|
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 5 มกราคม 2552 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ มกราคม 05, 2009, 12:14:08 AM กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีกและมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาในภาคเหนือ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนกระจาย และคลื่นลมในอ่าวไทยยังมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. คาดหมาย บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบคลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิ จะลดลงอีกเล็กน้อย และมีลมแรง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 5-7 ม.ค. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศา โดยจะมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่ยังคงหนาวเย็นต่อไปอีก ส่วนภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 8-10 ม.ค. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไปและมีลมแรง ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไประวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 5 มกราคม 2552 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ มกราคม 05, 2009, 12:18:25 AM เดลินิวส์
เกิดสึนามิขนาดเล็กซัดชายฝั่งของญี่ปุ่น วันนี้ (4 ธ.ค.) สำนักธรณีวิทยาญี่ปุ่น ระบุว่า เกิดคลื่นสึนามิความสูงระหว่าง 4-16 นิ้ว พัดเข้าสู่แนวชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น จากอิทธิพลของแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ระลอกในอินโดนีเซีย และแม้จะยังไม่มีรายงานความเสียหาย แต่ก็เตือนว่าอาจเกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ขึ้นตามมา ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สภาพคลื่นตามแนวชายฝั่งยังคงเงียบสงบ ด้านการจราจรบนถนนตามแนวชายฝั่งยังคงเป็นปกติ ทั้งนี้ เหตุแผ่นดินไหวความรุนแรง 7.6 ริกเตอร์ และแผ่นดินไหวอาฟเตอร์ช็อค 7.5 ริกเตอร์ ทางตะวันออกของประเทศอินโดนีเซีย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย บาดเจ็บอีกหลายสิบคน รวมทั้งมีอาคารบ้านเรือนเสียหายจำนวนหนึ่ง. ********************************************************************************************************************* ยะลาประกาศ อ.รามัน เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน วันนี้ (4 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฮลิคอปเตอร์กองเรือภาคที่ 2 ได้บินสำรวจพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นทะเลซัดชายฝั่ง บริเวณลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา อ.สิงหนคร อ.สะทิง อ.กระแสสินธุ์ และ อ.ระโนด เนื่องจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส มีฝนตกบางพื้นที่ คลื่นลมในทะเลสูง 2-3 เมตร ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชน หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่วนที่ จ.ยะลา ได้ออกประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา จากฝนที่ตกหนัก หลังได้รับอิทธิพลร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพัดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่หมู่ 3 หมู่ 4 และหมู่ 5 ต.บาลอ อ.รามัน ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 89 ครัวเรือน ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรีได้เอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำเป็นบริเวณกว้าง จนต้องเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงและทรัพย์สินขึ้นบนที่สูง. หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 5 มกราคม 2552 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ มกราคม 05, 2009, 12:21:34 AM ผู้จัดการออนไลน์
เกิดธรณีพิบัติถล่มอัฟกานิสถาน-ปากีสถาน เอเอฟพี - เกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลางทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของอัฟกานิสถานวันนี้ (4) ส่งผลให้ชาวบ้านหนีแตกตื่นออกมาจากบ้านเรือน ทว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ พยานและเจ้าหน้าที่รายงาน เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 00.53 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ราว 03.23 น.ตามเวลาในไทย) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงคาบูล ราว 255 กิโลเมตร ใกล้พรมแดนติดกับปากีสถาน สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) กล่าว เหตุธรณีพิบัติครั้งนี้ เกิดขึ้นบริเวณเทือกเขาฮินดูคูช ในแถบทุรกันดาร โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไป 220 กิโลเมตร ยูเอสจีเอส เผย ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพี ว่า ประชาชนวิ่งหนีแตกตื่นออกมาข้างนอก เนื่องจากกลัวว่า อาคารบ้านเรือนจะพังถล่มลงมา เจ้าหน้าที่รัฐบาลในจังหวัดภาคเหนือ บอกว่า ยังไม่มีรายงานความเสียหายและการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่จะรวบรวมข้อมูลจากพื้นที่ห่างไกลเพิ่มเติม หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 5 มกราคม 2552 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ มกราคม 05, 2009, 12:26:08 AM มติชน
"กวางม้า"วิ่งหนีฝูงหมาไล่กัด เตลิดจนจมน้ำทะเลตาย นายชัยชนะ วิชัยดิษฐ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 มกราคมว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านท้องศาลา หมู่ 1 ต.เกาะพะงัน ว่าพบกวางป่า หรือกวางม้า วิ่งหนีฝูงสุนัขไล่กัดเตลิดลงทะเลจมน้ำตาย บริเวณท่าเทียบเรือประมงชายฝั่งบ้านวัดสวน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นกวางม้า เพศผู้สีน้ำตาลขนาดใหญ่ อายุ 4-5 ปี ยาว 210 ซม. สูง 140 ซม. น้ำหนัก 250 กก. หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 5 มกราคม 2552 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ มกราคม 05, 2009, 12:30:47 AM ข่าวสด
สึนามิ : เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์ (http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2009/01/you03050152p1.jpg) แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ก่อให้เกิดสึนามิเมื่อ พ.ศ.2547 อาจเกิดขึ้นอีกครั้งที่มหาสมุทรอินเดีย ในอีก 20 กว่าปีข้างหน้า ศ.แครี่ เซียะ จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ศึกษาปะการังรวมทั้งบริเวณรอยแยกความยาว 434 ไมล์ ที่นอกชายฝั่งเกาะเมนทาไวของสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย พบว่า หลักฐานจากปะการังแสดงให้เห็นถึงแผ่นดินไหวหลายๆ ครั้ง ในช่วง 700 ปีที่ผ่านมา เพราะเมื่อเกิดแผ่นดินไหวพื้นทะเลจะยกตัวสูงขึ้น ทำให้น้ำทะเลมีระดับตื้นลง ส่งผลให้ปะการังโตจากด้านในไปด้านนอก (http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2009/01/you03050152p2.jpg) ศ.เซียะทำนายว่า ความรุนแรงของแผ่นดินไหวนั้น อาจมีความรุนแรงพอๆ กับระดับ 9.15 อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายไปไม่ต่ำกว่า 230,000 คน ********************************************************************************************************************** มหัศจรรย์ใต้ทะเล (http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2009/01/tec05050152p1.jpg) (http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2009/01/tec05050152p2.jpg) ดร.ริชาร์ด เคอร์บี้ จากมหาวิทยาลัยพลีมัธ ประเทศอังกฤษ ถ่ายภาพสัตว์หน้าแปลกที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลมาให้ดู ภายบนซ้ายคือ Echinoderm Ludia sarsii ขวาคือตัวอ่อนของแมงกะพรุน ส่วนภาพล่างคือตัวอ่อนของปูสไปเดอร์ หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 5 มกราคม 2552 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ มกราคม 05, 2009, 12:38:19 AM แนวหน้า
เตือนผู้เดินเรือหมู่เกาะช้าง ระวังคลื่นลมแรงขณะนำเที่ยว ตราด:นายสุรชัย บุรพานนทชัย หัวหน้าสำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 6 สาขาตราด เปิดเผยว่า เนื่องจากในช่วงนี้มักจะพบอุปสรรคในการเดินเรือ อาทิ ปัญหาคลื่นลมแรง โดยเห็นได้จากเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมา สำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 6 สาขาตราดต้องนำเรือตรวจการณ์ ให้ความช่วยเหลือขนย้ายนักท่องเที่ยวจำนวน 80 คน จากเรือท่องเที่ยวที่เกาะหมาก ซึ่งจอดหลบคลื่นลมอยู่บริเวณช่องเกาะง่ามในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเลหมู่เกาะช้าง ดังนั้นทางสำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 6 สาขาตราด จึงขอแจ้งเตือนผู้ประกอบการเดินเรือท่องเที่ยวให้เฝ้าระวังปัญหาคลื่นลมแรงในช่วงนี้ โดยหากมีการเดินเรือควรเลาะแนวใกล้ชายฝั่งเพื่อหลบคลื่นลมแรง นอกจากนี้จะต้องบรรทุกผู้โดยสารไม่เกินกว่าที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตของเรือ อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ทางการขนส่งทางน้ำที่ 6 สาขาตราด ได้ประสานนำเรือตรวจการณ์ 802 ออกลาดตระเวนให้ความช่วยเหลือโดยรอบหมู่เกาะช้าง หากต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินสามารถติดต่อได้โดยตรงที่สำนักงานการขนส่ง ทางน้ำที่ 6 สาขาตราด โทร.0-3959-7595-6 ตลอด 24 ชั่วโมง ************************************************************************************************************************* พบน้ำตกใหม่เขตอุทยานป่าละอู เตรียมเสนอขึ้นทะเบียน-ตั้งชื่อ นำเข้าโปรแกรมท่องเที่ยว"หัวหิน" ประจวบคีรีขันธ์:จากกรณีที่นายพงศ์ภัค รักษาดี แกนนำชาวบ้านห้วยสัตว์ใหญ่ พร้อมชาวเขาชนเผ่ากระเหรี่ยงที่อาศัยบ้านป่าละอูบน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ประสานไปยังนายประพันธ์ จิตต์เทศ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติป่าละอู นายเอกธนา ลิ้มเสรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยสัตว์ใหญ่ พร้อมคณะ เพื่อร่วมกันเดินทางเข้าสำรวจน้ำตกแห่งใหม่ที่ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงเป็นผู้ค้นพบนั้น นายพงศ์ภัค เปิดเผยว่า การค้นพบน้ำตกแห่งใหม่นี้ ชาวบ้านชาวเขาชนเผ่าเขากะเหรี่ยงเป็นผู้ค้นพบ ซึ่งที่ผ่านหลังค้นพบชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยงในหมู่บ้านป่าละอูบน ได้ช่วยกันดูแลรักษาน้ำตกแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นแหล่งต้นน้ำตามธรรมชาติ ไว้เป็นอย่างดี และได้เสนอให้ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เจ้าของพื้นที่เข้ามาดำเนินการดูแลรักษา โดยให้ร่วมกับอุทยานแห่งชาติป่าละอู ช่วยกันส่งเสริมให้น้ำตกที่ค้นพบใหม่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต่อไป นายเอกธนา ลิ้มเสรี นายก อบต. ห้วยสัตว์ใหญ่ เปิดเผยว่า จากการสำรวจพบว่า น้ำตกดังกล่าว อยู่ในเขตป่าทึบ ซึ่งเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นอยู่จำนวนมาก ตามเส้นทางระหว่างทางพบลำธารน้ำใสจากยอดน้ำตก มีความชุ่มชื้น และอากาศหนาวเย็น โดยน้ำตกแห่งนี้มีทั้งหมดหลายชั้น ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้น้ำตกป่าละอู ดังนั้นการค้นพบครั้งนี้ ทาง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ จะร่วมกับอุทยานแห่งชาติน้ำตกป่าละอู และชนชาวเขาเผ่ากระเหรียง พัฒนาให้น้ำตกแห่งนี้เป็นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามายัง อ.หัวหิน โดยทางอุทยานฯ จะนำเสนอกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธ์พืช ให้ขึ้นทะเบียนน้ำตกแห่งนี้ และตั้งชื่อต่อไป ************************************************************************************************************************ คพ.สรุปภาวะมลพิษปี '51 ภาวะ"เสียง-อากาศ"ดีขึ้น "เจ้าพระยา"ล่างยังน่าห่วง นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยถึงผลการวิเคราะห์สถานการณ์มลพิษของไทยปี 2551 ว่า โดยรวมคุณภาพน้ำ เสียง และอากาศดีขึ้น แต่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างที่มีสภาพเสื่อมโทรมกลับเสื่อมโทรมรุนแรงมากยิ่งขึ้น สาเหตุสำคัญเพราะไม่มีการบำบัดน้ำเสียของชุมชน แต่หากระบบบำบัดน้ำเสีย 3 ระบบใหญ่ของกรุงเทพมหานคร คือ ที่คลองเตย ฝั่งธนบุรี และบางซื่อ ได้รับการก่อสร้างและเดินระบบใช้ได้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า คุณภาพน้ำจะปรับตัวขึ้นมาถึงระดับพอใช้ ทำให้สิ่งมีชีวิตในน้ำอาศัยอยู่ได้ ส่วนคุณภาพอากาศ มีปัญหาหลักจากฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน ก๊าซโอโซน รวมทั้งก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งน่ากังวล เพราะมีค่าสูงเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่หลังจากที่ผ่านมาค่ามลพิษทางอากาศไม่เคยเกินมาตรฐานเลย เช่น ถนนดินแดง สาเหตุอาจมาจากการนำรถเก่าไปติดตั้งระบบก๊าซธรรมชาติแต่ไม่มีการตรวจสอบการระบายมลพิษ ดังนั้น จึงได้แจ้งไปยังกระทรวงพลังงานและกระทรวงคมนาคมแล้วว่าหลังการติดตั้งระบบใช้ก๊าซธรรมชาติในรถเก่าแล้ว ควรต้องมีการตรวจสอบการปล่อยมลพิษว่าเกินมาตรฐานหรือไม่ด้วย นายสุพัฒน์ ยังกล่าวถึงปัญหาสารพิษรั่วไหลที่จังหวัดสระบุรีว่า วันนี้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อควบคุมการรั่วไหลแล้ว และจะนำสารไปวิเคราะห์และเก็บในที่ปลอดภัยเพื่อเป็นหลักฐานเอาผิดผู้ลักลอบนำมาทิ้ง นอกจากนี้ จะให้เจ้าหน้าที่ไปสำรวจปัญหามลพิษจากการจราจรติดขัดช่วงปีใหม่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ ว่าเกินมาตรฐานจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้มอส เฟิร์น ริมทางตายจริงหรือไม่ ************************************************************************************************************************* นักวิจัยแนะกินเนื้อจิงโจ้ สุขภาพดีช่วยสิ่งแวดล้อม นักวิจัยออสเตรเลียมาแนวแปลกแนะกินเนื้อจิงโจ้และอูฐ ระบุส่งผลดีต่อสุขภาพและยังช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม ซิดนีย์นักวิจัยออสเตรเลียเสนอให้บริโภคจิงโจ้และอูฐ ระบุช่วยลดการปล่อยก๊าซพิษและผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ นักวิจัยระบุว่า การเพาะเลี้ยงจิงโจ้เพื่อการบริโภคแทนปศุสัตว์และแกะจะส่งผลดีต่อการลดก๊าซมีเทนอันเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาโลกร้อน พร้อมกันนี้ยังอ้างถึงข้อมูลด้านประวัติศาสตร์และโภชนาการชี้ว่า จิงโจ้เคยเป็นอาหารหลักของบรรพบุรุษมนุษย์ในออสเตรเลียเมื่อหลายหมื่นปีก่อน อีกทั้งเนื้อจิงโจ้มีไขมันต่ำและมีโปรตีนสูง และยังปลอดจากสารเคมีเนื่องจากเป็นสัตว์หากินอิสระ อีกด้านหนี่งมีนักวิจัยเสนอให้บริโภคเนื้ออูฐเพื่อลดจำนวนอูฐป่ามากกว่าล้านตัวที่เป็นตัวการทำลายระบบนิเวศน์ แหล่งน้ำ พืชหายาก ตลอดจนสัตว์ชนิดอื่น โดยระบุว่า ประชากรอูฐป่าซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นสัตว์พาหนะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเท่าตัวทุก 9 ปี จึงจำเป็นต้องหาทางลดจำนวนลงโดยการนำมาบริโภค หรือกำจัดทิ้งในพื้นที่ห่างไกลซึ่งยากต่อการนำมาแปรรูป แม้นักวิจัยเชื่อมั่นว่าการชักจูงให้ชาวออสเตรเลียหันมาบริโภคเนื้อจิงโจ้และอูฐจะส่งผลดีต่อการลดจำนวนปศุสัตว์และอูฐ แต่ก็ยอมรับว่ายังคงประสบปัญหาด้านการการบริหารจัดการและระบบสาธารณูปโภคในการทำปศุสัตว์ ตลอดจนกระแสต่อต้านจากผู้บริโภค สอดคล้องกับความเห็นของผู้ประกอบการที่ชี้ว่าอาจมีอุปสรรคหลายประการ โดยเฉพาะด้านการแปรรูปเนื้อและการทำตลาด |