กระดานข่าว Save Our Sea.net

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (1 ต.ค.51) พายุดีเปรสชัน“ เมขลา ” ได้อ่อนกำลังลงเป็น หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่บริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบนยังคงมีฝนชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งต่อไปอีก 1 วัน จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดเชียงใหม่ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี   ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


คาดหมาย

พายุโซนร้อน “เมขลา” ในทะเลจีนใต้ตอนบนกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนบนในเช้าวันที่ 30 ก.ย. ต่อจากนั้นพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นลำดับ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรงโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 3-6 ต.ค. ร่องความกดอากาศที่พาดผ่านประเทศไทย และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ทั่วประเทศมีฝนลดลง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. – 2 ต.ค. ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณพื้นที่ราบลุ่ม และบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขา อาทิเช่น บริเวณจังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ หนองคาย นครพนม สกลนคร อุดรธานี มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด กระบี่ ตรัง และสตูลระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือในทะเลทางภาคใต้ทั้งสองฝั่งเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เนื่องจากคลื่นลมมีกำลังค่อนข้างแรง

ผู้จัดการรายวัน


ศรีราชาปิ๊งไอเดียกังหันลมผลิตไฟฟ้า ใช้ 4 ล้านนำร่อง 18 จุดที่เกาะลอย

(http://pics.manager.co.th/Images/551000012499701.JPEG)
แบบจำลองโครงการติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าของเทศบาลฯ ที่กำลังจะเริ่มในอีกไม่นานนี้

     ศูนย์ข่าวศรีราชา -เทศบาลเมืองศรีราชาปิ๊งไอเดีย โครงการก่อสร้างกังหันลมผลิตพลังงานไฟฟ้ารับวิกฤตพลังงานโลก ทุ่มงบ 4 ล้านนำร่อง 18 จุดที่เกาะลอย เชื่อได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ ชี้อนาคตหากได้ผลเต็มประสิทธิภาพเตรียมจัดสรรงบประมาณก้อนโตผลิตอย่างครบวงจรที่บ่อกำจัดขยะเทศบาล
       
       นายชรัช สุวรรณ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองศรีราชา เปิดเผยว่า เทศบาลเมืองศรีราชามีแนวคิดรับมือวิกฤตพลังงานโลก โดยได้จัดทำโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานลมเพื่อทดแทนพลังงานไฟฟ้า ที่ผ่านมาได้มีการปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านกังหันลมความเร็วต่ำ จากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เกี่ยวกับรูปแบบการดำเนินการจัดทำกังหันลมผลิตพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจากการดูงานในประเทศแถบยุโรปมาหลายประเทศ คณะผู้บริหารเทศบาลฯจึงมีแนวคิดจะดำเนินโครงการใช้พลังงานลมเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า อย่างเป็นรูปธรรม
       
       สำหรับการจัดทำกังหันลมผลิตไฟฟ้าในครั้งนี้ นับเป็นโครงการนำร่อง ในบริเวณสะพานเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) สวนสาธารณะเกาะลอย ศรีราชา ซึ่งใช้งบประมาณในการดำเนินการก่อสร้าง ทั้งในส่วนของกังหันลมผลิตไฟฟ้า ระบบจ่ายไฟ และหม้อเก็บประจุไฟฟ้ารวมแล้วประมาณ 4 ล้านบาท เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า 400 วัตต์ รวมทั้งสิ้น 18 ชุดใน 18 จุดทั่วบริเวณ
       
       ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ภูมิทัศน์ใกล้ทะเล ที่ลมพัดผ่านตลอด 24 ชั่วโมงซึ่งมีความเหมาะสมเป็นอย่างมาก ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้ามาใช้ บริเวณไฟส่องทางในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานบริเวณดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
       
       นายชรัช กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงของการเปิดให้บริษัทภาคเอกชนดำเนินการออกแบบการดำเนินการ ทั้งในเรื่องรูปแบบของกังหัน รวมถึงการจัดสรรพื้นที่ในส่วนของสถานที่กักเก็บประจุไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าภายในเดือนตุลาคม 2551 ในส่วนของการออกแบบคงแล้วเสร็จ และจะได้นำเสนอต่อสภาเทศบาลเมืองศรีราชา เพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณในการดำเนินการก่อสร้าง โดยใช้อุปกรณ์ในทุกขั้นตอนเป็นฝีมือของคนไทย คาดว่าประมาณ 3-4 เดือนให้หลัง หรือช่วงประมาณกลางปี 2552 โครงการนำร่องดังกล่าวคงเสร็จสิ้นทั้งระบบ
       
