กระดานข่าว Save Our Sea.net

หมวดหมู่ทั่วไป => ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน => ข้อความที่เริ่มโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 10:40:03 AM



หัวข้อ: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 10:40:03 AM
นึกถึงวันนี้เมื่อสามปีก่อน เดินทางไปเที่ยวสายน้ำ ณ เมืองปายครั้งแรก... :P


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 10:45:55 AM
การเดินทางเริ่มต้นในครั้งนั้นอย่างไม่มีแบบแผน ไม่มีกรอบ ไม่มีสาระ (แหะ แหะ เหมือนทุกที) มีเพียงแต่ใจและสองเท้าที่จะก้าวเดินไปให้ถึงปลายทาง....เหมือนเจ้าฟั๊งกกี้ตัวนี้ มันนอนเอกเขนก...เฝ้าร้านหนังสือให้เจ้าของที่หน้าร้านอย่างสบายอารมณ์ ...ณ ร้าน The Lost Book Shop ที่นักเดินทางต่างชาติต่างหลงใหลและไหลหลั่งเข้ามาไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน... บ้างมาหาหนังสืออ่าน บ้างมาเล่นกับเจ้าฟั๊งก์กี้...บ้างมานั่งคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเจ้าของร้าน ที่ล้นไปด้วยน้ำใจ และอัธยาศัยดี๊ดี คงไม่แปลกหรอก ที่นักเดินทางหลายต่อหลายคน ผ่านไปผ่านมา...เริ่มต้นจากการทักทาย พูดคุย ตามประสาคนคอเดียวกันจนกลายเป็น...มิตรภาพ.....อันแสนยาวนาน...


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 10:48:38 AM
นอกจากนั้น ยังใกล้ถนนคนเดิน เต็มไปด้วยดนตรีพื้นบ้าน ศิลปะ และของพื้นเมือง ที่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติพามาเดินเล่น เดินซื้อของ และเดินหม่ำกันในยามเย็นของวันอาทิตย์....


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 10:50:26 AM
เริ่มเดินทางกันเถอะ....การเดินทางสู่ปายจะมีรอบัสท้องถิ่นที่ออกตามเวลา แต่ควรจะเผื่อเวลาซื้อตั๋วและนั่งรอบนรถเลย ไม่งั้นคงได้ยืนไปตลอดทางแน่...

ขากลับ...แนะนำให้นั่งรถมินิบัส (160 บาท) เนื่องจากรถท้องถิ่นไม่มีการซื้อตั๋วล่วงหน้า...เพราะรถจะมาจากแม่ฮ่องสอน ดังนั้น โอกาสที่จะมีที่นั่งนั้นน้อยมาก ...แต่ถ้ากลับรอบเช้าสุดน่าจะไม่มีปัญหาอะไร... 

ปล. ตารางนี้ถ่ายเมื่อสามปีที่แล้วนะค่ะ (2548)


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 10:55:54 AM
บ้านพักราคาย่อมเยาว์สำหรับนักเดินทางแบบ Backpacker เหมาะกับ นักเดินทางที่ไม่ได้คาดหวังความสะดวกสบาย.... ชอบการตกแต่งที่เรียบง่ายและธรรมดามาก ชอบบรรยากาศ...ที่รายล้อมไปด้วยภูเขา ทุ่งหญ้าโล่ง ดอกไม้ริมรั้ว... ด้านข้างเป็นสายน้ำ....โดยน้ำซัดไปแล้วเมื่อสามปีที่แล้ว  :'(  แต่ก็สร้างใหม๋ในบริเวณเดียวกัน แต่วิวอาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้วตามกาลเวลา...ไปอีกกี่ครั้งก็ชอบที่นี่ค่ะ


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 10:57:49 AM
ที่แรก เป็นวัดแม่เย็น ที่เป็นจุดชมวิวที่เห็นเมืองปายได้รอบ โดยเฉพาะตอนเย็นพระอาทิตย์ตก วิวแสงสีจะสวยมาก แต่ไปช่วงเที่ยงอ่ะ เลยได้วิวยามแดดแรงจ้ามาเช่นกัน... 


