กระดานข่าว Save Our Sea.net

หมวดหมู่ทั่วไป => ห้องรับแขก => ข้อความที่เริ่มโดย: Sri_Nuan.Ray ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 03:18:50 AM



หัวข้อ: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sri_Nuan.Ray ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 03:18:50 AM
จาก http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=127879&NewsType=1&Template=1
‘บิลเกตส์’ สนใจสร้างเกาะในไทย
(http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/economy/5/21/127879_51250.jpg)(http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/economy/5/21/127879_51251.jpg)
   


แถว ‘อ่าวพังงา’สำหรับเศรษฐีจอดเรือชอชท์...

สำนักข่าวต่างประเทศ “รอยเตอร์” ตีข่าวมหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลก "บิล เกตส์" ซึ่งนั่ง เรือยอชท์มาเที่ยวภูเก็ตเมื่อเดือนที่แล้ว สนใจโครงการสร้างเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นบริเวณอ่าวพังงา โดยทางเจ้าของภูเก็ตมารีน่าเป็นผู้เปิดเผยว่าจะสร้างขึ้นมาประมาณปลายปีนี้ คาดเสร็จใน 4 ปี เพื่อให้บรรดามหาเศรษฐีระดับโลกทั้งหลายใช้เป็นที่พักผ่อนและสามารถจอดเรือยอชท์ขนาดใหญ่ได้และมาเที่ยวแดนสวรรค์ไข่มุกอันดามันของไทย โดยมีเสี่ยหมีเจ้าของสโมสรเชลซีมาพักผ่อนเป็นประจำทุกปี

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากฮ่องกงเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ว่า การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของนายบิล เกตส์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นนอกชายฝั่งจ.ภูเก็ตของไทย เพื่อใช้สำหรับเป็นท่าจอดเก็บเรือยอชท์หรูหราของบรรดาอภิมหาเศรษฐีโลกรวมทั้งตัวเขาเอง และเป็นแหล่งพักผ่อนของบรรดาอภิมหาเศรษฐีในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งอาจจะเป็นคู่แข่งสำคัญของชายหาดริเวียราของฝรั่งเศส และ หมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน

เรื่องนี้ นายกูลู ลาฟวานี ผู้บริหารและก่อตั้งบริษัท โทรศัพท์ บินาโทน เปิดเผยว่า แผนการของนายบิล เกตส์ ก็คือการสร้างเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็นรูปทรงกลมคล้ายขนมโดนัท มีเรือนพักหรูหราแบบวิลล่า 30-40 ยูนิต พร้อมกับโรงแรมชั้นหนึ่งโดยรอบท่าเรือ โดยนายบิล เกตส์ เดินทางมาเมืองไทยเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา พร้อมกับภรรยา โดยใช้เรือยอชท์หรูหราขนาดความยาว 177 ฟุต หรือ 54 เมตร จึงเกิดความประทับใจและชื่นชอบชายทะเลของไทย อย่างมาก หลังจากที่ได้นั่งลงคุยกันที่ชายหาด มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ได้กล่าวว่า ที่นี่เป็นแหล่งพักผ่อนที่ดีที่สุดเท่าที่เคยได้ไปเที่ยวมา และอยากจะกลับมาทุกปี หากมีที่สำหรับจอดเรือยอชท์ขนาดใหญ่ของเขา

นายลาฟวานี วัย 68 ปี เกิดที่เมืองการาจี ประเทศปากีสถาน ซึ่งเป็นผู้ก่อสร้างท่าจอดเก็บเรือยอชท์ "รอยัล ภูเก็ต มารีน่า" ที่ จ.ภูเก็ต ในฐานะที่เป็นงานอดิเรกหลังเกษียณของเขา กล่าวว่า ได้รับอนุญาตจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตแล้ว ซึ่งการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มขึ้นได้ในปลายปีนี้ โดยจะใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี "ผู้ว่าฯ ภูเก็ตเป็นเพื่อนสนิทของตน เราเคยคุยกันเรื่องนี้มาก่อน แต่หลังจากที่บิล เกตส์ มาเยือนภูเก็ต เขาก็สนใจและเห็นด้วย" นายลาฟวานี กล่าว

สำหรับชื่อเกาะโซรัส (Zoran) นั้น เป็นการตั้งชื่อตามบุตรชายคนเล็กของนายลาฟวานี อยู่ห่างจากชายฝั่งเกาะภูเก็ตประมาณ 3 กม. และอยู่ในบริเวณอ่าวพังงา ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์แอ๊คชั่นเรื่อง เจมส์ บอนด์ 007 ตอน The Man With the Golden Gun โครงการพัฒนาเกาะแห่งนี้ก็คล้ายกับโครงการ เดอะ ปาล์ม และ เดอะ เวิลด์ เกาะที่มนุษย์สร้างเป็นรูปทรงใบปาล์มและแผนที่โลก ตั้งอยู่นอกชายฝั่งเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ มูลค่าโครงการนี้ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 7,000 ล้านบาท

ส่วนปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติ เช่นที่เคยเกิดคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อเดือน ธ.ค. 2547 คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 200 ศพ บนเกาะภูเก็ตนั้น นายลาฟวานีกล่าวว่า เกาะนี้อยู่บริเวณชายฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นที่ราบ ส่วนที่เกิดสึนามินั้น อยู่แถบชายฝั่งตะวันตกของเกาะ อย่างไรก็ตาม บรรดาสถานที่ตั้งรีสอร์ตและที่พักต่าง ๆ ก็ได้เริ่มฟื้นตัวกลับคืนสู่ธุรกิจได้อีกครั้งแล้ว นักท่องเที่ยวต่างเริ่มกลับมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตอีกครั้ง

ที่ท่าเรือรอยัล ภูเก็ต มารีน่า นั้น เมื่อระดับน้ำทะเลลดลง ซึ่งก็สามารถจอดได้สำหรับเรือยอชท์ขนาดเล็กเท่านั้น แต่สำหรับท่าจอดเรือยอชท์บนเกาะใหม่ที่จะสร้างนี้ ถ้าเป็นวิลล่าระดับ 5 ห้องนอน และท่าจอดเรือยอชท์ขนาดใหญ่นั้น ราคาขายจะอยู่ที่ประมาณ 4.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 141.75 ล้านบาท เท่ากับราคาเช่า 30 ปีของการจอดเรือยอชท์ในภาคใต้ของฝรั่งเศส

นอกจากนายบิล เกตส์ แล้ว ยังมีอภิมหาเศรษฐีหลายคน เช่น นายพอล อัลเลน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์กับเขา ก็เดินทางมาเที่ยวภูเก็ตทุก ๆ 2 ปี นายโรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซียเจ้าของสโมสรลูกหนัง เชลซี ก็มาเที่ยวภูเก็ตเป็นประจำทุกปี.


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sri_Nuan.Ray ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 03:19:36 AM
คำถามคือ
1.ทำได้ด้วยหรือ....
2.คนคิด คิดได้อย่างไรกัน
3.ได้สัดส่วนกันคนละเท่าไร
4.บ้านเราต่อไป จะเป็นอย่างไร
5. มีผลกระทบ อะไรอีกบ้างในอนาคต...
ุ6. กฏหมายข้อไหน มีการอนุญาติ แบบนี้บ้าง :'(

โธ่เอ๋ย... บ้านเราที่ไม่ใช่บ้านของเรา


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 03:30:20 AM

จริงๆ แล้ว บ้านเรามีกฏหมาย "ห้ามมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรลงทะเล" ไม่ใช่เหรอคะ หรือเฉพาะเขตอุทยานฯ พอดีว่าไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ค่ะ

แล้วกรณีนี้ ตกลงว่าทำได้จริงๆ เหรอคะ หรือเป็นเพียงแค่แนวคิด เหมือน Sky จะเคยเห็น Lay out นี้แล้ว แต่เข้าใจว่าไปสร้างที่อื่น ไหงอ่านข่าว บอกจะมาสร้างบ้านเรา งงไปเลย


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: WayfarinG ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 03:34:10 AM
คำตอบคือ

1.ทำได้ด้วยหรือ....ฉันจะทำ...แล้วใครมีปัญหาอะไร
2.คนคิด คิดได้อย่างไรกัน เค้าใช้สมองส่วนที่ไม่มีรอยหยักคิดงัย...หรืออีกนัยหนึ่ง...สมองป๊อกป๊อก..ปัญญามอมอ..
3.ได้สัดส่วนกันคนละเท่าไร เรื่องอะไรจะแบ่ง...เราสร้าง...เราก็เก็บไว้กินเองซิ...
4.บ้านเราต่อไป จะเป็นอย่างไร ตกเป็นทาสของอภิมหาอำนาจ...
5. มีผลกระทบ อะไรอีกบ้างในอนาคต...ไม่มีแผ่นดินอยู่...
ุ6. กฏหมายข้อไหน มีการอนุญาติ แบบนี้บ้าง กฎสมัยพ่อขุนรามคำแหง...งัย...มีคนเคยบอกว่า...ถ้าเราทำตามสองกฎนี้...รับรองล่มจมกันหมด...คือ กฎมึงกะกฎกู (ขออนุญาตใช้คำไม่สุภาพ)...



