|
หัวข้อ: ประชากรเต่าทะเลไทยวิกฤต เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ กรกฎาคม 04, 2007, 12:44:53 AM ประชากรเต่าทะเลไทยวิกฤต พบติดอวน-กินขยะ-น้ำเสีย ประชากรเต่าไทยวิกฤต เร่งวางแผนระดับชาติบริหารจัดการแหล่งวางไข่ หลังพบแหล่งวางไข่ถูกทำลายและผลกระทบจากการพัฒนาเมือง เวลา 10.30 น.วันที่ 3 ก.ค. ที่โรงแรม เจดับบลิว แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สุนทรพิทักษ์กุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ เป็นประธานเปิดการประชุมโครงการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเต่าทะเลแห่งชาติ ภายใต้โครงการ การจัดการแนวทางการจัดการแหล่งวางไข่เต่าทะเล ทั้งนี้ด้วยความร่วมมือระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับเจดับพลิว แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา และ มูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์เต่าทะเลหาดไม้ขาว โดยมี นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และ ฟื้นฟู นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ ผู้ประสานงานมูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์เต่าทะเล ภาคเอกชน และองค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดูแลคุ้มครอง จัดการ ชายหาดที่เต่าทะเลขึ้นวางไข่ เข้าร่วมจำนวน 40 คน นายปิ่นสักก์ กล่าวถึงการประชุมครั้งนี้ ว่า สืบเนื่องจากในอดีต ทะเล และชายฝั่งทะเลของประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์เป็นธรรมชาติเต่าทะเลสามารถใช้ชายหาดวางไข่ได้ตลอดแนวชายฝั่งทะเลไทย แต่ในปัจจุบันจากการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้เหลือชายหาดที่เต่าทะเลสามารถวางไข่ได้อย่างธรรมชาติเพียงไม่กี่แห่ง ดังนั้นแหล่งวางไข่ที่เหลืออยู่นี้จึงเปรียบเสมือนเป็นหัวใจของการอนุรักษ์เต่าทะเลให้คงอยู่ในประเทศไทยต่อไปอย่างยั่งยืน โดยแหล่งวางไข่เหล่านี้ ได้รับการดูแลจากหลายหน่วยงาน ทั้งกองทัพเรือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าละพันธุ์พืช กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง มูลนิธิ องค์กร และภาคประชาชน แม้ว่าจะมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะช่วยกันดูแหล่งวางไข่เต่าที่เหลืออยู่นี้ แต่ยังมีข้อจำกัดอีกหลายประการ เช่น เรื่องของอัตรากำลัง งบประมาณ เทคนิควิชาการ ที่ทำให้แต่ละแห่งมีมาตรฐานและสำเร็จแตกต่างออกไป จึงจำเป็นที่จะต้องมีการจัดทำแนวทางที่เป็นมาตรฐานเพื่อให้แหล่งวางไข่ได้รับการจัดการอย่างมีอย่างประสิทธิภาพในระดับเดียวกัน แลกเปลี่ยน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งการคุ้มครองดูแล การเก็บข้อมูล การศึกษา การจัดการร่วมกันชุมชน ทั้งนี้เพื่อที่จะทำให้เต่าทะเลอยู่คู่น่านน้ำไทยตลอดไป นอกจากนี้ยังเป็นการอนุวัติตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการอนุรักษ์และการจัดการเต่าทะเล และแหล่งที่อยู่อาศัยในมหาสมุทรอินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามไว้แล้ว ด้านนายสมเกียรติ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการประสานงานร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และภาคประชาชน เพราะปัญหาเรื่องความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ การลดลงของจำนวน และชนิดของสัตว์ป่าและพืชพันธุ์ กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนมนุษย์ อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีความต้องการใช้ทรัพยากร อาหาร และที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น กิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะกระทำธรรมชาติ สำหรับเต่าทะเลในปัจจุบันพบว่ามีจำนวนประชากรเหลืออยู่ไม่มาก อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากกิจกรรมหลายอย่างๆ เช่น ติดอวนประมง กินเศษขยะ เศษถุงพลาสติกที่อยู่ในทะเล น้ำเน่าเสีย และที่สำคัญ พื้นที่ชายหาดที่เต่าทะเลใช้วางไข่ กลับถูกใช้ประโยชน์จากมนุษย์เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน มีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าหากเราไม่ช่วยกันแล้ว จะยังมีเต่าทะเลเหลือให้ลูกหลานดูในอนาคตอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตามการประชุมในครั้งนี้ มีความต่อเนื่องกับการประชุม เมื่อปีก่อนที่สถานบันวิจัยฯ บริเวณแหลมพันวา ที่ได้มีการร่วมกันให้ข้อเสนอแนะในการจัดแนวทางการจัดการบ่อเพาะฟัก เพื่อจะได้ร่วมกันจัดทำแนวทางการจัดการแหล่งวางไข่เต่าทะเล ได้อย่างเป็นรูปธรรม และสามารถนำไปเป็นมาตรฐานให้กับแหล่งวางไข่เต่าของประเทศได้ จาก : กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 4 กรกฎาคม 2550 หัวข้อ: Re: ประชากรเต่าทะเลไทยวิกฤต พบติดอวน-กินขยะ-น้ำเสีย เริ่มหัวข้อโดย: WayfarinG ที่ กรกฎาคม 04, 2007, 02:53:07 AM (http://www.kapook.com/msn/upload/emoticons/thumbnail/kapook-17531-3215.gif)
(http://www.kapook.com/msn/upload/emoticons/thumbnail/kapook-17338-4977.gif) หัวข้อ: Re: ประชากรเต่าทะเลไทยวิกฤต พบติดอวน-กินขยะ-น้ำเสีย เริ่มหัวข้อโดย: Mermaid ที่ กรกฎาคม 16, 2007, 12:21:03 PM โถ....น้องเต่าของเรา..... :'( :'( :'(
หัวข้อ: Re: ประชากรเต่าทะเลไทยวิกฤต พบติดอวน-กินขยะ-น้ำเสีย เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ กรกฎาคม 24, 2007, 12:34:25 AM เต่าทะเลวิกฤติใกล้สูญพันธ์ ทช.สั่งเร่งปกป้องแหล่งวางไข่ นางนิศากร โฆษิตรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเต่าทะเลจัดเป็นสัตว์ทะเลที่หายากและมีสภาวะเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ โดยเฉพาะเต่าทะเลในน่านน้ำไทยซึ่งมีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ เต่ามะเฟือง เต่าตะนุ เต่าหญ้า เต่ากระ และเต่าหัวฆ้อน ในช่วง 10 ปีหลังนี้มีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นผลจากการทำประมงทั้งที่ไม่เจตนาและโดยตั้งใจ อาทิ การใช้เรืออวนลาก อวนรุน อวนลอย และเบ็ดราวในบริเวณชายฝั่งช่วงฤดูวางไข่ ขณะเดียวกันยังพบว่า มีการลักลอบขโมยเก็บไข่เต่าทะเลเพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวที่ยังมีความต้องการบริโภคค่อนข้างสูง ที่สำคัญแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลได้ถูกคุกคามมากขึ้นจากการขยายพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล และปัญหาน้ำเสียและขยะมูลฝอย ทำให้การขึ้นวางไข่ของเต่าลดลงมาก จากปัญหาที่เกิดขึ้น ทช. จึงประสานกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกองทัพเรือ กรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำร่าง แนวทางการจัดการแหล่งวางไข่เต่าทะเล ให้เป็นทิศทางเดียวกัน โดยร่างฯดังกล่าวจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์และข้อเสนอแนะ เพื่อควบคุมป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในบริเวณแหล่งวางไข่เต่า ซึ่งเนื้อหาครอบคลุมทั้งการทำประมง การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในทะเลช่วงฤดูวางไข่ รวมทั้งกิจกรรมบนหาดและการพัฒนาชายฝั่ง นอกจากนี้ยังมีแผนส่งเสริมการมีส่วนร่วมอนุรักษ์เต่าทะเลในแต่ละพื้นที่ การเฝ้าระวังแหล่งวางไข่ ตลอดจนการวางแนวทางการศึกษาและเก็บข้อมูลการวางไข่ของแม่พันธุ์ต่อเนื่องทุกปี เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งเบื้องต้นได้เตรียมเสนอร่างฯดังกล่าวให้อนุกรรมการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ภายใต้กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบเพื่อดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด จาก : แนวหน้า วันที่ 24 กรกฎาคม 2550 หัวข้อ: Re: ประชากรเต่าทะเลไทยวิกฤต เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ กรกฎาคม 25, 2007, 12:29:54 AM ห่วงเต่าทะเลใกล้สูญพันธุ์ (http://pics.manager.co.th/Images/550000009599001.JPEG) นางนิศากร โฆษิตรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเต่าทะเลจัดอยู่ในสภาวะเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ ชาวบ้านที่รู้เท่าไม่ถึงการ มีการลักลอบขโมยเก็บไข่เต่าทะเลเพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวที่ยังมีความต้องการบริโภคค่อนข้างสูง ประการสำคัญแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลได้ถูกคุกคามมากขึ้นจากการขยายพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล และปัญหาน้ำเสียและขยะมูลฝอย ทำให้การขึ้นวางไข่ของเต่าลดลงมาก โดยเฉพาะเต่าทะเลในน่านน้ำไทยซึ่งมีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ เต่ามะเฟือง เต่าตะนุ เต่าหญ้า เต่ากระ และเต่าหัวฆ้อนในช่วง 10 ปีหลังนี้มีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นผลจากการทำประมงทั้งที่ไม่เจตนาและโดยตั้งใจ อาทิ การใช้เรืออวนลาก อวนรุน อวนลอย และเบ็ดราวในบริเวณชายฝั่งช่วงฤดูวางไข่ ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นทาง ทช. จึงไดมีการประสานกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกองทัพเรือ กรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำร่าง แนวทางการจัดการแหล่งวางไข่เต่าทะเล ให้เป็นทิศทางเดียวกัน โดยร่างแนวทางการจัดการแหล่งวางไข่เต่าทะเลนี้ จะมีการกำหนดหลักเกณฑ์และข้อเสนอแนะ เพื่อควบคุมป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในบริเวณแหล่งวางไข่เต่า ซึ่งเนื้อหาครอบคลุมทั้งการทำประมง การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในทะเลช่วงฤดูวางไข่ รวมทั้งกิจกรรมบนหาดและการพัฒนาชายฝั่ง นอกจากนี้ยังมีแผนส่งเสริมการมีส่วนร่วมอนุรักษ์เต่าทะเลในแต่ละพื้นที่ การเฝ้าระวังแหล่งวางไข่ ตลอดจนการวางแนวทางการศึกษาและเก็บข้อมูลการวางไข่ของแม่พันธุ์ต่อเนื่องทุกปี เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งเบื้องต้นได้เตรียมเสนอร่างฯดังกล่าวให้อนุกรรมการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ภายใต้กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบเพื่อดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด จาก : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 25 กรกฎาคม 2550 หัวข้อ: Re: ประชากรเต่าทะเลไทยวิกฤต เริ่มหัวข้อโดย: Mermaid ที่ กรกฎาคม 25, 2007, 02:45:12 AM :'( :'( :'(
หัวข้อ: Re: ประชากรเต่าทะเลไทยวิกฤต เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ กรกฎาคม 31, 2007, 11:27:30 PM วิกฤต 'เต่าทะเล' ใกล้สูญพันธุ์ ปกป้องแหล่งวางไข่ที่เหลือ 10 แห่ง นางนิศากร โฆษิตรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเต่าทะเลจัดเป็นสัตว์ทะเลที่หายากและมีสภาวะเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ โดยเฉพาะเต่าทะเลในน่านน้ำไทยซึ่งมีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ เต่ามะเฟือง เต่าตนุ เต่าหญ้า เต่ากระ และเต่าหัวฆ้อน ในช่วง 10 ปีหลังนี้ มีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุดังกล่าว ทช.จึงได้ประสานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กองทัพเรือ กรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันจัดทำร่าง แนวทางการจัดการแหล่งวางไข่เต่าทะเล ให้เป็นทิศทางเดียวกัน โดยมุ่งพัฒนา ฟื้นฟูและปกป้องแหล่งวางไข่เต่าทะเลที่ยังมีศักยภาพเหลืออยู่ 10 แห่งในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ หาดทะเลนอก-หาดประพาส จ.ระนอง, เกาะระ-เกาะพระทอง เกาะคอเขา, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน (เกาะ 1, 2 และ 3), อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง จ.พังงา, อุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา, เกาะโกยเล็ก อ.เมือง จ.สตูล, เกาะคราม เกาะอีร้า เกาะจาน และเกาะใกล้เคียงในอ่าวสัตหีบ (ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ) จ.ชลบุรี และเกาะกระ จ.นครศรีธรรมราช นางนิศากรกล่าวถึงร่างแนวทางการจัดการแหล่งวางไข่เต่าทะเลว่า มีการกำหนดหลักเกณฑ์และข้อเสนอแนะ เพื่อควบคุม ป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในบริเวณแหล่งวางไข่เต่า โดยมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งการทำประมง การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในทะเลช่วงฤดูวางไข่ รวมทั้งกิจกรรมบนหาดและการพัฒนาชายฝั่ง นอกจากนี้ยังมีแผนส่งเสริมการมีส่วนร่วมอนุรักษ์เต่าทะเลในแต่ละพื้นที่ การเฝ้าระวังแหล่งวางไข่ ตลอดจนการวางแนวทางการศึกษาและเก็บข้อมูลการวางไข่ของแม่พันธุ์ต่อเนื่องทุกปี เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมเสนอร่างฯดังกล่าว ให้อนุกรรมการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ภายใต้กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นชอบ เพื่อดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด ซึ่งอนาคตคาดว่า จะเกิดการมีส่วนร่วมอนุรักษ์เต่าทะเลอย่างยั่งยืน และมีประชากรเต่าทะเลเพิ่มมากขึ้น. จาก : เดลินิวส์ วันที่ 31 กรกฎาคม 2550 |