พายุไต้ฝุ่นคู่....Mitag และ Hagibis

[สายชล]

ปีนี้เป็นปีที่ย่านเขตร้อนของทวีปเอเชีย โดยเฉพาะเขตร้อนบริเวณทะเลจีนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิคประสบกับภาวะอากาศแปรปรวน มีพายุไต้ฝุ่นลูกแล้วลูกเล่าเข้ามาป่วน จนบ้านเมืองและประชาชนของประเทศต่างๆที่อยู่ในเส้นทางเดินของพายุไต้ฝุ่นพลอยเดือดร้อนได้รับทุกขเวทนาไปตามๆกัน

ถ้าเฝ้าติดตามสภาพอากาศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในขณะนี้  จะพบว่าพายุไต้ฝุ่นได้ก่อตัวขึ้นพร้อมๆกันสองลูกทั้งสองฟากของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ คือทางด้านตะวันออกมีพายุ Hagibis ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าถล่มด้านใต้ของเวียตนาม  ส่วนทางด้านตะวันตกก็มีพายุไต้ฝุ่นกำลังแรงนาม Mitag กำลังเคลื่อนที่เข้าถล่มเกาะ Catanduanes ของฟิลิปปินส์

ภาพจาก....http://www.accuweather.com

[สายชล]

ภาพจาก....http://www.accuweather.com


พายุไต้ฝุ่น Hagibis ซึ่งขณะนี้มีความเร็วลมที่จุดศูนย์กลางราว 85 ไมล์/ชม. กำลังมุ่งหน้าขึ้นฝั่งที่เมืองนาตัง เวียตนาม ด้วยความเร็วเพียง 3 ไมล์/ชม. นั้น คาดว่าจะทำความเสียหายให้กับประชาชนและบ้านเมืองทางด้านใต้ของเวียตนามแต่ไม่มากมายอย่างที่คาดการณ์ไว้ เพียงแต่จะทำให้ฝนตกหนัก เกิดภาวะน้ำท่วมตามส่วนต่างๆของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ไต้ฝุ่นลูกนี้มีผลต่อสภาพคลื่นลมในทะเลจีนใต้รวมทั้งทะเลอ่าวไทยของเราด้วย คาดว่าความสูงของคลื่นในทะเลจีนใต้จะสูงถึง 5-6 เมตร ในขณะที่ในอ่าวไทยจะสูงราว 2-4 เมตร

ส่วนพายุไต้ฝุ่น Mitag นั้น บัดนี้ได้เข้าถล่มพื้นที่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของฟิลิปปินส์แล้ว ด้วยความเร็วลมที่จุดศูนย์กลาง 110 ไมล์/ชม. ขณะนี้อยู่ห่างกรุงมะนิลาราว 310 ไมล์ เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 3 ไมล์/ชม. คาดว่ากำลังลมของพายุลูกนี้จะแรงขึ้นจนถึงระดับซุปเปอร์ไต้ฝุ่น และทำให้เกิดฝนตกหนักทางด้านตะวันออกของเกาะลูซอนภายในคืนวันเสาร์หรือเช้าวันอาทิตย์นี้

ผู้ที่จะเดินทางไปในเขตที่พายุทั้งสองลูกพัดผ่าน โปรดตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางให้ดีด้วยค่ะ

[Sea Man]

......เนี่ยแหละ.....มนุษย์.....

[สายชล]

ร้องไห้ด้วยคนนะน้อง Sea Man......

[สายน้ำ]

ผู้จัดการออนไลน์


พิลึกกึกกือ!! "ฮากิบิส" บ่ายหน้ากลับแปซิฟิก


ข้อมูลเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.วันเสาร์ (24 พ.ย.) พายุฮากิบิสเปลี่ยนทิศทางกระหันหันจากบ่ายหน้าขึ้นเหนือ 90 องศา เมื่อตอนหัวค่ำ หันขวับไปทิศตะวันออก ทำท่าจะอำลาทะเลจีนใต้มุ่งกลับใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิกบ้านเกิด (ภาพ: TSR)