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 10:58:59 AM
ที่สอง คือ โป่งเดือดที่ร้อนพอที่จะต้มไข่ให้สุกเป็นไข่ลวกได้เลย ช่วงที่ไปมีเด็กนักเรียนมาค่ายลูกเสือกันเต็มลานเลย ถือกันคนละถุง นั่งรอต้มอย่างขมักเขม้น วิ่งเล่น คุยกันจอกแจ๊กเป็นภาษาเหนืออ่ะจ้าว ....แถมมีเด็กคนหนึ่งไม่รู้วิ่งเล่นยังไง ได้เลือดแผลยาวประมาณ 4 นิ้วได้ จนไกด์เราต้องใช้วิชาลูกเสือชาวบ้าน นำหญ้าสาบเสือแถวนั้นมาห้ามเลือดให้ เด็ก ๆ เลยได้เรียนรู้ชองจริงไปซะ...เด็กโตอย่างเรา....เฮ้ยไม่ใช่...ผู้ใหญ่อย่างเราเลยได้เห็นของจริงไปด้วยเหมือนกันแฮะ 


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 11:02:03 AM
วัดพระพุทธบาท ที่เขาว่ากันว่ามีอัศจรรย์น้ำไหลอยู่ในบริเวณเศียรพระ ซึ่งเคยมีพระธุดงส์มาพิสูจน์แล้วพบว่าเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ไม่มีใครนำน้ำมากรอกไว้ จึงกลายเป็นตำนานและที่นับถือของคนแถวนั้นกันทั่ว 


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 11:04:03 AM
ไม่แน่ใจว่า ชื่อวัดพระพุทธบาท มาจากรูปนี้รึป่าว


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 11:06:24 AM
วัดป่าขาม...วัดทรงพม่าที่ตั้งอยู่บริเวณตัวเมืองปาย... 


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 11:08:55 AM
ณ วัดป่าขามนี้เอง ที่เราตามคุณยายที่ร้านพี่แดง (ร้านอาหารไทยแสนอาร่อยและราคาย่อมเยาว์) มาร่วมชมวันมาฆะบูชา สังเกตเห็นคนเถ้าคนแก่ ร่วมใจกันถือธูปเทียนมาไหว้พระกัน


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 11:11:37 AM
แม้แต่หนูน้อยน่ารักคนนี้ ที่แต่งชุดไทยใหญ่เต็มยศ ตามคุณแม่มาไหว้พระในวันนั้นด้วย สังเกตเห็นเธอจัดดอกไม้มาเรียงกันในมืออย่างตั้งอกตั้งใจ สมเป็นหญิงไทยจริง ๆ เลย... สวยวันสวยคืนแน่เลยนะน้องหนู...


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 11:13:51 AM
เที่ยววัดอยู่หลายแห่ง ก้อเลยเก็บ...ข้อคิดจากสายน้ำเมืองปายมาฝากโต้ยน่ะ...


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 11:15:55 AM
ระหว่างทางเที่ยววัดต่างๆ เห็นนกเอี้ยงมาเลี้ยงควายเถ้ากลางทุ่งหญ้ากว้าง แสงแดดจ้า และสายลมเย็นในวันนั้น แต่น่าเสียดายที่นกบินหนีไปก่อนเพราะเสียงเครื่องยนต์ทำให้เจ้าทุยตื่นเลยอ่ะ...  ปิดท้ายด้วยเจ้าทุยเลยแล้วกันนะ


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 01:52:25 PM
ไป.....ปายยยยยย.....วันพระจันทร์เต็มดวงนี่คงงามแต๊งามว่า....

หนูแมลงปอไปเวียนเทียนเสร็จแล้วรีบมาต่อวอยๆ....หมู่เฮานั่งจ้องจอรอคอยอยู่เมินแล้วนะเจ๊า


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: Sea Man ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 03:31:17 PM
.....ไปมาเหมือนกันเมื่อห้าหรือหกปีที่แล้วแต่ไม่มีภาพมา..จ้า


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แม่หอย ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2008, 05:19:38 PM
.. อย่างนี้นี่เอง เขาถึงร่ำลือกันนักถึงเมืองปาย.. ดูเป็นชนบท ธรรมชาติ สงบ สบาย .. แต่ป่านนี้คงมีนักท่องเที่ยวเยอะแยะยั้วเยี้ยไปแล้วมังคะ..

ชอบหนูน้อยใส่ชุดไทยใหญ่น่ารักมากเลย อยากใส่มั่ง แหะ แหะ..
คุณแมลงปอเล่าเรื่องได้เรียบง่ายแต่น่ารักน่าติดตามมากค่ะ.. รออ่านและชมภาพต่อนะคะ

.. และเนื่องจากพี่แม่หอยชอบควายเป็นพิเศษ มีความผูกพันฝังใจ .. มีโอกาสถ่ายรูปครอบครัวควายที่พังงามา ชอบมาก ไม่รู้จะเอาลงกระทู้ไหน เห็นที่เมืองปายมีควาย เลยขอเอารูปควายมาแจมซะงั้น ฮิๆ..


