|
หัวข้อ: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ กันยายน 29, 2007, 12:59:45 AM หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล หมอจุฬาฯ เตือนนักเปิบอาหารทะเล พิษโลกร้อนทำสาหร่ายทะเลมีพิษ ส่งผลต่อเนื่องให้ปลา-หอย รับพิษต่อเนื่อง เผย 2 เดือนมีคนกินปลาป่วยอัมพาต แนะทุกฝ่ายเร่งศึกษามากกว่าแค่สนใจว่าโลกร้อนมีสัตว์อะไรสูญพันธุ์ อาจารย์คณะสหเวชศาสตร์ มธ. ชี้ เพราะเกษตรกรใช้สารเคมีมากเกินไป จากการสัมมนาเรื่อง วิกฤติโลกร้อน : ความไม่พร้อมของประเทศไทย จัดโดยสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 28 กันยายน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ภาวะอากาศแปรปรวนอย่างสุดขั้ว เช่น ฝนตกหนัก น้ำท่วมขังนาน อุณหภูมิเย็นจัด หรือร้อนจัด เป็นสาเหตุให้เกิดการระบาดของเชื้อโรค และขยายตัวได้มากขึ้น จากภูมิภาคหนึ่งไปอีกภูมิภาคหนึ่ง และเชื้อจะแข็งแรงขึ้น ทำให้เกิดโรคชนิดใหม่ขึ้นมา ซึ่งช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา คณะแพทยศาสตร์ได้รับผู้ป่วยเป็นผู้ช่วยพยาบาลที่กินปลาผัดขึ้นฉ่าย "คนไข้มีอาการท้องเสียรุนแรง และอัมพาต หยุดหายใจจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจนาน 1 วัน และเมื่อเดือนที่แล้ว ก็รับผู้ป่วยเป็นนิสิต 4 คนที่กินอาหารชนิดเดียวกัน ซึ่งหากเป็นพิษปลาปักเป้า จะไม่มีอาการท้องเสีย และอาการอัมพาตจะยาวนานกว่า" ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสาหร่ายทะเล เชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับการลดลงของปะการัง ที่เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน เนื่องจากเชื่อว่าอุณหภูมิในระดับน้ำทะเลที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้ปะการังเกิดโรคบางชนิดและล้มตายจำนวนมาก และเมื่อสาหร่ายกินซากปะการังดังกล่าวเข้าไป ก็ทำให้เกิดการสะสมพิษตัวสำคัญ ดังนั้น เมื่อปลาทะเลหรือหอยกินสาหร่ายดังกล่าวเข้าไปก็จะได้รับพิษนั้นเข้าไปด้วย และเมื่อคนกินปลาหรือหอยที่มีพิษ ก็จะได้รับพิษจากสาหร่าย ส่งผลให้เกิดท้องร่วง หายใจติดขัด ตัวแข็งทื่อ เคลื่อนไหวไม่สะดวก ที่น่าตกใจคือมีความสับสนในพิษของเนื้อปลาปักเป้ากับปลาทะเลหรือหอย เนื่องจากอาการใกล้เคียงกัน เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมามีนักศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 5 รายได้กินปลากะพง ผัดขึ้นฉ่ายจนเกิดท้องเสียรุนแรง ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ในระยะเวลาหนึ่ง จากการวิเคราะห์พบว่า ไม่ใช่พิษจากปลาปักเป้า แต่เป็นพิษชนิดใดยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด เพราะประเทศไทยไม่มีวิธีตรวจสอบพิษอื่นๆ นอกจากปลาปักเป้า ซึ่งเป็นจุดอ่อนอย่างมาก เบื้องต้นนักศึกษาทั้ง 5 รายปลอดภัยแล้ว ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญคือ จะต้องมีการศึกษาและประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสาหร่ายว่าเกี่ยวข้องกับปัจจัยด้านใด และจะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตหรือไม่ ไม่ใช่สนใจแต่เรื่องที่พูดกันว่าโลกร้อนจะส่งผลให้สัตว์ทะเลสูญพันธุ์กี่ชนิด รวมทั้งทุกหน่วยงานต้องทำงานอย่างบูรณาการร่วมกันเพื่อรับมือกับโรคที่มาจากผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ด้าน ผศ.