กระดานข่าว Save Our Sea.net

                             
                               Mabuhay.....Anilao, Philippines

เราทิ้ง Puerto Galera ไว้เบื้องหลัง.......


เรือบังก้าลำที่พาเรามาส่งที่ Puerto Galera กลับมารับเราที่ Club Mabuhay อีกครั้ง  แล้วแล่นตัดคลื่นมุ่งหน้าไปยัง Balai Resort ที่ตั้งอยู่ในเมือง Anilao....เมืองชายทะเลเล็กๆที่ตั้งอยู่ที่ปลายแหลม Calumpan Peninsula ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของอ่าว Batangas



แต่แทนที่เราจะต้องนั่งเรือเข้าไปที่ Batangas แล้วนั่งรถต่อไปยัง Anilao เราก็ให้เรือแล่นตรงไปส่งเราที่ Balai Resort โดยตรง ซึ่งจะประหยัดเวลาไปได้เกือบชั่วโมง




ภาพแผนที่จาก.....http://www.travelblog.org/Asia/Philippines/Batangas/Anilao/map-anilao.html

ลมที่พัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ทำให้เกิดคลื่นลูกโตเกือบเมตร  แต่เรือก็หาได้สะทกสะท้านไม่  ยังคงวิ่งตัดคลื่นฉับๆมุ่งขึ้นเหนือไปยังแหลม Calumpan ที่เห็นอยู่เบื้องหน้า


วันนี้ลมดี...จึงมีเรือใบขนาดใหญ่มาแล่นแข่งกัน.....


น่าสนุกจังค่ะ...

เรือเริ่มแล่นผ่านช่องแคบระหว่างเกาะ Bonito และเกาะ Malajibomanoc


เกาะ Bonito.....เขียวขจีด้วยแมกไม้  มีบ้านเรือนผู้คนสร้างจากชายหาด ไล่ขึ้นไปจนถึงเชิงเขา


ส่วนเกาะ Malajibomanoc .....เป็นเกาะเล็กๆที่มีหาดทรายขาวสะอ้าน  มีอาคารเพียงสองหลังที่ดูเหมือนจะเป็นรีสอร์ท พื้นที่ที่เหลืออีกไม่มากใช้ปลูกต้นมะพร้าวและต้นไม้ให้ร่มครึ้ม

ด้านขวามือ.....เราเห็นเมือง Batangas อยู่ที่ชายฝั่งลิบๆ 


ถัดไปที่ฉากหลัง....เป็นภาพ ภูเขาไฟ Taal ซึ่งปากปล่องกลายเป็นทะเลสาบใหญ่ ที่มีปากปล่องภูเขาไฟเล็กๆอีกลูกซ้อนอยู่ภายใน  และในปากปล่องนั้นก็มีทะเลสาบซ่อนอยู่อีกแห่งหนึ่ง  เรียกว่าทะเลสาบซ้อนอยู่ในทะเลสาบ  ซึ่งเรียกรวมๆกันว่า Taal Lake


เราดีใจกันมากที่ได้เห็นภูเขาไฟ Taal เพราะหลังจากดำน้ำที่ Anilao แล้ว เราจะไปเที่ยวที่ Taal กันต่อ....  

แหลม  Calumpan ปรากฎให้เห็น ณ. เบื้องหน้าเรา.....


เมื่อ 5 ปีที่แล้ว....แหลม Calumpan ดูเขียวขจีด้วยไม้ใหญ่น้อย  แต่วันนี้ที่เราได้เห็น  ความเขียวขจีลดน้อยลง แถมมีสิ่งปลูกสร้างหลังมหึมาตั้งอยู่ที่หน้หาดด้านเหนือ ซึ่งเราได้ทราบในภายหลังว่าเป็นโรงแรมดังระดับ 5 ดาวแห่งใหม่ของแหลม Calumpan แห่งเมือง Anilao

เรือเริ่มแล่นเข้าสู่ช่องแคบ Maricaban ซึ่งด้านหนึ่งคือเกาะ Maricaban อีกด้านหนึ่งคือแหลม  Calumpan


ระหว่างที่เรือแล่นมาถึงหัวแหลม Calumpan.....เราเห็นผิวน้ำหมุนเป็นวงกลม แสดงให้เห็นถึงสภาพของกระแสน้ำรุนแรงที่ไหลวนเป็นวง คล้ายกับน้ำที่หมูนอยู่ในเครื่องซักผ้า  ถ้าเราดำน้ำตรงนี้ละก็ ตัวเราคงได้หมุนเป็นลูกข่างแน่ๆ...


ที่ชายฝั่ง....เราเริ่มเห็นอาคารสร้างอยู่ติดๆกันหลายหลัง  และหนึ่งในนั้น คือ Balai Resort ....จุดหมายปลายทางของเรา

นี่ไงคะ.....Balai Resort  

เรือเข้าไปจอดเสียบหาดหน้ารีสอร์ต....