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2008, 12:32:38 AM
 :) :)ขอบคุณค่ะ พี่สายชล พี่ซีแมน พี่แม่หอย...
..แจมเลยค่ะพี่ ว่าแต่ว่า ควายพังงาดูสวย และทะมึนดำมันดีจัง....แถมให้อีกภาพค่ะ :D

ค่ะ ปายเปลี่ยนไปเยอะค่ะ สองปีที่ผ่านมาก็ไปค่ะ ล่าสุดสิ้นปีใหม่ 2549...เต็มไปด้วยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ติดป้ายประกาศจากนายหน้า (บริษัทต่างชาติ) มาเก็งกำไรบนผืนแผ่นดินไทยนะค่ะ เห็นแล้วก็รู้สึกแปร๊บบในใจ...เฮ้อ.. นอกจากนั้นก็ยังมีความเจริญทั้งธนาคารตกแต่งแบบทันสมัย ร้านสะดวกซื้อหลายหลายแบบ ปั๊มน้ำมันแบบทันสมัย ...รายล้อมและรุกเข้าถึงบริเวณเมืองไปเรียบร้อยแล้วหล่ะค่ะ.... :'(  แต่บริเวณเลยสายน้ำปายอีกฝากยังดูธรรมชาติอยู่บ้างถึงแม้จะมีกระท่อมบ้านพักมากขึ้น แต่สร้างได้ไม่เยอะหรอกค่ะ เพราะบริเวณนั้นถูกน้ำซัดราบทุกปี เขาเลยสร้างแค่กระท่อมแบบธรรมชาติ ซัดไปก็สร้างใหม่แบบไม่ยากนัก....อย่างน้อยก็ยังเหลือบางส่วนให้ได้รับกลิ่นไอธรรมชาติอยู่บ้างนะค่ะ :-*



หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: Vita ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2008, 03:20:47 AM
Water Buffalo ทางใต้ นี่สีเข้มกว่าทางเหนือนะครับ.......... ;)


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แม่หอย ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2008, 12:49:37 AM
อ๊ะ.. จริงสินะ ทางเหนือก็ต้องผิวขาวนวลสวย ทางใต้ก็ต้องคมเข้มบึก.. ไม่เฉพาะคนหรอกเหรอเนี่ย..
ควายที่พังงาสวยเข้มสมบูรณ์จริงๆ ค่ะ .. มีโอกาสต้องไปดูอีก และอยากให้ช่างภาพฝีมือทั้งหลายถ้ามีโอกาสน่าจะไปบันทึกภาพงามๆ มาไว้ชมกันหน่อย ..


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2008, 03:51:47 AM
ก๊ากกกก  :-X :-X :-X :-X  วีต้ายืนยันความดำขำของควายใต้ ...แต่พี่แม่หอยมาเปรียบเทียบซะเห็นภาพชัดเจนเลยอ่ะ ... เอิ๊กกก

พี่สายชลค่ะ ...พระจันทร์เต็มดวงไม่ทันได้เห็น เห็นแต่พระอาทิตย์ขึ้นอ่ะค่ะ เลยส่งภาพมายืนยันโต้ยยยจ้าววว...ส่วนเวียนเทียน ไม่ได้ไปค่ะ ไม่มีไกด์ ไม่กล้าไปเองค่ะ กลัวทำงึ๊กๆงังๆ อายเขาอ่ะค่ะ....คราวก่อนเคยไปกับเพื่อนครั้งนึง ก็ทำเปิ่นไปรอบแล้วค่ะ...เอิ๊กกกก..

พี่ซีแมน ไม่เชื่อหรอก ไม่มีภาพมายืนยัน.... อิอิอิ ..... อ่ะ ย้อเย่นนน :D :D


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2008, 04:15:25 AM
ข้างๆ วัดป่าขาม ก็มีผู้คนเดินเข้าออกอย่างไม่ขาดสายเช่นกันในวันพระใหญ่วันนั้น...แถมใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส มีความสุขในวันบุญ  เห็นแล้วรู้สึกดีจังค่ะ :-*


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2008, 04:18:17 AM
และที่นี่ ก็เช่นกัน...ระลึกถึง...


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2008, 04:24:06 AM
พิมพ์ยิ้มของคนปายแต้ ๆ พี่แดง และเด๊กกกกๆ  จ้าวว ...


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2008, 04:42:46 AM
ไกด์กิติมศักดิ์ หลานๆ พี่แดง ที่พาสองสาวเที่ยว ไม่งั้นคงไม่ได้ไปไหนแง๋ม...เพราะขับมอเตอร์ไซด์ไม่เป็น .... เอิ๊กกกก.... เป็นที่แปลกใจด้วยอารมณ์ขำขำของคนปาย เขาว่า คนกรุงเตบไม่ไหว คนที่โน่นสิบขวบก็ขับมอเตอร์ไซด์ป๋อแล้วจ้า...


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2008, 04:43:49 AM
ปิดทริปด้วย ยิ้มพิมพ์ใจของคุณยายใจดี  :-* :-*


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: Sea Man ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2008, 09:49:29 AM
.....ภาพเก่าเป็น ฟิล์มนะน้อง..... :-*


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงปอ ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2008, 10:44:40 AM
เสียดายจัง...อยากเห็นภาพมือโปร ต้องมีภาพฉ๋วย ฉ๋วย เพียบแน่เลย .... ;D :D :D


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2008, 12:05:06 PM
แม่นแล้ว.....อยากชมภาพฝีมือน้อง Sea Man คงงามแต๊งามว่าเน้าะ..... :D

ยิ้มของคนเมืองปายดูหวานและจริงใจนะคะ....เพราะ ยิ้มทั้งปาก....ทั้งตา...ทั้งใจ.... :-*   


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: Sea Man ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2008, 08:38:42 AM
....รอปลายปีนะ....ที่ปาย....


หัวข้อ: Re: มาฆะ(บูชา) มาค่ะ มาวัดกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2008, 12:54:16 AM

3 ปีที่ผ่านมาของน้องแมลงปอ กับปายในปัจจุบันนี้ อาจต่างกันโดยสิ้นเชิง เหมือนอย่างที่สองสายไปพบไปเห็นมาเมื่อปลายปีก่อน  เพียงขับรถผ่านเข้าไปในตัวเมือง กะว่า ถ้าบรรยากาศมันโรแมนติคเหมือนที่เคยเห็นในภาพถ่ายตามนิตยสาร ก็จะพักสักคืนสองคืน แต่กลายเป็นรู้สึกเหมือนขับรถผ่านเข้าไปในตรอกข้าวสาร  ร้านรวงดูไม่เป็นชนบท  บรรยากาศไม่คลาสสิคเลย  จึงผ่านไปแม่ฮ่องสอน ที่เป็นเมืองใหญ่กว่า แต่ยังดูคลาสสิคกว่าเยอะ

ไม่เป็นไรครับ บางคนเค้าอาจจะชอบ .... ต่างจิตต่างใจ

แต่ลองมาอ่านอีก 1 ความเห็น จาก ผู้จัดการออนไลน์ ของวันนี้ดูอีกสักความเห็นนึงนะครับ ....



"ปาย"ในฝัน สวรรค์ของใคร ?

(http://pics.manager.co.th/Images/551000002529101.JPEG)
ไร่นาเขียวขจีของเมืองปายที่นับวันยิ่งถูกแทนที่ด้วยสิ่งก่อสร้างมากขึ้น

       เอ่ยถึงอำเภอ "ปาย" จังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ เวลานี้คงไม่ต้องสาธยายความใดๆให้มาก เพราะเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ในแอ่งกระทะ เป็นสถานที่ในฝันอันเงียบสงบแสนโรแมนติกของใครหลายๆคน ที่อยากสัมผัสเข้าถึงความเป็นปาย
       
       ทว่าในความเป็นจริง ปาย ทุกวันนี้จะยังเหลือความงดงามชวนฝันอีกสักเท่าไหร่กัน จากเมืองเล็กๆซ่อนตัวในขุนเขา ปายกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของภาคเหนือ
       
       แน่นอนว่าเม็ดเงินที่ฟูฟ่องย่อมทำให้ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวพอใจ ทำให้ความเจริญทางวัตถุจากการท่องเที่ยวถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว ปายจึงเต็มไปด้วยโรงแรม เกตเฮาส์ และคนแปลกหน้าจากต่างถิ่น ที่เดินทางเข้ามาปายมากขึ้นทุกที จนบดบังวิถีของคนปายเสียสิ้น
       
       สำหรับเจ้าของแผ่นดินเดิมอย่างคนปายแท้ๆ ที่เกิดและโตบนผืนแผ่นดินแห่งนี้ พวกเขามีความคิดเห็นต่อปายยุคใหม่อย่างไร นี่เป็นส่วนหนึ่งของความเห็นจากคนปายแท้ๆที่มองเมืองปายด้วยสายตาเป็นห่วงต่อบ้านเมืองของพวกเขา

(http://pics.manager.co.th/Images/551000002529102.JPEG)   
วิถีปายยุคใหม่ที่ทำมาค้าขายกันตอนกลางคืน
 
 
       อดีตที่ค่อยๆเลือนหาย
       
       หากอยากจะฟังเรื่องของปายก็ต้องถามจากคนปาย อ.เกรียงศักดิ์ คำหอม เป็นหนึ่งในคนปายโดยกำเนิด ปัจจุบันเขาทำงานในตำแหน่งของ คณะกรรมการเสริมสร้างศักยภาพความเข้มแข็งของชุมชน อ.เกรียงศักดิ์เล่าถึงปายก่อนกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างในปัจจุบันให้ฟังว่า
       
       แต่เดิมคนปายอยู่กันอย่างเงียบสงบมาก ตื่นเช้าจับ จอม เสียม ไปทำไร่ ไถนา ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เกื้อกูลกันแก่กัน คนที่อยู่ในปายมีด้วยกัน 7 ชนเผ่า เช้ามาที่ตลาดในตัวเมืองปาย เราจะเห็นชนเผ่าต่างๆใส่ชุดประจำเผ่านำข้าวของมาขาย เป็นภาพที่งดงามเย็นตา เห็นวัฒนธรรมประเพณีสะท้อนออกมาจากการแต่งกาย การพูดจา
       
       เช่นเดียวกับอีกหนึ่งความคิดของคนที่มีถิ่นเกิดและอยู่ปายมาแต่กำเนิด อย่าง เสงี่ยม วงค์หล้า ผู้ใหญ่บ้านน้ำฮู ที่มีความเห็นสอดคล้อดกับ อ.เกรียงศักดิ์ ว่า ปายในอดีตเคยงดงามสงบอย่างไร
       
       "ปายก่อนจะเจริญแบบนี้ เราเคยอยู่กันอย่างพอมีพอกินไม่ต้องดิ้นรนต่อสู้ ธรรมชาติงดงามไม่มีมลภาวะเป็นพิษชาวบ้านมีน้ำใจ ชุมชนของผมเป็นชาวไทใหญ่ก็นุ่งผ้าถุงไทใหญ่ ใส่เสื้อผ้าไทใหญ่ มีการทำนาลงแขกเกี่ยวข้าวก็ช่วยกัน คนปายใจเย็นไม่ต่างจากแม่น้ำปายเลย"ผู้ใหญ่เสงี่ยมเล่าถึงปายในอดีต

(http://pics.manager.co.th/Images/551000002529103.JPEG)   
ถนนคนเดินเมืองปายที่มากไปด้วยร้านเหล้า ซึ่งนับวันดูจะคล้ายถนนข้าวสารเข้าไปทุกที
 
 
       เมื่อปายแปรแปลี่ยน
       
       ในฐานะคนเกิดเมืองปาย อย่างบุญหล่อ อริยะวัตน์ ผู้นำชาวจีนยูนนานแห่งหมู่บ้านสันติชนลูกหลานของชาวกองพล 93 (ทหารจีนคณะชาติ) ที่ถอยร่นการสู้รบวางปืนและเลือกสร้างถิ่นฐานที่หมู่บ้านสันติชนในปาย เล่าว่า เขาเกิดที่นี่หมู่บ้านของเขาตั้งอยู่ห่างจาก เมืองปาย 4 กิโลเมตร ชื่นชอบปายมากดีใจที่มีโอกาสเกิดเป็นคนปาย
       
       ที่หมูบ้านสันติชนของเขาไม่ค่อยปัญหาใหญ่อะไรนัก เพราะนักท่องเที่ยวยังควบคุมได้และมีกฎของหมู่บ้านที่เชื่อมั่นว่าเข้มแข็งพอ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือในเขตเทศบาลเมืองมากกว่า ไปทีไรใจหายทุกครั้ง ความวุ่นวายมีมากการคมนาคมไม่สะดวก รถราเยอะ น้ำใจจากชาวบ้านเริ่มหายไป มีความเห็นแก่ตัวเข้ามาแทนที่
       
