กระดานข่าว Save Our Sea.net

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง สำหรับคลื่นในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ขอให้ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง พายุโซนร้อน “ฮากุปิต” บริเวณประเทศจีนตอนล่าง คาดว่าพายุจะอ่อนกำลังลงเป็นตามลำดับ ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศจีนตอนล่างและประเทศเวียดนามตอนบน ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย ส่วนภาคเหนือของประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นจากผลกระทบของหย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุประมาณวันที่ 26 ก.ย. 51


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


คาดหมาย

 ในช่วงวันที่ 24-26 ก.ย. ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 ก.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจะแผ่ลิ่มลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ร่องความกดอากาศต่ำ มีกำลังแรงขึ้น โดยจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออก ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัด ปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยจะมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ในหลายพื้นที่

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “ฮากุปิต (Hagupit)” บริเวณประเทศจีนตอนล่างกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทางเหนือมุ่งสู่ประเทศเวียดนามตอนบน และลาวในระยะต่อไป อีกทั้งหย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังจากพายุนี้จะทำให้ภาคเหนือมีฝนเพิ่มมากขึ้นในวันที่ 26 ก.ย

ข่าวสด


อบต.ไม้ฝาดจี้ซ่อมท่าเรือปากเมง-ชี้ผุกร่อนหนักมรสุมเข้า

ตรัง - นายสมนึก เปลี่ยนเภท นายกอบต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง กล่าวว่า สะพานท่าเทียบเรือหาดปากเมง ชำรุดทรุดโทรมมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2550 เคยมีการออกมาร้องเรียน และเรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามาดูแล แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการซ่อมแซมอย่างเป็นทางการ ทั้งๆ ที่ทางอบต.ได้นำเรื่องทั้งหมดเสนอจังหวัดตั้งแต่ปีที่แล้ว และนายอานนท์ มนัสวานิช ผวจ.ตรัง ก็ได้นำเรื่องเสนอครม.แล้ว

นายสมนึก กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวกระทรวงคมนาคมได้รับมอบหมายเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบด้วยงบประมาณ 20 ล้านบาท ขณะนี้แม้ว่าทางอบต.ไม้ฝาดจะทำแบบแปลนเรียบร้อยแล้ว แต่งบประมาณทั้งหมดก็ยังไม่มา นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ยังได้มีการทำหนังสือเร่งด่วนเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่ง เสนอโครงการเร่งด่วนเข้าไปแห่งละ 1 โครงการ ซึ่งทาง อบต.ก็ได้นำเสนอเรื่องนี้ด้วยงบประมาณ 30 ล้านบาท และก่อนหน้านั้นศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง ได้เสนอเรื่องการก่อสร้างปรับปรุงท่าเทียบเรือหาดปากเมง ไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและได้รับงบประมาณมากว่า 50 ล้านบาท

"อบต.ไม้ฝาด มีความห่วงใยในความชำรุดทรุดโทรมที่เกิดขึ้น เพราะเกรงว่าท่าเรือจะพังทลายลงมาในช่วงมรสุมนี้ เพราะเสาเหล็กผุกร่อนมาก พร้อมจะพังทลายได้ทุกเวลา อยากขอให้ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะเกิดเหตุร้าย เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของจังหวัด"


*****************************************************************************************************************************


คุณครูบิลลี่สอนเพื่อนโลมา ท่าเดินด้วยหางบนน้ำในทะเลออสซี่

(http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2008/09/tec01250951p1.jpg)
 
ท่าเต้นที่โลมาเดินบนน้ำไปข้างหลังด้วยหางนั้น เป็นท่าที่มนุษย์เป็นผู้ฝึกสอน โลมาที่ทำท่านี้เป็นจึงเป็นโลมาที่อยู่ในสวนน้ำ หรืออควาเรียม

แต่ฝูงโลมาที่อยู่แถบชายฝั่งเมืองแอดเลด ประเทศออสเตรเลีย เดินท่านี้ได้ แม้ว่ามันจะอยู่ในทะเล แล้วใครล่ะเป็นผู้สอนมัน?

ผู้สอนไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นโลมาด้วยกันเอง ชื่อ "บิลลี่" โลมาเพศเมีย พันธุ์บ็อตเทิลเน็ก อายุ 23 ปี

เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว "บิลลี่" ติดอยู่ในแอ่งน้ำ หาทางออกทะเลไม่ได้ ต่อมามีผู้ช่วยเหลือ โดยให้มันเข้าไปอยู่ในอควาเรียมก่อนเป็นเวลา 3 อาทิตย์ พร้อมกับทำเครื่องหมายไว้ที่ครีบ เมื่อพบเห็นจะได้รู้ว่าเป็น "บิลลี่" นี่เอง

พอกลับไปยังทะเล "บิลลี่" เริ่มทำท่าแปลก คือเดินบนทะเลไปทางด้านหลัง นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มันจำท่านี้มาจากเพื่อนโลมาที่อยู่ในสระเดียวกัน เพื่อนของมันถูกฝึกให้ทำท่านี้เพื่อแสดงในอควาเรียม

หลังจากที่ถูกปล่อยมานานกว่า 20 ปี "บิลลี่" สอนท่าเดินให้กับเพื่อนโลมาในทะเล จนโลมากลุ่มหนึ่งเดินท่านี้ได้ นับเป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง

ดร.ไมก์ บอสลีย์ ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมอนุรักษ์โลมาและวาฬแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า "ผมเฝ้าสังเกตดูพฤติกรรมฝูงโลมากลุ่มนี้มานาน ก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมพวกมันถึงเดินตามแบบบิลลี่ มันอาจจะเล่นกันหรือเป็นการสื่อสารอย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมด้านวัฒนธรรมของสัตว์ที่มีสมองใหญ่ ซึ่งพฤติกรรมทางวัฒนธรรมนี้จะถ่ายทอดจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง และกลายเป็นลักษณะเด่นของสังคมกลุ่มนั้นขึ้นมา นอกจากนี้ ยังมีโลมาอีกตัวหนึ่งชื่อว่า เวฟ มันใช้หางเดินบนทะเลบ่อยกว่าคุณครูบิลลี่เสียอีก" (เดลี่เมล์)