|
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤศจิกายน 19, 2008, 12:48:00 AM กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลง และมีลมแรง ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่น สูง 2 – 3 เมตร ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยระมัดระวังอันตรายจากการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 19 – 22 พฤศจิกายนนี้ไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนเล็กน้อยเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. คาดหมาย พายุดีเปรสชัน “นูล (Noul)” บริเวณประเทศกัมพูชา มีแนวโน้มจะอ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในวันนี้ (18 พ.ย. 51) ทำให้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆ ในช่วงวันที่ 18-21 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีมีเมฆเพิ่มขึ้นในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศา ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัด ปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลงด้วย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศอุ่นขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ข้อควรระวัง ในวันที่ 19-21 พ.ย. ประชาชนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือควรรักษาสุขภาพ ส่วนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไประมัด ระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่ง ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงเวลาดังกล่าว หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤศจิกายน 19, 2008, 12:55:20 AM เดลินิวส์
เก็บขยะใต้ทะเล เพื่อ ‘พีพี’ ที่สวยงาม (http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/environment/11/18/182847_88166.jpg) เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ‘เดลินิวส์ ไกด์’ มีโอกาสเดินทางไปหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ร่วมโครงการเก็บขยะใต้ทะเลเกาะพีพี Nature Heal โดยความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)กับหลายหน่วยงานของทางจังหวัดกระบี่ เพื่อทำความสะอาดใต้ท้องทะเลไทยให้มีความสวยงามตามธรรมชาติ และต้อนรับฤดูการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัด อีกทั้งโครงการนี้ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก (http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/environment/11/18/182847_88167.jpg) เมื่ออาสาสมัครและนักดำน้ำเตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็จะเริ่มกิจกรรมด้วยการดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเลรอบๆเกาะพีพี จากนั้นนำขยะที่ได้มาคัดแยก ชั่งน้ำหนัก บันทึกข้อมูล นำขยะส่งต่อไปกำจัดอย่างถูกวิธี โดยในปีนี้ ขยะที่นำขึ้นมาได้มีมากมายหลากหลาย อาทิ ขวดแก้ว เหล็ก ยางรถยนต์ แว่นตา ฯลฯ สำหรับ ‘เดลินิวส์ ไกด์’เอง ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการดำน้ำเก็บขยะ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจให้กับผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน (http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/environment/11/18/182847_88169.jpg) สุดท้ายนี้อยากจะฝากถึงนักท่องเที่ยวทุกคนว่า เที่ยวทะเลหรือเที่ยวที่ไหน ก็อย่าลืมรักษาความสะอาด เพื่อความสวยงาม เป็นระเบียบ และเพื่อสร้างแรงดึงดูดจากนักท่องเที่ยวต่อไป. **************************************************************************************************************************** จัดงานประมง...เชื่อมสัมพันธ์ 3 ชาติ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย (http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/agriculture/11/19/182880_88206.jpg) ผู้นำของทั้ง 3 ประเทศคือ ประเทศไทย อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย เห็นว่าควรมีความร่วมมือกันในการพัฒนาความร่วมมือเขตเศรษฐกิจในลักษณะไตรภาคีขึ้น เพื่อร่วมกันพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรร่วมกัน รวมทั้งร่วมมือในการลงทุนและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดย กรอบความร่วมมือของทั้ง 3 ประเทศ เรียกว่า Indonesia Malaysia Thailand Growth Triangle หรือ IMT-GT ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2536 โดยภาคประมงเป็นกิจกรรมหนึ่งของความร่วมมือ เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของทั้ง 3 ประเทศอย่างมาก เพราะเป็นทั้งแหล่งผลิตอาหารโปรตีนสำหรับประชากรทั้งในและต่างประเทศ เป็นแหล่งรายได้ แหล่งการจ้างงาน