กระดานข่าว Save Our Sea.net

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้อุณหภูมิบริเวณประเทศไทยเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง โดยบริเวณเทือกเขาสูงทางภาคเหนือมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือและชาวประมงระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งควรระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่พัดเข้าหาฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-28 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
 

คาดหมาย

ในระยะนี้ บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลงเป็นลำดับ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศอุ่นขึ้น โดยจะมีหมอกในตอนเช้าเพิ่มขึ้นส่งผลให้มีหมอกหนาในบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลงตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (16 ม.ค. 52) เป็นต้นไป


ข้อควรระวัง

ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 ม.ค. 2552 ชาวเรือในอ่าวไทยควรระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่บ้านเรือนอยู่บริเวณชายฝั่งในภาคใต้ฝั่งตะวันออกขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย

เดลินิวส์


วิธีเก็บรักษาไข่กุ้ง

(http://ads.dailynews.co.th/column/images/2009/variety/1/15/68481_title0.jpg)

 ใครที่ชอบทานไข่กุ้ง วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีเก็บรักษาไข่กุ้งไว้ทานนาน ๆ มาบอก...

ไข่กุ้ง หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า โทบิโกะ (tobiko) คือ ไข่ของปลา flying fish พบตามชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ลำตัวมีความยาว 35 ซ.ม. จับได้ในช่วงเวลาวางไข่ต้นฤดูร้อน ไข่ของปลา มีขนาดเล็กประมาณ 0.5-0.8 มม. ตามปกติจะมีสีส้มแดง รสออกเค็มอ่อน ๆ บางครั้งนำไปย้อมเป็นสีอื่น เช่น ย้อมวาซาบิได้ไข่สีเขียว ย้อมขิงได้ไข่สีส้ม หรือย้อมกับหมึกของปลาหมึกจะได้สีดำ ไข่กุ้งนิยมนำมาทำแคลิฟอร์เนียโรล ซูชิ และคานาเป้ เป็นต้น

วิธีเก็บรักษาไข่กุ้ง คือ นำใส่ถุงมัดปากถุงให้สนิท แล้วเก็บใส่กล่องพลาสติกปิดฝาให้สนิท
นำเข้าแช่ในตู้เย็นที่มีอุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส

เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเก็บไข่กุ้งไว้ทานได้นานหลายวัน.

ผู้จัดการออนไลน์


คลื่นสูงกว่า 2 ม.ถล่มบ้านชาวประมงที่สุราษฎร์ฯ

(http://pics.manager.co.th/Images/552000000457507.JPEG)    (http://pics.manager.co.th/Images/552000000457506.JPEG)

สุราษฎร์ธานี - คลื่นสูงกว่า 2 เมตร ซัดถล่มหมู่บ้านชาวประมงบ้านพอด อำเภอดอนสัก สุราษฎร์ธานี ทำให้ถนนริมทะเลเสียหายหนัก รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ส่วนเรือเฟอร์รีข้ามเกาะสมุย ต้องลดเที่ยวเดินเรือ นักท่องเที่ยว ผู้ใช้บริการตกค้างเพียบ
       
       วันนี้ (14 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า ได้เกิดคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ซัดเข้าถล่มหมู่บ้านชาวประมงบ้านพอด ม.1 ต.ชลคราม อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ความแรงของคลื่นยังส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมทะเลกว่า 50 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน กระสอบทรายที่ทหารค่ายวิภาวดี
       
       จัดทำแนวกันคลื่นกัดเซาะไว้ก่อนหน้านี้ ได้ถูกกระคลื่นพัดพาลงทะเล บ้านพัก และตัวอาคารได้รับความเสียหายไปแล้วบางส่วน นอกจากนั้น คลื่นยังกัดเซาะถนนสายริมชายหาดบ้านพอด–ดอนสัก พังเสียหายระยะยาวกว่า 1 กิโลเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งพื้นที่บ้านพอดเป็นพื้นที่เสี่ยงและเกิดเหตุซ้ำซาก

(http://pics.manager.co.th/Images/552000000457503.JPEG)    (http://pics.manager.co.th/Images/552000000457504.JPEG)
       
       ด้านเรือเฟอร์รีข้ามเกาะสมุย-เกาะพะงัน ต้องลดจำนวนเที่ยวเรือลง 2-4 เที่ยว เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูง และคลื่นแรง เรือเฟอร์รีไม่สามารถเทียบท่าได้ และต้องเสียเวลาไปกว่า 30 นาที เนื่องจากท่าเทียบเรือของ บริษัท ราชาเฟอร์รี ใช้ได้เพียงท่าเดียวจากปกติมีให้บริการ 3 ท่า ทำให้นักท่องเที่ยว และผู้ใช้บริการต้องตกค้างจำนวนมาก
       
       ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกประกาศเตือนเรือประมง เรือเฟอร์รี่ เรือโดยสารรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง ส่วนเรือสปี๊ดโบ๊ท ที่รับ-ส่ง นักท่องเที่ยวระหว่างเกาะต่างๆ พร้อมเรือนำเที่ยว เรือประมงขนาดเล็ก ควรงดออกจากฝั่ง ในระยะนี้ เพื่อความปลอดภัย
       
       เนื่องจากทะเลมีคลื่นลมแรงความเร็วลม 20-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ซึ่งเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ พร้อมทั้งขอให้ประชาชนเฝ้าติดตามข่าวการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด


****************************************************************************************************************************


คนหลายแสนแห่ยื่นใบสมัคร'งานดีที่สุดในโลก'!!

(http://pics.manager.co.th/Images/552000000468701.JPEG)
เว็บไซต์รับสมัครงาน

เอเจนซี/ASTVผู้จัดการ - โอกาสที่จะได้เป็นผู้ดูแลเกาะเล็กๆแห่งหนึ่งในออสเตรเลียพร้อมกับค่าจ้างอันงดงามได้รับความสนใจอย่างมากจากคนทั่วโลก ที่แห่ยื่นใบสมัครผ่านเว็บไซต์ที่แจ้งประกาศจนเจ๊งไปพักหนึ่งเลยทีเดียว
       
       รัฐบาลรัฐควีนส์แลนด์ เสนอสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "งานที่ดีที่สุดในโลก" โดยผู้ได้รับเลือกจะได้รับค่าจ้าง 150,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 3,750,000 บาท สำหรับการใช้ชีวิตบนเกาะแฮมมิลตัน บนเกรทแบร์ริเออร์รีฟ เป็นเวลา 6 เดือน และล่าสุดมีผู้สมัครหลายแสนคนแล้ว
       
       เจ้าหน้าที่ของรัฐควีนส์แลนด์บอกว่างานดังกล่าวตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของออสเตรเลียในระหว่างที่สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกย่ำแย่ อันมีสาเหตุมาจากวิกฤตการเงินโลก โดยได้มีการลงโฆษณาใน 18 ประเทศทั่วโลกรวมไปถึงสหรัฐฯและจีนด้วย
       
       สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าช่างเทคนิคถูกเรียกมาซ่อมเว็บไซต์ (www.islandreefjob.com)หลังเกิดล่มยาวนานหลายชั่วโมงเพราะมันไม่สามารถรับมือกับปริมาณของผู้ที่ให้ความสนใจได้

(http://pics.manager.co.th/Images/552000000468702.JPEG)
ท้องทะเลอันสวยงามบริเวณเกรทแบร์ริเออร์รีฟ
       
       หน้าที่ของงานที่ดีที่สุดในโลกนี้ รวมไปถึงเดินทอดน่องบนหาดทรายขาว ดำน้ำดูปาะการัง ดูแลรับผิดชอบงานเล็กๆ น้อยๆ ทำความสะอาดสระน้ำและรายงานภาพไดอารี่ และอัพเดตวิดีโอคลิป ผ่านทางเว็บบล็อกให้แก่ผู้อ่านทั่วโลก
       
       ผู้สมัครที่ได้รับเลือก ซึ่งจะได้อยู่ในบ้านริมหาด 3 ห้องนอน โดยไม่เสียค่าเช่า พร้อมสรรพด้วยสระว่ายน้ำ และรถกอล์ฟ จะต้องมีคุณสมบัติว่ายน้ำเก่ง สื่อสารเป็นเลิศ และสามารถทั้งพูดและเขียนภาษาอังกฤษได้ดี
       
       งานดังกล่าวเปิดรับใบสมัครจนถึง 22 กุมภาพันธ์ โดยผู้สมัคร 11 คนสุดท้ายจะได้บินไปยังเกาะแฮมมิลตันในต้นเดือนพฤษภาคม เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกรอบสุดท้าย และจะเซ็นสัญญาในวันที่ 1 กรกฎาคม

ข่าวสด


"ลานีญา"ตัวการยุโรปหนาว

(http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2009/01/tec02150152p1.jpg)
 
อากาศหนาวเย็นที่ครอบคลุมไปทั่วยุโรปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา มีต้นเหตุมาจาก "ภาวะลานีญา"

นายไมเคิล จาร์โรด์ เจ้าหน้าที่จากองค์กรพยากรณ์อากาศโลก หรือ WMO สังกัดสหประชาชาติ เปิดเผยว่า การที่ยุโรปมีอากาศหนาวมากในปีนี้ บางส่วนนั้นมีสาเหตุมาจากภาวะลานีญา ที่อุณหภูมิของพื้นผิวทะเลแปซิฟิกเย็น
 
(http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2009/01/tec02150152p2.jpg)

อย่างไรก็ตาม แม้อากาศจะหนาวมาก แต่ก็ไม่นับเป็นหลักฐานขัดแย้งถึงภาวะโลกร้อน แม้อากาศพ.ศ.2551 เย็นกว่าพ.ศ.2550 แต่ก็ยังติดอันดับ 1 ใน 10 ปีที่ร้อนจัดอยู่ดี

ผลพวงของ "ลานีญา" ทำให้เมืองมาร์กเซย์ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสมีหิมะตกครั้งแรกในรอบ 20 กว่าปี สนามบินมาดริด ประเทศสเปน ต้องปิดสนามบินชั่วคราวเพราะมีหิมะตก และที่โปแลนด์มีผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวเย็นไปแล้วไม่ต่ำกว่า 80 ราย


************************************************************************************************************************


ร้านซีฟู้ดปล่อยล็อบเตอร์ชราอายุ 140 ปีกลับทะเล

(http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2009/01/tec03150152p1.jpg)

ภัตตาคารซิตี้แคร็ปแอนด์ซีฟู้ด ในกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จะปล่อยล็อปสเตอร์อายุไม่ต่ำกว่า 140 ปี น้ำหนัก 9 กิโลกรัม ที่ภัตตาคารซื้อมาจากชาวประมงในเร็วๆ นี้ เพราะทางภัตตาคารเห็นว่า จัดแสดงล็อปสเตอร์ยักษ์ไว้ในเวลานานพอสมควรแล้ว จึงอยากนำมันคืนสู่ธรรมชาติ

เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ชาวประมงจับล็อปสเตอร์ตัวนี้ได้ ที่บริเวณทะเลนอกชายฝั่งประเทศแคนาดา ซึ่งทางภัตตาคารซิตี้แคร็ปแอนด์ซีฟู้ดซื้อต่อจากชาวประมงในราคาตัวละ 100 ดอลลาร์ หรือราว 3,500 บาท เพื่อนำมาเป็นมาสคอต

นายคีธ วาเลนไท ผู้จัดการร้าน กล่าวว่า "เราสามารถคำนวณอายุของล็อปสเตอร์ได้จากน้ำหนัก โดยน้ำหนักเกือบครึ่งกิโลกรัม ล็อปสเตอร์จะต้องใช้เวลาเติบโต 7-10 ปี น่าประหลาดใจที่ล็อปสเตอร์ตัวนี้มีอายุถึงร้อยกว่าปี ทั้งๆ ที่ปกติแล้วล็อปสเตอร์มีอายุไม่น่าเกิน 100 ปี ที่น่าทึ่งอีกอย่างก็คือ ชาวประมงยังจับมันได้ แม้มันจะตัวโตกว่าตะกร้าจับ"

ด้านกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ "พีต้า" ออกมาชมเชยการตัดสินใจปล่อยล็อปสเตอร์ยักษ์ลงสู่ทะเลของภัตตาคารซิตี้แคร็ปแอนด์ซีฟู้ดว่า "เราขอปรบมือให้กับซิตี้แคร็ปฯ ที่ตระหนักว่า ล็อปสเตอร์ชราและมีเกียรติตัวนี้ควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและสงบเสียที"