กระดานข่าว Save Our Sea.net

หมวดหมู่ทั่วไป => สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล => ข้อความที่เริ่มโดย: สายน้ำ ที่ มีนาคม 28, 2009, 12:48:59 AM



หัวข้อ: แมวน้ำตายกว่า19,000 ตัวฤดูล่าที่แคนาดา
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ มีนาคม 28, 2009, 12:48:59 AM

แมวน้ำตายกว่า19,000 ตัวฤดูล่าที่แคนาดา

(http://www.innnews.co.th/around/164149[0].jpg)

เจ้าหน้าที่แคนาดา กล่าวว่าบรรดานักล่าแมวน้ำต่างมาร่วมการล่าแมวน้ำประจำปีที่แคนาดา ซึ่งทำให้แมวน้ำตายไปกว่า 19,411 ตัวแล้ว
 
นายฟิล เจนกินส์ โฆษกสำนักงานประมงและทะเลของแคนาดา กล่าวถึงการล่าแมวน้ำประจำปีครั้งแรกที่สิ้นสุดลงเมื่อวันพุธว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีนักล่าราว 350 คน บนเรือ 20 ลำ ร่วมงานล่าแมวน้ำประจำปี ส่วนการล่าสัตว์ 1,500 ตัวรอบเกาะเคป เบรทตัน ในโนวาสโกเทียกำหนดมีขึ้นในวันศุกร์

ทั้งนี้ แคนาดาเป็นแหล่งล่าแมวน้ำเพื่อการพาณิชย์ประจำปีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งแมวน้ำสีขาวพันธุ์ฮาร์พ ซีลส์ ก็ตกเป็นเหยื่อล่าเพื่อการพาณิชย์ที่ชายฝรั่งกรีนแลนด์ นอร์เวย์ สหรัฐ นามิเบีย อังกฤษ ฟินแลนด์ และสวีเดน สำหรับการล่าแมวน้ำเพื่อใช้ประโยชน์จากขน เนื้อ และไขมันแมวน้ำที่นำมาใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง ด้านกลุ่มคุ้มครองสิทธิสัตว์วิจารณ์อย่างหนักว่าการล่าแมวน้ำในแคนาดาทารุณโหดร้าย แต่รัฐบาลแคนาดาโต้ว่า การล่าแมวน้ำที่มีมานาน 350 ปีมีความสำคัญต่อชาวประมงในแอตแลนติกเหนือราว 6,000 คน ที่พึ่งพารายได้จากแมวน้ำถึงร้อยละ 35 ของรายได้ตลอดทั้งปี

รัฐสภายุโรปมีกำหนดลงมติในเดือนเมษายนนี้เพื่อห้ามนำเข้า ส่งออก หรือขนส่งผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแมวน้ำทั่วประเทศสมาชิก 27 ประเทศ โดยมาตรการดังกล่าวจะต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐบาลสหภาพยุโรปก่อนมีผลบังคับใช้ต่อไป.



จาก                                  :                               สำนักข่าว INN    วันที่ 28 มีนาคม 2552


หัวข้อ: Re: แมวน้ำตายกว่า19,000 ตัวฤดูล่าที่แคนาดา
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ มีนาคม 28, 2009, 12:53:13 AM

"แคนาดา"ล่าไม่เลิก ป้องอุตสาหกรรมแมวน้ำ

(http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2009/03/for25280352p1.jpg)
 
กิจกรรมการล่าแมวน้ำในหลายแห่งของโลกยังคงมีอยู่ แม้ว่ากระแสต่อต้านจะขยายวงกว้างขึ้น และกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์จะรวบรวมภาพความโหดร้ายของการล่าแมวน้ำวัยไม่ถึงเดือน ออกมากระตุ้นจิตสำนึกอย่างต่อเนื่อง

แหล่งล่าแมวน้ำใหญ่ๆ ได้แก่ ชายฝั่งกรีน แลนด์ นอร์เวย์ สหรัฐ นามิเบีย เกาะอังกฤษ ฟิน แลนด์ และสวีเดน แต่แคนาดานั้นถือได้ว่าเป็นแหล่งล่าใหญ่ที่สุด

การล่าเริ่มขึ้นทุกวันจันทร์แถบหมู่เกาะแม็ก ดาเลนในอ่าวเซนต์ ลอเรนซ์ และแคว้นนิวฟาวด์ แลนด์

ล่าแมวน้ำหลักๆ ก็เพื่อเอาหนัง แต่ก็มีการใช้เนื้อและไขมันมาทำเครื่องสำอางด้วย

วันที่ 1 เม.ย.ที่จะถึงนี้ เป็นวันที่สภาสหภาพยุโรป หรือ อียู จัดลงมติสั่งห้ามซื้อขายผลิต ภัณฑ์ที่แปรรูปจากแมวน้ำ ซึ่งรวมถึงห้ามนำเข้าและส่งออก หรือแม้แต่ขนส่งในกลุ่มชาติสมาชิกอียู 27 ประเทศ

แคนาดาซึ่งมีการล่าแมวน้ำมาแต่โบราณจึง นิ่งเฉยไม่ได้ วุฒิสมาชิกเซลิน เฮอร์วีออฟซ์ ปาเยตเต เตรียมเคลื่อนไหวล็อบบี้ให้อุตสาหกรรมนี้ยัง คงอยู่

ด้วยการเสนอเรื่อง "รีโพสิชั่นนิ่ง เดอะ ซีล อินดัสทรี" หรือ ปรับสถานภาพอุตสาหกรรมแมวน้ำ ที่ระบุถึงคุณประโยชน์ ของแมวน้ำ อาทิ แหล่งโอเม ก้า 3 คอลลาเจน และสารบำรุงหัวใจ ครอบคลุมถึงการฝึกฝนการล่า ไม่กระทำด้วยความโหดร้ายป่าเถื่อน มีมาตร การควบคุมมาตรฐานของผลิตภัณฑ์จากแมวน้ำ และมาตรการอนุรักษ์สัตว์

หมายจะให้กระแสต่อต้านเพลาๆ ลง

(http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2009/03/for25280352p2.jpg)

นางเซลินชี้ว่า ชาติที่มีการล่าแมวน้ำ อาทิ รัสเซีย สวีเดน ฟินแลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก และไอซ์ แลนด์ ต่างก็เห็นชอบ และจะมีการเจรจาเพื่อนำไปสู่การใช้ที่เป็นสากลต่อไป

"เรามีแผนจะวางมาตรการที่เข้มงวดและหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยบรรเทาแรงกดดันที่กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์มีต่อสหภาพยุโรปได้" นางเซลินกล่าว

อย่างไรก็ดี หากว่าอียูลงมติแบนการล่าแมว น้ำ นางเซลินชี้ว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาห กรรมล่าแมวน้ำของแคนาดาซึ่งมีลูกค้ารายใหญ่คือ รัสเซีย กับ จีน ไม่มากนัก แต่ย้ำว่าจะกระ ทบต่อการเจรจาการค้าเสรีระหว่างแคนาดาและ อียูแน่นอน

กลุ่มสิทธิมนุษยชนประกาศว่าการล่าเป็นความโหดร้ายทารุณ ในอดีตมีคนดังช่วยรณรงค์ อาทิ ทะไล ลามะ พอล แม็กคาร์ตนี่ คิม บาสซิงเกอร์

ด้านรัฐบาลรัสเซียเคลื่อนไหวในทางตรงข้ามกับแคนาดา โดยเพิ่งมีคำสั่งห้ามล่าลูกแมวน้ำ

หลังจากที่ วลาดิเมียร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลเคยพูดไว้ว่า การล่าแมวน้ำเป็นการกระทำที่ "บ้าเลือด"

ตัวเลขประชากรลูกแมวน้ำในฝั่งรัสเซียลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการล่าแมวน้ำในทะเลขาวโดยตรง เพราะชุดขน แมวน้ำสุดหรูสีขาวที่เรียกว่า "ไวต์โค้ต" นั้น ผลิตมาจากแมวน้ำที่อ่อนวัยที่สุดอายุราว 2 สัปดาห์

สำหรับแคนาดามีประวัติศาสตร์การล่าแมว น้ำนานถึง 350 ปี และมีโควตาล่ามากขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลชี้ว่าปีนี้จับได้ 338,000 ตัว เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 43,000 ตัว จากจำนวนที่มีทั้งหมดกว่า 6.4 ล้านตัว

กระทรวงประมงของแคนาดา ระบุว่า ราคาหนังแมวน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 42 ดอลลาร์ หรือราว 1,400 บาท และรายได้จากการล่าแมวน้ำคิดเป็น 25-35 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งปีของชาวประมงแคนา ดาที่มีอยู่ 6,000 คน



จาก                                  :                               คอลัมน์สกู๊ปพิเศษ    ข่าวสด         วันที่ 28 มีนาคม 2552


หัวข้อ: Re: แมวน้ำตายกว่า19,000 ตัวฤดูล่าที่แคนาดา
เริ่มหัวข้อโดย: WayfarinG ที่ มีนาคม 28, 2009, 02:42:15 AM

ใจร้ายเป็นที่สุด .. เวลาที่เค้าเฉือดคอมัน .. เค้าคิดได้ยังงัย .. จะรู้สึกบ้างมั๊ยว่า เวลาถูกเฉือดมันเจ็บขนาดไหน .. แค่โดนมีดบาดยังเจ็บเลยอะ .. (http://emo.huhiho.com/set/livapanda/198.gif)


ไอ้คนที่อนุมัติให้มีการล่าได้ ที่ก็แปลก .. มันเอาส่วนไหนของมันคิด เพียงแค่เงินเท่านั้นเหรอ ที่พวกเค้าต้องการ .. คิดไม่ได้ว่า มันขาดศีลธรรม (http://emo.huhiho.com/set/livapanda/203.gif)


เฮ้อออ .. เหมือนญี่ปุ่นที่ฆ่าปลาวาฬ แล้วก็ เมืองจีนที่ฆ่าปลาฉลามเลย .. ว่าแล้ว ก็ (http://emo.huhiho.com/set/livapanda/125.gif) ต่อไป


หัวข้อ: Re: แมวน้ำตายกว่า19,000 ตัวฤดูล่าที่แคนาดา
เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ มีนาคม 28, 2009, 07:51:49 AM


การล่าแมวน้ำในบางประเทศ ถือเป็นการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ  เพราะหากมีแมวน้ำมากเกินไปจะทำให้เกิดการแย่งชิงอาหาร (ซึ่งหมายถึงปลา) ในระหว่างแมวน้ำด้วยกันและระหว่างแมวน้ำกับสัตว์น้ำอื่นๆ รวมทั้งกับมนุษย์ด้วย..... ;)


แต่ในความรู้สึกของเรา.....แมวน้ำเป็นสัตว์ที่น่ารักน่าเอ็นดู   การฆ่าแนวน้ำเพื่อล่าเอาขน....หนัง...และเนื้อ จึงดูช่างโหดเหี้ยมทารุณมากๆ .... :'(


หัวข้อ: Re: แมวน้ำตายกว่า19,000 ตัวฤดูล่าที่แคนาดา
เริ่มหัวข้อโดย: Birdie ที่ไม่ใช่กาแฟ ที่ มีนาคม 28, 2009, 09:04:53 AM
พวกเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน ก็อ้างว่า ได้จำกัดช่วงเวลาล่าแมวน้ำแล้ว ก็เลยล่ากันเป็นล่ำเป็นสันในช่วงเวลาดังกล่าว จำนวนที่ถูกล่าก็ไม่ได้ลดลงเลย แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะ

ดูแววตาน่ารักน่าเอ็นดูของพวกมันสิคะ แล้วจะไปเอาหนังเอาขนมันมาหาสวรรค์วิมานอะไร

ถ้าอยากได้มากนัก ก็หาวิธีทางวิทยาศาสตร์แบบ genetic engineering สร้างขนแมวน้ำขึ้นมาบนหนังสัตว์ชนิดอื่นที่เราทานได้แต่เนื้อมันสิเนอะ   :(