กระดานข่าว Save Our Sea.net

หมวดหมู่ทั่วไป => สรรพชีวิตแห่งท้องทะเล => ข้อความที่เริ่มโดย: สายน้ำ ที่ พฤศจิกายน 26, 2007, 12:38:44 AM



หัวข้อ: เผชิญหน้าราชาฉลาม (1)
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ พฤศจิกายน 26, 2007, 12:38:44 AM

เผชิญหน้าราชาฉลาม (1)               โดย  ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
 
(http://pics.manager.co.th/Images/550000015569901.JPEG)

      ผมเคยเห็นฉลาม เคยมาตั้งแต่สมัยอายุน้อยกว่าลูกชายตอนนี้ (แล้วมันเท่าไหร่เนี่ย ? ม่ายบอกครับ นักเขียนที่ดีเค้าต้องอุบบางเรื่องไว้ให้คนคิด) ครั้งนั้นผมไปวิ่งเล่นแถวเขาตะเกียบ เจอคุณป้ากำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ที่โขดหินริมฝั่ง พอเห็นผม คุณป้ากวักมือเรียกเข้าไปหา เธอเป็นคุณป้าหาหอยนางรมครับ แคะหอยใส่หม้อแล้วเดินขายไปตามบ้านที่เรียงรายตามชายหาด เป็นอาชีพที่ปัจจุบันไม่เห็นในหัวหินอีกแล้ว
       คุณป้าไม่ได้เรียกผมไปดูหอย
       
       แต่เรียกไปดูฉลาม ในซอกหินตรงนั้น มีหางฉลามโผล่มาหลายตัว ยาวสักคืบเห็นจะได้ คุณป้าบอกว่า นี่แหละฉลามหนู ชอบเอาหัวมาซุกในซอกหิน บางคนก็จับมันไปกิน แต่คุณป้าไม่จับ เพราะคุณป้ากลับบาป แค่แคะหอยก็พอกินแล้วหลานเอ๊ย
       
       พอโตขึ้น ผมไปดำน้ำตื้น เจอฉลามครั้งแรกที่อ่าวลึก เกาะเต่า จำได้ติดตา ยังว่ายไล่อยู่ตั้งนาน เพราะเป็นฉลามหูดำตัวยาวสองศอก ฉลามตัวสั้นกว่าหนึ่งวา ข้าพเจ้าไม่กลัวน่ะ ต่อมาไปเกาะสิมิลัน เห็นฉลามสองตัวว่ายไล่งับปลา ตื่นเต้นมากครับ เต้นมากจนต้องล่าถอยทัพ เพราะฉลามดันยาวประมาณหนึ่งวา ถือว่าเกินขอบเขตแล้ว
       
       โตขึ้นอีก ผมเริ่มกิจกรรมดำน้ำลึกอย่างจริงจัง ได้เจอฉลามเยอะเชียว ตั้งแต่สมัยไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย เจอกันแทบทุกครั้งที่ลงน้ำ ฉลามแถวนั้นเยอะจริงครับ
       
       กลับมาเมืองไทยท่องไปกับเรือทัวร์ดำน้ำตามที่ต่าง ๆ ไปลุยดงฉลามในพม่า ตั้งแต่ครั้งเพิ่งเปิดทะเลใหม่ ๆ มีบางครั้งผมนับฉลามได้ 32 ตัว ในการดำน้ำไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ยังจำถ้ำฉลามที่มุดเข้าไป เจอฉลามนอนเป็นกอง หลายกองด้วยครับ พอออกไปปากถ้ำ เจอฉลามครีบเงินผู้พิทักษ์ ตัวใหญ่จังวุ้ย
       
