|
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤศจิกายน 23, 2008, 12:41:40 AM กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่สะสมอยู่ตามแนวเทือกเขา ที่จะไหลลงมาทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากแผ่ขยายพื้นที่เพิ่มมากขึ้นได้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีถึงนราธิวาสมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงยังคงต้องระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง และเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่แผ่ปกคลุมประเทศไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นโดยทั่วไป กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. คาดหมาย บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 25-29 พ.ย. 51 นี้ ลักษณะดังกล่าวจะทำให้บริเวณประเทศไทยดังกล่าวมีอุณหภูมิจะลดลง 2-6 องศาเซลเซียส โดยจะมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น โดยจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตรในช่วงวันที่ 25-29 พ.ย. นี้ อนึ่ง ในช่วงวันที่ 24-28 พ.ย. จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงเคลื่อนตัวจากอ่าวไทยตอนล่างผ่านภาคใต้ตอนล่างและมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ได้อีกครั้งหนึ่ง ข้อควรระวัง ในระยะนี้ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยรักษาสุขภาพไว้ด้วยเนื่องจากอากาศมีการเปลี่ยนแปลงมาก และระมัดวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาด้วย ส่วนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ควรระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักถึงหนักมากที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้อีกครั้งหนึ่ง ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กบริเวณจังหวัดชุมพรลงไปควรงดออกจากฝั่ง หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤศจิกายน 23, 2008, 12:48:06 AM ไทยรัฐ
เครือข่ายโจรสลัดโซมาเลีย ภัยคุกคามระดับโลกยากยับยั้ง (http://www.thairath.co.th/2551/international/Nov/library/23/str1.jpg) พักนี้ “โจรสลัดโซมาเลีย” ก่อเหตุจี้เรือนานาชาติไปเรียกค่าไถ่หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดเมื่อ 18 พ.ย. เรือประมงไทยชื่อ “เอกวัฒน์ นาวา 5” ของบริษัทศิริชัย ฟิชเชอรี่ จำกัด พร้อมลูกเรือ 16 คน ก็ถูกยึดไปบริเวณอ่าวเอเดน นับเป็นเรือไทยลำที่ 2 ที่ตกเป็นเหยื่อในปีนี้ ถัดจากเรือ “เอ็มวี ธอร์ สตาร์” ที่ถูกยึดไปเมื่อหลายเดือนก่อน และเพิ่งได้รับอิสรภาพเมื่อปลายเดือน ต.