สองสายเคยมาดำน้ำที่หน้า Balai มาก่อน  และชอบรีสอร์ตแห่งนี้มาก  ครั้งนั้นเราจำได้แม่นว่า อาคารของรีสอร์ตที่มีหอคอยเป็นสัญญญลักษณ์นั้นทาสีเหลืองสดใส  ทำไมตอนนี้อาคารจึงเปลี่ยนเป็นสีขาวไปซะแล้วก็ไม่ทราบ ทำให้มองดูแล้วออกจะธรรมดาๆไปหน่อย ไม่สวยเด่นเหมือนเคย

เจ้าหน้าที่รีสอร์ตออกมาต้อนรับและขนกระเป๋าเสื้อผ้าและอุปกรณ์ดำน้ำของเราขึ้นไปวางอย่างเรียบร้อยบนห้องอาหารที่เป็นห้องรับรองแขกไปในตัว


น้ำมะม่วงแสนอร่อยถูกนำมาให้ดื่ม.....ช่างเป็นการต้อนรับที่ชื่นใจจริงๆ


เราชอบการจัดแต่งสถานที่ของที่นี่มาก เพราะดูโปร่ง...โล่ง....สบายๆ  และการนำของพื้นเมืองของฟิลิปปินส์มาตกแต่งนั้น ทำได้ลงตัว และดูมีรสนิยม...

มุมรับประทานอาหารและมุมนั่งเล่นของ Balai  เก๋ไก๋มากค่ะ....

มุมกาแฟที่มีให้เราดื่มได้ตลอด 24 ชั่วโมง.....

สิ่งที่สายชลชอบมากที่สุดใน Balai เห็นจะเป็นต้นไม้น้อยใหญ่ที่ให้ร่มเงาและประดับประดาอยู่ทั่วรีสอร์ตแห่งนี้


ที่เด่นเป็นสง่าที่สุดต้องยกให้ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาสยายคลุมเรือนรับรองและห้องอาหารของรีสอร์ต  ซึ่งไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ดูงามตาไปหมด

อยากรู้ว่าต้นไม้ใหญ่ที่ทิ้งใบร่วงหล่น เหลือไว้เพียงกิ่งก้านและลูกที่มีลักษณะคล้ายลูกยางขนาดเล็กๆ หมุนคว้างคล้ายกับใบพัดเฮลิคอปเตอร์นั้น ชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร


ช่างเป็นต้นไม้ที่งามถูกใจเสียจริงๆ.....

ถาม Larry....หุ้นส่วนใหญ่ของรีสอร์ต ว่าต้นไม้นั่นชื่ออะไร  เขาตอบมาเป็นชื่อพื้นเมือง เกิดฟังไม่ออกซะนี่....น่าเจ็บใจ

แต่ดอกไม้สีแดงๆนี่ฟังชื่อออกและจำได้แม่นยำ.....


Larry บอกว่าชื่อดอก "Bangkok" พอสายชลทำหน้างงๆ  เขาก็ยังย้ำว่า "คนฟิลิปปินโนเขาเรียกดอกสีแดงๆนี่ว่าดอก Bangkok เพราะนำต้นพันธุ์จากเมืองบางกอกไปปลูกในฟิลิปปินส์"


สายชลดูไปดูมา.....ฮ้าไฮ้......บ้านเราเขาเรียกว่าดอก "ชวนชม" นั่นเอง


รีสอร์ตปลูกต้นชวนชมไว้เป็นแถวยาวตรงบริเวณเชิงบันไดขึ้นไปบริเวณบ้านพักเชิงเขาและถนนหลังรีสอร์ต  ติดกับลานแต่งตัวและช่องวางอุปกรณ์ดำน้ำ....

ต้นไม้นี่บ้านเราแถวทางใต้ก็มีให้เห็น.....


เตยปาหนัน ต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านไสวอยู่ที่ริมห้างวางอุปกรณ์ดำน้ำติดชายน้ำ  ใบที่มีหนามแหลมถูกตัดเล็มอย่างสวยงาม เพื่อไม่ให้บาดนักดำน้ำที่ต้องเดินผ่านไปผ่านมาให้เจ็บตัว

ชมสวนซะเพลิน....ถึงเวลาเข้าห้องพักแล้วค่ะ....


ห้องพักของ Balai มีสองแบบ คือ แบบบังกาโล ที่มีอยู่เพียงสองหลัง อยู่ด้านล่างติดกับห้องอาหารและชายหาด  กับเรือนแถวที่อยู่บนเชิงเขา ซึ่งมีอยู่หลายห้อง


น้อง Wayfaring ที่เป็นผู้ติดต่อหาที่พักและช่วยจัดการเรื่องแบ่งกลุ่มดำน้ำ และที่พักให้กับเรา  เห็นว่าสองสายแก่แล้วเลยให้พักในบังกาโลหลังหนึ่ง  ส่วนอีกหลังยกให้น้องเบาหวิวและน้อง Sea Man ผู้อาวุโสรองลงมา 


สองสายเดินลงบันไดห้องอาหารไปยังบังกาโลที่พัก....


