กระดานข่าว Save Our Sea.net

หมวดหมู่ทั่วไป => สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล => ข้อความที่เริ่มโดย: สายน้ำ ที่ กันยายน 12, 2007, 12:18:31 AM



หัวข้อ: อนาคตของ"ปลาทูน่า"
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ กันยายน 12, 2007, 12:18:31 AM

อนาคตของ"ปลาทูน่า"


นิตยสารท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ "โวยาจ" ฉบับล่าสุด นอกจากจะพาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา สมุทรสาคร เมืองที่ได้รับฉายาว่า เวนิสตะวันออกแห่งสุดท้ายในสยาม

ยังมีเรื่องปากท้องน่าสนใจ "แหล่งโปรตีนที่สำคัญจากท้องทะเล กำลังถูกคุกคาม" เนื้อหาว่าด้วยชะตากรรมของปลาทูน่า

ปลาทูน่าเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญในท้องทะเล ปลาทูน่ามีสารอาหารสำคัญของมนุษย์ที่ใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต ทั้งยังมีประโยชน์ อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-ทรี (3)

ที่มีสรรพคุณลดอาการปวดข้อและโรคเหงาเศร้าซึม การรับประทานทูน่า ไม่ทำให้อ้วน ทูน่าจึงกลายเป็นปลายอดนิยม ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สเปน และอีกหลายประเทศ

ซาซิมิ เนื้อปลามากุโระ ปลาโอ ล้วนคือปลาทูน่าทั้งสิ้น

ปลาทูน่าอาศัยอยู่ในเขตอบอุ่นของโลก ในน้ำทะเลอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส เป็นปลาที่ชอบย้ายถิ่นฐานไปตามแหล่งอาหารและอุณหภูมิของน้ำ การว่ายน้ำย้ายถิ่นที่อยู่บ่อยๆ ทำให้ปลาทูน่ามีกล้ามเนื้อแข็งแรง มีการสะสมไขมันโอเมก้า-ทรี (3) ในปริมาณมาก

ปลาชนิดนี้ พบมากในมหาสมุทรแอตแลนติก ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทะเลดำ มหาสมุทรอินเดีย ตลอดจนบางส่วนของมหาสมุทรแปซิฟิก

ทูน่าเป็นปลาคุณภาพดีที่ตลาดต้องการ แต่ปัจจุบันกำลังวิกฤต

เมื่อประมาณ 50 ปีก่อน ปลาทูน่าจะมีขนาดใหญ่มาก โดยเฉพาะปลาทูน่าครีบน้ำเงินมีน้ำหนักถึง 677 กิโลกรัม ด้วยอายุเฉลี่ย 25 ปี แต่ปัจจุบันขนาดลดเหลือประมาณ 7 กิโลกรัมเท่านั้น

เนื่องจากปลาทูน่าตัวใหญ่ๆ ถูกจับมาบริโภคจนเกือบหมดทะเล เหลือแต่ตัวเล็กๆ ที่เติบโตไม่ทันความต้องการของมนุษย์

จากสถิติพบว่า ทั่วโลกมีการจับปลาทูน่ามากถึง 3,259,000 ต่อต่อปี เป็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินประมาณ 53,000 ตันต่อปี ด้วยเป็นที่ต้องการของตลาดในปริมาณที่สูง ทำให้ปลาทูน่าลดจำนวนลงอย่างน่าใจหาย

ประกอบกับฝูงทูน่าถูกคุกคามจากกองเรือประมงทั่วโลก ที่แข่งกันจับนำไปแปรรูปทางอุตสาหกรรมปลากระป๋อง จนเกือบจะสูญพันธุ์อยู่รอมร่อ

โดยเฉพาะปลาทูน่าพันธุ์ขนาดใหญ่แทบจะไม่เหลือในท้องทะเลแล้ว ทูน่าที่ถูกจับมาทำเป็นปลากระป๋องเป็นพวกสายพันธุ์อื่นที่มีขนาดเล็ก มิใช่ทูน่าครีบน้ำเงิน เพราะสายพันธุ์นี้ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น และถูกประมงจับไปบริโภคสดๆ เป็นซาซิมิ

การจับปลาทูน่าจำนวนมหาศาล ส่งผลให้ปริมาณปลาลดลงอย่างน่ากลัว หากสถานการณ์ยังดำรงอยู่เช่นนี้ต่อไป เชื่อว่าปลาทูน่าอาจจะสูญพันธุ์ได้ในเร็ววัน

ทุกวันนี้ แม้จะมีกลุ่มนักอนุรักษ์ออกรณรงค์และต่อต้านกลุ่มชาวประมง เพื่อให้ตระหนักถึงอนาคตของทูน่า

แต่จะได้ผลเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของมนุษย์ผู้ชอบรับประทานปลาทูน่าอย่างเราๆ ท่านๆ ด้วย



จาก            :            ข่าวสด คอลัมน์ เก็บเรื่องมาเล่า    วันที่ 10 กันยายน 2550