หลังจากเพิ่มพลังและหันรีหันขวางอยู่นอกชายฝั่งเวียดนามเป็นเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง พายุฮากิบิส (Hagibis)ได้เปลี่ยนทิศทางอย่างน่าทึ่ง เริ่มจากหักหัวขึ้นเหนือ 90 องศา ก่อนจะตีวงโค้งแคบๆไปทางตะวันออกตรงกลับไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก
       
       ไม่ต่างกับพายุมิแท็ก (Mitag) ที่มุ่งหน้าจากหมู่เกาะไมโครนีเซียมาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ พุ่งตรงไปยังหมู่เกาะฟิลิปปินส์ แต่ในค่ำวันเสาร์นี้กลับบ่ายหน้าขึ้นเหนือ และ ทำท่าว่าจะหันหัวกลับอีกลูก
       
       ยังไม่มีคำอธิบายปรากฏการณ์เช่นนี้ ซึ่งแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่ก็ไม่เกิดบ่อยครั้งนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่พายุยังคงมีกำลังแรงจัด
       
       เจ้าหน้าที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์เวียดนามที่เฝ้าจับตาดูพายุฮากิบิสตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา กล่าวในตอนบ่ายวันศุกร์ว่าทิศทางการเคลื่อนตัวของฮากิบิสยังยากที่จะคาดเดา
       
       เมื่อวันศุกร์นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้สั่งการให้ท้องถิ่นต่างๆในภาคกลางตอนล่างตั้งแต่ จ.แค๊งหว่า (Khanh Hoa) บิ่งถวน (Binh Thuan) ด่งนาย (Dong Nai) นครโฮจิมินห์ ลงไปจนถึง บ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Baria -Vung Tao) และ จ.ก่าเมา (Ca Mau) รวมทั้งจังหวัดที่ราบปากแม่น้ำโขง ต้องเตรียมรับมือพายุลูกนี้
       
       ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ เวียดนามกล่าวก่อนหน้านี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ฮากิบิสอาจจะซ้ำรอย พายุ (ไต้ฝุ่น) ทุเรียนที่เกิดขึ้นในเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว โดยเปลี่ยนทิศทางกระหันหันบ่ายหน้าลงใต้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง เนื่องจากแก้ไขสถานการณ์ไม่ทัน

   
ดูใกล้เข้าไปอีกนิด พฤติกรรมนี้ช่างน่าทึ่ง ไม่ใช่ครั้งแรกแต่ก็เกิดไม่บ่อยนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพายุเดินทางมาจนถึงสุดเขตแดนแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ (ภาพ: TSR) 
   
 
 
ข้อมูลจากแหล่งไหนๆ ก็ตรงกัน ฮากิบิสยังไม่ขึ้นฝั่งเวียดนาม แต่ก็สร้างความปั่นป่วน ทำให้ฝนตกกินวงกว้างในทะเลจีนใต้ และคลื่นลมแรง ส่วนขวามือพายุมิแท็กที่รุนแรงกว่ากำลังแสดงอิทธิฤทธิ์ทางตะวันออกหมู่เกาะฟิลิปปินส์ 
 

 
ราวกับนัดกันล่วงหน้า ไกลออกไปทางฟากโน้นพายุมิแท็ก กำลังม้วนตัวกลับทิศมุ่งตะวันออก หลังจากเปลี่ยนทางขึ้นเหนือไม่ต่างไปจากฮากิบิส 
 

 
ธรรมชาติช่างน่าทึ่ง พายุมิแท็กที่อยู่ห่างออกไปนับพันๆ กม.เปลี่ยนทิศทาง ในเวลาไล่เลี่ยกันกับฮากิบิส ราวกับลอกเลียนพฤติกรรมกัน
 
       ความผันผวนที่เกิดอยู่ห่างชายฝั่งเมืองญาจาง (Nha Trang) จ.แค๊งหว่า เพียงประมาณ 200 เมตรเมื่อค่ำวันเสาร์นี้ทำให้ทางการเวียดนามสั่งจังหวัดต่างๆ ในเขตภาคกลาง ตั้งแต่ จ.กว๋างนาม (Quang Nam) จนถึงภาคกลางตอนบน จ.นิงบิ่ง (Ninh Binh) เตรียมอพยพโยกย้ายผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยงต่ออุทกภัย
       