       "เมื่อก่อนที่ปายไม่เคยมีขโมยโจรผู้ร้าย จอดรถทิ้งไว้ยังไงก็ไม่หาย แต่มาวันนี้ไม่แน่"ผู้นำบุญหล่อกล่าว
       
       เดี๋ยวนี้จึงไม่แปลกเมื่อเขาพบว่า คนปายดั้งเดิมที่ส่วนใหญ่เป็นชาวไทใหญ่ที่อยู่ในตัวเมือง มักจะหนีความวุ่นวายขายบ้านออกมาอยู่สวนนอกเมืองกันหมด บ้านที่ขายคนซื้อก็คือนายทุนคนต่างถิ่น ที่นิยมเอาไปแปลงเป็นเกตเฮาส์ ที่ตอนนี้มีมากกว่า 400 แห่ง ในอำเภอเล็กๆโอบล้อมด้วยหุบเขาที่กว้างใหญ่ เจอแบบนี้เข้าไปจะอยู่ได้อย่างไรกัน
       
       สิ่งที่ผู้นำบุญหล่อเห็น คล้อยคลึงกับสิ่งผู้ใหญ่เสงี่ยมเห็นเช่นกัน ผู้ใหญ่เสงี่ยมบอกกล่าวถึงการรุดคืบของคนต่างถิ่นที่เข้ามาอาศัยในปายว่า มีชุมชนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองปาย ที่ตอนนี้คนในชุมชนจริงๆไม่มีแล้ว มีแต่คนต่างถิ่นเข้ามาอยู่ เป็นเพราะคนเฒ่าคนแก่ที่เขาเคยทำมาหากินอยู่อย่างสงบทนต่อไปไม่ไหว ต้องละทิ้งถิ่นฐานที่ ปู่ ย่าสร้างมามาแผ้วทางที่ใหม่ ด้านธรรมชาติก็ถูกคุกคาม ที่ทิ้งขยะก็ไม่มี สุดท้ายก็ต้องทิ้งใกล้ชุมชน ใกล้สนามบินเป็นปัญหาตามมาอีก
       
       ซึ่งทาง อ.เกรียงศักดิ์เองก็ได้เฝ้ามองความเปลี่ยนไปของปายไม่ต่างจากอีก 2 ท่าน อ.เกรียงศักดิ์เล่าว่า ตนเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวเข้ามาในปายครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2534 ในปีเดียวกันเริ่มมีการสร้างเกตเฮาส์ขึ้น 2 แห่ง แต่ดูเหมือนคนปายยังไม่ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่
       
       "คงไม่มีคนปายคนไหนคิดกันหรอกว่า จะมองเห็นภาพปายเป็นดังทุกวันนี้"อ.เกรียงศักดิ์กล่าว

(http://pics.manager.co.th/Images/551000002529104.JPEG)   
ป้ายโฆษณาที่พักร้านอาหารเกลื่อนกลาดในเมืองท่องเที่ยวอย่างปาย 
 
       อ.เกรียงศักดิ์เล่าต่อไป ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับปายแผ่นดินเกิดของเขาว่า เมื่อความเจริญเริ่มเข้ามาแรกๆชาวบ้านก็เห็นดีเห็นงามด้วย เพราะในเชิงบวกทางเศรษฐกิจชาวบ้านมีอาชีพเสริม แต่พอนานไปคนมามากขึ้นก็เริ่มรู้สึกกันว่าค่าครองชีพสูงขึ้น
       
       การไหลบ่าของสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นโรงแรม เกตเฮาส์ เริ่มผุดขึ้น จนในที่สุดสิ่งดีๆที่เคยเป็นปายกลับเสื่อมสลายถูกแทนที่ด้วยสิ่งเร้าใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น ล่าสุดอย่าง "เร็กเก้" ดนตรีที่ไม่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่นายทุนนำเข้ามา       
       "ดนตรีเร็กเก้ในตอนนี้ผมคิดว่าเป็นจุดเปราะบางที่ต้องเร่งแก้ไขของปาย นายทุนที่นำเข้ามาเคยถามกันสักคนคำไหมว่าคนปายต้องการหรือเปล่า มาดีดกีตาร์ตามถนนคนเดินบ้าง มาดิ้นตามถนนบ้าง มองแล้วมันทุเรศตา ปายวันนี้จึงเหมือนกับต้นไม้โดนปุ๋ยเร่งแล้วจะหยุดชะงัก จนในที่สุดปายจะสูญเสียรูปแบบวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ดั้งเดิมจนหมดสิ้น"อ.เกรียงศักดิ์กล่าว
       