ดร.กำพล รุจิวิชชญ์ ผอ.สำนักเสริมศึกษาและบริหารสังคม อาจารย์ประจำ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ผู้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการระบาดของเชื้ออหิวาตกโรคจากสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า สาหร่ายมีพิษเกิดจากการที่สาหร่ายบางชนิดสร้างไบโอท็อกซินขึ้นมา เมื่อมนุษย์รับพิษจากสาหร่ายทำให้มีอาการทางประสาท เกิดความรู้สึกชา มีการเคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากมลพิษทางน้ำ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม รัฐบาลส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มผลผลิตกันปริมาณมากเกินที่พืชจะนำไปใช้ได้หมด ทำให้เกิดการชะล้างลงไปตามลำน้ำและไปตกค้างสะสมอยู่ที่ปากแม่น้ำ ทำให้แพลงตอนและสาหร่ายเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และแพลงตอนบางชนิดก็มีสารไบโอท็อกซิน เมื่อปลาไปกินสารพิษก็สะสมในตัวปลา และความร้อนไม่สามารถทำลายสารพิษที่สาหร่ายสร้างขึ้นได้ "หากปลามีการสะสมของสารพิษจากสาหร่ายปริมาณมากพอ ก็จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคได้ ทำให้มีอาการท้องเสียรุนแรงและมีการอาการชาได้ ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้นานแล้ว และเคยมีคำเตือนเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าหากพบปลาตายบริเวณที่เกิดการบูมของสาหร่ายหรือแพลงตอน ไม่ควรนำมารับประทาน เพราะมีโอกาสรับสารพิษจากสาหร่ายได้ จึงไม่อยากให้ตื่นตระหนกมากนักเพราะมีโอกาสเกิดน้อยมาก และไม่อยากให้โยงไปถึงเรื่องสภาวะโลกร้อน แต่เป็นเรื่องปัญหามลพิษจากการใช้ปุ๋ยเคมีมากเกินไป" ผศ.ดร.กำพล กล่าว อย่างไรก็ตาม ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (START) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า กรณีพบคนไข้ที่เกิดจากการกินสาหร่ายพิษจนมีอาการเป็นอัมพาต ถือเป็นโรคอุบัติใหม่สำหรับเมืองไทย เนื่องจากยังไม่เคยมีรายงานการแพร่ขยายของสาหร่ายพิษในท้องทะเลไทยมาก่อน "ผมยังไม่อยากให้สรุปว่าสาหร่ายพิษดังกล่าวเป็นผลจากภาวะโลกร้อนโดยตรง ซึ่งถ้าประเมินต้องดูเชิงลึกถึงขั้นที่ว่าเป็นปลาจากน่านน้ำไทยหรือไม่ รวมทั้งพิษของสาหร่ายอาจพัดมาจากที่อื่นก็ได้ แต่หากพบถี่ขึ้นก็จำเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ" ผอ.ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว จาก : คม ชัด ลึก วันที่ 29 กันยายน 2550 หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ กันยายน 29, 2007, 02:40:07 PM เวรกรรม....รู้สึกนู้นก็กินไม่ดี....นี่ก็กินไม่ได้ มากขึ้นๆทุกทีทุกที.... ;)
อีกหน่อยคงต้องปลูกข้าว....ปลูกผัก.....เลี้ยงกุ้ง หอย ปู ปลา ไว้กินเองซะละกระมังคะนี่..... ;D หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: Sri_Nuan.Ray ที่ กันยายน 29, 2007, 03:03:18 PM พี่สายชล เจ้าขา น้องว่า มากินอาหารมังสวิรัติ ดีก่ามะคะ...