       ความเป็นที่สุดของการเจอฉลามของผม คงเป็นครั้งที่หัดทำ Shark Feeding หรือลงทะเลเลี้ยงฉลาม จำได้ว่าเคยเขียนใน "ผู้จัดการ" เมื่อสักสิบปีก่อน (นักเขียนรุ่นเก๋าจ้ะ) ครั้งล่าสุดที่ติดตาคือการพาเด็กชายธราไปเจอฉลามที่หมู่เกาะสุรินทร์ ผมไม่ตื่นเต้นกับฉลามหรอก แต่ตื่นเต้นกับเด็กชายธรา อยากให้เค้าเห็นฉลามเป็นครั้งแรก เราสองพ่อลูกว่ายน้ำตามฉลามอยู่ตั้งนาน ก่อนผมพบว่า หน้ากากดำน้ำของธราหลุดหายไปตั้งนานแล้ว ฮ่วย ! (ธราขี่หลังผมครับ ผมเลยไม่รู้ตัว)
       
       ทั้งหมดที่เล่ามา ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับเรื่องที่จะเล่าต่อไป แม้ว่าฉลามที่ผมเจอมาตลอดชีวิต กับฉลามที่ผมกำลังจะได้เจอ เป็นฉลามเหมือนกัน แต่เธอ...ไม่เหมือน
       
       เพราะเธอคือราชาแห่งฉลาม คือลูกหลานของโคตรเขี้ยวดึกดำบรรพ์ Megalodon ฉลามยักษ์ตัวเท่าโบกี้รถไฟ คือ White Death หรือความตายสีขาวตามที่ฝรั่งชอบเรียก คือ JAW สำหรับคุณ ๆ ที่ติดตามภาพยนต์
       
       เธอคือนักล่าน่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลก เทียบกับปอนด์ต่อปอนด์ เธอใหญ่กว่ายาวกว่าหนักกว่าเสือ สิงโต หรือหมีขาว นักล่าใหญ่สุดบนแผ่นดิน แรงบดที่เกิดจากคมเขี้ยวหลายร้อยซี่ในปาก หั่นเนื้อตัดกระดูกสัตว์ได้ทุกชนิดในโลกหล้า พลังของปากเธอ เหนือกว่าไดโนเสาร์ T.rex หรือนักล่าใดที่เคยปรากฏมาในตำนานโลก
       
       เธอคือ ...... ฉลามขาว ฉลามชนิดเดียวที่มีคำว่า Great นำหน้า Great White Shark ราชาแห่งฉลามทั้งมวล
       
       ในฐานะคนคลั่งทะเล ผมอ่านเรื่องของเธอมาตั้งแต่เด็ก เปิดหนังสือฝรั่งดูภาพ อ่านไม่ออกก็ขอให้คุณพ่อเล่าให้ฟัง ตามมาอ่านหนังสือแปล JAW ยิ่งเร้าใจใหญ่ อ่านเรื่อง "โลกสีคราม" ของท่านมุ้ย ผมเห็นฉลามขาวในอีกมุมมอง ไปเห็นตัวจริงครั้งแรกใน Sydney Aquarium จำฝังใจ จนเมื่อโตขึ้น กลายเป็นนักเขียนไส้แห้ง ผมเริ่มนิยายเรื่องแรกของชีวิต Megalodon โดยใช้แรงบันดาลใจจากเธอ
       
       แต่ผมไม่เคยเจอเธอใต้น้ำ ไม่เคยเจอเธอในโลกของเธอ ในทะเลที่เธอครอบครอง
       คำว่า "แต่" มักมีจุดสิ้นสุด "แต่" ของผมก็เช่นกัน มันจะสิ้นสุดภายในไม่กี่สิบนาทีข้างหน้า เมื่อรถบัสคันใหญ่จอดนิ่งสนิทที่ท่าเรือเมือง..... คณะทัวร์เอื้องหลวง การบินไทย พากันทยอยลงมา เราตรงไปที่ร้านเล็ก ๆ ข้างลานจอดรถ จุดเด่นคือฉลามขาวไฟเบอร์จำลองจากตัวจริง ยาวเกือบสี่เมตร ตั้งโดดเด่นหน้าทางเข้า
       
       Shark Viewing ! We will take you to meet the Great White ! คุณฝรั่งหน้าตาคล้ายแบรดพิทส่งเรียกปลุกเร้า เราจะพาพวกยูนั่งเรือ (แหงล่ะ) นั่งออกไปสิบห้านาที ไปที่นั่น ที่ Shark Bay จุดที่มีฉลามขาวมากสุดในโลก เพราะไม่ไกลจากตรงนี้ คือเกาะยักษ์ที่อยู่ของแมวน้ำ 70,000 ตัว แมวน้ำเป็นอาหารหลักของฉลามขาว มีแมวมาก ฉลามย่อมมาก เราจะไปรอคอยฉลาม
       
       แต่ขืนรอเฉย ๆ ฉลามคงโผล่มาให้พวกยูดูหรอก เราจึงบุกเบิกการท่องเที่ยวแบบใหม่ เรานี่แหละคือบริษัทแรก เราจะปล่อย "ถุงล่อ" ในนั้นมีอะไรแหยะ ๆ เยอะเชียว พอหย่อนลงน้ำ กลิ่นคาวจะล่องลอยไปไกล
       
       ฉลามขาว เหมือนกับฉลามอื่น พวกเธอคือราชาแห่งการดม ยูรู้มั้ย หากหยดเลือดลงในสระว่ายน้ำโอลิมปิกสักสองสามหยด ฉลามรู้แล้วว่า ในน้ำมีเลือด ดมเก่งขนาดไหนลองคิดดู เมื่อฉลามได้กลิ่นจากถุงแหยะ ๆ ของเรา ฉลามจะเข้ามาหา จากนั้นเราก็โยนปลาลงไปล่อ ปลาทูน่าอย่างดีที่เน่าแล้ว เราหั่นครึ่ง ผูกเชือกไว้ โยนต๋อมลงไปในน้ำ ฉลามจะว่ายเข้ามาหา เราสาวเชือกกลับมา ไม่ให้ฉลามกินหรอก เพราะมันเปลือง เฮ้ย ไม่ใช่ เพราะเราไม่อยากเลี้ยงฉลาม จะทำให้พฤติกรรมของพวกเธอเสียไป แต่ถ้าเธอว่ายไล่ทัน เราก็เสียใจ แต่ไม่ต้องห่วงไป เพราะเราได้รับรางวัล Eco-Tourism Award มาหลายครั้งแล้วล่ะ (เกี่ยวมากเลยครับ)
       
       อย่ากระนั้นกระนี้เลย ไปนั่งเรือกันดีกว่า เชิญ... พูดจบแบรดก็พาเราเดินไปกลางลานจอดรถ พอเห็นเรือ แต่ละคนในคณะเริ่มงง เฮ้ย ขึ้นเรือบนบก เกิดมาเพิ่งเคยนะเนี่ย
       
       ผมแอบยิ้ม ข้าพเจ้าเคยแล้วครับ สมัยที่ไปดูวาฬที่นิวซีแลนด์ เมื่อกว่าสิบปีก่อน เค้าก็ใช้แบบนี้แหละ เรือเร็วขนาดใหญ่อยู่บนเทรลเลอร์ เราปีนบันไดขึ้นเรือ เค้าจะใช้รถแทรกเตอร์ดันเทรลเลอร์ลงน้ำ จากนั้นก็สตาร์ทเครื่องถอยหลังลงน้ำเลย วิธีนี้เหมาะมากสำหรับหาดที่ไม่มีท่าเรือชั้นดี
       