ค. หลังยอมจ่ายค่าไถ่ก้อนโต “เอกวัฒน์ นาวา 5” เป็นเรือลำที่ 8 ที่ตกเป็นเหยื่อโจรสลัดโซมาเลียในรอบแค่ 2 สัปดาห์ แต่ที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกก็คือ ก่อนหน้านั้น 3 วัน เรือบรรทุกน้ำมันขนาดยักษ์ หรือ “Supertanker” ของซาอุดีอาระเบีย ชื่อ “เอ็มวี ซิริอุส สตาร์” พร้อมน้ำมันดิบมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3,400 ล้านบาท) ก็ถูกยึด และโจรสลัดขอค่าไถ่ถึง 25 ล้านดอลลาร์ (ราว 850 ล้านบาท) เรียกว่ายัง “เหิมเกริม” ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าทั้งกองกำลังนาโต อียู สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส รัสเซีย จะส่งกองเรือรบเข้าไปลาดตระเวนแถบน่านน้ำโซมาเลียและอ่าวเอเดน หลังจากเรือ “เอ็มวี ไฟนา” ของยูเครน ซึ่งบรรทุกอาวุธหนัก รวมทั้งรถถัง 33 คัน ถูกยึดไปเมื่อ 25 ก.ย. เฉพาะปีนี้ โจรสลัดโซมาเลียยึดเรือเดินสมุทรนานาชาติไปแล้วอย่างน้อย 35 ลำ ส่วนหนึ่งได้รับอิสรภาพหลังยอมจ่ายค่าไถ่ แต่ยังเหลืออีกราว 17 ลำ รวมลูกเรือกว่า 300 คนที่ยังอยู่ในเงื้อมมือโจร “สาธารณรัฐโซมาเลีย” ตั้งอยู่บริเวณ “จะงอยแอฟริกา” (Horn of Africa) ทาง ตะวันตกเฉียงเหนือติดกับจิบูตี ทางตะวันตกเฉียงใต้ติดเคนยา ทางเหนือติดอ่าวเอเดน โดยมีเยเมนอยู่คนละฝั่ง ทางตะวันตกติดเอธิโอเปีย ส่วนทางตะวันออกติดมหาสมุทรอินเดีย เมืองหลวงชื่อโมกาดิชู มีประชากรราว 10 ล้านคน เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษและอิตาลีก่อนได้รับเอกราชในปี 2503 โซมาเลียไม่มีรัฐบาลเต็มรูปแบบตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองในปี 2534 มิหนำซ้ำ รัฐโซมาลีแลนด์ และรัฐพันต์แลนด์ ประกาศแยกตัวเป็นอิสระ แต่นานาชาติไม่ยอมรับ (http://www.thairath.co.th/2551/international/Nov/library/23/str2.jpg) หลังการต่อสู้แย่งชิงอำนาจระหว่างชนเผ่ามาตลอด การเจรจาสันติภาพในปี 2546 สามารถบรรลุข้อตกลงให้ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และจัดการเลือกตั้งภายใน 5 ปี แต่จนถึงบัดนี้ รัฐบาลชั่วคราวไร้อำนาจเด็ดขาด ต้องสู้รบกับกบฏกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่ม “สหภาพศาลอิสลาม” (ยูไอซี) ซึ่งแข็งแกร่งมาก แต่เดิมโจรสลัดอาละวาดอยู่เฉพาะแถบน่านน้ำโซมาเลีย และอ่าวเอเดนอันเป็นปากทางสู่ทะเลแดงที่เชื่อมกับคลองสุเอซ ซึ่งเป็นประตูสู่ยุโรปเท่านั้น แต่พักหลังๆ ขยายอาณาเขตมาถึงน่านน้ำเยเมนและเคนยาด้วย หลังจากเรือสินค้านานาชาติรู้แกว พยายามเลี่ยงน่านน้ำโซมาเลีย แต่เลี่ยงยังไงๆ ก็ไม่พ้นอยู่ดี เห็นได้จากเรือ “เอ็มวี ซิริอุส สตาร์” ของซาอุฯ ถูกยึดในน่านน้ำเคนยา จนบริษัทขนส่งทางเรือยักษ์ใหญ่ “ออดฟ์เจล เอสอี” ของนอร์เวย์ ต้องสั่งให้เรือบรรทุกน้ำมันของตนกว่า 90 ลำ เปลี่ยนเส้นทางไปอ้อมทวีปแอฟริกาที่แหลมกูดโฮปแทน แม้ต้นทุนจะสูงขึ้นเยอะ ร่ายมาตั้งนาน ท่านผู้อ่านคงตั้ง “ปุจฉา” ว่า แล้วพวกโจรสลัดโซมาเลียเป็นใครมาจากไหน และทำไมแม้แต่ชาติมหาอำนาจตะวันตกยังทำอะไรไม่ได้? “วิสัชนา” โจรสลัดส่วนใหญ่เป็นชาวโซมาเลียเดนตายหลายกลุ่มหลายเผ่าซึ่งรวมตัวกันเป็น “เครือข่ายอาชญากร” ที่ ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ เพราะธุรกิจจี้ยึดเรือเรียกค่าไถ่ทำเงินมหาศาลในขณะที่บ้านเมืองไร้ขื่อแป