้งต่อพวกท่านว่า  พายุลูกนี้เป็นแม่ของพายุทั้งมวล"  เรย์ นาจิน นายกเทศมนตรีนิวออร์ลีนส์ และว่าประชาชนต้องหนีไปให้พ้นเมืองนี้ เพราะกุสตาฟไม่ใช่พายุที่จะล้อเล่นได้

ตอนที่แคทรินาถล่มนิวออร์ลีนส์วันที่ 29 สิงหา.นั้น มันมีความรุนแรงแค่ระดับ 3 แต่คลื่นพายุซัดฝั่งที่สูง 8.5 เมตรได้พังทำนบกั้นน้ำรอบเมือง ทำให้พื้นที่กว่า 80% จมน้ำ

ทางหลวงหลายสายรอบนิวออร์ลีนส์ในวันอาทิตย์อัดแน่นด้วยปริมาณรถ ขณะที่ชาวอเมริกันมากกว่า 1  ล้านคนในเมืองนี้และหลายเมืองชายฝั่ง  พากันจับจองที่นั่งบนรถบัส,  รถไฟ,  เครื่องบิน  หรือใช้รถยนต์ส่วนตัวขนข้าวของหนีออกนอกเมือง

สำนักสำมะโนประชากรของสหรัฐประเมินว่าจะมีชาวอเมริกันมากกว่า   11.5  คนที่ได้รับผลกระทบจากเฮอริเคนกุสตาฟ ขณะที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์มากกรณีการรับมือภัยพิบัติจากแคทรินา  รับปากจะสนับสนุนผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา,  มิสซิสซิปปี,  แอละแบมา  และเทกซัส อย่างเต็มที่

บรรดาบริษัทพลังงาน  ที่มีแท่นขุดเจาะ  4,000  แท่นในอ่าว  ซึ่งผลิตน้ำมันดิบ  1 ใน  4 และก๊าซธรรมชาติ 15% ของสหรัฐ ได้อพยพเจ้าหน้าที่และสั่งปิดการผลิต 3 ใน 4 แล้ว

เฮอริเคนแคทรินาและเฮอริเคนริตาซึ่งถล่มไล่หลัง 3 สัปดาห์ ได้ทำลายแท่นน้ำมันมากกว่า 100 แห่งในอ่าว  แต่จิม  รูลลิเออร์  นักวิเคราะห์จากพลานาไลติกส์  เผยว่า พายุลูกนี้จะอันตรายมากกว่าแคทรินา และจะก่อผลกระทบแก่แหล่งผลิตน้ำมันเลวร้ายยิ่งกว่า.

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
สายน้ำ
Moderator
คุณคือสุดยอดรับไปเลย5ดาว
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4627



« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 01, 2008, 01:05:47 AM »

แนวหน้า


ทม.สัตหีบผุดฉลามขาว ดึงยช.ร่วมอนุรักษ์ สวล.   

 ชลบุรี:นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเทศบาลเมือง (ทม.) สัตหีบ เป็นประธานเปิดโครงการ ฉลามขาว ปี 2551 ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทั้งนี้เพื่อนำนักเรียนในเขต ทม.สัตหีบ จำนวน 120 คน เข้าร่วมกิจกรรมปลูกปะการัง ต้นโกงกาง ปลูกป่าชายเลน และร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง เป็นการสร้างจิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อมภายในท้องถิ่นและลดภาวะโลกร้อนที่กำลังเป็นที่น่าวิตกในปัจจุบันนอีกด้วย


****************************************************************************************************************************


ผุดชุมชนต้นแบบดูแลประมง    

นายนาวิน ควรถนอม ผู้ตรวจราชการกรมประมง เผยว่า ทรัพยากรประมงเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ แม้จะเป็นทรัพยากรที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ แต่จากการเพิ่มขึ้นของประชากร การพัฒนาด้านเทคโนโลยีการทำประมง ประกอบกับการทำประมงที่ไม่เป็นไปตามมาตรการทางกฎหมาย ล้วนเป็นสาเหตุให้ทรัพยากรประมงลดน้อยลง ไม่สมดุลต่อศักยภาพการผลิต ซึ่งที่ผ่านมาแม้ภาครัฐจะมีกฎระเบียบมาตรการต่างๆ ในการควบคุมบริหารจัดการทรัพยากรประมงให้ใช้อย่างเกิดประโยชน์คุ้มค่า แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้

จากปัญหาดังกล่าว กรมประมงได้เล็งเห็นความสำคัญในการมีส่วนร่วมของชุมชนประมง เพราะหัวใจความสำเร็จอย่างสูงสุดในการบริหารจัดการทรัพยากรประมง คือ การเสริมสร้างให้เกิดความคิด ความเข้าใจ และนำไปสู่การปฏิบัติในชุมชนของชาวประมงให้ได้ว่าทรัพยากรประมงเป็นของชุมชน ชุมชนต้องบริหารจัดการทรัพยากรประมงของชุมชนเองให้ได้

ดังนั้นสำนักบริหารจัดการด้านการประมง จึงจัดทำโครงการเสริมสร้างการจัดการชุมชนประมงต้นแบบขึ้น โดยมีวิธีดำเนินการในชุมชนประมงที่ได้รับการคัดเลือกดังนี้ 1.การเข้าหาชุมชน 2.สร้างความคุ้นเคยไว้เนื้อเชื่อใจให้กับชุมชนเพื่อปรับเปลี่ยนแนวคิด 3.สร้างการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรประมงในชุมชน การจัดทำแผนชุมชน 4.การจัดตั้งชุมชนประมงต้นแบบ 5.การร่วมดำเนินกิจกรรมตามแผนชุมชน 6.การจัดทำข้อมูลและสรุปผล เพื่อนำไปเป็นต้นแบบแก่ชุมชนประมงอื่นๆ

จากการดำเนินงานต่างๆ เหล่านี้ จึงได้เกิดการจัดฝึกอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในหัวข้อชุมนุมผู้นำชุมชนประมงต้นแบบแห่งประเทศไทยครั้งที่ 1 ขึ้น เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับหลักคิดในการทำงานของผู้นำชุมชนกับการบริหารจัดการกลุ่มเพื่อความเข้มแข็ง แนวทางบริหารจัดการทรัพยากรประมงของชุมชน การจัดการชุมชนประมงต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินกิจกรรมชุมชน ให้ชุมชนประมงต้นแบบสามารถหาแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสม ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหารจัดการทรัพยากรประมงของชุมชนโดยชุมชนเพื่อชุมชนอย่างแท้จริง

บันทึกการเข้า

ความจริงใจ อยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด .....
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.021 วินาที กับ 20 คำสั่ง