       ก่อนเรือจะวิ่ง แบรดหันมาเตือนให้ชาวคณะกินยาแก้เมา เพราะการไปดูฉลามต้องลอยเรือนิ่ง ปล่อยให้คลื่นซัดโยกแหลก หากใครเมาจนแหวะจนไม่สามารถทนทานต่อไป เค้ามีบริการพากลับ แต่ต้องจ่ายค่าเรือที่ไปรับนะ คิดเป็นเงินไทยสองพันเศษ นั่นคือกรณีที่มีต่างคนต่างมาลงเรือลำเดียวกัน แต่ทัวร์เอื้องหลวงตั๋งน่ะ (ตั๋ง – มีตังค์) จึงเหมาเรือสำหรับคณะเราเพียงคณะเดียว ผมเชื่อว่า ถ้าใครเมาเรือจนใกล้สิ้นชีพ ชาวคณะคงไม่ใจร้าย ปล่อยให้เสียตังค์นั่งกลับเพียงรายเดียว ไปก็ไปด้วยกัน กลับก็กลับด้วยกัน เลือดสุพรรณกลางทะเลแอฟริกาใต้
       
       เรือวิ่งตูม ๆ ฝ่าฟันคลื่น ผมแสยะยิ้มด้วยความสะใจ เกิดมามีชีวิตที่ไม่เมาคลื่น เป็นพรประการหนึ่งจากสวรรค์ เพื่อโชว์กึ๋นคนไทย ผมควักหนังสือมาอ่าน ระหว่างที่แบรดและลูกเรืออีกสองรายมองยิ้ม ๆ คงคิดว่าอีกไม่นานนายนี่ต้องเค้เก้ หารู้ไม่ว่า ข้านี่แหละ "แฟนพันธุ์แท้ ทะเลไทย" หากมีการแข่งขันอัจฉริยะข้ามคืนไม่เมาคลื่น ผมยินดีสมัครเป็นรายแรก เชื่อว่าชนะคว้าเงินล้านแน่ เพราะผมเมาคลื่นยากกลัวตายง่าย หากคลื่นหนักถึงขนาด ผมจะกลัวตายก่อนเมา คลื่นรอบตัวนี้จึงอ่อนนัก
       
       เรือถึงเป้าหมาย อันดับแรกคือวิ่งวนเพื่อปล่อยกลิ่น ไม่ใช่เรือผายลมนะครับ หมายถึงเค้าเอาถุงล่อหย่อนไปในน้ำ แล่นช้า ๆ พอเป็นพิธีสองสามรอบ ก่อนจอดเรือกลางทะเล เค้าไม่ได้ทิ้งสมอ แต่ใช้ทุ่นที่วางไว้เรียบร้อย โยงเชือกหัวเชือกท้ายไปที่ทุ่น กลายเป็นกรอบสามเหลี่ยม ด้วยวิธีนี้ เรือจึงขวางคลื่นโยกเยกระเบิด
       
       แล้วทำไมเค้าต้องจอดเรือท่าพิสดารเช่นนี้ ? คำตอบรออยู่สัปดาห์หน้าครับ ใบ้ให้นิดหนึ่งว่า เกี่ยวกับวัตถุสี่เหลี่ยมผืนผ้าคล้ายกรงหมาที่อยู่ท้ายเรือ ใครตอบถูกแจกบัตรเลือกตั้งครับ วันที่ 23 ธันวาคม ถือบัตรประชาชนไปรับได้จากหน่วยเลือกตั้งใกล้บ้านคุณ เหอ...เหอ



จาก             :              ผู้จัดการออนไลน์   วันที่ 25 พฤศจิกายน 2550


หัวข้อ: Re: เผชิญหน้าราชาฉลาม (1)
เริ่มหัวข้อโดย: สายรุ้ง ที่ พฤศจิกายน 26, 2007, 08:54:48 AM
โธ่ อ่านมาตั้งนาน อ.ธรณ์ ยังเล่าไม่จบ วัยรุ่น เซ็งเลย

คงต้องรบกวน พี่สายน้ำ  ติดตามตอนต่อไปด้วยนะค่ะ อ่านกำลังเพลินเลย   ;D ;D