กระดานข่าว Save Our Sea.net

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับภาคใต้มีฝนกระจายในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 15 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ซึมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ต่อจากนั้น(16-20 ต.ค.) จะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย โดยในตอนเช้าภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะอากาศเย็นกับมีหมอกบาง

สำหรับในช่วงวันที่ 17-20 ต.ค. จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำจากทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมในอ่าวไทยมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรโดยเฉพาะในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 17-20 ต.ค. ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมได้บางพื้นที่ และชาวเรือขอให้ระวังอันตรายในการเดินเรือโดยเฉพาะในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

เดลินิวส์


พังงาไม่ประมาทเตรียมรับภัยธรรมชาติ
 
(http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/region/10/15/179687_85948.jpg)
 
ซ้อมแผนน้ำท่วม-โคลนถล่ม ลดความสูญเสียชีวิต-ทรัพย์สิน

สถานการณ์ของบ้านเมืองเราขณะนี้สิ่งที่สร้างปัญหารำคาญใจให้ประชาชนมาก ที่สุดทั่วประเทศคงหนีไม่พ้นปัญหาการเมือง ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แบ่งพรรคแบ่งพวกแตกความสามัคคี การลงทุนต่าง ๆ หยุด  ชะงัก การท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ เงียบเหงา ความเครียดเริ่มแผ่ขยายเป็นวงกว้างขึ้นสำหรับประชาชนทุกสาขาอาชีพ หลายคนหวั่นจะเกิดการ นองเลือด คนไทยเข่นฆ่ากันเอง ซึ่งเป็นเรื่องเศร้าใจที่ใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แทนที่จะรักและสามัคคีกันและช่วยกันป้องกันภัยธรรมชาติที่กำลังรุนแรงเกือบทั่วโลก
 
ปัญหาภัยพิบัติจากธรรมชาตินับวันยิ่งสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินกับผู้คนทั่วโลกอย่างรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ อีกทั้งยังเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ผลสืบเนื่องมาจากความเห็นแก่ตัวของมนุษย์เรา ที่หาผลประโยชน์ส่วนตัวทำลายทรัพยากรธรรมชาติโดยปราศจากการยั้งคิดถึงผลกระทบที่ตามมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชากรโลกทั่วไปหนีไม่พ้นกขึ้นอยู่ว่าภัยพิบัตินั้นจะมากหรือน้อยเพียงใด ขณะนี้ที่สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนหลายจังหวัดของบ้าน เราคือ น้ำป่าไหลหลาก ท่วมพื้นที่  บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร และโคลนถล่มทับเส้นทางสัญจรตาม ท้องถนน เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกปีและคอยให้ความช่วยเหลือทุก ครั้งหลังจากเกิดเหตุการณ์

(http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/region/10/15/179687_85949.jpg)
 
จังหวัดพังงาเป็นพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติอย่างรุนแรงเกือบทุกปี ที่หนักสุดคือภัยพิบัติจากคลื่นยักษ์สึนามิหลายคนจำฝังใจ นอกจากนี้แล้วยังมีพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมและโคลนถล่ม จำนวน 146 บ้าน โดยเฉพาะตำบลสองแพรก เป็นตำบลที่อยู่ในเขตอำเภอเมืองพังงา ตั้งอยู่ท่ามกลางเขากระทะคว่ำและเทือกเขาหราสูง เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความเสี่ยงมากสุด..อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดพังงา โด่งดังมากในเรื่องของขี่ช้าง ล่องแก่ง แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 300 คน เพื่อเป็นการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่อาจจะเกิดขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว จังหวัดพังงาร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา องค์การบริหารส่วนตำบลนบปริง เทศบาลเมืองพังงา สาธารณสุขจังหวัดพังงา อปพร.จังหวัดพังงา มูลนิธิโพธิธรรมประพาส และมีการบูรณาการอีกหลายภาคส่วน ร่วมกันจัดโครงการซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้านอุทกภัยและโคลนถล่ม ณ หมู่ 2 บ้านสองแพรก ต.สองแพรก อ.เมือง จ.พังงา โดยมีการสมมุติฐานจำลองเหตุการณ์จริง โดยมีน้ำท่วมและเกิดดินถล่ม ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวติดอยู่อีกฝั่งหนึ่งของลำคลอง ซึ่งต้องการความช่วยเหลือ และอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือผู้ได้รับอาการบาดเจ็บ และมีแพทย์พยาบาลได้เข้าไปให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

(http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/region/10/15/179687_85950.jpg)

นายละออง แก้วสาวศรี หัวหน้า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ด้วยสาเหตุจากการเปลี่ยน แปลงและแปรปรวนของสภาวะอากาศ กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกำหนดให้ทุกจังหวัดมีการฝึกซ้อมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในส่วนของจังหวัดพังงาก่อนหน้านี้ได้ฝึกซ้อมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิไปครั้งหนึ่งแล้ว และที่สำคัญในทุกพื้นที่มีการติดตั้งระบบเตือนภัยสาธารณะ และในวันนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งในการเตรียมความพร้อมในด้านบุคลากร ด้านการสื่อสาร ด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

(http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/region/10/15/179687_85951.jpg)
 
ด้าน นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า จังหวัดพังงาสภาพภูมิประเทศมีภูเขาดินสูงชันหลายพื้นที่เป็นจุดเสี่ยง การประกอบอาชีพทางเกษตรปลูกผลผลิตต่าง ๆ ปัจจุบันใช้เครื่องมือเครื่องจักรขุดขั้นบันได เป็นการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติการเกาะยึดหน้าดินต่าง ๆ ไม่ดีเช่นเดิมจึงฝากให้ระวังกัน ขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างพม่า จีน หรือแม้อเมริกา กำลังประสบภัยกันอย่างหนัก เพื่อความไม่ประมาทจังหวัดพังงาจึงเตรียมความพร้อมทั้งด้านทางทะเล และภูเขา ดังนั้นความเข้าใจการเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร ด้านความรู้ทักษะในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านอุทกภัยและโคลนถล่ม  มีความสำคัญมาก ผลจากการฝึกซ้อมในครั้งนี้ หากมีข้อบกพร่องในด้านใดด้านหนึ่งก็ นำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นจริง
 
ที่สำคัญ หากเกิดภัยพิบัติธรรมชาติให้ทุกคนรีบให้การช่วยเหลือไม่ว่าผู้ประสบภัยจะเป็นใคร สัญชาติใด หรือพูดภาษาใด นี่คือน้ำใจไมตรีของผู้ที่ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างสมบูรณ์.