ตลอดจนเป็นแหล่งดึงเงินตราต่างประเทศจากการส่งออกผลผลิต ที่สำคัญแต่ละประเทศมีทรัพยากรประมงและความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อมีการร่วมมือในกิจกรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำการประมงในทะเล การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั้งเพื่อเป็นอาหารและเพื่อความสวยงาม รวมถึงการแปรรูปอาหารทะเลต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร ส่งผลให้เกิดความมั่นคงทางอาหารในเขตพื้นที่นี้ นำไปสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจต่อไป พื้นที่ที่อยู่ในเขต IMT-GT แบ่งเป็น ประเทศอินโดนีเซีย 10 จังหวัด ได้แก่ สุมาตราเหนือ อาเจะห์ สุมาตราตะวันตก เรียว เบงกูล จัมบี สุมาตราใต้ ลัมปุง เกาะเรียวและบังกาเนลิตุง ประเทศมาเลเซีย 8 รัฐ ได้แก่ เกดะห์ เประ ปีนัง ปะลิส สลังงอร์ กลันตัน มะละกา เนกรีเซมบีลัน ส่วนประเทศไทย ประกอบด้วย 14 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง ภูเก็ต พังงา และกระบี่ ในแต่ละปีจะมีการจัดประชุมและการแสดงสินค้าประมง เพื่อสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตลอดจนกระชับความร่วมมือในภาคการประมงระหว่าง 3 ประเทศ ซึ่งในปีที่แล้วประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพจัดงาน ส่วนปีนี้ประเทศไทย โดยกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพสานต่อความร่วมมือภาคประมงในเขตพื้นที่นี้ ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ หอการค้าไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจชายแดนภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต และศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นางสมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง เล่าถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2551 โดยจะจัดพร้อมกัน 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมเมโทรโพล และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล จ.ภูเก็ต สำหรับจุดมุ่งหมายหลักของการจัดงานครั้งนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจ สาขาประมง เจ้าหน้าที่ของรัฐจากทั้ง 3 ประเทศ ตลอดจนผู้สนใจได้พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในเรื่องการประมงที่สนใจ รวมถึงรับทราบนโยบายและระเบียบข้อบังคับต่างๆ ของภาครัฐ อันจะนำไปสู่การจับคู่ทางธุรกิจ หรืออาจทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเดิมให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความสะดวกในการร่วมทุนในอนาคต งานจะมีกิจกรรม คือ การจัดสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับประมง เช่น นโยบายการส่งเสริมความร่วมมือด้านการประมงในพื้นที่ IMT-GT การอภิปรายเรื่องการสร้างฟาร์มมาตรฐานและการเพาะเลี้ยง การบริหารจัดการทรัพยากรประมง การลงทุนร่วมทางด้านประมง ความเป็นไปได้ในการร่วมมือทางการค้าปลาสวยงาม การจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้า เช่น การแสดงเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การแสดงปลาสวยงามและพรรณไม้น้ำหลากหลายชนิดที่นิยมเลี้ยงในตู้ปลา การแสดงเครื่องมือประมงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การแสดงระบบตรวจสอบอาหารทะเลเพื่อบริโภคในตลาดและเพื่อการส่งออก รวมทั้งมีการออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP เกรด A จาก 14 จังหวัดภาคใต้ของไทย งานนี้เข้าชมฟรี... ผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมประมง โทร. 0-2562-0569 หรือที่สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต โทร. 0-7621-2460. หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤศจิกายน 19, 2008, 01:03:39 AM ข่าวสด
วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้แห่งชาติ : คอลัมน์ รู้ไปโม้ด น้าชาติ ประชาชื่นnachart@yahoo.com 14 มกรา คมเป็นวันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้แห่งชาติ ถามว่าวันนี้มีที่มาอย่างไร และวัตถุประสงค์คืออะไร (http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2008/11/you02191151p1.jpg) ป่าไม้ (Forest) หมายถึง บริเวณที่มีต้นไม้หลายชนิด ขนาดต่างๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นและกว้างใหญ่พอที่จะมีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อมในบริเวณ นั้น เช่น ความเปลี่ยนแปลงของลมฟ้าอากาศ ความอุดมสมบูรณ์ของดินและน้ำ มีสัตว์ป่าและสิ่งมีชีวิตอื่นซึ่งมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน "วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้แห่งชาติ 14 มกราคม" มีจุดกำเนิดจากเมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2532 