 :'( :'( :( เศร้าใจแทนประเทศไทย...


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sri_Nuan.Ray ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 03:40:18 AM
ประมวลกฎหมายที่ดิน
 
   
     
หมวด 8 การกำหนดสิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว

  มาตรา 86 คนต่างด้าวจะได้มาซึ่งที่ดินก็โดยอาศัยบทสนธิสัญญา ซึ่งบัญญัติให้มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ได้ และอยู่ในบังคับบท บัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ด้วยภายใต้บังคับ มาตรา 84 คนต่างด้าวดั่งกล่าวจะได้มาซึ่งที่ดินเพื่อ ใช้เป็นที่อยู่อาศัยประกอบกิจการในทางพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การสุสาน การกุศลสาธารณะ หรือการศาสนาต้องเป็น ไปตามเงื่อนไข และวิธีการซึ่งกำหนดโดยกฎกระทรวง และต้องได้รับ อนุญาตจากรัฐมนตรี

  มาตรา 87 จำนวนที่ดินที่จะพึงอนุญาตให้ตามความใน มาตรา ก่อน มีกำหนดดังนี้
(1) ที่อยู่อาศัย ครอบครัวละไม่เกิน 1 ไร่
(2) ที่ใช้เพื่อพาณิชยกรรม ไม่เกิน 1 ไร่
(3) ที่ใช้เพื่ออุตสาหกรรม ไม่เกิน 10 ไร่
(4) ที่ใช้เพื่อเกษตรกรรม ครอบครัวละไม่เกิน 10 ไร่
(5) ที่ใช้เพื่อการศาสนา ไม่เกิน 1 ไร่
(6) ที่ใช้เพื่อการกุศลสาธารณะ ไม่เกิน 5 ไร่
(7) ที่ใช้เพื่อการสุสาน ตระกูลละไม่เกิน 1/2 ไร่
คนต่างด้าวผู้ใดต้องการมีสิทธิในที่ดิน เพื่อการอุตสาหกรรม เกินกว่าที่บัญญัติไว้ใน (3) ถ้าเห็นเป็นการสมควร คณะรัฐมนตรี จะขออนุญาตให้ได้มาซึ่งที่ดินเกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ โดยกำหนด เงื่อนไขก็ได้และให้นำบทบัญญัติ มาตรา 48 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

  มาตรา 88 บทบัญญัติใน มาตรา 87 มิให้กระทบกระเทือนแก่ที่ดิน ของคนต่างด้าวที่มีอยู่แล้ว เกินกำหนดตามความใน มาตรา 87 ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับส่วนผู้ที่มีที่ดินอยู่แล้วน้อยกว่า กำหนด หรือผู้ที่ได้จำหน่ายที่ดินเดิมของตนไป อาจได้มาซึ่งที่ดินได้ อีกแต่รวมแล้วต้องไม่เกินกำหนดตาม มาตรา 87

  มาตรา 89 เมื่อคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ได้มาซึ่งที่ดินเพื่อ กิจการใด ผู้รับอนุญาตต้องใช้ที่ดินเพื่อกิจกานนั้น จะใช้เพื่อกิจการอื่น ไม่ได้เว้นแต่จะได้รับอนุญาตให้ใช้เพื่อกิจการอื่นใหม่ ตามจำนวนที่ ไม่เกินกำหนดใน มาตรา 87 ถ้าจะไม่ใช้ที่ดินตามที่ได้รับอนุญาตนั้น ต้องแจ้งให้ทราบตามแบบและวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงภายใน กำหนดสามสิบวันนับแต่วันไม่ใช้ที่ดินนั้น
คนต่างด้าวผู้ใดประสงค์จะใช้ที่ดินเพื่อกิจการอื่นใหม่ ให้ขออนุญาต ใหม่ต่อรัฐมนตรีตามแบบและวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง ถ้า รัฐมนตรีเห็นสมควรก็ให้มีอำนาจอนุญาต

  มาตรา 90 คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้ที่ดินเพื่อกิจการใด ถ้าไม่ใช้ที่ดินนั้นต่อไปหรือได้ใช้ที่ดิน เพื่อกิจการอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ใหม่ ให้จัดการจำหน่ายที่ดินนั้นภายในเวลาที่อธิบดีกำหนด ซึ่งไม่น้อย กว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวัน แต่ไม่ให้เกินหนึ่งปี ถ้าพ้นกำหนดเวลาดั่งกล่าว ให้อธิบดีมีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้น
   
  มาตรา 91 คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อกิจการใด ถ้าได้รับอนุญาตใหม่ให้ใช้ที่ดินนั้นเพื่อกิจการอื่น ซึ่งจำนวนที่ดินที่ได้ รับอนุญาตนี้ลดลง ให้จำหน่ายที่ดินส่วนที่เกินนั้นภายในเวลาที่อธิบดี กำหนด ซึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวัน แต่ไม่ให้เกินหนึ่งปี ถ้า พ้นกำหนดเวลาดั่งกล่าว ให้อธิบดีมีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้น

  มาตรา 92 คนต่างด้าวผู้ใดได้รับอนุญาตให้ได้มาซึ่งที่ดิน ตามความใน มาตรา 87 วรรคสอง ถ้าไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรี กำหนด ให้จำหน่ายที่ดินส่วนที่ได้รับอนุญาตให้ได้มาเกินกว่าจำนวน ที่กำหนดไว้นั้น ภายในเวลาที่อธิบดีกำหนด ซึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อย- แปดสิบวัน แต่ไม่ให้เกินหนึ่งปี ถ้าพ้นกำหนดเวลาดั่งกล่าว ให้อธิบดี มีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้น

  มาตรา 93 คนต่างด้าวได้มาซึ่งที่ดินโดยได้รับมฤดก ในฐานะ ที่เป็นทายาทโดยธรรมรัฐมนตรีจะอนุญาตให้ได้มาซึ่งที่ดินนั้น แต่ เมื่อรวมกับที่มีอยู่แล้วไม่เกินจำนวนที่จะพึงมีได้ตามความใน มาตรา 87 ก็ได้

  มาตรา 94 บรรดาที่ดินที่คนต่างด้าวได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ได้รับอนุญาต ให้คนต่างด้าวนั้นจัดการจำหน่ายภายในเวลาที่ อธิบดีกำหนดให้ ซึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวัน แต่ไม่เกินหนึ่งปี ถ้าไม่จำหน่ายที่ดินภายในเวลาที่กำหนด ให้อธิบดีมีอำนาจจำหน่าย ที่ดินนั้น และให้นำบทบัญญัติเรื่องการบังคับจำหน่ายที่ดินตามความ ในหมวด3 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

  มาตรา 95 ผู้ใดได้มาซึ่งที่ดินในขณะที่มีสัญชาติไทย ถ้าภายหลัง ผู้นั้นเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนต่างด้าวให้คงมีสิทธิถือที่ดิน ได้เท่าที่ คนต่างด้าวนั้นจะพึงมี นอกจากนั้นให้ทำการจำหน่ายและให้นำบท บัญญัติ มาตรา 94 มาใช้บังคับอนุโลม
Topมาตรา 96 เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้มาซึ่งที่ดินแห่งใดในฐานะเป็น เจ้าของแทนคนต่างด้าวหรือนิติบุคคลตามความใน มาตรา 97 มาตรา 98 ให้อธิบดีมีอำนาจทำการจำหน่ายที่ดินนั้น และ ให้นำบทบัญญัติ มาตรา 94 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
 
  มาตรา 96ทวิ บทบัญญัติว่าด้วยคนต่างด้าวจะได้มาซึ่งที่ดินโดย อาศัยบทสนธิสัญญาตาม มาตรา 86 วรรคหนึ่ง มิให้ใช้บังคับกับคน ต่างด้าวซึ่งได้นำเงินมาลงทุนตามจำนวนที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งต้องไม่ต่ำกว่าสี่สิบล้านบาท โดยให้ได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่ อาศัยได้ไม่เกินหนึ่งไร่ และต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี
การได้มาซึ่งที่ดินของคนต่างด้าวตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยในกฎ กระทรวงอย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญ ดังต่อไปนี้
(1) ประเภทของธุรกิจที่คนต่างด้าวลงทุนซึ่งต้องเป็นประโยชน์ ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ หรือเป็นกิจการที่คณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุนได้ประกาศให้เป็นกิจการที่สามารถขอรับการส่งเสริม การลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนได้
(2) ระยะเวลาการดำรงการลงทุนต้องไม่น้อยกว่าสามปี
(3) บริเวณที่ดินที่อนุญาตให้คนต่างด้าวได้มาต้องอยู่ภายในเขต กรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา เขตเทศบาล หรืออยู่ภายในบริเวณ ที่กำหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง
หมายเหตุ อ่าน มาตรา 96ทวิ เพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2542