บางกลุ่มแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้อพยพและผู้ลี้ภัยนับแสนคนที่หนีภัยสงครามไป อยู่ในเยเมน แก๊งโจรสลัดส่วนใหญ่มาจากเผ่า “ดารอด” ซึ่งร่วมมือกับ ชนเผ่าย่อยอื่นๆ ในพื้นที่สงครามที่ไร้อำนาจรัฐ เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจและเงินทองเป็นสำคัญ โดยไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และไม่มีสายสัมพันธ์กับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงกลุ่มใดเป็นการเฉพาะ เชื่อว่ารังใหญ่ของโจรสลัดอยู่ในรัฐพันต์แลนด์ ซึ่งรัฐบาลอ่อนแอ เป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐพันต์แลนด์จำนวนมากมีเอี่ยวด้วย ด้วยเหตุที่ได้เงินมหาศาลจากค่าไถ่ อาวุธยุทโธปกรณ์ของโจรสลัดโซมาเลียก็เลยล้ำยุคขึ้นทุกขณะ มีทั้งระบบติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม เรือเร็วจู่โจม ไปจนถึงอาวุธหนักเช่นจรวด นายกฯ นูร์ ฮัสซัน ฮุสเซน ของโซมาเลีย ชี้ว่าการลาดตระเวนทางทะเลอย่างเดียวหยุดยั้งโจรสลัดไม่ได้แน่ เพราะน่านน้ำโซมาเลีย เยเมน และอ่าวเอเดน กว้างใหญ่ ไพศาลมาก มีความยาวหลายพันกิโลเมตร อีกทั้งพวกนี้เป็น “เครือ ข่ายอาชญากรอันมหึมา” กินขอบเขตนอกเหนือดินแดนโซมาเลียพ้องกับความเห็น ของนายไมเคิล เวนสตีน ศ.ด้านรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเพอร์ดิวในสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านโซมาเลีย ซึ่งชี้ว่ามีกลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจขนาดใหญ่อยู่ใน “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” (ยูเออี) คอยสนับสนุนและควบคุมปฏิบัติการของโจรสลัดจากนอกพื้นที่ด้วย เหล่าผู้สันทัดกรณียังเตือนว่า ภัยคุกคามจากโจรสลัดจะยิ่งรุนแรงจนส่งผลต่อความมั่นคงของชาติ ในแถบจะงอยแอฟริกาไปจนถึงซาอุดีอาระเบีย เพราะขณะนี้ “เยเมน” ใกล้ล่มสลายเต็มแก่ เนื่องจากเศรษฐกิจย่ำแย่ เพราะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติซึ่งคิดเป็นรายได้จากการส่งออกถึง 90% ของชาติใกล้หมดเต็มที รัฐบาลก็อ่อนแอ ถ้าเยเมนล่มสลาย ไร้อำนาจรัฐ โจรสลัดจะยิ่งอาละวาดได้สะดวก แม้แต่เดี๋ยวนี้ก็เถอะ กองทัพเรือเยเมนมีเรือแค่ 15 ลำ ใช้งานได้จริงแค่ 9 ลำ และแค่ 2 ลำที่ออกน้ำลึกได้ แต่เยเมนมีชายฝั่งยาวถึง 1,906 กม. แค่สกัดผู้ลี้ภัยทางเรือจากโซมาเลียก็ยากแล้ว ปัญหาโจรสลัดโซมาเลียเป็นปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลก ถ้าชาติมหาอำนาจไม่เข้าไปล้างบางอย่างจริงจัง เราก็คงได้ข่าวเรือชาตินั้นชาตินี้ถูกจี้ถูกยึดไม่หยุดหย่อน!!! หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤศจิกายน 23, 2008, 01:01:37 AM ข่าวสด