       "วิถีชีวิตที่ตื่นแต่เช้านอนแต่หัวค่ำก็ไม่มีแล้ว ต้องนอนดึกดื่น เนื่องจากอารยะธรรมตะวันตกอย่างฝรั่งเข้ามาเราต้องการพักผ่อนเขาเที่ยว พอถึงตอนที่เราทำงานเขาพักผ่อน ความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อเราต้องการพักผ่อนเขาก็สร้างสิ่งที่อึกทึกคึกโครมน่ารำคาญเกิดขึ้น แต่พอถึงเวลากลางวันเขาจะนอนเราทำงาน เขาก็บ่นว่าเรารบกวนเขา เขาไม่ได้พักผ่อน ทั้งที่เราเป็นคนพื้นที่บ้านเราแท้ๆยังต้องยอมเขาขนาดนี้"

(http://pics.manager.co.th/Images/551000002529105.JPEG)   
อีกหนึ่งสถานที่ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นร้านค้ารองรับนักท่องเที่ยว 
 
       "ที่กระแสเหล่านี้ไหลเข้ามาในปายง่ายๆ เพราะคนไทยระยำบางกลุ่มเห็นแก่เงิน อย่างประเพณีเดือนสิบสองเราลอยกระทง เพราะเป็นประเพณีเราถึงทำเราจุดโคมลอยขึ้นฟ้า แต่รู้ไหมว่าเดี๋ยวนี้ถ้าฝรั่งอยากเห็นตอนไหนก็จุดให้เห็น แล้วถามว่าเป็นการทำลายประเพณีไหม"อ.เกรียงศักดิ์กล่าวด้วยความคับแค้นใจ
       
       ถึงตอนนี้ปายยังเป็นสวรรค์ในฝันของใครอยู่ไหม?
       
       แน่นอนเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาดื่มด่ำกับกลิ่นไอแห่งปายและผู้ประกอบในท้องถิ่นที่มีรายได้อย่างงามจากการท่องเที่ยว แต่คงไม่ใช่สวรรค์ของคนปายที่แท้จริงสักเท่าไหร่

       
       นายทุน
       
       นายทุนดูเหมือนจะตกเป็นจำเลยของคนปายไปเสียแล้ว อย่างน้อยก็ในสายตาของ อ.เกรียงศักดิ์ นายทุนที่เข้ามาในปายล้วนแต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากต่างที่ ทั้งกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ต่างชาติก็มีจำนวนไม่น้อย การเข้ามาของนายทุนต่างชาติ คือ การอาศัยแต่งงานกับสาวชาวเขาที่มีสัญชาติไทยเป็นใบเบิกทางเรื่องการลงทุนข้ามชาติ อย่างที่ อ.เกรียงศักดิ์เรียกว่า "เป็นโรคผัวฝรั่ง"
       
       "ตอนนี้เผ่าที่สาหัสกว่าเพื่อน ก็คือเผ่าที่ขึ้นต้นด้วยตัว L ลงท้ายด้วยตัว U เกือบทั้งหมู่บ้านเป็นโรคผัวฝรั่งกันหมด เรียนกันยังไม่เท่าไร ก็ออกไปแต่งงานกับฝรั่ง แล้วมาสร้างเกตเฮาส์อยู่ในปายบ้างในหมู่บ้านเขาบ้าง ตอนนี้ไปดูได้เลย เผ่าที่ว่านี้หาบ้านเรือนที่เป็นแบบดั้งเดิมของเผาไม่มีแล้ว มีแต่บ้านทรงยุโรปทันสมัย พวกนี้วันดีคืนดีผีลง ก็มากอดมาจูบกันกลางถนนคิดว่าโก้เก๋ นี่คือผลของเมืองที่เติบโตอย่างผิดรูปแบบ"อ.เกรียงศักดิ์เล่าให้ฟัง
       
       ด้านผู้ใหญ่เสงี่ยมก็เล่าถึงนายทุนที่เข้ามาในปายให้ฟังว่า ณ ตอนนี้บ้านน้ำฮูที่เคยสงบก็อาจจะกำลังถูกรุกคืบจากนายทุนเช่นกัน ปัญหาของบ้านน้ำฮูมาจากนายทุนชาวไทย ที่เริ่มเข้ามาสร้างโรงแรม เกตเฮาส์กันบ้างแล้ว
       
       "มีโรงแรมแห่งหนึ่งกำลังก่อสร้างในหมู่บ้านน้ำฮู เป็นคนไทยด้วยกันแท้ๆ แต่แค่ชาวบ้านเดินผ่านเข้าไปดู เขายังตวาดเลย คนปายจริงๆทุกวันนี้ก็เป็นได้แค่พนักงานเสิร์ฟหรือลูกจ้างเขาเท่านั้น ส่วนเจ้าของกิจการทั้งหลายเป็นใครก็ไม่รู้"ผู้ใหญ่กล่าวอย่างน้อยใจในชะตากรรมของคนปาย

(http://pics.manager.co.th/Images/551000002529106.JPEG)   
สีสันความเป็นเมืองที่รุกคืบวิถีคนปาย 
 
 
       จุดอิ่มตัว       

       สิ่งหนึ่งที่คนปายทั้ง 3 คน เห็นพ้องตรงกัน คือ อีกไม่นานปายจะถึงจุดอิ่มตัว สำหรับคนต่างถิ่นที่เข้ามาย่อมย้ายกลับไปถิ่นเดิมที่จากมาได้ แต่สำหรับคนปายแล้วพวกเขามีทางเลือกอื่นหรือ ไม่ว่าปายจะเป็นอย่างไรพวกเขาจะหนีจากแผ่นดินเกิดได้หรือ ณ วันนี้พวกเขาจึงได้เพียงแต่รักษาสิ่งที่เหลืออยู่ไม่ให้จางหายอย่างรวดเร็วเท่านั้น
       
       "อยากเห็นปายเป็นศูนย์รวมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี ผมเคยบอกหลายครั้งว่า ผู้ที่จะพาปายรอดคือผู้นำท้องถิ่นและชุมชน ไม่ใช่ผอ.ทั้งหลายที่อยู่แต่ในห้องแอร์ มวลรวมของปายเป็นภาพที่ใหญ่และกว้าง ผมทำได้แค่ปกป้องหมู่บ้านของผมเท่านั้น อย่างตอนนี้เรามีกฎของหมู่บ้านจะไม่ขายที่ดินให้ต่างชาติ"ผู้นำบุญหล่อแห่งบ้านสันติชนกล่าว
       
       ในขณะที่ผู้ใหญ่เสงี่ยมเองก็บอกว่า ทุกวันนี้ในเวทีการประชุมของหมู่บ้าน ตนก็ได้พยายามบอกทางผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลาน อย่าเห่อตามสิ่งที่เข้ามาเพราะสถานะ การใช้ชีวิตของเราต่างจากต่างชาติจะวิ่งตามไม่ได้ ไม่อยากเห็นภาพการย้ายบ้านเรือนเกิดขึ้นที่บ้านน้ำฮู
       
       ส่วนทาง อ.เกรียงศักดิ์ เองก็ยังคงยืนยันที่จะร่วมดูแลอนุรักษ์สิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในปายต่อไป สิ่งหนึ่งที่ อ.เรียกร้องคือความช่วยเหลือจากภาครัฐ
       
       "หน่วยงานรัฐความเร่งจัดการตั้งบทบัญญัติขึ้นมา ไม่ใช่ว่าพอโดนม่านสีม่วงม่านสีเทาก็ชะงัก ได้แต่บอกว่าทำอะไรไม่ได้ สงสารคนปายเถอะเกิดที่นี่ก็จะตายที่นี่ไม่คิดย้ายไปไหน เพียงแต่ว่าอยากให้ทรัพยากรบ้านเราลูกหลานเราได้กินได้ใช้ เรียนรู้สิ่งที่ถูกที่ควร ไม่กลายเป็นอะไรก็ไม่รู้แบบนี้ ถ้าวันที่ปายอิ่มตัวเต็มที่มาถึงคนที่เดือดร้อนก็ชาวบ้านนี่เอง" อ.เกรียงศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย
       
       และนี่คือเสียงส่วนหนึ่งจากคนปายแท้ๆที่มองเมืองปายถิ่นเกิดของพวกเขาด้วยความเป็นห่วงไปในทิศทางเดียวกัน(แน่นอนว่าย่อมมีคนเห็นแตกต่าง) ซึ่งหวังว่าเสียงเหล่านี้จะได้ยินไปถึงนายทุน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ภาครัฐ –หน่วยงานที่ดูแลด้านการท่องเที่ยวในแม่ฮ่องสอน ให้หันกลับมามองเมืองปาย พร้อมประคองเมืองนี้ให้เดินไปบนเส้นทางสายเมืองท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและดีกว่าทุกวันนี้