  มาตรา 96ตรี คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้ได้มาซึ่งที่ดินตาม มาตรา 96ทวิ ถ้ากระทำการผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่กำหนดใน กฎกระทรวงตาม มาตรา 96ทวิ วรรคสอง ให้จัดการจำหน่ายที่ดิน ในส่วนที่ตนมีสิทธิภายในเวลาที่อธิบดีกำหนดซึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อย-แปดสิบวันแต่ไม่เกินหนึ่งปีถ้าพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวให้อธิบดีมี อำนาจจำหน่ายที่ดินนั้น
คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้ได้มาซึ่งที่ดินตาม มาตรา 96ทวิ ถ้าไม่ได้ใช้ที่ดินนั้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยภายในกำหนดเวลาสองปี นับแต่วันจดทะเบียนการได้มา ให้อธิบดีมีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้น
หมายเหตุ อ่าน มาตรา 96ตรี เพิ่มเติมโดยพรบ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2542


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sri_Nuan.Ray ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 03:42:00 AM
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 03:59:34 AM
กฎหมายยาวจังเลยนะคะ ขอบคุณพี่สีนวลมากๆ ค่ะ อุตส่าห์ ไปค้นคว้ามาให้อ่าน แต่หนูก็ยังสงสัยอยู่ดีนะคะ
ตามที่อ่านเนี่ย เค้าพูดถึง การถือครองที่ดิน แต่เนี่ย มันอยู่ในทะเลนะคะ มันคือ ทรัพยากรทางทะเลไม่ใช่หรือ อย่างนี้ ต้องหน่วยงานใดกันแน่คะ งง.....

และตามประมวลกฎหมายที่ดินที่แน่ๆ เนี่ย ก็ต้องผ่านการเห็นชอบ ผ่านวิธีการซึ่งกำหนดโดยกฎกระทรวง และต้องได้รับ อนุญาตจากรัฐมนตรี ใช่รึเปล่าเอ่ย.....

แต่........
"นายลาฟวานี วัย 68 ปี เกิดที่เมืองการาจี ประเทศปากีสถาน ซึ่งเป็นผู้ก่อสร้างท่าจอดเก็บเรือยอชท์ "รอยัล ภูเก็ต มารีน่า" ที่ จ.ภูเก็ต ในฐานะที่เป็นงานอดิเรกหลังเกษียณของเขา กล่าวว่า ได้รับอนุญาตจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตแล้ว ซึ่งการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มขึ้นได้ในปลายปีนี้ โดยจะใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี "ผู้ว่าฯ ภูเก็ตเป็นเพื่อนสนิทของตน เราเคยคุยกันเรื่องนี้มาก่อน แต่หลังจากที่บิล เกตส์ มาเยือนภูเก็ต เขาก็สนใจและเห็นด้วย" นายลาฟวานี กล่าว"


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: WayfarinG ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 04:02:25 AM
 :( สงสัยว่า ความรู้สึกหวงแหนประเทศหายไปไหนหมด...





<-- กร๊ากกก...เพิ่งเห็น  4 (http://tbn0.google.com/images?q=tbn:YZIUVZqThoVq0M:http://www.ipfw.edu/dcs/Star%26swirls.gif)


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 04:14:00 AM

พวกต่างชาติเค้าเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือซื้อที่ดินในประเทศไทย บางทีเค้าไม่ต้องออกตัวเองหรอกครับ .... คงเคยได้ยินคำฮิตว่า Nominee ซึ่งเป็นตัวแทนในการทำอะไรต่างๆแทนตัวจริง

อย่างการลงทุนในกิจการต่างๆ บางแห่งจะถูกกำหนดโดยกฎหมายหรือข้อบังคับของบริษัท ที่ห้ามมิให้ต่างชาติถือหุ้นเกิน 50%  เค้าก็จะตั้งนิติบุคคลขึ้นมาเป็นบริษัท Dummy เพื่อเป็นตัวแทนในการถือหุ้น  ยกตัวอย่าง พวกบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น ธนาคารบางแห่ง ถ้าไปดูโครงสร้างผู้ถือหุ้นจะเห็นว่า ชื่อผู้ถือหุ้นที่เป็นนิติบุคคลไม่ใช่สัญชาติไทยนั้น ปาเข้าไป 49% แล้ว  และจะเห็นชื่อ Nominee อีกมากมาย ถือหุ้นเข้าไปอีก 30% พูดง่ายๆก็คือ ธนาคารนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่ธนาคารไทยอีกต่อไป เป็นของต่างชาติเกือบ 100% แล้ว ผู้บริหารและกรรมการจะไม่เป็นฝรั่งก็จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เยอะแยะไปหมดครับ

อย่างกรณีนี้  นอกจากกฎหมายที่กำหนดข้อจำกัดต่างๆแล้ว  ยังต้องผ่านความเห็นชอบอีกหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่อีกครับ  ถ้าเป็นเรื่องผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ก็ต้องผ่านกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ... ถ้าเป็นเรื่องการเดินเรือท่าเรือ ก็ต้องผ่านกระทรวงคมนาคม ฯลฯ  .....  แต่อย่างไรก็ตาม  ทางเลี่ยงเลี้ยวหลบไปทางช่องโหว่ของกฎหมายมีอยู่มากมายครับ เฉพาะอย่างยิ่งเป็น Mega Project แบบนี้ ยังไงก็คงจะผ่านฉลุยครับ :o


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 04:23:50 AM


อ้าว...............รายว้า................... ???


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: angel frog ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 04:24:43 AM
พวกเรามีทางเลือกอยู่ 3 ทาง ครือ...
1. ไปเลือกซื้อเรือยอร์จสักลำสองลำ แล้วเอาไปจอดไว้ เผื่อจะนัดดื่มไวน์ ชนแก้ววอดก้า ในฐานะที่เป็นเศรษฐีด้วยกัลลลล
2. เอาระเบิดไปทิ้ง   ถล่มทุกอย่างที่มันจะสร้างขึ้นมา  เพื่อไม่ให้มันสร้างได้ดดด
3. นั่งกินน้ำพริกปลาทู  ดูละครไทยหลังข่าว  คอยสามีกลับบ้าน


เอาไงดี..อะ ;)


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sri_Nuan.Ray ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 04:35:54 AM
เอ... หรือว่าเราจะมีที่ดำน้ำแหล่งใหม่ แบบ ใต้สะพานตาแหวน นะเนี่ยยยย.... >:(


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sea Man ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 04:43:44 AM
 :(.......ที่นี้...........ประเทศไทย........... :(


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: seafrog ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 06:18:02 AM
แฮๆๆๆว่าจะถามอยู่เหมื่อนกัน
ไปโพสถามไว้อีกที่หนึ่ง ไม่มีใครตอบ ว่าจะมาถามที่นี้     พีSNR ตั้งมาแล้ว

.............นายลาฟวานี วัย 68 ปี เกิดที่เมืองการาจี ประเทศปากีสถาน ซึ่งเป็นผู้ก่อสร้างท่าจอดเก็บเรือยอชท์ "รอยัล ภูเก็ต มารีน่า" ที่ จ.ภูเก็ต ในฐานะที่เป็นงานอดิเรกหลังเกษียณของเขา กล่าวว่า ได้รับอนุญาตจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตแล้ว ซึ่งการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มขึ้นได้ในปลายปีนี้ โดยจะใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี "ผู้ว่าฯ ภูเก็ตเป็นเพื่อนสนิทของตน เราเคยคุยกันเรื่องนี้มาก่อน แต่หลังจากที่บิล เกตส์ มาเยือนภูเก็ต เขาก็สนใจและเห็นด้วย" นายลาฟวานี กล่าว..........

จากเนื้อข่าว แสดงว่าอณุมัติแล้ว จะสร้างแล้วสร้างตรงไหน สร้างอย่างไร
โครงการเป็นไง ใครรู้บ้าง กระทู้นี้จะ :-[ :-[ :-[ :-[ ,yhp


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sri_Nuan.Ray ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 06:28:17 AM
อ่าว พังงา งัยจ๊ะ...
แต่ ตรงไหน ไม่รู้ แล้วทำไม มันไปเกี่ยวกับผู้ว่า ภูเก็ต นะ...

 " ชื่อเกาะโซรัส (Zoran) นั้น เป็นการตั้งชื่อตามบุตรชายคนเล็กของนายลาฟวานี อยู่ห่างจากชายฝั่งเกาะภูเก็ตประมาณ 3 กม. และอยู่ในบริเวณอ่าวพังงา ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์แอ๊คชั่นเรื่อง เจมส์ บอนด์ 007 ตอน The Man With the Golden Gun โครงการพัฒนาเกาะแห่งนี้ก็คล้ายกับโครงการ เดอะ ปาล์ม และ เดอะ เวิลด์ เกาะที่มนุษย์สร้างเป็นรูปทรงใบปาล์มและแผนที่โลก ตั้งอยู่นอกชายฝั่งเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์  "


ข่าว ปั่น อ่ะปะ ปั่นให้ราคา ที่ดิน สูงกระฉูด....


