|
หัวข้อ: อนุรักษ์'โลมาอิรวดี'วางโทษจำคุกผู้ล่า เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2008, 01:14:13 AM อนุรักษ์'โลมาอิรวดี'วางโทษจำคุกผู้ล่า หลายหน่วยงานผนึกกำลังกระตุ้นชาวบ้านร่วมอนุรักษ์โลมาอิรวดีฝูงสุดท้ายในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา จังหวัดออกประกาศผู้ใดล่าหรือครอบครอง มีโทษจำคุก 4 ปี เผยเป็นสัตว์คุ้มครองที่สมเด็จพระราชินีทรงรับไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นางวราภรณ์ ชวพงษ์ ประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ว่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มอ. ร่วมกับชุมชนเร่งแสวงหาแนวทางอนุรักษ์ปลาโลมาอิรวดี บริเวณลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา โดยร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์อนุรักษ์โลมาขึ้นที่วัดป่าลิไลย์ ต.ลำปำ อ.เมืองฯ จ.พัทลุง เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดการดูแลลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ทั้งนี้ วิธีการที่จะอนุรักษ์ปลาโลมาฝูงสุดท้ายนั้น กลุ่มอนุรักษ์ร่วมกับชาวบ้านได้กำหนดมาตรการอนุรักษ์ประกอบด้วย 1.ให้มีการวางแนวทุ่นบริเวณลับห้า อยู่ทางด้านเหนือเกาะใหญ่ พื้นที่ 100 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งหากินของโลมาเพื่อไม่ให้ชาวประมงวางอวนในบริเวณดังกล่าว 2.ให้มีการทำแพชั่วคราวบริเวณที่มีการวางทุ่น เพื่อให้ชาวประมงได้เฝ้าระวังหากโลมาติดอวนสามารถช่วยเหลือชีวิตได้ 3.ให้ชาวประมงนอกเขตวางทุ่นจัดเวรยามเฝ้าระวัง นอกจากนี้จะจัดกลุ่มอาสาสมัครเพื่อเป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่และแจ้งเหตุได้ทันท่วงที รวมทั้งจัดทำจะโครงการค่ายเยาวชนรักทะเลไทยสำหรับนักเรียนนักศึกษาระดับมัธยมและอาชีวศึกษา ให้ร่วมกันดูแลโลมาเอาไว้ นางวราภรณ์กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดพัทลุงได้มีการออกประกาศจังหวัดพัทลุง ห้ามมิให้ผู้ใดล่า ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองโลมาอิรวดี และซากของโลมาอิรวดี หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามกฎหมายไทย โลมาอิรวดีได้รับการจัดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 138 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมีพระราชประสงค์ให้ช่วยกันอนุรักษ์โลมาอิรวดีสัตว์หายาก พร้อมทั้งทรงรับไว้เป็นสัตว์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ "อดีตที่ทะเลสาบลำปำ อ.เมืองฯ จ.พัทลุง มีปลาโลมาอิรวดีเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันกำลังลดลงและหวั่นว่าจะสูญพันธุ์ สาเหตุเพราะสภาพนิเวศธรรมชาติเปลี่ยนไป สัตว์น้ำที่เป็นอาหารลดลง การถูกล่า และปัญหาการติดอวนของชาวประมง" นางวราภรณ์กล่าว จากการเฝ้าติดตามของกลุ่มนักอนุรักษ์พบว่า โลมาอิรวดีจะออกมาให้พบเห็นบ่อยๆ บริเวณร่องกลางทะเลสาบที่มีความลึกประมาณ 2.4-4 เมตร ที่บ้านลำปำ อ.เมืองฯ จ.พัทลุง เกาะสี่เกาะห้า อ.ปากพะยูน และเกาะใหญ่ อ.กระสินธุ์ จ.สงขลา. จาก : ไทยโพสต์ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2551 หัวข้อ: Re: อนุรักษ์'โลมาอิรวดี'วางโทษจำคุกผู้ล่า เริ่มหัวข้อโดย: หอยกะทิ ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2008, 01:43:47 PM ตามกฎหมายไทย โลมาอิรวดีได้รับการจัดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 138 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมีพระราชประสงค์ให้ช่วยกันอนุรักษ์โลมาอิรวดีสัตว์หายาก พร้อมทั้งทรงรับไว้เป็นสัตว์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ อ่านแล้วสงสัยนิดๆครับ เดิมโลมาอิรวดีก็เป็นสัตว์คุ้มครอง อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง ก็โทษจำคุก 4 ปี หรือปรับ 40,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ ก็เลยงงว่า เป็นสัตว์คุ้มครองในพระบรมราชินูปถัมภ์ แล้วจะมีการเพิ่มโทษ หรือมีมาตรการใดๆ เพิ่มเหรอครับ ? หรือเมื่อประกาศแบบนี้ออกไปสู่ชาวบ้านแล้ว จะมีความระวังในการทำประมง การทำกิจกรรมชายฝั่ง หรือการแล่นเรือ เพราะผมว่าโลมาอิรวิดี ตายจากการประมงโดยบังเอิญ (โป๊ะ อวน) มากกว่าการล่าเสียอีก ??? ความคิดผมนะ หัวข้อ: Re: อนุรักษ์'โลมาอิรวดี'วางโทษจำคุกผู้ล่า เริ่มหัวข้อโดย: แม่หอย ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2008, 03:07:12 PM ไม่ต้องงงหรือคิดมากค่ะ .. โลมาอิรวดีเป็นสัตว์คุ้มครองตามกฏหมายอยู่แล้ว แต่โดยทั่วไปก็อย่างที่ทราบๆ กันอยู่ แม้เป็นสัตว์คุ้มครอง ก็อาจไม่ค่อยมีใครใส่ใจดูแลอนุรักษ์จริงจัง .. เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้ทรงแสดงความห่วงใย มีพระประสงค์ให้ช่วยกันอนุรักษ์ดูแลรักษาไว้ ก็จะเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนให้ความร่วมมือในการอนุรักษ์อย่างจริงจังขึ้น .. ส่วนตัวบทกฏหมายก็ยังมีคงเดิมอยู่แหละค่ะ ..
หัวข้อ: Re: อนุรักษ์'โลมาอิรวดี'วางโทษจำคุกผู้ล่า เริ่มหัวข้อโดย: หอยกะทิ ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2008, 06:56:37 PM ขอบคุณพี่แม่หอยครับ ที่ช่วยเตือนผม คิดมากไปเองครับ :(
|