|
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 02, 2008, 12:40:41 AM กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ร่องความกดอากาศต่ำเลื่อนไปพาดผ่านภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่งผลให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางและภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. คาดหมาย ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนกระจายและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาวเและเวียดนามตอนบน ทำให้ร่องความกดอากาศที่พาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ อนึ่ง พายุโซนร้อน ฮีโกส ในทะเลจีนใต้ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งใกล้เกาะฮ่องกงประมาณวันที่ 5 ต.ค. ข้อควรระวัง ในวันที่ 5-8 ต.ค. ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณพื้นที่ราบลุ่ม และบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขา ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 02, 2008, 12:45:33 AM เดลินิวส์
ชาวบ้านฟ้องนํ้าชายทะเลบางขุนเทียนเน่า ประภัสร์โปรยยาหอมจะยกเลิกโครงการ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ก.ย. นายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 10 พรรคพลังประชาชน เดินทางไปลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงที่บางขุนเทียนชายทะเล โดยมีนายคงศักดิ์ ฤกษ์งาม ประธานชุมชนคลองพิทยาลงกรณ์ เขตบางขุนเทียน มาให้ข้อมูลปัญหาในพื้นที่ ซึ่งประกอบด้วย ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะที่พื้นดินหายไปแล้วกว่า 3,000 ไร่ เป็นบ้านเรือนราษฎร 127 หลัง คาเรือน ที่ชาวบ้านต้องการใช้วิธีภูมิปัญญาชาวบ้านในการแก้ปัญหา ด้วยการใช้ไม้ไผ่ปักกั้นเป็นแนวเขื่อน ไม่ใช่วิธีที่ กทม. ศึกษาไว้คือไส้กรอกทราย เพราะหากถุงทรายแตก จะเกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศ ทำให้สัตว์น้ำตาย ชาวบ้านจะไม่มีอาชีพ นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีปัญหาน้ำเน่าเสียที่เกิดจากโครงการ 10 คลองสวยน้ำใส ของอดีตผู้ว่าฯ กทม. ที่ใช้น้ำดีดันน้ำเสียออกทะเล โดยไม่มีการบำบัดก่อน ทำให้ทุก ๆ รอบ 6 เดือน จะมีสัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมาก ส่วนการปรับปรุงถนนเทียนทะเลก็ล่าช้า ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2549 แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จ ชาวบ้านเดือดร้อนมาก อีกทั้งร้านอาหารย่านดังกล่าวต้องยกเลิกกิจการไปเพราะ ไม่มีคนเข้ามากินอาหาร ตอนนี้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างแล้ว นายประภัสร์ เปิดเผยว่า ในการแก้ปัญหาต้องฟังเสียงชาวบ้านด้วย ซึ่งตนเห็นว่าภูมิปัญญาชาวบ้านเป็นเรื่องดี ถ้าใช้แก้ปัญหาไม่ได้ประเทศชาติคงอยู่ไม่ถึงทุกวันนี้ การแก้ปัญหาต้องหารือร่วมกับจังหวัดสมุทรปราการ สมุทร สาครด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการผลักปัญหาจาก กรุงเทพฯ ไปใส่จังหวัดอื่น และต้องดูรายละเอียดพื้นที่อย่างจริงจังเพื่อแก้ปัญหาให้เกิดผลมากที่สุด ส่วนเรื่องปัญหาน้ำเน่าเสีย ต้องจัดทำโรงบำบัดน้ำเสีย ตนจะเลิกการดันน้ำเสียลงทะเล แก้ปัญหาน้ำเสีย ซึ่งอาจปนเปื้อนไปกับสัตว์น้ำที่จับมากิน เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ ส่วนโครงการปรับปรุงถนนเทียนทะเลที่มีการยืดเยื้อมานาน ทราบว่ามีปัญหาการใช้วัสดุก่อสร้างผิดสเปก ทำให้งานล่าช้า หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะตรวจสอบเรื่องให้ชัดเจน และจะเร่งแก้ปัญหาให้เสร็จโดยเร็ว. หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 02, 2008, 12:58:41 AM มติชน