       จังหวัดต่างๆ เหล่านี้เพิ่งพ้นจากอุทกภัยที่เริ่มมาตั้งแต่เดือน ก.ย. ปีนี้
       
       นักอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า มีความเป็นได้ที่พายุฮากิบิสอาจจะอ่อนกำลังลงและสลายไปในทะเลจีนใต้อีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า
       
       แต่ในขณะเดียวกันหากพายุลูกนี้ยังสามารถรักษากำลังเอาไว้ได้ ก็เป็นไปได้ที่อาจจะเปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง บ่ายหน้าขึ้นเหนือ มุ่งสู่ชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงใต้ของแผ่นดินใหญ่จีน.
       
       อย่างไรก็ตาม ขณะที่คาบสมุทรอินโดจีนกำลังหายใจโล่งออกหลังจากพายุฮากิบิสเปลี่ยนทิศทางนั้น ไกลออกไปในมหาสมุทรแปซิฟิก พายุลูกใหม่ที่ชื่อ "อินเวสต์" (Invest) ก็กำลังก่อตัวขึ้นอีก มุ่งหน้าเข้าหมู่เกาะฟิลิปปินส์ นับเป็นพายุลูกที่ 3 ในเดือนนี้.

[สายน้ำ]

ผู้จัดการออนไลน์


“ปาลม-เหวียดนาม มาบูไฮ-ปินอย” ลาก่อนฮากิบิส


ภาพถ่ายดาวเทียมของศูนย์ปฏิบัติการวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ (NRS) แสดงข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 8.00 น. วันอาทิตย์ (25 พ.ย.) นี้ พายุฮากิบิสยังทรงพลังอำนาจในย่านเกือบจะกึ่งกลางทะเลจีนใต้ขณะมุ่งหน้ากลับถิ่นเดิมในเขตแปซิฟิก

ภาพจำลองจากข้อมูลดาวเทียม รวมทั้งภาพถ่ายดาวเทียมของศูนย์ปฏิบัติการวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ ในตอนเช้าตรู่วันอาทิตย์ (25 พ.ย.) นี้ แสดงตำแหน่งของพายุฮากิบิส (Hagibis) ที่เคลื่อนตัวห่างจากชายฝั่งเวียดนามออกไปจนถึงกึ่งกลางทะเลจีนไต้ และกำลังเคลื่อนตัวต่อไปช้าๆ ในเส้นทางมุ่งสู่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
       
       ภาพถ่ายดาวเทียวที่แสดงปริมาณการฟุ้งกระจายของไอน้ำบนพื้นผิวสมุทรในเวลาเช้าตรู่วันอาทิตย์นี้ ยังแสดงให้เห็นพละกำลังของฮากิบิสกับระดับความเร็วศูนย์กลางท่ายังไม่เปลี่ยนแปลงจากในคืนวันเสาร์ และยังคงครอบคลุมพื้นที่ กินอาณาบริเวณกว้างในทะเลจีนใต้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
       
       ขณะเดียวกัน ข้อมูลของศูนย์พยากรณ์ความเสี่ยงพายุเขตร้อน Tropical Storm Risk ในกรุงลอนดอน ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลดาวเทียมกับศูนย์พยากรณ์หลายแห่งในภูมิภาคเอเชีย ระบุว่า ถ้าหากฮากิบิสยังคงรักษาความแรงศูนย์กลางเอาไว้ได้ที่ 120 กม./ชม.ก็มีความเป็นไปได้ที่จะไปถึงเกาะลูซอน (Luzon) ภายในวันพุธ (28 พ.ย.)
       