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2484 และพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 พระราชกำหนดดังกล่าวได้ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยความเห็นของคณะรัฐมนตรี มีอำนาจสั่งการให้สัมปทานป่าไม้สิ้นสุดลงทั้งแปลงได้ ทั้งนี้ ด้วยเหตุอันเนื่องมาจากอุทกภัยภาคใต้ที่เกิดขึ้นเมื่อ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2531 โดยเฉพาะที่ตำบลกะทูน อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช นอก จากจะทำให้ประชาชนสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งด้านจิตใจและเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง และคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่ง การให้สัมปทานทำไม้หวงห้ามทุกชนิด (เว้นสัมปทานทำไม้ป่าชายเลน) ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ทุกสัมปทานสิ้นสุดลงทั้งแปลง มีผลให้การทำไม้สัมปทาน จำนวน 276 ป่า เนื้อที่ 96,728,981 ไร่ ยุติลงโดยสิ้นเชิง ทำให้ต้นไม้ในป่าสัมปทานไม่ถูกตัดฟัน และอนุรักษ์ป่าไม้สำหรับใช้สอยในอนาคตได้ คิดเป็นเนื้อไม้โดยเฉลี่ยปีละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร จนทำให้รัฐบาลได้รับคำชมเชยจากนานาประเทศเป็นอย่างมาก เพราะการระงับการทำไม้ดังกล่าวมีส่วนโดยตรงในการสนับสนุนมาตรการป้องกันมล ภาวะของโลก อีกทั้งระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน พ.ศ.2532 พายุโซนร้อนเกย์ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตและทรัพย์สินของ ประชาชนในภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดชุมพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสและพระราชทานพระบรมราโชวาท เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนม พรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ.2532 ทรงห่วงใยในสภาพแวดล้อมของประเทศ ขอให้แก้ไขอย่างจริงจังด้วยการเผาให้น้อยลง และปลูกต้นไม้ให้มากขึ้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมา จากสาเหตุการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานที่สำคัญ จำเป็นต้องรณรงค์ต่อเนื่องและระยะยาวให้ประชาชนให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ ทรัพยากรป่าไม้ โดยสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดไม้ ทำลายป่า เพื่อต้องการอนุรักษ์ป่าไม้ที่มีอยู่อย่างจำกัดมิให้ถูกทำลายต่อไป พร้อมทั้งกำหนดให้ช่วงปี พ.ศ.2532-2535 เป็น "ปีแห่งการป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ" ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2533 กำหนดให้วันที่ 14 มกราคม เป็น "วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ" เพื่อให้ประชาชนระลึกถึงผลเสียที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าซึ่งทำให้ประชาชน ภาคใต้และภาคอื่นๆ เสียชีวิตและทรัพย์สินดังกล่าว นับเป็นก้าวสำคัญในประวัติการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกรักและหวงแหนป่าไม้อันเป็นทรัพยากรที่สำคัญของชาติ ช่วยรักษาความสมดุลของสภาวะแวดล้อมและป้องกันภัยธรรมชาติ ตระหนักว่าการตัดไม้ทำลายป่าจะนำความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชน ทำให้มีการใช้ไม้อย่างประหยัด ส่งผลให้สามารถอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ไว้เป็นสมบัติของประชาชนทุกคนในชาติ ได้ตลอดไป โดยถือเอาวันที่ 14 มกราคม เป็นวัน ลด ละ เลิก การบุกรุกแผ้วถางป่าและตัดไม้ทำลายป่า และร่วมมือร่วมใจกันปลูกต้นไม้ขึ้นมาทดแทนที่ถูกตัดทำลายไปให้มากที่สุด หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤศจิกายน 19, 2008, 01:07:33 AM แนวหน้า
เรือสินค้าฮ่องกง พร้อมลูกเรือ 25 คนถูกโจรสลัดปล้นทะเลเยเมน สำนักข่าวซินหัว ซึ่งเป็นสื่อของทางการจีนรายงาน โดยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าศูนย์ค้นหาและช่วยเหลือทางเรือของจีน ที่ระบุว่า เรือขนส่งสินค้าของฮ่องกง ชื่อ ดีไลท์ พร้อมลูกเรือ 25 คน ถูกโจรสลัดปล้นในอ่าวอาเด็น ใกล้ชายฝั่งทะเลเยเมน ซึ่งเรือลำดังกล่าวกำลังมุ่งหน้าไปยังท่าเรือบันดาร์ อับบาสของอิหร่าน รายงานระบุว่า ลูกเรือทั้ง 25 คน ไม่มีใครมาจากฮ่องกงหรือจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่รายงานข่าวก็ไม่ได้ระบุว่า มาจากชาติใดบ้าง ก่อนหน้านี้เรือขนส่งน้ำมันดิบขนาดใหญ่ของซาอุดิอาระเบียชื่อ ซิริอุส สตาร์ ถูกโจรสลัดโซมาเลียปล้น ซึ่งเรือดังกล่าวมีน้ำมันมากถึง 2 ล้านบาร์เรล และนับเป็นเรือขนาดใหญ่ที่สุดนับจากตั้งแต่มีการปล้นเรือในโซมาเลีย แต่ทั้งปีนี้ในการปล้นเรือในโซมาเลียมากถึง 90 ครั้ง มากกว่าปีที่แล้วถึง 2 เท่า |