ดำน้ำให้เก่งเหมือนโลมาและเพนกวิน : คอลัมน์ จูนคลื่น (http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2008/10/epe01021051p1.jpg) (http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2008/10/epe01021051p2.jpg) คนว่ายน้ำไม่เป็น ใครว่าจะอดชมความงดงามที่ลึกลับใต้ท้องทะเล ขอให้ใจกล้าสักนิด หัดใช้อุปกรณ์ ที่ได้เทคโนโลยียุคใหม่มาช่วยเสริม เช่นที่สถาบันเรียนรู้มนุษยวิทยาและเครื่องจักร มหาวิทยาลัยฟลอริดาตะวันตก (The University of West Florida"s Institute of Human and Machine Cognition) ประดิษฐ์และออกแบบชุดมนุษย์กบ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากความหลากหลายทางชีวภาพบนโลกใบนี้ ออกมาเป็นชุด "เพนกวิน-เมน" (penguin-men) ซึ่งก็เหมือนชุดประดาน้ำ มีการสร้างสรรค์อุปกรณ์เพิ่ม เสริมเติมเข้ามา โดยเฉพาะปีกที่ติดตั้งกลไลในการช่วยพยุงตัว ให้ดำผุดดำว่าย เคลื่อนไหวโลดแล่นใต้ท้องทะเลเหมือน ปลาโลมา หรือเจ้านกเพนกวินแสนน่ารัก โดยไม่ต้องออกแรงดำน้ำเหมือนการดำสคูบาเช่นปัจจุบันนี้ ความตั้งใจสร้างสรรค์ชุดดังกล่าวนี้ นักวิจัยก็หาจุดสนใจจากความได้เปรียบและความแปลกใหม่มาผสมผสาน ชุดเพนกวิน-เมนนี้ เมื่อทดสอบผลิตออกมาเป็นโปรโตไทร์ฟ ปรากฏว่ากองทัพลุงแซมให้ความสนใจ ที่จะนำไปใช้ในกิจการกลาโหม จึงมีการพัฒนาเนื้อวัสดุชุดดำน้ำออกมาเป็นพิเศษยิ่งขึ้น โดยเฉพาะให้สามารถดำน้ำในระดับลึกๆ กว่าปกติ และทนทานความหนาวเย็นใต้ท้องทะเล หรือมหาสมุทรได้มากขึ้น สามารถหายใจจากถังออกซิเจนได้นานยิ่งขึ้น นั่นเป็นความสำเร็จอีกขั้นของการประดิษฐ์ชุดดำน้ำ ที่ใช้ชื่อว่า penguin-men และแน่นอนว่า นักวิจัยยังไม่หยุดพัฒนาชุดดังกล่าวแค่นี้ อนาคตเราคงได้เห็นสมรรถนะของมันเพิ่มขึ้น ****************************************************************************************************************************** "ธีออส" ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรไทยขึ้นสู่อวกาศแล้ว (http://www.matichon.co.th/online/2008/10/12228661161222866240l.jpg) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ธีออส" (THEOS) ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรดวงแรกของไทยทะยานขึ้นสู่อวกาศเรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 13.37 น. วันที่ 1 ตุลาคม ตามเวลาในไทย โดยจรวดส่ง "เนปเปอร์" ของบริษัทไอเอสซี คอสโมทราส แห่งรัสเซีย จากฐานส่งจรวดเมืองยาสนี ในพื้นที่ทหารของรัสเซีย ทำให้ไม่สามารถถ่ายทอดสดการส่งดาวเทียมครั้งนี้มายังประเทศไทยได้ มีเพียงการรายงานสดทางวิทยุมายังสถานีควบคุมและรับสัญญาณดาวเทียมธีออสที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีเท่านั้น โดยธีออสอยู่ในวงโคจรสูงราว 690 กม.เหนือพื้นดิน และจะโคจรผ่านไทยเป็นครั้งแรกในเวลา 21.16 น. วันเดียวกัน สำหรับดาวเทียมดวงนี้ ถือเป็นดาวเทียมสำรวจทรัพยากรดวงแรกของไทยและอาเซียน นอกจากจะทำให้บุคลากรไทยมีความรู้ความสามารถในเทคโนโลยีอวกาศ แล้วยังสามารถให้บริการข้อมูลดาวเทียมแก่ผู้ใช้ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ อาทิ ป่าไม้,การเกษตร,การทำแผนที่,ผังเมือง,การจัดการแหล่งน้ำ,ความมั่นคง และภัยพิบัติได้อีกด้วย หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 02, 2008, 01:06:17 AM แนวหน้า
อุทยานแห่งชาติฯร่วมกรมป่าไม้ ผุดรักน้ำรักษ์ป่าถวายแม่แผ่นดิน เชียงใหม่:นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดโครงการ รักน้ำ รักษ์ป่า ถวายพระแม่ของแผ่นดิน ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยมีหน่วยงานทุกภาคส่วนและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงานกว่า 3,000 คน ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับกรมป่าไม้ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 76 พรรษา วันที่ 12 ส.ค. 2551 นางอนงค์วรรณ เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและพื้นที่ขยายผลให้มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำ และอำนวยประโยชน์ต่อชุมชนรวมทั้งประเทศชาติโดยรวม โดยโครงการรักน้ำ รักษ์ป่า ถวายพระแม่ของแผ่นดิน ที่จัดขึ้นในปีงบประมาณ 2551 นี้ ประกอบด้วยการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ในเนื้อที่ 66,000 ไร่ ปลูกป่าหวาย 31,000 ไร่ และสร้างฝายต้นน้ำแบบตาข่ายคลุมหินทิ้ง จำนวน 5,000 ฝาย |