       ฮากิบิสได้แสดงพฤติกรรมที่น่าแปลกใจหลังจากพัดเกือบจะหยุดนิ่งอยู่ในตำแหน่งเดิมเป็นเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง อยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองญาจาง (Nha Trang) จ.แค๊งหว่า (Khanh Hoa) ภาคกลางเวียดนามราว 200 กม.ก่อนจะหันหัว 90 องศาขึ้นเหนือในระยะเวลาสั้นๆ และเปลี่ยนทิศมุ่งตะวันออก ไปสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
       
       เจ้าหน้าที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยา และอุทกศาสตร์กลางเวียดนาม กล่าวว่า ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดไม่บ่อยครั้งนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไต้ฝุ่นลูกหนึ่งเดินทางไปไกลถึงชายฝั่งเวียดนาม ซึ่งเป็นปลายสุดเขตแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ และยังไม่สามารถอธิบายสาเหตุของปรากฏการณ์เช่นนี้ได้

   
ตามข้อมูลของ TSR ถ้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงปลายทางข้างหน้าสัปดาห์นี้คือ กรุงมะนิลา.. "มาบูไฮปินอย.. สวัสดีชาวฟิลิปปินส์" สวัสดีเป็นรอบที่ 2    
 
       ฮากิบิสก่อตัวขึ้นในแปซิฟิกเมื่อหลายเดือนก่อน และค่อยทวีความเร็วศูนย์กลางรุนแรงขึ้นเป็นไต้ฝุ่นปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เคลื่อนตัวพัดเข้าเขตวิซายาส (Visayas) หรือ หมู่เกาะภาคกลางฟิลิปปินส์ ในสัปดาห์ต้นเดือน พ.ย.นี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน
       
       ปลายสัปดาห์ที่แล้วขณะที่ศูนย์กลางยังคงอยู่ในเขตหมู่เกาะฮว่างซา (Hoang Sa) หรือ สแปร็ตลีส์ (Spratlys) ฮากิบิสได้ทำให้เรือสินค้าลำหนึ่งจมลงในทะเลจีนใต้ เรือเวียดนามช่วยเหลือลูกเรือชาวจีนเอาไว้ได้กว่า 20 คน
       
       ไม่เพียงแต่พายุฮากิบิสเท่านั้นที่เปลี่ยนทิศทางในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ไต้ฝุ่นมิแท็กที่มีความรุนแรงมากกว่า
       
       ในตอนเช้าวันเสาร์มิแท็กยังคงบ่ายหน้าตรงเข้าถล่มเกาะใหญ่ลูซอนทางตอนเหนือ แต่พอตกกลางคืนก็ได้เปลี่ยนทางขึ้นไปทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผ่านปลายสุดของหมู่เกาะ และหันกลับมุ่งตะวันออกสู่ใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิกอีกครั้ง

   
อีกภาพหนึ่งของ NRS มองเข้าไปตรง "นัยน์ตา" ของฮากิบิส พายุลูกนี้ยังมีอิทธิฤทธิ์ครบถ้วน ก่อให้เกิดฝนตกหนัก และคลื่นลมแรงจัดในทะเลจีนใต้    
       
 
ข้อมูลชัดๆ ของ TSR แสดงเส้นทางของฮากิบิสในวันอาทิตย์นี้ พายุหันหัวกลับบ้านเดิมเป็นเส้นตรงอย่างน่าฉงน คาดว่าต้นสัปดาห์นี้จะบ่ายหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อย เข้าถล่มตอนกลางเกาะลูซอน ไต้ฝุ่นมิแท็กเพิ่งจะเบนหัวพ้นที่นั่นไปหยกๆ  
 
   
ข้อมูลอินฟราเรดของ TSR ในกรุงลอนดอน ในเวลาสายวันอาทิตย์ แสดงศูนย์กลางแห่งใหม่ของฮากิบิสในทะเลจีนใต้ เหนือหมู่เกาะเจื่องซา (Truong Sa) หรือ สแปร็ตลีส์ (Spratlys) ไกลจากชายฝั่งเวียดนามออกไปกว่า 600 กม.
 
