|
หัวข้อ: อันตรายจากสัตว์ทะเล เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ มีนาคม 04, 2009, 01:05:04 AM อันตรายจากสัตว์ทะเล : วินิจ รังผึ้ง (http://pics.manager.co.th/Images/552000002603901.JPEG) สัปดาห์ที่แล้วผมได้เขียนถึงข้อปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยในการดำน้ำแบบสนอร์เกิ้ลกันไปแล้ว ก็เลยอยากจะนำเสนอเรื่องอันตรายจากสัตว์ทะเลให้ท่านผู้อ่านได้ทราบกัน เผื่อว่าร้อนนี้ไปเที่ยวทะเลก็จะได้ระมัดระวัง ไม่ไปจับต้องหรือไปสัมผัส แต่ก็ไม่ได้เขียนให้อ่านเพื่อให้ท่านกลัวทะเล ไม่ยอมไปเที่ยวทะเลกันนะครับ เพราะสัตว์ทะเลที่อาจจะมีอันตรายต่อคนนั้น เกือบทั้งหมดไม่ใช่สัตว์ดุร้ายอะไร ไม่ใช่พวกเห็นนักดำน้ำนักว่ายน้ำแล้วก็รี่เข้าจู่โจมทำร้ายทันที แต่สัตว์ทะเลเหล่านี้มักจะมีเขี้ยว มีฟัน มีเข็มพิษ หรือต่อมพิษไว้เพียงเพื่อการปกป้องตัวเองเท่านั้น ถ้าเรามีความระมัดระวัง ไม่เข้าไปจับต้องหรือเข้าไปคุกคามรุกรานมันแล้ว โอกาสที่จะได้รับอันตรายจากสัตว์เหล่านี้มีน้อยมาก เรียกว่ามีความเสี่ยงอันตรายน้อยกว่าข้ามถนน หรือเดินเข้าซอยเปลี่ยวในกรุงเทพฯเสียอีก เราลองมาดูสัตว์ทะเลที่อาจจะเป็นอันตรายกันทีละชนิดดีกว่า เริ่มจากปลาเป็นอันดับแรกโดยถ้าถามว่าปลาอะไรที่น่าจะเป็นอันตรายต่อคนที่ลงไปว่ายน้ำในทะเลมากที่สุด แน่นอนคนส่วนใหญ่ต้องตอบว่า ฉลาม แต่ก็โชคดีว่าฉลามในทะเลบ้านเรานั้น ไม่ค่อยดุร้ายเหมือนฉลามขาวแถวๆออสเตรเลีย จะมีที่น่าเกรงขามอยู่บ้างก็ฉลามเสือ ฉลามหัวค้อน แต่ก็แทบจะไม่เคยได้มีโอกาสเห็นตัวในแหล่งดำน้ำหรือแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลทั่วๆไปอันแล้ว เพราะฉลามทั้งสองชนิดก็เกือบๆจะสูญพันธุ์จากทะเลไทยอยู่แล้ว ส่วนฉลามชนิดอื่นๆ ก็เป็นฉลามที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก ไม่ค่อยกล้าเข้ามาใกล้ผู้คนหรือนักดำน้ำ และเมืองไทยของเราก็ยังไม่เคยมีรายงานว่านักท่องเที่ยวนักดำน้ำรายใดเคยได้รับอันตรายจากฉลามแม้แต่รายเดียว ฉลามจึงไม่ใช่ปลาที่มีอันตรายสำหรับทะเลไทยของเราก็ว่าได้ สำหรับปลาอื่นๆที่นักดำน้ำอาจจะมองข้ามไป แต่ก็มีนักดำน้ำบางรายเคยโดยฟันอันแหลมคม โดนเขี้ยวของปลาเหล่านี้งับมาแล้ว เช่น ปลาไหลมอเรย์ ปลากะพงขนาดใหญ่ หรือปลาวัวซึ่งส่วนใหญ่จะโดนงับมือขณะนำอาหารพวกปลาสดไปป้อนแล้วมือยังมีกลิ่นคาวปลาสดติดอยู่ ปลาเหล่านี้จึงงับนิ้วเข้าให้ นอกจากปลาประเภทที่มีฟันแหลมคมแล้วก็ยังมีปลาประเภทที่มีเงี่ยงแหลมคมเช่นปลากระเบนที่มีเงี่ยงแหลมอยู่บริเวณโคนหาง ซึ่งส่วนใหญ่ที่เป็นอันตรายมักจะเป็นกระเบนขนาดเล็กเท่าๆฝ่ามือหรือโตขนาดจานข้าวที่ชาวประมงเรียกว่า ปลาจ้งม้ง ซึ่งชอบนอนกลบทรายตามน้ำตื้น เมื่อคนเดินเล่นในชายหาดตื้นๆไปเหยียบเข้าก็จะตวัดหางแทงเข้าที่เท้าจนเจ็บปวดแสนสาหัส เพราะเงี่ยงของมันนอกจากแหลมคมแล้วยังมีพิษอีกด้วย ส่วนกระเบนดำ กระเบนลายหินอ่อนที่ตัวโตๆ ก็จะมีเงี่ยงแหลมยาว ซึ่งหากนักดำน้ำที่ไม่รู้ เห็นตัวแบนๆ นอนนิ่งๆบนพื้นทรายคิดว่าไม่มีพิษสงอะไรแล้วเข้าไปจับเข้าไปกอดด้วยความรักหรือความคึกคะนอง ก็จะถูกมันตวัดหางแทงเข้ากลางลำตัวแถวๆปอด หัวใจ หรือช่องท้อง จนอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แต่หากไม่เข้าไปรุกราน ไม่เข้าไปยุ่งกันมัน ก็รับรองว่าปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนเจ้ากระเบนยักษ์ใหญ่อย่างกระเบนราหูนั้นเป็นกระเบนที่ไม่มีพิษภัย เพราะไม่มีเงี่ยงพิษเหมือนกระเบนอื่นๆ นอกจากกระเบนแล้ว พวกปลาที่มีเงี่ยงมีเข็มพิษที่ต้องระมัดระวังไม่เข้าไปแตะต้องก็ยังมีปลาหิน ปลาแมงป่อง ปลาสิงโต ปลาดุกทะเล เป็นต้นปลาพวกนี้ถ้าไม่ตั้งใจไปจับก็ยากที่จะโดน เพราะมันก็มักจะหนีถ้าเราเข้าไปใกล้ๆ (http://pics.manager.co.th/Images/552000002603902.JPEG) ปะการังไฟ ไฮดรอยด์ ดอกไม้ทะเล ก็ล้วนเป็นสัตว์ทะลที่มีเข็มพิษ เมื่อร่างกายมนุษย์ไปสัมผัส มันจะยิงเข็มพิษเล็กๆ เข้าใส่ทันที ผู้ที่สัมผัสจะเกิดอาการปวดแสบปวดร้อน บางชนิดอาจถึงขั้นไหม้ วิธีรักษาให้ใช้น้ำส้มสายชูราดบนแผล ฤทธิ์ของน้ำสมสายชูจะสามารถหยุดยั้งพิษของสัตว์ทะเลเหล่านี้ได้ เช่นเดียวกับแมงกะพรุน ซึ่งบริเวณหนวดของแมงกะพรุนจะมีเข็มพิษที่เรียกว่า นีมาโตซีส (Nematocyst) เข็มพิษเหล่านี้มีไว้สำหรับยิงปลาเล็กๆให้ช็อคแล้วจับกินเป็นอาหาร พิษของแมงกะพรุนแต่ละชนิดจะมีความรุนแรงแตกต่างกัน เมื่อพบแมงกะพรุนขณะเล่นน้ำหรือดำน้ำ ควรว่ายหลบแมงกะพรุนทางด้านหัวหรือด้านหมวก เพราะการหลบหรือว่ายตัดทางด้านปลายหนวด อาจจะโดนหนวดของแมงกะพรุนที่มีเข็มพิษอยู่มากมาย ซึ่งบางชนิดหนวดจะใสจนมองไม่เห็นและมีความยาวมากเป็นเมตรๆเลยทีเดียว วิธีการรักษาเมื่อโดนแมงกะพรุนก็คือรีบขึ้นจากน้ำ แล้ววักน้ำทะเลล้างบริเวณบาดแผล หรือใช้ผ้าชุบน้ำทะเลค่อยๆลูบบริเวณที่โดนเพื่อกำจัดหนวดเล็กๆใสๆให้หลุดออกไป จากนั้นให้ใช้น้ำส้มสายชูเข้มข้นราดที่บาดแผล หรือจะใช้น้ำอุ่นที่ค่อนข้างร้อนเท่าที่จะทนได้ราดลงบริเวณบาดแผล เพราะจะทำให้พิษของแมงกะพรุนเสื่อมสภาพหรือลดความรุนแรงลงได้ด้วยสิ่งต่างๆข้างต้น หรือหากเป็นตำราพื้นบ้านก็จะใช้ผักบุ้งทะเลทั้งใบ ยอด ก้านมาตำบดให้ละเอียดจนเป็นยางโปะที่บาดแผล หากมีความเจ็บปวดบริเวณบาดแผลมากให้ใช้ยาบรรเทาปวด แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล เพื่อจะได้ให้ยารักษาบาดแผล และบางรายอาจมีอาการแพ้มากจนเกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจขัด หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือพิษไปกดประสาทจนหัวใจหยุดเต้นได้ จึงไม่ควรประมาท เม่นทะเล ก็สร้างความเจ็บปวดให้นักดำน้ำกันบ่อยๆ เมื่อโดนหนามของเม่นทะเลตำ จะเจ็บปวดในทันที แต่สักระยะหนึ่งร่ายกายของเราก็จะละลายพิษของหนามหอยเม่นให้สลายไปเอง การรักษาพยาบาลนั้นอาจจะใช้วิธีทุบที่แผลซึ่งจะมีหนามดำๆของเม่นทะเลหักคาอยู่เพื่อให้หนามแหลกละเอียดช่วยให้พิษสลายเร็วขึ้น และใช้น้ำส้มสายชู มะนาว หรือน้ำอุ่นจัดๆ ราดหรือประคบบริเวณที่โดน ราวชั่วโมงเศษๆก็จะบรรเทาเบาบางลงไป งูทะเล งูทะเลทุกชนิดล้วนมีพิษทั้งสิ้น และเป็นพิษที่มีความรุนแรงกว่างูบก ดังนั้นจึงไม่ควรเข้าไปจับ หรือเข้าไปใกล้ แต่โดยปรกติงูทะเลจะมีนิสัยรักสงบ ไม่ดุร้าย ไม่ก้าวร้าว ว่ายหากินไปตามปะการัง โขดหิน หรือถ้ำใต้ทะเล เมื่อพบงูทะเลไม่ต้องตกใจ เพียงหลบออกมาให้ห่างหรือไม่เข้าไปดึงหางเล่นก็เป็นพอ หอยเต้าปูน นับเป็นสัตว์ทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่ง ลักษณะเป็นหอยฝาเดียวเปลือกมีลวดลายสวยงาม ด้านปลายล่างของหอยชนิดนี้ จะมีงวงโผล่ออกมา งวงนี้จะมีเข็มพิษที่สามารถยิงออกมาได้คล้ายกับฉมวก เมื่อใครไปแตะต้องก็อาจจะถูกฉมวกยิงใส่มีพิษร้ายถึงตายได้เลยทีเดียว ซึ่งเข็มพิษนี้ใช้ยิงปลาหรือสัตว์ที่มันจะจับเป็นเหยื่อ เมื่อเหยื่อของมันโดนยิงด้วยเข็มพิษ ก็จะเป็นอัมพาตทันที ดังนั้นเมื่อท่านไปดำน้ำ หรือเดินเล่นตามชายหาดหากไปพบเจอหอยลักษณะคล้ายๆหอยเต้าปูนเข้าก็อย่างเสี่ยงไปจับต้องหรือ เก็บขึ้นมาใส่กระเป๋าเข้าก็แล้วกัน จาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 3 มีนาคม 2552 หัวข้อ: Re: อันตรายจากสัตว์ทะเล เริ่มหัวข้อโดย: แม่หอย ที่ มีนาคม 05, 2009, 12:32:52 AM ไหนๆ มีเรื่องเกี่ยวพันกับหอยเต้าปูน อยากจะอธิบายนิดนึงว่า งวง หรือ proboscis ที่เราเห็นเป็นท่อยื่นออกมาจากปลายเปลือกของหอยเต้าปูน (หรือรวมทั้งในหอยฝาเดียวอื่นๆ ทั้งหลายส่วนใหญ่) นั้น เป็นคนละส่วนกับเข็มพิษค่ะ ไอ้อวัยวะที่เป็นเข็มพิษสำหรับใช้ในการล่าเหยื่อเนี่ย ลักษณะเหมือนฉมวก (harpoon-like structure) ปกติจะหดอยู่ มองไม่เห็น พิษจะถูกปล่อยเข้าไปไว้ในฉมวก และหอยจะยิงฉมวกนี้ออกมาอย่างรวดเร็วเมื่อล่าเหยื่อเท่านั้น
แม่หอยเคยมีประสบการณ์ได้สังเกตพฤติกรรมหอยเต้าปูน จึงได้แยกแยะอวัยวะ proboscis กับ harpoon ของหอยเต้าปูนได้คราวนั้นเอง (ตั้งแต่ปี 2544-45 โน่นแน่ะ) มีภาพเคยลงใน SOS นานมาแล้ว ไม่อยากโพสต์ซ้ำ เลยขออนุญาตให้ link ตามไปอ่านหน่อยนะคะ .. แม่หอยย้อนไปอ่านยังรู้สึกตื่นเต้นเลย.. http://www.saveoursea.net/oldboard/viewtopic.php?t=162 หัวข้อ: Re: อันตรายจากสัตว์ทะเล เริ่มหัวข้อโดย: Udomlert ที่ มีนาคม 05, 2009, 01:39:41 AM อรุณสวัสดิ์ครับ พี่แม่หอย เรื่องหอยเต้าปูน เคยอ่านในนวนิยายของ Paul Adirex หรือ
คุณปองพล อดิเรกสาร ตื่นเต้นดีครับ แต่เรื่อง Kingkong effect นี่ คงเป็นเรื่องจินตนาการ หรือเปล่าครับ หัวข้อ: Re: อันตรายจากสัตว์ทะเล เริ่มหัวข้อโดย: lord of death ที่ มีนาคม 05, 2009, 05:59:12 AM อีก 3 อย่างต้องระวังมากๆ เวลาไปทะเล หรือไปดำน้ำคือ
1 แผลถลอกบริเวณ บัตรเครดิต 2 โรคทรัพย์จาง และ โรคทรัพย์จางเรื้อรัง 3. โรคแผลในกระเป๋า และกล้ามเนื้อกระเป๋าฉีก ไปดีฝ่า......อิ อิ . :P |