ไพเรตส์ โซมาเลีย โจรสลัดป่วนเรือนานาชาติ : ข่าวเด็ด 7 วัน (http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2008/11/for30231151p1.jpg) เรือซิเรียสสตาร์ ของชาอุดิอาระเบีย ที่ถูกโจรสลัดบุกยึด พาดหัวข่าวที่ขึ้นต้นว่า "ไพเรตส์" ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเรื่องไม่สนุกเหมือนภาพยนตร์ "ไพเรตส์ ออฟ เดอะ แคริบเบียน" ของฮอลลีวู้ด การออกอาละวาดปล้นและยึดเรือจับตัวประกันเรียกค่าไถ่ของกลุ่มโจรสลัดโซมาเลีย ชาติในแอฟริกา เหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ถูกจับตาจากประชาคมโลก ในรายงานของสหประชาชาติ นายบัน คีมุน เลขา ธิการยูเอ็น กล่าวว่า โจรสลัดโซมาเลียรีดไถค่าไถ่ไปได้แล้วกว่า 25-30 ล้านดอลลาร์ จากเรือที่บุกปล้นและจับเป็นตัวประกันนอกชายฝั่งโซมาเลีย บริเวณอ่าวเอเดน ในปีนี้แล้ว 95 ลำ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มโจรสลัดก่อการกับเรือไปแล้ว 8 ลำ เหยื่อล่าสุดก็มีเรือของไทยรวมอยู่ด้วย จากข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศ เรือมีชื่อ เอกวัฒน์นาวา 5 เป็นของบริษัท ศิริชัย จำกัด ถือสัญชาติคิริบาติ ถูกดักปล้นขณะเดินทางเข้าสู่ท่าเรือมุดาลา ประเทศเยเมน เมื่อกลางสัปดาห์ มีไต้ก๋งและลูกเรือทั้งหมด 16 คน ประกอบด้วย ไต้ก๋ง ลูกเรือไทย 15 คน และอีก 1 คนเป็นชาวกัมพูชา เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในเคนยาเดินเรื่องประสานงานเพื่อช่วยเหลืออยู่ โดยไม่รู้ว่าหนทางจะลงเอยด้วยวิธี "ยอมจ่ายค่าไถ่" เหมือนเหยื่ออื่นๆหรือไม่ (http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2008/11/for30231151p2.jpg) 1.ภาพจากกองทัพสหรัฐ นาทีเรือยูเครนถูกยึดเป็นตัวประกัน 2.มาเลเซียซ้อมรบกับโจรสลัด 3.เหล่าโจรสลัดโซมาเลียถูกจับที่เคนยา อ่าวเอเดน หรือ Gulf of Aden ตั้งอยู่ระหว่างประเทศโซมาเลียกับประเทศเยเมน เป็นเส้นเดินเรือที่สำคัญและหนาแน่น เพราะเป็นทางผ่านจากทะเลอาหรับไปทะเลแดงและเข้าสู่คลองสุเอซ เส้นทางที่ช่วยให้การเดินทางระหว่างทวีปยุโรปกับทวีปเอเชียสั้นลง ความสำคัญนี้กลับกลายเป็นผลให้น่านน้ำแห่งนี้อันตรายที่สุดสำหรับการเดินเรือ โจรสลัดที่เป็นคนในพื้นที่กระจายไปทั่วชายฝั่งโซมาเลียที่ยาวถึง 3,000 กิโลเมตร มีเป้าหมายปล้นเรือที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือเพื่อความสำราญ เรือประมง เรือส่งน้ำมัน หรือแม้แต่เรือบรรทุกอาวุธ ลำที่เป็นข่าวฮือฮาที่สุด คือเรือลำยักษ์ "ซิเรียส สตาร์" ของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งบรรทุกน้ำมันมูลค่ากว่า 3,400 ล้านบาท พร้อมลูกเรือ 25 คน ถูกบุกปล้นและยึดไปเมื่อ 15 พ.ย. กระทั่งเมื่อ 20 พ.ย. กลุ่มโจรสลัดโทรศัพท์หาสำนักข่าวเอเอฟพี ประกาศเรียกเงินจากซาอุดีอาระเบีย 850 ล้านบาท ในช่วงรัฐบาลของซาอุดีอาระเบียส่งตัวแทนไปเจรจาต่อรองกับกลุ่มโจรสลัด คาดว่าผลอาจลงเอยด้วยการจ่ายค่าไถ่เช่นเดียวกับเรือชิโนทรานส์ของฮ่องกงที่โจรสลัดเพิ่งปล่อยออกมาในสัปดาห์นี้ พร้อมลูกเรือ 23 คน กระบวนการที่เจ้าของเรือยอมจ่ายค่าไถ่เพื่อช่วยชีวิตลูกเรือและตัดปัญหาต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โจรสลัด "ได้ใจ" ขณะที่การแก้ไขปัญหาในสถานการณ์นี้เป็นไปได้ยากมาก ความระส่ำระสายของโซมาเลีย ที่รัฐบาลต้องคอยรับมือกับกองกำลังติดอาวุธในประเทศ ทำให้ไม่มีกำลังพลและงบประมาณมาจัดการกับกลุ่มโจรสลัด ขณะที่กองเรือประมงเถื่อนจากนานาชาติแห่กันไปตักตวงทรัพยากรทางทะเลของโซมาเลีย คนในพื้นที่จึงเริ่มก่อตัวเป็นกลุ่มปกป้องน่านน้ำ แต่ ไปๆมาๆ การปกป้องดังกล่าวที่มีกลุ่ม "อาชญากรจัดตั้ง" ที่ทำงานเป็นเครือข่ายเข้ามาพัวพัน ทำให้คนในพื้นที่อย่างชาวประมงเลือกที่จะเป็น "โจรสลัด" เพราะหาเงินได้ง่ายและเป็นกอบเป็นกำ นายนูร์ ฮัสซัน ฮุสเซน นายกรัฐมนตรีโซมาเลีย ได้แต่กล่าวว่า เสียใจที่ปัญหาโจรสลัดลุกลามไปทั่วภูมิภาค และส่งผลกระทบต่อโลก ขณะที่ฝ่ายที่รับผิดชอบความมั่นคงทางทะเล ไม่ว่ากองกำลังองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ สหภาพยุโรป สหรัฐ ฝรั่งเศส และรัสเซีย ถูกกดดันให้ขยับเขยื้อนรับมือกับเรื่องนี้มากขึ้น กลุ่มสหภาพแอฟริกา เรียกร้องให้สหประชาชาติส่ง "กองกำลังนานาชาติรักษาสันติภาพ" เข้าไปยังโซมาเลีย เพื่อรับมือกับกลุ่มโจรสลัดที่อาละวาดหนัก ขณะที่ โนเอล ชุง หัวหน้าศูนย์รายงานข้อมูลข่าวสารโจรสลัดประจำองค์กรเดินเรือระหว่างประเทศ (ไอเอ็มบี) กล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกชาติที่เกี่ยวข้องต้องผนึกกำลังกันรับมือกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะนาโต้ สหรัฐ รัสเซีย และอินเดีย ที่มีเรือรบลาดตระเวนอยู่ในน่านน้ำของโซมาเลีย นายชุงยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่น่ายินดี เมื่อเรือรบของอินเดีย ไอเอ็นเอส ทาบาร์ จมเรือโจรสลัดที่เรียกว่า เป็น "ลำแม่" ได้เมื่อ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ในอ่าวเอเดน กองเรือรบอินเดียกล่าวถึงชัยชนะที่หาได้ยากแบบนี้ว่า เรือทาบาร์ของอินเดียปฏิบัติการลาดตระเวนอยู่ แถวชายฝั่งโอมาน จับสังเกตว่า มีเรือต้องสงสัยล่องอยู่ จึงเรียกตรวจ เมื่อฝ่ายโจรสลัดยิงเข้าใส่ เรือรบอินเดียจึงยิงตอบโต้ พร้อมยิงระเบิดเข้าใส่ ทำลายเรือดังกล่าวลงได้ ปฏิบัติการเฉียบขาดดังกล่าวต่างจากการทำงานของนาโต้ ที่มักเน้นการป้องกัน และไม่มีทีมงานที่บุกจับโจรสลัดมาดำเนินคดี ด้าน คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ สิ่งที่ทำได้คือ ลงมติเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรโซมาเลีย โทษฐานที่ปล่อยให้กลุ่มโจรสลัดออกอาละวาดอย่างอุกอาจ มาตรการนี้จะยิ่งทำให้ชาวโซมาเลียที่ยากจนลำบากหนักไปอีกหรือไม่ หรือจะบีบให้รัฐบาลโซมาเลียจัดการกับกลุ่มโจรสลัดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องดูกันนานมาก หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤศจิกายน 23, 2008, 01:09:48 AM คม ชัด ลึก
เต่าตนุเผือกคู่แรกแห่งสยาม เป็นสัตว์มงคลคู่บ้านคู่เมือง (http://www.komchadluek.net/2008/11/23/images/tao1_copy5.jpg) เต่าตนุมหัศจรรย์ที่ว่านี้เกิดโดยบังเอิญ หลังจากที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดย รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ พร้อมคณะ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ นำโดย น.อ.อารัญ เจียมอยู่ รองผู้อำนวยการศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (รอง ผอ.ศสร.สอ.รฝ.) และเจ้าหน้าที่ของศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ได้เดินทางไปเก็บไข่เต่าตนุ และไข่เต่ากระมาจากเกาะคราม จ.ชลบุรี จากนั้นนำมาฝังทรายเพื่อทำการเพาะฟักไว้ที่ชายหาดหน้าศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2551 จนกระทั่งวันที่ 17 พฤศจิกายน น.อ. มนตรี จึงมั่นคง ผู้อำนวยการศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผอ.ศสร.สอ.รฝ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รายงานไปยัง พล.ร.ต.จักรชัย ภู่เจริญยศ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผบ.สอ.รฝ.) ว่า ไข่เต่าตนุที่ฟักตัวไว้นั้น พบว่าออกเป็นลูกเต่าสีขาวหรือเผือก 2 ตัว ปะปนกับลูกเต่าตนุตัวอื่นๆ สร้างความตื่นตาตื่นใจไปตามๆ กัน (http://www.komchadluek.net/2008/11/23/images/tao3_copy1.jpg) ต่อมา รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา พร้อมด้วย สพ.ญ.ฐนิดา เหตระกูล เดินทางไปตรวจสอบลูกเต่าเผือก 2 ตัวที่ว่านี้ พร้อมบอกว่า โดยทั่วไปสัตว์ทุกชนิดที่เป็นสีเผือก ถือว่าเป็นสัตว์มงคลคู่บ้านคู่เมือง และมักจะมีคนนำไปถวายเลี้ยงไว้ในรั้วในวังเสมอมา ส่วนเต่าตนุเผือกนั้นในประเทศไทยไม่เคยพบมาก่อน อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าลูกเต่าเผือก 2 ตัว มีสุขภาพแข็งแรง มีการปล่อยให้คลานบนพื้นทรายและว่ายน้ำเพื่อขยายปอดต่อไป แต่ไม่สามารถปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้ เนื่องจากเต่าเผือกมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ไม่สามารถอำพรางตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในทะเลได้ เมื่อลงไปในทะเลจะมีสีขาวแปลกกว่าชนิดอื่นๆ เต่าเผือกจึงเป็นเป้าให้แก่สัตว์ใหญ่ในการที่จะกัดกินเป็นอาหาร จำเป็นจะต้องเลี้ยงและดูแลอย่างดีในเรื่องของสุขภาพ ป้องกันการติดเชื้อโรคของลูกเต่า เพื่อให้ประชาชน เยาวชน นิสิต นักศึกษา ได้มาชื่นชมลูกเต่าเผือกคู่แรกแห่งสยาม ที่คนไทยเชื่อกันว่า สัตว์ทุกชนิดที่เป็นสีเผือก ถือว่าเป็นสัตว์มงคลคู่บ้านคู่เมืองนั่นเอง (http://www.komchadluek.net/2008/11/23/images/tao4_copy.jpg) ด้าน พล.ต.จักรชัย กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า เมื่อทราบว่ามีลูกเต่าเผือกเกิดมา 2 ตัว ที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ทุกคนรู้สึกดีใจ เพราะเต่าเผือกเป็นสัตว์หายาก เท่าที่ติดตามข้อมูลมา เคยพบที่ประเทศออสเตรเลีย และประเทศเม็กซิโก ส่วนในประเทศไทยยังไม่พบว่ามีเต่าตนุเผือกที่ไหนมาก่อน ถือเป็นคู่แรกแห่งสยาม ต่อไปลูกเต่าตนุเผือก 2 ตัวนี้ คงต้องเลี้ยงไว้ที่บ่อเต่าทหารเรือจนกว่าจะตายไปตามอายุ เพราะถ้าขืนปล่อยให้ไปหากินตามธรรมชาติ เท่ากับปล่อยไปให้สัตว์ทะเลกินอย่างแน่นอน นับเป็นความโชคดีของประเทศไทย ที่ประวัติศาสตร์จะได้บันทึกไว้ว่าสยามเมืองยิ้มเคยมีเต่าตนุเผือกเช่นกัน |