   
ไม่ควรด่วนดีใจจนเกินไป ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยโคชิ (Kochi) ญี่ปุ่น เผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมขององค์การ NASA สหรัฐฯ เมื่อเวลา 01.00 GMT วันอาทิตย์ 25 พ.ย. หรือ 08.00 น.เวลาในประเทศไทย ไต้ฝุ่น 2 ลูกกำลังบ่ายหน้าจากไป แต่ลูกใหม่ชื่อทันสมัย "อินเวสต์" กำลังก่อตัว ข่าวร้ายหรือข่าวดี?..อีกไม่นานรู้  
 
 
       ตามข้อมูลของศูนย์สังเกตการณ์ไต้ฝุ่น (Typhoon Observatory Center) ซึ่งทำหน้าที่กำหนดชื่อพายุในเขตแปซิฟิกตะวันตก “ฮากิบิส” เป็นคำตากาลอก (Tagalog) ภาษาพื้นเมืองในฟิลิปปินส์ มีความหมายว่า “ความเร็วจัด” (Velocity)
       
       ส่วน “มิแท็ก” มีความหมายว่า “นัยน์ตาของฉัน” (My Eyes) เป็นชื่อของสตรีในภาษาของชาวแย็ป (Yapese) ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ภาษาหลักที่ใช้กันในหมู่เกาะไมโครนีเซีย แปซิฟิกใต้ ศูนย์สังเกตการณ์ ในฮ่องกงกล่าว
       
       ฮากิบิส ไต้ฝุ่นสัญชาติตากาลอกได้กล่าวคำอำลาชาวเวียดนามแล้ว แต่ดูเหมือนว่ากำลังกล่าว “สวัสดี” กับชาวฟิลิปปินส์อีกครั้ง เป็นรอบที่ 2
       
       ปาลม- เหวียดนาม.. มาบูไฮ-ปินอย!!

[คนชอบลุย]

ร้องไห้ด้วยคนนะน้อง Sea Man......

อีกคน   

[แม่หอย]

  ร้องไม่ออกค่ะ แต่ถอนใจ.. ชีวิตผู้คนยุคนี้ยากลำบากเหลือเกินหนอ..
อะไรๆ ก็แปรปรวนไปหมดแล้ว

[สายชล]

โชคดีของเวียตนาม....กัมพูชา....ลาว....และไทย ที่ไต้ฝุ่นฮากิบิสถูกพายุมิแท็กที่มีกำลังแรงกว่าดูดให้หันเหทิศทางไปทางด้านตะวันออก ห่างฝั่งเวียตนามไปไกลขึ้นเรื่อยๆจนขณะนี้ลดความรุนแรงลงเป็นเพียงพายุโซนร้อนแล้ว

แต่โชคร้ายไปตกกับฟิลิปปินส์และไต้หวันแทน แบบที่เรียกว่า "อ่วม" เลยละค่ะ เพราะโดนถล่มทั้งฮากิบิสและมิแท็กเข้าอย่างจัง

ข่าวล่าสุดแจ้งว่า เมื่อวันจันทร์ไต้ฝุ่นมิแท็กทำความเสียหายให้ฟิลิปปินส์มาก มีประชาชนเสียชีวิตไป 8 คน และหายไปอีก 2 คน จุดศูนย์กลางพายุกำลังมุ่งสู่ภาคเหนือของเกาะลูซอนด้วยกำลังลม 85 ไมล์/ชม. และมุ่งหน้าตรงสู่ไต้หวัน คาดว่าจะทำความเสียหายให้ไต้หวันมากเช่นกัน

ส่วนไต้ฝุ่นฮากิบิสที่อ่อนตัวลงจนเป็นเพียงพายุโซนร้อนนั้นกำลังพัดข้ามฟิลิปปินส์ เพื่อไปลงทะเลจีนใต้ภายในวันนี้ คาดว่าจะทำให้ฝนตกหนักในเส้นทางที่พายุพัดผ่าน โชคไม่ดีที่มีพายุดีเปรสชั่น 25W  เกิดขึ้นทางด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์อีก แต่คาดว่าจะมุ่งหน้าไปทางตะวันออก มุ่งตรงไปยังหมู่เกาะทางใต้ของญี่ปุ่นต่อไป