เดือนหน้า ก็เข้าเทศกาลกินเจแล้ว... ที่ภูเก็ตนี่ อาหารน่าจะอุดมสมบูรณ์นะคะ โรงเจเพียบเลย...... :-* หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: WayfarinG ที่ กันยายน 29, 2007, 03:38:09 PM ฮืมม์..ขนาดไม่กินเนื้อสัตว์อย่างอื่นแล้ว..กินปลาอย่างเดียว..มันยังจะมีพิษอีก.. :(
เอิ๊กกก.. หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: frappe ที่ กันยายน 30, 2007, 04:48:40 AM จะเนื้อหรือผักก้อแลดูจะมีพิษไปซะทั้งนั้น ถ้าไม่ได้ปลูกเองอย่างพี่สายชลว่า
สงสัยคงต้องกินแต่พอดีๆ จะได้มีพิษสะสมน้อยหน่อยมั้งคับเนี่ย (http://www.yenta4.com/dookdik/upload/531/531/46a9fa1e12805.gif) หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ กันยายน 30, 2007, 05:17:27 AM แห่ะๆ....อยากกินเจ และร้สมเทศกาลดินเจเหมือนกันจ้ะน้อง SNR แต่.....แงๆๆ.....ยังตัดกิเลสเรื่องกินไม่ได้จ้า...... :'(
สงสารหนูพิงค์จริงๆเลย....กินปลาอย่างเดียวยังมีพิษอีกแหน่ะ.....ปลูกผักไว้กินอย่างเดียวดีกว่านิ น้องเปเป้.... :-* หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: แม่หอย ที่ กันยายน 30, 2007, 08:54:23 AM :(
ถ้าไปกินเจแบบที่ภูเก็ตเนี่ย กิเลสไม่ค่อยลดเลยล่ะค่ะ เพราะอาหารมีให้เลือกมากมาย หน้าตา มู๊ หมู.. เนื๊อ เนื้อ.. ไก๊ ไก่..ปล๊า ปลา.. ฯลฯ.. มองไม่ออกหรอกว่าเจ.. แหะ แหะ.. สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม อะไรๆ ก็พลอยแย่ไปทั้งนั้นแหละว่า ไม่ว่าผักว่าปลา หมูเห็ดเป็ดไก่ ก็มีพิษมีภัยได้ทั้งน้าน.. เฮ้อ.. ผอมแย่เลยเรา.. ??? หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ กันยายน 30, 2007, 09:02:10 AM คิกๆ....ส่วนสองสายก็อ้วนเอ๊า......อ้วนเอา..... :-X
เดี๋ยวลูกจะพาไปหม่ำข้าวญี่ปุ่น เนื่องในโอกาสเงินเดือนออกค่ะ...ไปลดความผอมด้วยกันไหมคะ น้องแม่หอย.... :-* หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: แม่หอย ที่ กันยายน 30, 2007, 09:14:37 AM :)
หูยยย.. ขอบพระคุณมากค่ะ พี่สายชล .. ขอให้เจริญอาหาร หม่ำให้อร่อยนะคะ.. หนูแม่หอยเพิ่งจะไปกินส้มตำปลาร้ามา อิ่มปลิ้นเลยเหมือนกัน .. ได้ธาตุปลาร้าหน่อยค่อยยังชั่ว หายอ่อนเพลีย .. คิก คิก (หมายเหตุ ไปกินกัน 4 คน ส้มตำ 4 จานค่ะ.. ซี้ดดด.. ข้าวญี่ปุ่นก็ข้าวญี่ปุ่นเหอะ เอามาแลกก็ไม่ย้อม ไม่ยอม) หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ กันยายน 30, 2007, 09:20:42 AM :-* :-X:-*
หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ กันยายน 30, 2007, 12:25:10 PM พี่แม่หอยบรรยายชวนพี่สายชลซะ หนูน้ำลายแทบยืดเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ กันยายน 30, 2007, 02:57:02 PM ฮี่....พ่อแม่ลูกเพิ่งกลับจากหม่ำข้าวญี่ปุ่นมาค่ะ ไม่ทราบเพราะฤทธิ์ปลาดิบหรืออะไรก็ไม่ทราบ คุณสายน้ำวิ่งหาห้องน้ำเข้าที่ศูนย์การค้าให้วุ่น ปรากฎว่าใกล้เวลาห้างปิด....เขาก็เลยปิดห้องน้ำหมด ต้องบึ่งรถกลับบ้านอย่างเร็วบรื๋อออออ.... 8)
โชคดีถึงบ้านทันเวลา.... :-X :-X :-X นี่ละหนา เขาเตือนแล้ว....ไม่ฟัง.... :) หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: WayfarinG ที่ กันยายน 30, 2007, 03:16:34 PM :-* :-*
หัวข้อ: Re: หมอจุฬาฯเตือนกินปลา - หอยเสี่ยงรับพิษสาหร่ายทะเล เริ่มหัวข้อโดย: แม่หอย ที่ ตุลาคม 01, 2007, 04:47:56 AM ;D บอกแย้วว.. ปลาดิบหรือจะมาสู้ปลาร้า.. ผ่านขบวนการหมักนานแรมปี แถมหอมกรุ่นกลิ่นข้าวคั่ว ..
ว่าแล้ววันนี้ไปทดสอบอีกสักจานท่าจะดีเป็นแน่แท้.. ;D |