กระดานข่าว Save Our Sea.net

ประมงผวาปลิงทะเลถูกไล่ล่าจนสูญพันธุ์


ประมงตรังหวั่นปลิงทะเลสูญพันธุ์ หลังช่วงมรสุมชาวประมงพื้นบ้านเกาะมุกด์แห่จับขายส่งภัตตาคาร ร้านอาหารสูงถึง กก.ละ 2,000-3,000 บาท เผยที่ผ่านมามีเรือปั่นไฟจากภูเก็ต กระบี่ ลอบเข้ามาคราดปลิงทะเล แต่ก็ถูกจับยึดเรือฟ้องศาล 6 ราย ขณะที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเพาะปลิงดำได้แล้ว แต่ปลิงขาวยังอยู่ระหว่างศึกษาวิจัย

นายสุริยะ  วิฑูรย์พันธ์ ประมงจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จากกรณีที่ชาวประมงพื้นบ้านเกาะมุกด์ ต.ลิบง อ.กันตัง แห่กันไปจับปลิงทะเลส่งขายให้กับภัตตาคารและร้านอาหารที่มารับซื้อถึงบนเกาะ เพื่อนำไปปรุงอาหาร ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความเชื่อว่าปลิงทะเลมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าสัตว์น้ำชนิดอื่น จนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ หลังจากไม่สามารถออกเรือหาปลาในทะเลช่วงมรสุมได้นั้น โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าเป็นความเชื่อที่ผิด ปลิงทะเลเมื่อมีการนำมาต้มให้สุกก่อนนำไปปรุงอาหาร จะทำให้คุณค่าทางโปรตีนลดลง เมื่อเทียบกับปลาในทะเล ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารและมีราคาถูกกว่า

อย่างไรก็ตาม การที่ชาวประมงจับปลิงทะเลขายนั้น ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายหรือความผิดทาง พ.ร.บ.ประมงออกมาควบคุม จึงถือว่ายังไม่มีความผิด หากมีการใช้เครื่องมือที่ถูกกฎหมาย ทางราชการก็ไม่สามารถไปห้ามได้ แต่ถ้าใช้เครื่องมือประเภทคราดที่ติดเครื่องยนต์ลากปลิงทะเลก็ถือว่ามีความผิด

สำหรับมาตรการอนุรักษ์ปลิงทะเลนั้น ที่ผ่านมาสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง อ.สิเกา กำลังศึกษาวิจัยเพาะพันธุ์ปลิงทะเลเพื่อนำไปปล่อยในแหล่งน้ำเดิม ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลิงทะเล ทั้งนี้ ในท้องทะเลตรังมีปลิงทะเลอยู่ 2 ชนิด คือ ปลิงขาวและปลิงดำ แต่จะพบปลิงขาวมากที่สุดบริเวณชายหาด อ.สิเกา ในส่วนของปลิงขาวราคาซื้อขายค่อนข้างแพง บางฤดูกาลจะมีราคาสูงถึง กก.ละ 2,000-3,000 บาท เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคสูง และปริมาณของปลิงทะเลขาวมีค่อนข้างน้อย จึงทำให้ราคาซื้อขายค่อนข้างแพงดังกล่าว

นายสุริยะเปิดเผยต่อไปว่า  สำหรับปลิงทะเลขาว ทางสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง อ.สิเกา ยังไม่สามารถเพาะพันธุ์ได้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการค้นคว้าศึกษาวิจัย แต่ปลิงดำนั้นสามารถเพาะพันธุ์ได้แล้ว โดยได้รวบรวมพ่อแม่พันธุ์ส่งไปให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพาะพันธุ์ จากนั้นจะนำลูกพันธุ์ที่ได้มาเพาะเลี้ยงที่ จ.ตรัง ก่อนจะปล่อยลงสู่ท้องทะเลที่เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยเดิม เพื่อขยายพันธุ์ให้มีปริมาณมากต่อไป

