กระดานข่าว Save Our Sea.net

ประมงอิเหนาจับได้ "ปลาดึกดำบรรพ์" ฟอสซิลมีชีวิต !!

(http://pics.manager.co.th/Images/550000006491301.JPEG) (http://pics.manager.co.th/Images/550000006491302.JPEG)
ยูสตินูส ลาฮามาโชว์ซีลาแคนท์ที่จับได้เมื่อ 2 วันก่อน น่าเสียดายที่ปลาดึกดำบรรพ์ตัวนี้ไม่มีชีวิตเสียแล้ว 

        เอพี/เอเจนซี/ราชบัณฑิต - ชาวประมงอินโดจับ "ซีลาแคนท์" ปลาดึกดำบรรพ์ที่เชื่อว่าสูญพันธุ์ไปแล้วตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ คาดอาจเป็นบรรพบุรุษสัตว์มีกระดูกสันหลัง แต่น่าฉงนใจที่ปลาน้ำลึกสามารถอยู่ได้นานบนผิวน้ำหลังถูกจับได้ถึง 17 ชั่วโมง
       
       ยูสตินูส ลาฮามา (Yustinus Lahama) ชาวประมงอินโดพร้อมลูกชายจับปลาหน้าตาประหลาดยาว 131 เซ็นติเมตร หนัก 51 กิโลกรัมได้เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่พวกเขาออกหาปลาแถวเกาะสุลาเวสี ใกล้อุทยานทางทะเลของบูนาเคน (Bunaken National Marine Park) ซึ่งเป็นเขตที่มีความหลากหลายทางชีวภาพทางน้ำสูงสุดแห่งหนึ่งในโลก
       
       หลังจาก 2 พ่อลูกนำปลายักษ์ที่เหมือนหินไปให้เพื่อนบ้านดูและเก็บไว้ที่บ้านประมาณ 1 ชั่วโมง พวกเขาก็นำปลาตัวดังกล่าวกลับไปไว้ที่บ่ออนุบาล แต่น่าเสียดายที่ปลาลักษณะคล้ายซากฟอสซิลโบราณตายลงในอีก 17 ชั่วโมงถัดมา โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นเพราะอยู่ในสภาพที่ยากแก่การดำรงชีวิต
       
       "ที่จริงปลาตัวนี้น่าจะตายตั้งแต่ 2 ชั่วโมงแรกที่ถูกจับขึ้นมาได้ เพราะปลาสายพันธุ์นี้อาศัยอยู่แต่ในน้ำลึก (ประมาณ 200 ฟุต) และสภาพอากาศหนาวเย็น" ศ.เกรโว กีรัง (Grevo Gerung) คณะประมง มหาวิทยาลัยแซมราตูลังกี (Sam Ratulangi University) อินโดนีเซียเผย พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดปลาตัวนี้กลับอยู่ได้นานถึง 17 ชั่วโมง

(http://pics.manager.co.th/Images/550000006491303.JPEG)
นักชีววิทยาเคยเชื่อว่าปลาชนิดนี้สูญพันธุ์ไปแล้วตั้งแต่ 80 ล้านปีก่อน เหตุเพราะไม่พบฟอสซิลที่มีอายุต่ำกว่านั้น อีกตัวอย่างของปลาซีลาแคนท์ที่จับได้เมื่อ 4 ปีก่อน แต่ตอนนี้อยู่ที่แผนกศึกษาปลา พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเคนยา
       
       ปลาโบราณที่พ่อลูกคู่นี้จับได้คือ "ซีลาแคนท์ " (coelacanth) ซึ่งมีซากฟอสซิลเก่าแก่อายุ 60 ล้านปีปรากฎอยู่ในพิพิธภัณฑ์ปลาออสเตรเลีย และนักบรรพชีวินวิทยาเชื่อว่าสูญพันธุ์ไปแล้วประมาณ 60 ล้านปีก่อนพร้อมๆ กับยุคไดโนเสาร์ เพราะไม่พบฟอสซิลอายุน้อยกว่านั้น
       
       ทว่ากลับมีการค้นพบซีลาแคนท์ตัวเป็นๆ ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2382 ในแถบชายฝั่งแอฟริกาสร้างความสนใจไปทั่วโลก จากนั้นก็มีรายงานการพบปลาดังกล่าวเรื่อยๆ แม้กระทั่งในแถบสุลาเวสีเองก็เคยพบมาแล้วเมื่อ 7 ปีก่อน

(http://pics.manager.co.th/Images/550000006491304.JPEG)
ลักษณะของครีบและหางคล้ายกระดูกแขนและขาของสัตว์บก
       
       ที่น่าสนใจคือ "ซีลาแคนท์" มีรูปร่างของครีบละม้ายคล้ายคลึงกับกระดูกแขนและขาของสัตว์บกมาก มีระบบการสืบพันธุ์ไม่เหมือนปลาชนิดอื่น คือเมื่อซีลาแคนท์ได้รับการผสมพันธุ์ก็จะฟักตัวเป็นลูกปลาและยังอาศัยอยู่ในท้องของแม่จนกระทั่งคลอดออกมา และไข่ปลาซีลาแคนท์เป็นไข่ปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 9 เซ็นติเมตร
       
       ด้วยลักษณะดังกล่าวทำให้นักชีววิทยาหลายคนมีความคิดว่าซีลาแคนท์คือบรรพบุรุษของสัตว์โลกที่มีกระดูกสันหลังทุกชนิด


จาก     :     ผู้จัดการออนไลน์    วันที่ 22 พฤษภาคม 2550

พบปลาดึกดำบรรพ์น่านนํ้าอินโดนีเซีย

        ชาวประมงอินโดนีเซียพบปลาดึกดำบรรพ์ในทะเลนอกชายฝั่งเกาะสุลาเวสี ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์คิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วพร้อมกับไดโนเสาร์ แต่ปลาตายหลังจากถูกจับ 17 ชั่วโมง สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า ชาวประมงอินโดนีเซียรายหนึ่งจับปลาดึกดำบรรพ์ตัวนี้ ซึ่งมีเชื่อว่า ปลาโคลาแคนธ์ (coelacanth fish) ได้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยปลามีขนาดความยาว 1.3 เมตร และหนัก 50 กิโลกรัม
 
       ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ปลาดังกล่าว ซึ่งได้รับฉายาว่า “ฟอสซิลที่ยัง  มีชีวิตอยู่” ที่มีสันหลังกลาง แต่เป็นนักล่า เหยื่อตัวยง เคลื่อนที่เร็ว และมีครีบคล้ายแขนขาออกลูกเป็นตัว ไม่ใช่วางไข่เหมือนปลาชนิดอื่น ๆ ได้สูญพันธุ์ไปแล้วตั้งแต่เมื่อ 65 ล้านปีก่อน โดยปกติปลาดึกดำบรรพ์ชนิดนี้จะมีขนาดยาวประมาณ 1.5 เมตร และหนักประมาณ 45 กิโลกรัม รายงานระบุว่า ปลาโคลาแคนธ์อาศัยอยู่ในทะเลลึกอย่างน้อย 60 กิโลเมตรจากผิวน้ำทะเล และต้องมีสภาพอากาศที่หนาวเย็น และว่ามีผู้พบปลาดึกดำบรรพ์ชนิดนี้ครั้งแรกนอกชายฝั่งทวีปแอฟริกา เมื่อปี 2481.


 
จาก     :     เดลินิวส์  วันที่  22  พ.ค. 2550

หนักกว่าเราอีกอะ.. :(

น่าสงสารเนอะ...สงสัยอยากเห็นแสงพระอาทิตย์เลยขึ้นมาว่ายน้ำเล่น..สมัยก่อนคงไม่มีอวน...เลยไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร...เลยต้องจบชีวิตลง... :'(

คนจับได้ถ้าเค้ามีความรู้ซักหน่อยเค้าน่าจะรีบแจ้งให้ทางการทราบก่อนที่มันจะตายนะ เผื่อจะได้ข้อมูลศึกษามากกว่านี้

ใน Webboard  ของ SOS มีเรื่องของปลาซีลาแคนท์ ที่มีข้อมูลอย่างละเอียดกว่านี้มาก หาอ่านได้ที่ link ข้างล่างนี้นะคะ
http://www.saveoursea.net/boardsmf/index.php?topic=723.0

น่าสนใจ  ในระยะปีหลังๆ มีการพบเขามากขึ้น  อาจจะแสดงสะท้อนสภาพใต้ทะเลอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป  อาจเป็นเพราะการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกใต้มหาสมุทร  ทำให้เขาต้องขึ้นมาจากที่ลึก    พี่ว่าตรงนี้น่าคิดนะ   โลกเราเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเร็ว    ดูมันไงไงอยู่ :'(

บ้านเราจะอยู่ใต้น้ำมั๊ยเนี่ย... :(

ถ้าโผล่มาบ้านเรา อาจจะไปขึ้นอยู่บนเหลาภัตตาคารก็ได้นะครับ ประมาณ 'ซีลาแคนท์นึ่งมะนาว'  :( :( :(

เอิ้กกก....คงจะคิดว่าหวานคอแร้ง ได้ปลากัดทะเลยักษ์มานึ่งมะนาวขายอย่างที่น้อง conundrum ว่าไว้ .... (http://www.kapook.com/msn/upload/emoticons/thumbnail/kapook-17395-4058.gif)

 ;)

อืมมมม....อ่านแล้วก็สงสัยที่บอกว่า...."ไข่ปลาซีลาแคนท์เป็นไข่ปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 9 เซ็นติเมตร  " นั้น เขาเทียบกับไข่ปลาฉลามวาฬซึ่งเป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยหรือเปล่า(http://www.naturethai.org/forum/smileys/penquin/pen1_10.gif)

เท่าที่เคยอ่านๆมา....ปลาฉลามวาฬก็ออกลูกเป็นไข่ แล้วก็ฟักเป็นตัวอยู่ในท้องแม่เหมือนกัน เคยมีชาวประมงไต้หวันลากอวนได้ปลาฉลามวาฬท้องแก่มา ผ่าในท้องดู เห็นลูกฉลามวาฬขนาดร่วมเมตรหลายสิบตัวตายอยู่ในท้องแม่... :'(
       

เหอๆ แล้วจะมีซุปหูปลา ซีลาแคนท์ ป่าวอ่ะ  เอหรือจะเรียกเท้าดีหว่า 5555
ส่วนไข่นี่อาจจะตีตลาดไข่คาร์เวียก็ได้นะ   อิอิ ล้อเล่นเน้อ
ผมว่าประเด็นน่าจะอยู่ที่ว่ามีความเปลี่ยนแปลงอะไรที่ทำให้ขึ้นมาที่ตื้นมากขึ้นอ่ะ
เดาว่าน่าจะอุนหภูมิหรือเปล่า เพราะเค้าชอบน้ำเย็นจัดๆ มั้ง....... :)