|
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 23 มกราคม 2552 เริ่มหัวข้อโดย: เด็กน้อย ที่ มกราคม 23, 2009, 02:45:33 AM กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนและลมตะวันออกเฉียงใต้นำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และกรุงเทพมหานครรวมทั้งปริมณฑล มีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยกับมีหมอกเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ในตอนเช้า ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาในระยะ 1-2 วันนี้ อนึ่ง ในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศ จีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 22-23 ม.ค. 2552 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุม ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงมีอากาศหนาวเย็น โดยมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเล็กน้อยบางแห่งและมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนภาคอื่นๆ ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ และคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร สำหรับในช่วงวันที่ 27-28 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย และมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 22-23 และ 27-28 ม.ค. ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย สำหรับในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไประมัดระวังอันตรายจากการเดินเรือ หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 23 มกราคม 2552 เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ มกราคม 23, 2009, 04:09:08 AM มติชนออนไลน์
ขั้วโลกใต้อุ่นขึ้น"ธารน้ำแข็งวิลกินส์"ใกล้แยกจากแผ่นดิน ผลการศึกษาล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์อเมริกัน โดยอาศัยข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม และสถานีตรวจวัดอากาศ ชี้ว่า ทวีปแอนตาร์กติกา หรือขั้วโลกใต้ มีอุณหภูมิอุ่นขึ้นประมาณ 0.6 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับ 50 ปีก่อน ผลการศึกษาครั้งนี้ที่ตีพิมพ์ใน สำนักข่าวต่างประเ?ส รายงานโดยอ้างผลการศึกษาล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์อเมริกันซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ โดยอาศัยข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม และสถานีตรวจวัดอากาศระบุว่า ทวีปแอนตาร์กติกา หรือขั้วโลกใต้ มีอุณหภูมิอุ่นขึ้นประมาณ 0.6 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับ 50 ปีก่อน ซึ่งบ่งบอกชัดเจนว่า การเพิ่มขึ้นของระดับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ มีส่วนสำคัญทำให้อุณหภูมิบริเวณขั้วโลกใต้อุ่นขึ้น ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ในขั้วโลกใต้ ซึ่งมีชื่อว่า ธารน้ำแข็งวิลกินส์ ได้ละลายอย่างรวดเร็ว ใกล้จะแยกตัวออกจากแผ่นดินใหญ่แล้ว โดยขณะนี้เหลือส่วนของธารน้ำแข็งที่ติดกับแผ่นดินใหญ่เพียง 500 เมตรเท่านั้น ทั้งที่เมื่อ 60 ปีก่อน มีขนาดความกว้างของธารน้ำแข็งติดกับแผ่นดินใหญ่ถึง 100 กิโลเมตร หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 23 มกราคม 2552 เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ มกราคม 23, 2009, 04:17:02 AM เดลินิวส์
ชง 'เขาใหญ่' ต้นแบบอุทยานสีเขียว (http://ads.dailynews.co.th/news/images/2009/region/1/23/188708_91780.jpg) เร่งปลูกสำนึกรักษ์ธรรมชาติ ผลูกฝังเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน ต้นไม้สัตว์ป่า รวมถึงทรัพยากรทางธรรมชาติ มีความสำคัญต่อชีวิตของมนุษย์และสัตว์ ที่อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดิน เพราะทรัพยากรทั้งหลายล้วนเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่มีใครสร้างขึ้นมา โดยเฉพาะต้นไม้ นอกจากจะมีกิ่งก้านสาขาสร้างความร่มรื่นชุ่มชื่นและร่มเงาได้อาศัยหลบแดดฝน แล้ว ยังทำให้อากาศเย็นบริสุทธิ์ รากไม้ยังอุ้มดินอุ้มน้ำเอาไว้ในยามหน้าแล้ง เกิดเป็นตาน้ำซับไหลออกมาจาก ใต้ดินมารวมกัน ก่อให้เกิดเป็นคลองต้นน้ำลำธารขนาดเล็ก ขยายเป็นสายใหญ่ ต้นไม้ในป่าของไทยมีมากมายหลายสายพันธ์ แก่นไม้ยังนำมาแปรรูปใช้ประโยชน์ เป็นไม้ประดับและสมุนไพร สัตว์ป่า เช่น กระทิง เก้ง กวาง ช้างป่า และสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ได้อาศัย ช่วงที่ผ่านมา นายอุภัย วายุพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เป็นประธานเปิดโครงการนำร่อง โครงการอุทยานแห่งชาติสีเขียว ณ บริเวณลานหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราช สีมา โดยนำเอาเยาวชนจากโรงเรียนต่าง ๆ ที่อยู่ตามแนวเขตอุทยานฯ ด้าน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และด้าน จ.ปราจีนบุรี เข้าร่วมทำกิจกรรมวาดภาพเกี่ยวกับการ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำนวน 1,000 คน จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยให้เยาวชนร่วมกันวาดภาพธรรมชาติ เพื่อแข่งขันชิงรางวัล ซึ่งเป็นโครงการที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้จัดทำขึ้นโดยมีการจัดการและกำหนดเป็นระเบียบ ให้ทุกอุทยานฯ ปฏิบัติเป็นแบบเดียวกัน เช่น กำหนดวางถังขยะแยก 5 ถัง 5 สี รอบบริเวณที่กำเนิดขยะ เพื่อป้องกันกลิ่น ถังแยกขยะเปียก ขยะแห้ง ขยะแก้ว ใช้ถุงผ้าหรือตะกร้า หลีกเลี่ยงการใช้ถุงพลาสติกกำจัดยาก ไม่นำโฟมเข้าไปในอุทยานฯ สนับสนุนวัสดุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ รณรงค์ให้ร้านค้าจำหน่ายสินค้าในอุทยานฯ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม น้ำยาล้างจาน สบู่จากวัสดุธรรม ชาติ ยากันยุงจากพืชสมุนไพร ลดจำนวนหลอดไฟสว่างในอุทยานฯ ใช้หลอดคอมแพคฟลูออเรสต์เซนต์แทนหลอดไส้ ดับเครื่อง รถ ไม่เปิดเครื่องเสียงเป็นการรบกวนธรรมชาติ ไม่ให้ตัดหรือเด็ดใบไม้กิ่งไม้ จะทำให้ธรรมชาติเปลี่ยนไป นิทรรศการการ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ สัตว์ป่า ซึ่งเป็นต้นน้ำ ลำธารให้ยั่งยืน (http://ads.dailynews.co.th/news/images/2009/region/1/23/188708_91779.jpg) ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ และสื่อมวลชน ชมห้องน้ำสะอาด บ่อกำจัดขยะกรองไขมันก่อนปล่อยลงสู่คลองน้ำลำตะคอง ตรวจ บ่อบำบัดกลิ่นของห้องน้ำ ลงแพยางเก็บขยะในคลองลำตะคอง ซึ่งเป็นต้นน้ำจากเหวสุวัต ไหลผ่าน อ.ปากช่อง ลงสู่เขื่อนลำตะคอง นายอุภัย วายุพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมโครงการอุทยานแห่งชาติสีเขียวครั้งนี้ เป็นการนำร่องที่อุทยานฯ เขาใหญ่ เป็นแห่งแรก และต่อไปก็จะไปจัดที่ จ.พังงา ในอุทยานฯ ต่าง ๆ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้เยาวชนที่อยู่ตามแนวเขตอุทยานฯ และนักท่องเที่ยวได้ปลูกจิต สำนึก ในการอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ อย่างมีคุณค่าและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เสริมสร้างระบบนิเวศเกิดการสมดุล ร่วมกันปลูกป่า ลดภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ฝากประชาสัมพันธ์ ถึงนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวเขาใหญ่ ควรไม่นำถุงพลาสติกขึ้นไป ไม่นำรถควันดำและเสียงดังขึ้นไป เพื่อรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม รวม ทั้งไม่จอดรถริมถนนบนอุทยานฯ คาดว่า จะได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยว ให้เป็น อุทยานแห่งชาติมาตร ฐานคุณภาพสีเขียว Green National Park สำหรับนักท่องเที่ยวต้องการไปท่องเที่ยว แล้วมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร. 0-2561-0777 ต่อ 723, 747 ได้ในวันเวลาราชการ. วรพงษ์ นามสีฐาน หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันศุกร์ที่ 23 มกราคม 2552 เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ มกราคม 23, 2009, 04:23:08 AM เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ริกเตอร์ที่อินโดฯ
วันนี้(23 ม.ค.) สำนักธรณีวิทยาของสหรัฐฯ รายงานว่า เมื่อเวลา 03.16 น. ตามเวลาในประเทศไทย เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เขตเคปูลวน บารัต ดายา ของอินโดนีเซีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.2 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองโซมลากิ บนเกาะตานิมบาร์ 316 กม. ที่ระดับความลึก 141 กม. ใต้ทะเล เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย อีกทั้งไม่มีการเตือนภัยการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ. |