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: zmax ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 10:15:47 AM
เรื่องนี้จะยอมมิได้ขอรับพี่น้อง.............. >:( >:( >:( >:( >:( >:( >:( >:( >:( >:(


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤษภาคม 21, 2007, 11:43:17 PM

ผู้ว่าฯภูเก็ตปฏิเสธ"บิล เกตส์"ลงทุนสร้างเกาะ

ผู้ว่าราชการภูเก็ต ปฏิเสธข่าว”บิล เกตส์”ติดต่อลงทุนสร้างเกาะและมารีน่าขนาดใหญ่บริเวณอ่าวพังงา แต่ระบุข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลดีกับภูเก็ต ขณะที่วงการธุรกิจท่องเที่ยว เผยบริเวณเป้าหมายพื้นที่ที่จะก่อสร้าง ถูกประกาศเป็นมรดกเอเชียไปแล้ว จึงมีโอกาสเกิดยาก
จากกรณี หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเผยแพร่ข่าว ว่า สำนักรอยเตอร์ ได้สัมภาษณ์ ได้นำเสนอบทสัมภาษณ์ นายกูลู ลาฟวานี ผู้ก่อตั้งบริษัท โทรศัพท์ บินาโทน เจ้าของท่าเรือยอชท์ “รอยัล ภูเก็ต มารีน่า” ตั้งอยู่บริเวณอ่าวสะปำ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า "บิล เกตส์" มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ได้เดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต และสนใจจะลงทุนสร้างเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นบริเวณอ่าวพังงา เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนและที่จอดเรือยอชท์ขนาดใหญ่

นอกจากนี้ยังระบุ จุดที่จะสร้างเกาะว่า อยู่ห่างจากชายฝั่งเกาะภูเก็ตประมาณ 3 กิโลเมตร หรืออยู่ในบริเวณอ่าวพังงา ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง เจมส์ บอนด์ 007 ตอน The Man With the Golden Gun โดยโครงการดังกล่าว คล้ายกับโครงการ เดอะ ปาล์ม และ เดอะ เวิลด์ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงข่าวดังกล่าว ว่า ทราบเรื่องดังกล่าวจากสื่อเท่านั้น และยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากนายบิล เกตส์ จึงไม่ทราบว่าโครงการจะสร้างที่ไหน รูปแบบเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามหากมองในแง่ของการท่องเที่ยว แล้วถือว่าข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ดีสำหรับภูเก็ต โดยจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาจังหวัดภูเก็ตมากขึ้น และเมื่อเร็วๆ นี้ จังหวัดภูเก็ตก็ได้รับรางวัลแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำและมารีน่าที่ดีที่สุดในเอเชีย อีกด้วย

“ภูเก็ตมียุทธศาสตร์พัฒนาด้านการท่องเที่ยวเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยเรือยอชท์อยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งในส่วนของภูเก็ตและกลุ่มจังหวัดอันดามัน โดยปัจจุบันท่าเรือยอชท์มีเฉพาะในภูเก็ตเท่านั้น ส่วนพังงาและกระบี่นั้น ไม่มี ดังนั้นหากมีการก่อสร้างโครงการดังกล่าวจริง ก็จะเป็นเรื่องดี”

หากทางผู้ลงทุนดังกล่าวติดต่อเสนอโครงการมา ต้องดูแนวคิดก่อนว่าเป็นอย่างไร โดยจะยึดว่าโครงการดังกล่าวต้องไม่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของชาวบ้าน และอาจจะเสนอโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตซึ่งทางจังหวัดกำลังอยู่ระหว่างการศึกษา ให้กลุ่มทุนข้างต้นพิจารณาด้วย

นายไมตรี นฤขัตพิชัย นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หากโครงการดังกล่าวก่อสร้างในอ่าวพังงา คิดว่าคงไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากปัจจุบันอ่าวพังงาได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกของเอเชียไปแล้ว ซึ่งหากมีการก่อสร้างจะกระทบและทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดยตามข่าวพบว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ จึงยิ่งเป็นเรื่องที่ยาก

ด้านนายธนู แนบเนียน ผู้ประสานงานภาคสนาม มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดกรณีดังกล่าวมากนัก แต่หากเป็นการสร้างเกาะขึ้นมาใหม่ไม่เห็นด้วย เพราะจะเป็นการไปเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศ กอปรกับอ่าวพังงาได้รับการประกาศให้เป็นมรดกแห่งเอเชียแล้ว

นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่นายบิล เกตส์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก มีโครงการจะมาลงทุนท่าเทียบเรือมารีน่าขนาดใหญ่ บริเวณอ่าวพังงานั้น ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างไร ซึ่งหากมีการลงทุนจริงก็จะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของจังหวัดในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ


จาก     :     กรุงเทพธุรกิจ   วันที่ 22 พฤษภาคม 2550


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: แม่หอย ที่ พฤษภาคม 22, 2007, 01:08:02 AM
 :(
ไม่อยากได้!!
.. อยากอยู่อย่างพอเพียง แต่มีทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชมไปตราบนานเท่านานมากกว่าให้มหาเศรษฐีมาแล่นเรือเพ่นพ่านไปทั้งทะเลไทยอย่างที่เป็นอยู่และกำลังจะเป็นมากขึ้น..

แล้วไอ้เรือยอร์ชเรือแย้ชเนี่ย มันล้วนแต่ทาสีกันเพรียงใช่ไหม .. สารพิษละลายออกมาในน้ำไม่รู้เท่าไร  ไอ้ท่าเรือที่ภูเก็ตน่ะ ก็มีนักวิจัยศึกษาปริมาณสารพิษที่เพิ่มพูนมากขึ้นจนหอยพากันเป็นกระเทยร่วมสมัยมากมายแล้ว

อ่านเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ไม่มีแรงจะโพสต์ค่ะ ได้แต่ถอนใจแบบคนจนๆ ไฝ่ต่ำ ไม่รักความเจริญ..
พวกผู้บริหาร ไม่มีใครเป็นนักวิทยาศาสตร์ ดูจะไม่สนใจปัญหาการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมกันเลยสักคน
 :'( :'( :'( 


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sri_Nuan.Ray ที่ พฤษภาคม 22, 2007, 01:35:29 AM
หนูเห็นแล้วก็อึดอัดค่ะ โยน กันไป โยนกันมา  เรื่องเสียผลประโยชน์ ไม่มีคนยอมรับ
เรื่องที่มันจะมีผลกระทบต่อประเทศชาติ   ก็ไม่มีใครยอมรับ
แต่ที่ได้ประโยชน์ เข้ากระเป๋า ตัวเอง พรรคพวก เนี่ย อุบเงียบ ฉี่ เลย....
ไม่เห็นมีใคร เอามาแฉเลยว่า ได้เข้ากระเป๋า ตัวเอง เท่าไร ลูกหลาน จะพอกิน กี่รุ่น...

อ่านแล้วก็ ปั๊ดโธ่.... ประเทศไทย....แ......ง เอ๊ยยยยยยย

แล้วลูกหนู จะดูอะไรล่ะฮ้า............................................


ขอโทษค่ะ สบถ แรงไปหน่อย แต่ อดไม่ได้จิงงงงงงงงเลย


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ พฤษภาคม 22, 2007, 01:37:51 AM
เห็นข่าวแล้ว แต่แน่ใจว่าเขาไม่สามารถจะสร้างอะไรได้ตรงจุดที่กำหนดในข่าว เพราะสายชลทราบอยู่แล้วว่าตรงนั้นเป็นมรดกเอเชีย และกำลังจะขอเลื่อนเป็นมรดกโลกต่อไป....หากใครขืนไปทำตรงนั้น มีหวังถูกถล่มเละแน่ๆค่ะ  :-[

แต่แนวโน้มที่จะไปสร้างที่อื่นที่ไม่ใช่อ่าวพังงานั้น มีได้แน่นอนค่ะ ท่านผู้ว่าก็แสดงท่าทีให้เห็นแล้วตามข่าว ก็ต้องคอยจับตาดูกันต่อไปนะคะว่า ผลจะออกมาอย่างไร.... ;)


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ พฤษภาคม 22, 2007, 01:59:16 AM
อืมมมม....ว่าแต่มีใครไปบอกอาบังจากปากีสถานกับ บิล เกตส์ หรือยังว่า คลื่นยักษ์สึนามิเคยถล่มเกาะภูเก็ต แถมด้วยคลื่นขนาดสูง 4-5 เมตร วิ่งมาเข้าฝั่งภูเก็ตแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยอีก

ขืนท่านสร้างเกาะเตี้ยๆห่างฝั่งเป็นกิโลอย่างนั้น อาจเจอดีเข้าสักวันหนึ่ง.... :o


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sea Man ที่ พฤษภาคม 22, 2007, 02:20:43 AM
...........เกาะแกะ.............อีกว่ามั๊ง..อิอิอิอิ........ :-*


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: gengzilla ที่ พฤษภาคม 22, 2007, 05:04:02 AM
เห็นได้ชัดเลยครับว่าการศึกษาไม่ได้ช่วยให้คนเจริญขึ้นเลยจริงๆ......คงไม่ได้คิดถึงสิ่งที่จะตามมาถึงลูกถึงหลานท่านๆเหล่านั้นกันเลยมั้งเนี่ยะ  เป็นซะถึงคนใหญ่คนโต มีอำนาจบารมี แต่ไม่มีคุณธรรม สามัญสำนึก....เฮ้อ จบข่าว :'( :'(



"ยอมรับสภาพกันไป".........อีกแล้วครับท่าน(ยังงั้นเหรอ)


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤษภาคม 23, 2007, 11:46:53 PM

หลายฝ่ายขานรับบิลเกตส์สร้างเกาะในไทย

(http://pics.manager.co.th/Images/550000006585101.JPEG)

       จากข่าว อภิมหาเศรษฐี อันดับ 1 ของโลกชาวอเมริกัน บิลเกตส์ มาเที่ยวเมืองไทยแล้วหลงใหลในเสน่ห์ทะเลอันดามันถึงขนาดสนใจที่จะสร้างเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้น บริเวณอ่าวพังงา ห่างจากชายฝั่งเกาะภูเก็ตประมาณ 3 กม. เพื่อให้บรรดามหาเศรษฐีระดับโลกใช้เป็นที่ท่องเที่ยว พักผ่อนและสามารถจอดเรือยอชท์ขนาดใหญ่
       
       ดูเหมือนว่าหน่วยงานหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องในด้านนี้จะรีบขานรับกับแนวคิดดังกล่าวในทันที โดย พรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องที่ดี แสดงถึงความมั่นใจและชื่นชอบของบิล เกตส์ จึงตัดสินใจมาลงทุน นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของ ททท. ในการรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายฝั่งอันดามันหลังประสบภัยพิบัติสึนามิ โดยเฉพาะ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งต่างชาติมองว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักที่ต่างชาติให้ความสนใจอันดับต้น ๆ ซึ่งถ้าหากภูเก็ต ฟื้นแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆก็จะฟื้นตามโดยอัตโนมัติ
       
       ด้าน ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เป็นสิ่งที่ดีในการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ซึ่งโดยทั่วไปประเทศไทยพร้อมสนับสนุนชาวต่างประเทศเข้ามาลงทุนแต่ ในหลักการก็ต้องดูรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ของผู้ที่จะเข้ามาลงทุนด้วย
       
       ในขณะที่นิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเข้ามาลงทุนของนายบิลล์ เกตส์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีหากมองในแง่ของการลงทุนและการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะมารีนารองรับเรือยอชต์เป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่ถูกกำหนดให้การพัฒนาจังหวัดในฝั่งอันดามันทั้ง 3 จังหวัด และภูเก็ตเองได้ให้ความสำคัญในการดึงเรือยอชต์จากต่างชาติเดินทางเข้ามามากด้วย ซึ่งท่าเรือยอชต์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ถือว่าไม่เพียงพอ และเมื่อเทียบกับประเทศใกล้เคียงอย่างเกาะลังกาวีของมาเลเซีย ที่มีมารีนา 5-6 แหล่งและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภูเก็ตถือว่ายังน้อยอยู่
       
       "หากโครงการนี้เกิดขึ้นได้จะเป็นประโยชน์ต่อจังหวัดภูเก็ตอย่างมหาศาล ทั้งในแง่เศรษฐกิจและการจ้างงาน และเมื่อเร็วๆนี้จังหวัดภูเก็ตเพิ่งจะได้รับรางวัลแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำดีเด่น ในเรื่องของมารีนา ซึ่งทางผู้ประกอบการมารีนาให้ความสำคัญต่อรางวัลนี้ โดยจะจัดงานฉลองในเร็วๆนี้" ผู้ว่าภูเก็ตกล่าว
       
       ด้านวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดพังงามีนโยบายที่จะเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางทะเล ซึ่งการที่นายบิลล์ เกตส์ จะเข้ามาลงทุน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่จะมีขึ้นในอ่าวพังงาอยู่แล้ว และจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือ ซึ่งจังหวัดพังงาเห็นด้วยที่จะเข้ามาลงทุน แต่จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายและสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญจะต้องศึกษาว่ามีผลกระทบต่อคนในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีใครเข้ามาคุยเรื่องนี้
       
       นอกจากนี้ในส่วนของจังหวัดพังงาเองมีแผนที่จะสร้างท่าเรือมารีนาที่เกาะยาวอยู่แล้ว เพื่อที่ให้นักท่องเที่ยวมาแวะพัก โดยในส่วนของมารีนาที่เกาะยาว ที่จังหวัดกำลังจะสร้างก็จะไม่มีในเรื่องของการซ่อมเรือ จะเป็นเพียงสถานที่แวะพักเท่านั้น และที่ผ่านมาได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางน้ำจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียด เพื่อไม่ให้กระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมกับได้นำเสนอผลการศึกษาไปแล้วครั้งหนึ่ง
       
       ด้านนายไมตรี นฤขัติพิชัย นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การก่อสร้างเกาะขึ้นมาเพื่อทำเป็นมารีนาและโรงแรมในอ่าวพังงานั้น ตนคิดว่าเป็นไปได้ยาก เพราะเท่าที่ทราบในอ่าวพังงาได้ประกาศเป็นพื้นที่ที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คงเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก และในอ่าวพังงาไม่ควรที่จะมีสิ่งปลูกสร้างใดๆเกิดขึ้นในทะเล เพราะจะเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติได้ง่าย
       
       อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นของโครงการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดีที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มเรือยอชต์ให้เข้ามาในพื้นที่มากขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในทะเล รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านและชุมชนด้วยเป็นสำคัญ
       
       ทั้งนี้นายบิล เกตส์ มหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลกได้นั่งเรือยอชท์มาเที่ยวภูเก็ตเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แล้วเกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นนอกชายฝั่งจ.ภูเก็ตของไทย เพื่อใช้สำหรับเป็นท่าจอดเก็บเรือยอชท์หรูหราของบรรดาอภิมหาเศรษฐีโลกรวมทั้งตัวเขาเอง และเป็นแหล่งพักผ่อนของบรรดาอภิมหาเศรษฐีในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งอาจจะเป็นคู่แข่งสำคัญของชายหาดริเวียราของฝรั่งเศส และ หมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน
       
       สำหรับชื่อเกาะที่บิลเกตส์จะสร้างขึ้นชื่อว่า "โซรัน" (Zoran)โดยสร้างเป็นรูปทรงกลมคล้ายขนมโดนัท มีเรือนพักหรูหราแบบวิลลา 30-40 ยูนิต พร้อมกับโรงแรมชั้นหนึ่งโดยรอบท่าเรือ อยู่ห่างจากชายฝั่งเกาะภูเก็ตประมาณ 3 กม. และอยู่ในบริเวณอ่าวพังงา ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์แอ็กชันเรื่อง เจมส์ บอนด์ 007 ตอน The Man With the Golden Gun โครงการพัฒนาเกาะแห่งนี้ก็คล้ายกับโครงการ เดอะ ปาล์ม และ เดอะ เวิลด์ เกาะที่มนุษย์สร้างเป็นรูปทรงใบปาล์มและแผนที่โลก ตั้งอยู่นอกชายฝั่งเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ มูลค่าโครงการนี้ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 7,000 ล้านบาท ซึ่งก็ได้รับอนุญาตจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตแล้ว โดยการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มขึ้นได้ในปลายปีนี้และจะใช้เวลาสร้างประมาณ 4 ปี


จาก     :     ผู้จัดการออนไลน์   วันที่ 24  พฤษภาคม  2550


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤษภาคม 24, 2007, 12:34:10 AM

(http://diary.yenta4.com/images_icon/emo-ugly/a069.gif)  Mega Project,  การท่องเที่ยว, การลงทุนจากต่างชาติ,  วัตถุนิยม, ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ 

เค้าว่า .....  ล้วนแต่เป็นเรื่องพาชาติเจริญทั้งนั้น  (http://www.yenta4.com/msn/emoticon/panda/yenta4-emoticon-0001.gif) ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง  ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองไม่ว่าจะระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ ยุคไหนสมัยไหน คิดและทำเหมือนกันหมด (http://www.kapook.com/msn/upload/emoticons/thumbnail/kapook-15885-9594.gif)  จะเพราะอะไรก็รู้กันดีอยู่

อ่านน้ำเสียงตอบรับของผู้ใหญ่หลายๆท่านตามข่าวนี้แล้ว...... Project นี้ ยื่นมาเมื่อไร ..... ผ่านฉลุยแน่ครับ (http://www.kapook.com/msn/upload/emoticons/thumbnail/kapook-17395-4058.gif)

ปวดหัว .... ไปเอาหัวมุดน้ำดีกว่าเรา...(http://emoticon.siamha.com/duck/siamhadotcom28.gif)


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤษภาคม 25, 2007, 11:41:26 PM

เกาะบิล เกตส์


เมื่อเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า นายบิล เกตส์ อภิมหาเศรษฐีหมายเลขหนึ่งของโลก เจ้าของกิจการซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ไมโครซอฟท์ ให้การสนับสนุนโครงการสร้างเกาะเทียมขึ้นในอ่าวพังงา เพื่อจะได้นำเรือยอชต์มาจอดในการเดินทางมาประเทศไทยครั้งต่อๆ ไป

มีการกล่าวอ้างด้วยว่าผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเห็นชอบกับโครงการดังกล่าวด้วยแล้ว ขณะที่ได้รับการขานรับด้วยความยินดียิ่งจากนายสุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ด้วยเหตุผลที่เป็น "อมตะนิรันดร์กาล" ว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมรายได้จากการท่องเที่ยว

และการได้รับการสนับสนุนจากนายเกตส์ จะสร้างชื่อให้ประเทศไทยยิ่งขึ้น



ทั้งที่ประเด็นในการพิจารณาต่อกรณีดังกล่าว มิได้ขึ้นอยู่ว่าใครเป็นผู้สนับสนุน ถึงแม้ผู้สนับสนุนรายนี้จะเป็นอภิมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก เป็นเจ้าของกิจการที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก หรือเป็นผู้บริจาคการกุศลใหญ่ที่สุดในโลกก็ตาม

แต่ขึ้นอยู่กับว่า ที่จริงแล้วโครงการดังกล่าวให้ผลประโยชน์กับใคร และมีผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากน้อยเพียงใด คุ้มกันหรือไม่กับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

หากพิจารณาอย่างเป็นเหตุผลก็จะพบว่า โครงการดังกล่าวสร้างประโยชน์แก่ผู้ลงทุนขนาดใหญ่และผู้ใช้บริการซึ่งจะเป็นอภิมหาเศรษฐีเป็นด้านหลัก ประโยชน์ที่จะกระจายต่อคนส่วนใหญ่มีน้อย

หนำซ้ำ ยังไม่พบว่าโครงการก่อสร้างดังกล่าวมีการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมาครบถ้วนแล้วหรือไม่

ในฐานะที่เป็น "สิ่งแปลกปลอม" ต่อภูมิทัศน์อันสวยงามอยู่แล้วของทะเลและเกาะแก่งภาคใต้



ถามว่านักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศต้องการอะไรในการเดินทางไปท่องเที่ยวยังทะเลภาคใต้ คำตอบแทบจะเป็นร้อยละร้อยก็คือได้สัมผัสกับธรรมชาติอันสวยงาม สงบร่มรื่น ซึ่งหาไม่ได้ในภูมิภาคอื่นของโลก

โครงการเกาะเทียมที่มีมาก่อนแล้วในตะวันออกกลาง เกิดขึ้นเพราะภูมิภาคนั้นปราศจากธรรมชาติอันเป็นจุดดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั่วไป จึงต้องสร้าง "ของเทียม" ขึ้นมาเป็นจุดขาย

ถามว่าประเทศหรือท้องถิ่นที่มี "ของแท้" อยู่แล้วควรจะทำอะไร?

จะปกปักรักษา ดูแลให้การทำลายล้างธรรมชาติเกิดขึ้นน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและทำมาหากินของคนรุ่นหลังต่อไปนานๆ

หรือจะสร้างของเทียมของปลอมขึ้นมา เพื่อกอบโกยให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในระยะเวลาอันสั้น

เกิดอาการ "เห็นเงินตาโต" เพียงเพราะมีมหาเศรษฐีต้องการมี "ของเล่น" เพิ่มขึ้นอีกชิ้น?



จาก     :     คอลัมน์ บทบรรณาธิการ  ข่าวสด   วันที่ 26  พฤษภาคม  2550


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤษภาคม 28, 2007, 11:32:34 PM

“ลาลวานี” ประกาศเป็นเจ้าของเกาะโซราน - “บิลล์ เกตส์” ไม่มีเอี่ยว

(http://pics.manager.co.th/Images/550000006831801.JPEG)
นายกูลู ลาลวานี เจ้าของโครงการมารีนาหรู "รอยัล ภูเก็ต มารีน่า" และเจ้าของไอเดียสร้างเกาะในทะเล 7 พันล้านที่ภูเก็ต

       ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “กูลู ลาลวานี” เจ้าของมารีนาหรูระดับโลก “รอยัล ภูเก็ต มารีน่า” ประกาศเป็นเจ้าของเกาะ “โซราน” โดยลงทุนเอง 7,000 ล้าน “บิลล์ เกตส์” เป็นเพียงผู้จุดประกายความฝันให้เป็นจริง เพื่อนำซูเปอร์ยอชต์มาภูเก็ตเท่านั้น เผยเนรมิตเกาะโซราน 65 ไร่ ด้วยการใช้ดินที่ขุดลอกล่องน้ำในคลองเกาะแก้วถมเป็นเกาะกลางทะเล พัฒนาเป็นที่จอดซูเปอร์ยอชต์ โรงแรม วิลลาหรู พร้อมเลื่อนการก่อสร้างจากปลายปีไปก่อนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมในรัฐบาลชุดใหม่
       
       นายกูลู ลาลวานี เจ้าของธุรกิจโทรศัพท์ไร้สาย Binatone และเจ้าของโครงการมารีนาหรูระดับโลก “ภูเก็ต รอยัล มารีน่า” เปิดเผยถึงการลงทุนสร้างเกาะ “โซราน” (Zoran) มูลค่า 7,000 ล้านบาท ภายหลังมีข่าวออกมาว่ามหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก นายบิลล์ เกตส์ จะเข้ามาลงทุนสร้างเกาะดังกล่าวว่า ตามที่ตนได้ให้สัมภาษณ์แก่สำนักข่าวรอยเตอร์ที่เกาะฮ่องกง ถึงการลงทุนสร้างเกาะในอ่าวพังงา ที่ชื่อว่า “เกาะโซราน” โดยบิลล์ เกตส์ เป็นผู้จุดประกายความฝันของตนให้เป็นจริง ในการที่จะลงทุนสร้างเกาะขึ้นมาด้วยการนำซูเปอร์ยอชต์มาภูเก็ต หากภูเก็ตมีมารีนาที่สามารถรองรับได้
       
       ทั้งนี้ เนื่องจากมารีนาที่มีอยู่ในภูเก็ตไม่สามารถรองรับซูเปอร์ยอชต์ของมหาเศรษฐีได้ จากสภาพร่องน้ำที่ลึกไม่พอ แต่สื่อมวลชนไทยหลายฉบับกลับนำเสนอข่าวว่าบิลล์ เกตส์ จะเข้ามาลงทุนก่อสร้างเกาะโซรานซึ่งเป็นการเข้าใจผิด เพราะการลงทุนดังกล่าวตนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด
       
       นายกูลู ลาลวานี ระบุชัดว่า แผนการสร้างเกาะโซรานของตน สร้างเพื่อรองรับเรือยอชต์ขนาดใหญ่ หรือซูเปอร์ยอชต์ ที่มีความยาวเกิน 40 เมตรขึ้นไป เพราะเรือซูเปอร์ยอชต์ จะเข้าจอดได้ในจุดที่มีน้ำลึกกว่า 60 เมตร แต่มารีนาที่มีอยู่ในเกาะภูเก็ตไม่สามารถตอบสนองซูเปอร์ยอชต์ของมหาเศรษฐีได้ จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างเกาะขึ้นมารองรับ เพราะหากบิลล์ เกตส์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก สนใจที่จะนำเรือยอชต์มาภูเก็ต เชื่อว่ามหาเศรษฐีคนอื่นๆ ก็ต้องสนใจเดินทางมาภูเก็ตเช่นกัน
       
       “จำเป็นที่จะต้องสร้างเกาะใหม่ขึ้นมารองรับซูเปอร์ยอชต์ แม้ว่าภูเก็ตมีเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่หลายๆเกาะ ที่สามารถซื้อได้ แต่จากการสำรวจเกาะเล็กเกาะน้อยเหล่านั้น ร่องน้ำไม่สามารถตอบสนองซูเปอร์ยอชต์ได้”
       
       เจ้าของโครงการรอยัล ภูเก็ต มารีน่า เผยอีกว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะนำเสนอโครงการต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี รวมทั้งศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นต่อโครงการ หลังจากนั้นจะศึกษารายละเอียดการก่อสร้างทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เป้าหมายเดิมนั้นจะก่อสร้างในช่วงปลายปีนี้และแล้วเสร็จในอีก 4 ปีข้างหน้า จำเป็นที่จะต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากปีนี้ติดปัญหาการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ตนจึงมองว่าโครงการก่อสร้างน่าที่จะเลื่อนออกไปจนจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะในช่วงที่การเมืองในประเทศไทยไม่นิ่ง การขออนุมัติโครงการตามขั้นตอนต่างๆ อาจจะช้าออกไป
 
(http://pics.manager.co.th/Images/550000006831802.JPEG) 
เกาะโซราน ที่นายกูลู ลาลวานี ต้องการให้เกิดขึ้นกลางทะเลลึกของภูเก็ต เพื่อรองรับซูเปอร์ยอชต์ของมหาเศรษฐีจากทั่วโลก     
 
       ส่วนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหากมีการก่อสร้างเกาะในทะเล นายกูลู ลาลวานี กล่าวว่า ก่อนที่จะเกิดโครงการสร้างเกาะโซราน ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องสร้างเกาะในลักษณะแบบนี้ และมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาแล้วพอสมควร ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยภาพรวม แต่รัฐบาลไทย โดยจังหวัดภูเก็ตต้องการที่จะทำการศึกษาอีกรอบหนึ่ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจ เพราะโครงการแบบนี้ถือเป็นโครงการแรกในประเทศไทย จึงต้องใช้เวลาในการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเราต้องใช้เวลาในการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกเรื่องอีกสักระยะหนึ่ง
       
       สำหรับเกาะที่จะสร้างขึ้นมา เจ้าของโครงการรอยัล ภูเก็ต มารีน่า บอกว่า ก่อนที่จะเกิดโครงการสร้างเกาะในทะเล ได้ใช้เงินไปกว่า 250,000 เหรียญสหรัฐ จ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างเกาะ คือ บริษัท Burchill Partners PTY จำกัด มาทำการศึกษาสำรวจและออกแบบการสร้างเกาะ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้เสนอความคิดว่าควรที่ขุดลอกคลองเกาะแก้วที่ปัจจุบันอยู่ในสภาพที่ตื้นเขินมาก เรือไม่สามารถเข้าออกไปตลอด 24 ชั่วโมง
       
       ทั้งนี้ หากขุดลอกคลองออกไปประมาณ 3-4 กิโลเมตรไปจนถึงปากอ่าว จะเกิดดินจำนวนมหาศาลเป็นแสนๆคิว สามารถนำดินดังกล่าวไปถมเป็นเกาะในทะเลลึก ที่มีร่องน้ำลึก และพัฒนาเป็นที่จอดซูเปอร์ยอชต์ได้ พร้อมสร้าง วิลลาหรู 30-40 หลัง และโรงแรม ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเกาะที่มีเนื้อที่ 65 ไร่ ซึ่งมั่นใจว่าการถมทะเลสร้างเป็นเกาะในครั้งนี้ ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถทำได้
       
       นายกูลู ลาลวานี กล่าวอีกว่า นอกจากโครงการที่จะก่อสร้างเกาะโซรานแล้ว ในการผลักดันการท่องเที่ยวทางทะเลของภูเก็ตและฝั่งอันดามัน จะพยายามเชื่อมการท่องเที่ยวทางทะเลระหว่างภูเก็ต พังงา และกระบี่เข้าด้วยกัน เพราะปัจจุบันมารีนามีเพียงที่ภูเก็ตเท่านั้น ส่วนที่พังงากับกระบี่ยังไม่มี
       
       ก่อนหน้านี้ รอยัล ภูเก็ต มารีน่า ได้สำรวจจุดที่จะทำมารีนาในกระบี่และพังงาเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถล่องเรือเชื่อมกันเป็นสามเหลี่ยมอันดามันตามยุทธศาสตร์ของจังหวัดในอันดามัน โดยการลงทุนก่อสร้างมารีนาเพิ่มในกระบี่และพังงา เพื่อที่จะผลักดันให้ภูเก็ตที่หนึ่งของโลก ในเรื่องของการล่องเรือและมารีนา หลังจากที่ประสบความสำเร็จการเป็นที่หนึ่งในเอเชียมาแล้ว


จาก     :     ผู้จัดการออนไลน์   วันที่ 29  พฤษภาคม  2550


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Hilarious diver ที่ พฤษภาคม 29, 2007, 06:25:52 AM
นู๋ขอธรรมชาติของนู๋แบบเดิมๆๆ ได้ไหม...

ไม่ต้อง 7,000 ล้าน

ไม่ต้องเรือยอร์ช

ไม่ต้องคอนโดวิวทะเล (ที่เอาแต่อยู่ในคอนโด....แล้วมันจะสร้างสูงๆๆ ทำไมอ่ะ)

เสียงจาก.....ปลาน้อยตัวนึง  :'(


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ พฤษภาคม 29, 2007, 06:47:30 AM
 ::).... ยินดีต้อนรับสู่ SOS.....บ้านของคนรักทะเลที่รักษ์ทะเลค่ะ.....คุณHilarious diver.... ::)

หุหุ....logo ของคุณ Hilarious diver น่ากลัวจังค่ะ ถ้ามีอย่างนี้จริงๆ จับไปปล่อยที่ไซท์งานของ เกาะ “โซราน” สักตัวละก็ มีหวังโครงการนี้ไม่เกิดแน่เลยค่ะ....อูยยยย.....น่ากลัวๆ.....(http://www.naturethai.org/forum/smileys/penquin/pen1_149.gif)

เห็นด้วยค่ะว่าไปไกลๆเลยได้ไหม เจ้าเกาะขยะของอาบังที่จะมาสร้างในทะเลไทยน่ะ

ขอน้ำใสๆ หาดทรายขาวๆ ไม่เอาคอนโดกลางทะเล.....(http://www.naturethai.org/forum/smileys/penquin/pen1_164.gif)


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ พฤษภาคม 29, 2007, 07:56:18 AM
อย่าหาว่ามีความคิดถ่วงความเจริญเลยนะคะ แต่อยากได้โครงการที่พัฒนาชาติ โดยคนไทยและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมค่ะ มีมั้ยคะ โครงการแบบนี้


หัวข้อ: Re: การสร้างเกาะส่วนตัวในประเทศไทย ทำได้อย่างไรเนี่ย
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ มิถุนายน 06, 2007, 12:44:58 AM

‘เกาะโซราน’ บนความเสี่ยงระบบนิเวศพังพาบ

(http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/variety/6/6/129585_52228.jpg)

ชื่อเสียงความโด่งดังด้านท่องเที่ยวของภูเก็ตโด่งดังไปทั่วโลก ชายหาดขาว เรียงรายไปด้วยโรงแรม รีสอร์ตมากมาย จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูเก็ตจากทุกมุมโลก แต่ละปีมากกว่า 2 ล้านจนในปีที่ผ่านมาภูเก็ตแม้จะบอบช้ำจากสึนามิ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวยังสูงถึง 4.5 ล้านคน ทำรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 175 เปอร์เซ็นต์
 
จุฑาพร เริงรนอาษา รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฝ่ายการตลาดและต่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า ในปี 2550 มีแนวโน้มการท่องเที่ยวของภูเก็ตดีเช่นกัน จากการสอบถามเอเย่นต์ทัวร์และโรงแรมต่าง ๆ ปรากฏว่าอัตราการจองห้องพักหนาแน่นมากในฤดูกาล ท่องเที่ยวที่จะถึงนี้
 
รวมทั้งเที่ยวบินประจำจากต่างประเทศ และแนวบินเช่าเหมาลำ มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นด้วย คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวน่าจะกลับไปเท่ากับหรือมากกว่า เมื่อปีพ.ศ. 2547 อันเป็นปีทองทางการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
 
นอกจากการเดินทางโดยเครื่องบินแล้ว แนวโน้มนักท่องเที่ยวที่เดินทางทางเรือ โดยเฉพาะเรือสำราญเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่ภูเก็ตมีเพียงเรือ สตาร์ครูซ ที่มาจากสิงคโปร์เป็นหลัก ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะถึงนี้มีเรือสำราญจากยุโรปและคาริเบียนเข้ามา เช่น Sea Bourn, Europa, P&O, Canival Cruise เป็นต้น

(http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/variety/6/6/129585_52229.jpg)
 
“ภูเก็ต” ยังเป็นมารีน่าที่รองรับเรือ   ยอชท์ของมหาเศรษฐีทั่วโลก มีมารีน่ารองรับเรือยอชท์ที่เป็นของเอกชนอยู่ 3 แห่งด้วยกัน คือรอยัลภูเก็ตมารีน่า สามารถรองรับเรือยอชท์ ได้ 350 ลำ และภูเก็ต โบ๊ทลากูน รองรับเรือได้กว่า 300 ลำ และภูเก็ต ยอชท์ เฮเว่น
 
