|
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ สิงหาคม 29, 2008, 11:55:39 PM กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทย มีฝนฟ้าคะนองกระจาย โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตกในระยะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 29-30 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ทั่วทุภาคของประเทศมีฝนฟ้าคะนอง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 31 ส.ค. 4 ก.ย. ร่องความกดอากาศต่ำจะพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกมากกว่าภาคอื่นๆ กับมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ด้วย ข้อควรระวัง ในระยะนี้ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปางและแพร่ระมัดวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ สิงหาคม 30, 2008, 12:03:24 AM ไทยรัฐ
เลาะเลียบทะเล ตราด สุดทางที่บ้านหาดเล็ก : โลกหลากวิถี (http://www.thairath.co.th/2551/agriculture05/Aug/library/30/world2.jpg) เอ่ยชื่อ ตราด ใน พ.ศ.นี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นึกถึง เกาะช้าง ขึ้นมาเป็นลำดับแรก จนเกือบลืมนึกไปว่าบนแผ่นดินทิศตะวันออกสุดของประเทศไทย ก็มีทิวทัศน์ชายทะเลอันงดงามได้ไม่แพ้เกาะแก่งต่างๆ เช่นกัน เฉพาะถนนเลียบชายทะเลจากตัวเมืองตราดไปบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ หรือเส้นทางหมายเลข 318 นั่นก็มีความน่าสนใจในหลายแง่มุมตลอดระยะทาง 80 กว่ากิโลเมตร ชายหาดเรียงราย หมู่บ้านชาวประมง และการข้ามแดนไปยังจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา นับรวมเป็นจุดท่องเที่ยวรายทางได้อย่างลงตัว ใคร ที่เคยคิดว่าจังหวัดชายแดนสุดด้านทิศตะวันออกของไทยแห่งนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจ เราเปิดโอกาสให้คิดใหม่ได้ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับคำเชิญจากโรงแรมเซ็นทาราชานทะเล รีสอร์ทแอนด์วิลลา ตราด ให้ไปเยือนโรงแรมแห่งใหม่บนหาดทับทิม อันเป็นชายหาดสงบใกล้ชิดธรรมชาติ และมีความเป็นส่วนตัวสูง ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองที่ค่อนไปทาง อ.คลองใหญ่ พอจะกล่าวได้ว่าโรงแรมนี้อยู่กึ่งกลางระหว่างทางจากตราดไปบ้านหาดเล็ก สุดชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะตั้งอยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 46 บนเส้นทางเลียบชายทะเลที่ว่ามา หากเป็นเมื่อเกือบสามสิบปีก่อนคงไม่มีใครคิดจะไปเปิดที่พักหรูหรือชวนคนไปเที่ยวในย่านนี้ เพราะในยามนั้น ประเทศเพื่อนบ้านกำลังอยู่ในสภาวะยากลำบาก ผู้คนจำนวนมากหนีภัยการเมืองการปกครองของระบอบเขมรแดงข้ามมายังฝั่งไทย พวกเขาข้ามเทือกเขาบรรทัดที่ทอดตัวยาวกับถนนเลียบชายทะเลทุกวันนี้ หนีตายเข้ามายังแผ่นดินไทย ประจักษ์พยานที่ยังมีให้เห็นคือ ศูนย์สภา กาชาดไทย เขาล้าน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโรงแรมเซ็นทารา ไปประมาณ 2 กม. (http://www.thairath.co.th/2551/agriculture05/Aug/library/30/world4.jpg) สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงให้ตั้ง ศูนย์สภากาชาดไทย เขาล้าน เพื่อช่วยเหลือชาวเขมรอพยพ ระหว่างปี 2522-2529 หลังจากเขมรอพยพกลับแล้ว ได้มีการจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมดีเด่นปี 2536 ภายในศาลาจัดแสดงเรื่องราว มีรูปปั้นจำลองขนาดเท่าของจริง จำลองเหตุการณ์และความเป็นอยู่ในค่ายอพยพ พร้อมกันนี้ยังมีห้องจัดแสดงสิ่งของ ที่ผู้อพยพนำติดตัวมากับผลงานหัตถกรรมบางส่วนที่ผู้อพยพทำขึ้นระหว่างอาศัยอยู่ ดูเอาไว้เป็นบทเรียนสอนใจ มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกต่อไป มีหมู่บ้านชาวประมงสลับกับชายหาดทอดยาวอยู่ทางขวามือ อย่างเช่น หาดบานชื่นมีชื่อเสียงในแง่ที่ว่าเป็นชายหาดที่มีทรายเม็ดละเอียด ขาวสะอาดหาดหนึ่งเลยทีเดียว (http://www.thairath.co.th/2551/agriculture05/Aug/library/30/world3.jpg) ถ้าอยากได้อาหารทะเลสดๆ จากชาวประมงพื้นบ้าน ควรจะแวะไปที่บ้านคลองมะนาว หมู่บ้านนี้อยู่ถัดจากหาดราชการุณย์ หรือศูนย์ฯเขาล้าน ไม่กี่กิโลเมตร บ้านของชาวประมงหลังเล็กๆ อยู่อาศัยกันอย่างเรียบง่ายทอดตัวไปตามริมคลองชื่อเดียวกับหมู่บ้าน ยามเย็นเรือประมงจอดเป็นทิวแถว เด็กเล็กแก้ผ้ากระโดดน้ำเป็นที่สนุกสนาน