ขออณุญาตนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเล่าสู่กันฟัง
เมื่อวันศุกร์ผมได้มีโอกาสได้เข้าค่ายที่ศูนย์ฝึกทหารของค่ายนเรศวร
วันแรกที่เข้าไปก่ะบรรยากาศครึ้มๆ ผมก็ว่าเอ... แปลกๆนะ
ทำไมอากาศอบอ้าวเหมือนจะมีฝนแต่ก็คิดว่าคงเป็นไปตามสภาพอากาศ
พอไปถึงก็ทำกิจกรรมจนได้เข้าหอประชุมตอนดึกใกล้เวลานอนมากแล้ว อาจารย์เอกราช
ท่าได้มาพูดถึงเรื่องของฝนที่ตกนี้ว่า "ก่อนหน้านี้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ท่านทรงให้คณะทำงานเกี่ยวกัยฝนเทียม
รีบทำฝนเทียมเพื่อเป็นแนว กันลมพายุดีเปรสชั่นซึ่งตอนนั้นยังไม่เกิดขึ้น
แต่พระองค์ทรงเหมือนกับเทวดาองค์นึงที่ทราบเรื่องนี้ก่อน
ถามว่าตอนนั้นกรมอุตุรู้เรื่องนี้ไม๊ ...
ไม่มีใครทราบว่าจะเกิดพายุที่ประเทศเมียนม่า(พม่า)ด้วยซ้ำ
พอคณะทำงานด้านฝนเทียมทำงานเสร็จ ด้วยความสำเร็จ... ผลงานที่พระองค์ได้ทำ
ก็ก่อให้เกิดผล เกิดพายุอย่างที่พระองค์ตรัสไว้ที่พม่า
และพายุนี้ก็ได้สร้างความเสียหาย
และสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศเมียนมาร์(พม่า)
จนทำให้เกิดความสูญเสียอันมหาศาลกับประเทศอันเคยเป็นอริกับเรา ...
แต่สำหรับประเทศไทย แนวกำแพงฝนเทียมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ได้ทรงสร้างไว้ก็ทำให้เกิดฝนตกเพียงเล็กน้อย
ถ้าเทียบกับพายุที่จริงๆแล้วสามารถสร้างความเดือดร้อนกับประเทศได้มาก
" พอผมได้ทราบผมถึงกับอึ้งขนลูกซุ่ กับ
สิ่งที่พระองค์ได้ทำไว้ให้กับประเทศของเรา
ถึงแม้นจะเป็นเรื่องที่ดีที่ทราบเรื่องนี้
แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้ผมสะเทือนใจกับสิ่งที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้
วันที่2ที่เข้าค่าย ครูฝึกได้เปิดวีซีดีเกี่ยวกับพระองค์ให้ดู
ผมก็ดูไปเรื่อยๆจนถึงตอนนึงที่เค้าตัดเอาตอนที่พระองทรงเสด็จพระราชดำเนิน
เพื่อไปส่งเหล่ากษัตริย์จากต่างประเทศ
คณะทูตที่มาเข้าเฝ้าในงานฉลองศิริราชสมบัตครบ60พรรษา
ภาพที่ทำให้ผมปวดจี๊ดขึ้นมาในหัวใจก็คือตอนที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินลง
บันได(ขอโทษครับพอดีไม่ทราบว่าเขียนยังไง)
พระองค์เกือบหกล้ม ดีที่ทหารรักษาพระองค์ที่เดินนำหน้าคอยประคองพระองค์ไว้
พอพระองค์ทรงยืนได้ ก็ปัดมืออก ผมไม่ทราบว่าพระองค์ตรัสตรงนั้นทันทีไม๊
หรือตรัสกับคนสนิทในภายหลัง ว่า
" ไม่ต้องมาพยุงเรา เราจะเดินให้คนทั่วโลกได้เห็นว่า เราเดินได้
ให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าเราสามารถปกครองคน64ล้านคนด้วยตัวของเราเองได้ "
ถึงตอนนี้แล้ว ...น้ำตาผมคลอเบ้า คนที่ดูกันก็สะอึ้นกันไปหลายคน
ทุกๆคนในที่นั้นเงียบหมดกับคำพูดที่พระองค์ได้ตรัสไว้
ผมได้ยินเสียงกระซิบจากเพื่อนข้างๆว่า สงสารพระองค์ที่ต้องมาทรงงานอย่างหนัก
ถึงแม้นจะอายุเยอะแล้ว แต่พระองค์ก็ยังทรงรักและเป็นห่วงลูกๆหลานของพระองค์
ลูกๆหลานๆที่อยู่ในประเทศนี้ ท่านทรงงานทุกอย่างเพื่อให้คนในประเทศได้สบาย
เพื่อคนในประเทศได้อยู่ดีกินดี อาจารย์ได้บอกกับพวกเราเมื่อวีซีดจบว่า
พระองค์เหมือนฝนที่ทำให้ประเทศร่มเย็น
เหมือนเทวดาที่ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไปที่ไหนที่นั่นจะชุ่มฉ่ำ
ที่ๆพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปจะพบแต่ความสงบสุข
มีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร
ท้ายสุดนี้ผมอยากจะบอกพระองค์หากแม้นมีใครผ่านมาอ่าน
ถึงจะเป็นคำพูดที่อาจจะได้ยินมาบ่อยๆ
แต่ผมก็ไม่สามารถจะคัดกรองคำพูดใดๆมาพูดได้อีกนอกจาก
"ขอพระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงประชา เป็นร่มโพธิทองของเหล่าปวงชนชาวไทย
ขอพระองค์ทรงพระเจริญตราบนานเท่านาน "
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ที่มา
http://www.soccersuck.com/soccer/vie....php?p=1920666