เฉลี่ยแล้วในแต่ละปีจะมีเรือยอชท์   เข้ามาในภูเก็ตปีละกว่า 700 ลำ มีบางลำเข้ามาอยู่นาน เพื่อประกอบอาชีพ เช่นพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำ เป็นต้น
 
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวีกำลังก่อสร้าง มารีน่า ณ บริเวณท่าเรืออ่าวฉลองเฟสแรกด้วยงบประมาณ 70 ล้านบาท รองรับเรือได้ 60 ลำ คาดว่าจะเสร็จในปี 2551 และเฟส 2 ด้วยงบประมาณ 200 ล้านบาทเพื่อพัฒนาให้ท่าเทียบเรืออ่าวฉลองให้เป็น มารีน่า ตามมาตรฐานโลก

(http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/variety/6/6/129585_52230.jpg)
 
ล่าสุดมีข่าวว่า นายกูลู ลาลวานี เจ้าของรอยัลภูเก็ตมารีน่า จะใช้เม็ดเงิน 7,000 ล้านบาท สร้างเกาะโซราน (Zoran) ในพื้นที่อ่าวพังงา โดยจะขุดลอกร่องน้ำจากบริเวณเกาะแก้วแล้วใช้ดินถมทะเลขึ้นมา ให้เป็นพื้นที่ถึง 65 ไร่
 
วัตถุประสงค์ก็คือ เพื่อรองรับเรือยอชท์ขนาดใหญ่ ที่มีความยาวเกิน 40 เมตรขึ้นไป  ที่เรียกว่าซุปเปอร์ยอชท์ จะสามารถจอดได้ในจุดที่มีน้ำลึกกว่า 60 เมตร ซึ่งมารีน่าที่มีอยู่ในภูเก็ต ไม่สามารถรองรับได้
 
จากการบอกเล่าของนายกูลู ลาลวานี ก่อนที่จะผุดโครงการก่อสร้างเกาะในทะเล เขา ได้ใช้เงินไปกว่า 250,000 เหรียญสหรัฐ จ้างผู้  เชี่ยวชาญด้านการสร้างเกาะ คือ บริษัท Burchill Partners PTY จำกัด มาศึกษาสำรวจและออกแบบการสร้างเกาะ ผู้เชี่ยวชาญรายนี้เสนอความคิดว่าควรขุดลอกเกาะแก้วที่มีอยู่ในปัจจุบันมีสภาพตื้นเขินมาก เรือไม่สามารถเข้าออกได้ตลอด 24 ชั่วโมง
 
หากขุดลอกคลองออกไปประมาณ 3-4 กิโลเมตรไปจนถึงปากอ่าว จะเกิดดินจำนวนมหาศาลเป็นแสน ๆ คิว สามารถนำดินดังกล่าวไปถมเป็นเกาะในทะเลลึก ที่มีร่องน้ำลึกและพัฒนาเป็นที่จอดเรือซุปเปอร์ยอชท์ได้ พร้อมสร้างวิลล่าหรู 30-40 หลังพร้อมด้วย โรงแรมและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
 
เขามั่นใจว่าการถมทะเลเพื่อสร้างเป็นเกาะ ไม่น่าจะมีผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพราะได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมมาพอสมควร แต่ก็ยืนยันว่าจะต้องมีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากนักวิชาการในประเทศไทยด้วย
 
ในความเห็นของนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมของไทย     ศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า แถวนี้มีป่าชายเลน มีเขาหินปูน แลนด์สโตน ตรงนี้เป็นแหล่ง  อู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของชุมชน เรื่องการประมงชายฝั่ง การเพาะเลี้ยงจะมีบ้าง เรื่องการท่องเที่ยว
 
เรื่องเศรษฐกิจต้องคิดให้ชัด ๆ ว่า การที่ให้เขาทำจริง ๆ เราได้จริงประโยชน์จะตกไปอยู่ที่ใคร ตกชุมชนเท่าไร ลงทุนเท่าไร ต้องคิดให้ชัด เพราะพื้นที่เป็นสมบัติของเรา การที่จะเอาอะไรไปสร้างเกาะขึ้นมา ต้องพิจารณาว่าจะได้อะไร
 
การที่ขุดคลองออกไปจากเกาะภูเก็ต ประมาณ 3-4 กิโล ซึ่งต้องเป็นคลองที่กว้างพอสมควร จุดที่จะสร้างที่จอดเรือยอชท์ ดินเหล่านี้ จะเกิดการกระจายของฝุ่นละออง จะมีผลกระทบด้านกายภาพ ต้องศึกษาอย่างละเอียด ตลอดจนต้องศึกษากระแสน้ำหมุนเวียนช่วงนั้นด้วย
       
เพราะถ้าขุดคลองลงไปลึก ๆ แล้ว การหมุนเวียนของกระแสน้ำจะมีผลกระทบต่อป่าชายเลนอย่างไรบ้าง มีผลกระทบเรื่องวงจรชีวิตของสัตว์น้ำ ต้องคิดอย่างละเอียดว่าทรัพยากรทางน้ำ ป่าชายเลน หญ้าทะเลทางกายภาพเมื่อเสื่อมไปแล้ว ซึ่งเราอยู่บนฝั่งเรา จะมองไม่เห็น
 
นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ยังบอกอีกว่า ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้น เรื่องระบบสาธารณูปโภค น้ำ ไฟ ต้องทำท่อส่งน้ำไปจากในเมือง ท่อน้ำไปขวางทะเล ระบบน้ำทิ้ง ไม่ใช่เรื่องล็ก ๆ จะตัดสินใจ ต้องมองในระยะยาว เกิดผลกระทบขึ้นมาใช้เงินเป็นแสนล้านเรื่องมาคืนของดั้งเดิม คิดว่าวิถีชีวิตของคนแถวนั้นจะต้องเปลี่ยนแปลง
 
“ขนาดแค่ทำลายป่าชายเลนไปฟื้นฟูหมื่นล้านยังไม่กลับ มีเรือใหญ่ ๆ เข้ามาการคมนาคมจะจัดอย่างไร ต้องดูให้ครบทุกมุม   ต้องตอบได้อธิบายได้ให้ชัดเจน กระแสน้ำมีผลกระทบกับป่าชายเลน สัตว์น้ำ”
 
ด้าน ดร.ชวลิต วิทยานนท์ หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ทะเลแหล่งน้ำจืด องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ประเทศไทย ให้อีกความคิดเห็นหนึ่งว่า โดยภาพรวมของสภาพทะเลเมืองไทย ยังไม่มีระบบนิเวศบนพื้นที่จุดไหนเสื่อมโทรมจนขนาดสามารถใช้ดินมาถมทะเลได้ บนพื้นที่บริเวณชายฝั่งบริเวณเกาะแก้ว จ.ภูเก็ต ยังไม่ถึงขั้นเสื่อมโทรม

(http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/variety/6/6/129585_52231.jpg)
   
 “ปกติเราก็มีรีสอร์ตหรูอยู่บนแผ่นดินเยอะอยู่แล้ว ทั้งที่รุกพื้นที่ป่า ไม่รุกพื้นที่ป่าในภูเก็ต มีรีสอร์ตเล็กที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันให้กับ นักท่องเที่ยว ที่ไม่อยู่ในเขตอุทยาน แต่มีพื้นที่ป่าก็เข้าไปสร้างรีสอร์ต ประเทศไทย ไม่มีทะเลกว้างขวางที่จะถมพื้นที่ขึ้นมา ใหม่ พิจารณาดูแล้วผลประโยชน์ตกอยู่    ในประเทศไม่เท่าไร ต้องไม่ลืมว่า จากภาวะความเปลี่ยนแปลงของโลก ในอนาคตทะเลจะเป็นแหล่งอาหารสำคัญของมนุษย์โลก”
 
ธรรมชาติออกแบบตัวเองมาอย่างลงตัว ให้พื้นที่จุดหนึ่งเป็นเกาะ เป็นป่าชายเลน สร้างความสมดุลของตัวเองอยู่แล้ว การก่อสร้างเกาะในทะเลเพียงเพื่อเป็นที่จอดเรือยอชท์ของเศรษฐี  ที่มาชั่วครั้งชั่วคราวแล้วกลับไป ทิ้งเงินไว้ก้อนหนึ่งจ่ายราคาค่าวิวสวยกลางทะเล
 
หากวันหนึ่งระบบนิเวศเปลี่ยนไปส่ง  ผลกระทบทั้งแหล่งอาหารทะเล ป่าชายเลน   วิถีชีวิต ทุกอย่างเชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่ เงินมหาศาลขนาดไหนก็ไม่พอจะฟื้นทะเลให้กลับมาดั่งเดิม.


จาก     :     เดลินิวส์   วันที่ 6 มิถุนายน 2550