ในขณะที่ผู้ใหญ่ง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอุปกรณ์หาปลาก่อนออกเรือในเช้าวันรุ่งขึ้น อยากได้กุ้ง หอย ปู ปลา ก็ลองแวะถามเจ้าของบ้านแถวนั้น หากบ้านนี้ไม่มีเขาจะชี้บอกไปยังบ้านอื่นที่พอมีให้ได้ของติดไม้ติดมือกลับไปได้ ไม่ผิดหวัง สำหรับใครที่ชอบถ่ายภาพคู่กับป้ายสำคัญ ขอแนะนำให้หยุดแวะที่ บ้านโขดทราย หมู่ที่ 2 ตำบลหาดเล็ก อันเป็นส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทย ส่วนที่แคบที่สุดนี้วัดจากชายเขาไปจนจดชายทะเลมีความกว้างเพียง 450 เมตรแค่นั้น จุดนี้อยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 81-82 (http://www.thairath.co.th/2551/agriculture05/Aug/library/30/world1.jpg) แล้วในที่สุดก็มาถึงปลายทางที่บ้านหาดเล็ก สุดเขตประเทศไทย อันเป็นที่ตั้งของด่านตรวจคนเข้าเมือง คลองใหญ่ ตามชื่ออำเภอ บริเวณรอบๆ ด่านแวดล้อมไปด้วยอาคารบ้านเรือนตามแบบฉบับร้านค้าชายแดนซึ่งมีทั้งของทำเทียม เลียนแบบ มากมายหลายชนิดให้เลือกซื้อหา ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา เข็มขัด เครื่องหนัง น้ำหอม ตลอดไปจนถึงไม้กอล์ฟ และที่สำคัญต้องต่อรองราคากันสะบั้นหั่นแหลก บางทีความสนุกของการจับจ่ายใน ตลาดแบบนี้ก็อยู่ตรงที่การกล้าต่อรองมากกว่าจะคำนึงถึงความต้องการที่แท้จริง ถ้าไม่ชอบของทำเทียมเลียนแบบ แต่ชอบอาหารการกินจำพวกของแห้ง ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแห้ง หมึกแห้ง หรือแม้แต่กะปิ ตลาดนี้ก็มีให้เลือกซื้อหาเช่นกัน ที่สำคัญเป็นของดีราคาถูกอีกต่างหาก หรือถ้าจะเดินเที่ยวดูเล่น ๆ ก็ไม่เห็นจะเป็นไร ลองเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ ที่อยู่ข้างด่านตรวจคนเข้าเมือง เดินผ่านร้านรวงที่ตั้งอยู่ริมทางนั้นจนสุดทางก็จะพบกับ ศาลเจ้าแม่หาดเล็ก อันเป็นที่เคารพบูชาของคนในย่านตลาด จากศาลเจ้าแม่หาดเล็ก เดินต่อไปอีกไม่กี่ก้าวบนสะพานคอนกรีตที่ยื่นล้ำลงทะเล ที่นั่นเราจะได้เห็นชายทะเลที่สุดเขตประเทศไทยด้านฝั่งตะวันออก ฟังเสียงคลื่นซัดฝั่งสักพัก แล้วเก็บความประทับใจนั้นไว้ เป็นการ ชาร์จแบต ก่อนกลับสู่เมือง. ข้อมูลเดินทาง การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดตราด สามารถเดินทางได้ทั้งทางรถยนต์และทางเครื่องบิน ทางรถยนต์เดินทางโดยใช้หมายเลข 344 เส้นทางบางนา-ชลบุรี-แกลง-จันทบุรี-ตราด ระยะทางประมาณ 318 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ส่วนการเดินทางโดยเครื่องบินมีสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ให้บริการเที่ยวบินระหว่าง กรุงเทพฯ-ตราด ออกเดินทางทุกวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง รถประจำทางปรับอากาศมีออกเดินทางที่สถานีขนส่งสายตะวันออก กทม. จากตัวเมืองจังหวัดตราดมีรถตู้ไปยังด่านชายแดนคลองใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ สิงหาคม 30, 2008, 12:14:12 AM ข่าวสด
ประมงดึงเยาวชน ร่วม"เป็นหูเป็นตา" ชุมพร - นายจรูญศักดิ์ เพชรศรี หัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลภาคใต้ตอนบนจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ปัจจุบันทรัพยากรสัตว์น้ำของไทยมีปริมาณลดลงอย่างเห็นได้ชัด สืบเนื่องมาจากการใช้ทรัพยากรดังกล่าวเกินศักยภาพของการผลิตตามธรรมชาติ และอีกสาเหตุที่สำคัญคือชาว ประมงบางส่วนยังขาดจิตสำนึกที่ดีในการใช้ทรัพยา กรสัตว์น้ำอย่างเหมาะสมและถูกวิธีรวมทั้งยังละเลยต่อกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ด้านกฎหมายที่ปก ป้องคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำ ดังนั้น เพื่อเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน จัดฝึกอบรมหลักสูตรยุวประมงโดย ยุวชนเหล่านี้เมื่อออกไปฝึกเสร็จแล้ว จะช่วยในการจัดการอนุรักษ์สัตว์น้ำได้เป็นอย่างดีสามารถดูได้จากในช่วงที่กรมประมงปิดอ่าวในช่วงสามเดือนในสาม จังหวัดใต้ คือประจวบฯ บางส่วนชุมพรและสุราษฎร์ฯ บางส่วนได้มีประมงหรือชาวบ้านที่ลักลอบทำประมง ผิดกฎหมาย ยุวชนดังกล่าวนี้สามารถที่จะบอกและแจ้งข่าวให้เจ้าหน้าที่ทราบเข้าทำการจับกุมและในบางส่วนช่วยรักษาโดยตรงได้อีกด้วย สร้างจิตสำนึกในการบริหารจัดการทรัพยากรดังกล่าวแก่ประชา ชน ชาวประมงและกลุ่มนักเรียนหรือเยาวชนซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ |