|
หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2552 เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ มกราคม 24, 2009, 08:45:11 AM กรมอุตุนิยมวิทยา
ลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่เข้ามาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่า จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศากับมีลมแรง ส่วนภาคตะวันออกจะมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศา สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปสูง ประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 24-27 ม.ค.นี้ไว้ด้วย อนึ่ง ภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานครรวมทั้งปริมณฑลยังคงมีหมอกหนาเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย คาดหมาย ในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา และมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุม อ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศา และมีหมอกเพิ่มมากขึ้น ข้อควรระวัง ในวันที่ 24 และในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย สำหรับในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. ขอให้ชาวเรือในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไประมัดระวังอันตรายจากการเดินเรือ หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2552 เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ มกราคม 24, 2009, 09:01:36 AM ข่าวสด
สธ.แนะวิธีชมสุริยคราสอย่างปลอดภัย (http://www.matichon.co.th/khaosod/online/2009/01/12327710021232771210.jpg) เมื่อวันที่ 24 ม.ค. น.พ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปรากฏการณ์สุริยุปราคาที่จะเกิดขึ้นวันที่ 26 ม.ค. และ 22 ก.ค. ว่า แม้ประเทศไทยจะเห็นเพียงบางส่วนแต่เนื่องจากตรงกับวันตรุษจีน จึงคาดว่าจะมีผู้ให้ความสนใจชมกันมากเป็นพิเศษ ซึ่งต้องระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นด้วย เนื่องจากแสงของดวงอาทิตย์มีความร้อนสูงและมีรังสีอุลตร้าไวโอเลต สามารถทำลายเซลล์ในจอประสาทตาบริเวณจุดรับภาพได้ น.พ.ฐาปนวงศ์ กล่าวว่า การดูสุริยุปราคาให้ปลอดภัยต่อดวงตา ควรดูเฉพาะตอนที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงเท่านั้น เพราะเป็นช่วงที่แสงจ้าน้อยที่สุดและใช้เวลาไม่เกิน 10 วินาที โดยหยุดมองก่อนสิ้นสุดการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงเล็กน้อย ไม่ควรดูสุริยุปราคาในขณะที่กำลังคลายออก เนื่องจากดวงตามีโอกาสได้รับคลื่นความร้อนและรังสีอุลตร้าไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ได้มาก ทำให้จอประสาทตาเสื่อมได้ โดยอาการสำคัญคือ ตาพร่ามัว เห็นภาพบิดเบี้ยว หรือมองเห็นจุดดำอยู่ตรงกลางภาพ อาจมีอาการสู้แสงไม่ได้ หรือปวดศีรษะบริเวณหว่างคิ้วหรือหลังลูกตา ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดหลังจากจ้องดูสุริยุปราคาไปแล้ว 1 ชั่วโมง และจะดีขึ้นภายใน 1 เดือน หรืออาจนานถึง 6 เดือน การที่ดวงตาได้รับรังสีอุลตร้าไวโอเลตโดยตรงจะส่งผลเสียในระยะยาวคือ ทำให้จอประสาทตาเสื่อมไวกว่าคนทั่วไป หรืออาจถึงขั้นตาบอดได้ ทั้งนี้ผู้มีปัญหาเรื่องสายตาอยู่แล้ว เช่นโรคต้อกระจก โรคตาแห้ง เยื่อบุตาอักเสบเรื้อรัง ห้ามดูสุริยุปราคาเด็ดขาด แม้จะใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานก็ตาม เพราะจะทำให้อาการของโรคที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากคลื่นความร้อนจากรังสีอุลตร้าไวโอเลตจะทำลายที่จอประสาทสำหรับภาพโดยตรง เรียกว่า เรติน่า เบิร์น (Retina burn) ส่งผลให้อาการของโรครุนแรงมากขึ้น สำหรับวิธีการดูสุริยุปราคาที่ถูกต้องจะต้องมองผ่านแผ่นฟิล์มชนิดพิเศษที่ใช้ในการมองดวงอาทิตย์โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายกล้องทั่วไป หรือร้านขายอุปกรณ์ดาราศาสตร์โดยต้องตรวจดูด้วยว่าสามารถกรองแสงได้ดีหรือไม่ หากไม่มืดสนิท มีรูหรือมีรอยขีดข่วนจนแสงผ่านได้ ไม่ควรนำมาใช้ สำหรับการดูผ่านฟิล์มเอ็กซเรย์ ฟิล์มขาวดำหรือกระจกรมควัน ถือว่ายังไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ หากจะใช้ควรเพิ่มเป็น 2 ชั้น เพื่อกรองแสงให้มากที่สุด ส่วนอุปกรณ์ที่ไม่ควรนำมาใช้เลยได้แก่ แว่นกันแดด เพราะมีความดำไม่เพียงพอ ขณะที่กล้องส่องทางไกลก็ไม่ควรนำมาใช้เช่นกัน เพราะเป็นการรวมแสงเข้าสู่ตาโดยตรง ซึ่งเป็นอันตรายมาก และหากหลังชมปรากฏการ์สุริยุปราคาแล้วเริ่มมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา ขอให้รีบพบแพทย์โดยด่วน |