"ที่ผ่านมาได้มีการจัดตั้งประมงอาสาสมัครอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง  จำนวน 200 คน ซึ่งขณะนี้ได้กระจายไปทุกหมู่บ้าน  โดยเฉพาะที่ ต.บ่อหิน อ.สิเกา มีเรือตรวจการณ์ไอยรา  ซึ่งได้รับงบสนับสนุนจากอธิบดีกรมการปกครอง มาใช้ในการตรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล   ที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำผิดคราดปลิงทะเลขายไปแล้ว 6 ลำ ซึ่งมาจากพื้นที่ จ.กระบี่ และภูเก็ต เป็นเรือปั่นไฟ จนนำไปสู่การยึดเรือและฟ้องศาล ขณะเดียวกันจะรณรงค์ให้ความรู้แก่ชาวประมงพื้นบ้านให้เลือกจับเฉพาะปลิงทะเลที่ตัวโตเต็มที่เพื่อที่จะไม่สูญพันธุ์ แต่ก็ยอมรับว่าบางครั้งไม่สามารถจะไปควบคุมทั้งหมดได้ ทั้งนี้ ทำได้เฉพาะการเข้มงวดการใช้เครื่องมือผิดกฎหมายเท่านั้น" นายสุริยะกล่าว

ประมงจังหวัดตรังยังกล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ปลิงทะเลใน จ.ตรัง หากชาวประมงมีจิตสำนึกอนุรักษ์หวงแหนทรัพยากรทางทะเลร่วมกัน โดยใช้มือจับ ไม่ใช้เครื่องมือผิดกฎหมาย เชื่อว่าปลิงทะเลก็จะอยู่คู่ จ.ตรัง ต่อไป แต่ถ้าหากทุกคนไร้จิตสำนึก ในอนาคตปลิงทะเลก็จะสูญพันธุ์ในที่สุด และจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ในท้องทะเลอีกด้วย.



จาก                                :                               X-cite  ไทยโพสต์     วันที่ 24 ธันวาคม 2551

อันนี้ก็ไม่รู้ว่าท่านประมงจังหวัดให้ข่าวไปผิดๆ เอง หรือผู้สื่อข่าวจับความไปถ่ายทอดผิดๆ เอง .. รู้แต่ว่า อ่านแล้วเหนื่อยหัวใจหลายเรื่อง

ขอแถลงแก้ไขเพิ่มเติมหน่อยนะคะ
 ข้อ 1. ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์สามารถเพาะขยายพันธุ์ปลิงทะเลได้แล้วทั้งปลิงดำ ปลิงขาว แถมด้วยปลิงชนิดอื่นๆ .. ส่วนที่ว่าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเพาะปลิงดำได้แล้วนั้น ถ้าหมายถึงสถานีเพาะเลี้ยงฯ ที่จังหวัดตรัง ยังไม่มีการเพาะปลิงเองค่ะ มีแต่นำเอาลูกปลิงทะเลที่เพาะได้จากประจวบฯ ไปทดลองเลี้ยง

 ข้อ 2.  ในท้องทะเลตรัง ไม่ได้มีปลิงทะเลอยู่แค่ 2 ชนิด แต่มีมากมายหลายชนิด เพียงแต่ชนิดที่สำคัญๆ ที่มีการเก็บมาใช้บริโภค หรือจำหน่าย นั้น เป็น 2 ชนิดที่ว่า คือปลิงขาว (Holothuria scabra ) และปลิงดำ (Holothuria atra ) ซึ่งทั้ง 2 พันธุ์นี้ ไม่ใช่ว่าจะเป็นสีขาว สีดำ แยกชนิดได้เลยนะคะ ทั้ง 2 ชนิดมีทั้งสีขาว ดำ เทา การแยกชนิดไม่ได้แยกโดยสี แต่แยกโดยลักษณะอื่นเป็นหลัก บังเอิญในแต่ละชนิดสมาชิกส่วนใหญ่เป็นสีที่เอามาใช้เรียกชื่อนั่นแหละค่ะ เลยเรียกง่ายๆ ว่างั้น  และปลิงขาวไม่ได้พบมากที่สุดที่ชายหาด อ.สิเกา หรอกค่ะ ขืนพบตามชายหาดน่ากลัวจะสูญพันธุ์ไปนานแล้ว.. ปลิงขาวมักพบอาศัยในแนวหญ้าทะเล (แต่พบที่ไหนเราไม่บอก)

 
ข้อ 3.  สถานีเพาะเลี้ยงฯ จ.ตรัง ดำเนินการรวบรวมพ่อแม่พันธุ์ปลิงขาวให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์นำไปเพาะขยายพันธุ์ค่ะ เพราะว่าทางประจวบฯ หาปลิงขาวไม่ได้  ส่วนปลิงดำ ศูนย์ฯ ประจวบฯ เก็บรวบรวมได้เองจากทะเลประจวบฯ นำมาเพาะขยายพันธุ์  ที่ส่งไปให้สถานีฯ ตรังเลี้ยงนั้น เพื่อศึกษาทดลองเลี้ยง ปลิงดำจากทะเลประจวบฯ จะไม่นำไปปล่อยในทะเลตรังค่ะ ส่วนปลิงขาวที่เพาะพันธุ์ได้ส่วนหนึ่งจะนำกลับไปปล่อยในถิ่นเดิม อีกส่วนหนึ่งใช้ศึกษาวิจัยการเพาะเลี้ยงเพื่อเป็นสัตว์เศรษฐกิจหรืออื่นๆ ต่อไป

เรื่องแย่งผลงานเพื่อเอาหน้านี่น่ารังเกียจมาก.....พอๆกับการเขียนข่าวผิดๆถูกๆของนักข่าว..... :-[

เป็นกำลังใจให้คนทำงานและสร้างผลงานตัวจริงนะคะน้องแม่หอย.... :-* :-* :-*

ขอบคุณสำหรับข้อมูล และเป็นกำลังใจให้ค่ะ

สารภาพ 1 อย่างค่ะ
.. ต่อไปนี้จะบอกมามี้ที่บ้านให้เลิกซื้อปลิงมาทำให้กินวันตรุษจีน
คือให้เลิกสั่งเวลาไปภัตตาคาร เลิกซื้อมาทำให้กิน และเลิกกินมันไปเลยดีกว่า  :(  :( :(

PS. ข่าวดีคือแม่เลิกกินหูฉลาม ตามแล้ว หลังจากโดนบ่งชี้บ่อยๆ  

ดีมากจ้ะน้องโอ...... :-*

หยุดกิน....หยุดซื้อ.....ก็หยุดฆ่า.....

เริ่มการอนุรักษ์ที่ตัวเราเองก่อน.....แล้วกระจายข่าวสารความรู้ไปยังญาติมิตรคนใกล้ชิดสนิทสนม..... ;D

ขอบคุณสำหรับข้อมูลคับ พี่สองสาย และ พี่แม่หอย

วิธีโอน่าปฏิบัติตามเป็นอย่างยิ่งมากๆ
ส่วนตัวไม่กินอยู่แล้ว แต่จะไปชักชวนที่บ้านด้วย  ;D

มันอร่อยตรงไหนครับ ไอ้ปลิงทะเลเนี่ย เคยทานก็บ่อยแต่ยังบอกไม่ได้ว่ามันอร่อยตรงไหน เพราะไม่อร่อย

;) ;) ;) ปรบมือให้ 3 ทีซ้อนเลยนู๋โอ

ตอนนั้นไปที่จีน  เขานำมาเป็นอาหารเลี้ยงด้วยค่ะ  400 กว่าคน  คิดดูปลิงหมดไปเท่าไหร่
สงสัยเขานิยมกินอะไรแปลกๆ 
หนูกินคำเดียว  ก็ไม่กินอีกเลยค่ะ