       ทั้งนี้ หากมีความชัดเจนในเรื่องของงบประมาณในการก่อสร้าง คณะทำงานจะได้รื้อเสาไฟฟ้า และระบบไฟทั้งหมดบริเวณสวนสาธารณะเกาะลอย ก่อนติดตั้งเสาไฟฟ้ากังหันลมผลิตพลังงานไฟฟ้า และหากดำเนินการติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยจะเป็นอีกวิธีการหนึ่ง ในการประหยัดพลังงาน และลดภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
       
       อย่างไรก็ตาม เทศบาลเมืองศรีราชาเชื่อเหลือเกิน ว่าจะได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ และในอนาคตอาจจะพัฒนาการผลิตกระแสไฟเพิ่มขึ้นจาก 400 วัตต์ เป็น 1,000 กว่าวัตต์ ซึ่งต้องดูความเป็นไปได้ในอนาคต ในส่วนของโครงการนำร่องนี้ หากมีการดำเนินการได้ผลเป็นรูปธรรมแล้ว เทศบาลฯมีแนวคิดจะผลิตกังหันลมผลิตไฟฟ้าอย่างครบวงจรเพิ่มเติมในส่วนของพื้นที่บริเวณบ่อกักเก็บขยะของเทศบาลฯโดยจะนำเรื่องเสนอผ่านสภาเทศบาลฯเพื่ออนุมัติงบประมาณในการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเช่นกัน

แนวหน้า


ทส.ผุดโครงการรักน้ำรักษ์ป่า "ถวายพระแม่ของแผ่นดิน" เฉลิมพระเกียรติพระราชินี    
 
 นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดโครงการรักน้ำ รักษ์ป่า ถวายพระแม่ของแผ่นดิน ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 3,000 คน ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 76 พรรษา 12 สิงหาคม 2551

 นางอนงค์วรรณ กล่าวอีกว่า การดำเนินโครงการรักษ์น้ำ รักษ์ป่า ถวายพระแม่ของแผ่นดิน เป็นการรณรงค์ฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและเป็นพื้นที่ขยายผล ให้มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำ และอำนวยประโยชน์ต่อชุมชนรวมทั้งประเทศชาติโดยรวม จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกชุมชนทุกหมู่เหล่าร่วมใจปลูกป่าเพื่อถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในทุกพื้นที่ที่มีโอกาส ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบนิเวศน์โดยรวม และเกิดผลดีต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่นั้น

 สำหรับโครงการรักน้ำ รักษ์ป่า ถวายพระแม่ของแผ่นดิน ที่จัดขึ้นในปีงบประมาณ 2551 ประกอบด้วยการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ในเนื้อที่ 66,000 ไร่ ปลูกป่าหวาย 31,000 ไร่ และสร้างฝายต้นน้ำแบบตาข่ายคลุมหินทิ้ง จำนวน 5,000 ฝาย

ดีจัง ขอให้โครงการสำเร็จเถอะ ....

ซอยแถวบ้าน เห็นไฟถนนเปิดทั้งวันทั้งคืนมาร่วมเกือบเดือนแล้วมั้งค่ะ...
แม้แต่กลางวันก็ไม่ปิด...ไม่รู้จะประหยัดไฟกันได้เนี่ย...รัฐยังไม่ปิดเลยอ่ะ....

ไม่รู้เหมือนกัน.. อย่างที่ตึก.. เค้ารณรงค์ให้ประหยัดไฟ ประหยัดกระดาษ..

แต่เปิดแอร์ที่ 20 องศา.. ไม่รู้ประหยัดตรงไหน นึกว่าอยู่เมืองน้ำแข็ง..  :-[ :-[

ที่ทำงานพี่ เปิด 25 องศา ก้ต้องใส่สูทมาทำงานทุกวันแล้ว  ไปอยู่  off พิงค์ มีหวัง  ต้องเอาผ้าห่มไฟฟ้า ไม่ก็ถุงน้ำร้อนติดตัวตลอดแน่ๆเลย หล่ะ   ??? ???