อืมมมม....ต้นไม้ปลูกไว้ร่มครึ้ม จนทำให้มองแทบไม่เห็นบังกาโลที่พักของเรา....  

ส่วนน้องๆคนอื่นๆได้รับเกียรติให้แสดงความหนุ่มความสาวด้วยการขึ้นไปพักบนเรือนพักบนเชิงเขา.....


แห่ก....แห่ก....ถ้าเป็นสองสาย  คงจะเป็นลมตอนปีนบันไดขึ้นๆลงๆแน่ๆเลยล่ะค่ะ....

ไม้ไผ่ลำโตที่ถูกผ่าซีกเรียงกันสามลำเป็นขั้นบันไดขึ้นบ้านนั้นช่างเก๋ไก๋มากๆ  ขึ้นไปแล้วก็เจอระเบียงไม้ไผ่หน้าห้องพัก  ที่มีโต๊ะและเก้าอี้ไม้แบบให้นักเรียนใช้ตั้งไว้บนระเบียง....

ดูดิบๆ....แต่ชอบมากค่ะ...

เปิดประตูห้องเข้าไป.....


อุแม่เจ้า.....เตียงนอนคู่ปูผ้าสีสดใสถูกวางไว้ชิดกับฝาด้านหนึ่ง   


ข้างฝาเหนือหัวนอน...มีภาพฝูงปลาเขียนแบบบาติกใส่กรอบรูปไม้ไผ่เก๋ไก๋แขวนไว้ให้ชม


อิๆ....แค่เตียงนอนก็กินพื้นที่เกือบจะเต็มห้องเล็กๆซะแล้ว....ยังดีที่มีที่ว่างอีกฟากหนึ่งให้ไว้สำหรับใช้วางสมบัติร่วมกับทางเดินเข้าห้องน้ำ.....   

ที่ชอบใจก็ตรงห้องน้ำที่ทาสีเหลืองสดใส  หลังคามุงจากครึ่งหนึ่ง  อีกครึ่งเป็นกระเบื้องใสที่แสงลอดผ่านให้ความสว่างไสวตามธรรมชาติ


ที่แขวนผ้าและชั้นวางของใช้ทำด้วยไม้สไตล์เก๋ไก๋นั่นก็ทำให้ห้องน้ำดูน่าใช้มากขึ้น....

หลังเก็บของเข้าที่เข้าทางแล้ว....เราก็นำอุปกรณ์ดำน้ำไปใส่ในช่องใส่อุปกรณ์มนโค้ง ที่ทาสีน้ำเงินที่ทำเป็นช่องใหญ่ๆสองชั้นไม่มีฝาปิด  ซึ่งสามารถใส่ Gearbag เข้าไปเก็บได้ทั้งใบในแต่ละช่อง


คุณสายน้ำมากระซิบบอกว่า.....เห็นช่องเก็บอุปกรณ์ของรีสอร์ตแห่งนี้แล้ว  คิดถึงช่องลักษณะนี้ที่อยู่ตามวัดในเมืองไทยทุกที.....


บรี๋อออออ......

ห้องเก็บอุปกรณ์ดำน้ำของทางรีสอร์ต และห้องอัดถังอากาศที่สร้างด้วยไม้ไผ่ อยู่ไม่ไกลจากช่องเก็บอุปกรร์ดำน้ำของแขกที่มาพักนัก


สายชลเข้าไปดูห้องเก็บอุปกรณ์ของรีสอร์ตแล้ว ชอบใจ  เพราะสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก  มุมหนึ่งเป็นที่ตั้งของถังอ๊อกซิเจนสองถังพร้อมอุปกรณ์การให้อ๊อกซิเจน เตรียมพร้อมไว้ให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน

น้องๆที่จะบินตามมาจากเมืองไทยอีก 14 คน ยังเดินทางมาไม่ถึง....พวกเราที่เดินทางมาก่อน 7 คน เลยเดินกินลมชมวิวในรีสอร์ตรอพรรคพวกกันอย่างมีความสุข


สายชลจำได้แม่นว่า จุดดำน้ำด้านซ้ายของรีสอร์ตที่เราเคยมาดำน้ำนั้น เรียกว่า Twin Rocks ซึ่งเป็นจุดดำน้ำชื่อดังของ Anilau ที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์มาก


เมื่อเดินไปดูที่หัวแหลมด้านนั้น ก็พบป้ายประกาศว่า บริเวณนี้เป็นเขตสงวนพันธุ์พืชและสัตว์ทะเลไปแล้ว....


ข้อห้ามที่เขียนไว้บนกระดานน่าจะนำมาใช้กับเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเล และเขตรักษาพืชพันธุ์ของเมืองไทยบ้างนะคะ....

เราเห็นเรือบังก้าพานักดำน้ำมาลงดำน้ำที่นี่อยู่ตลอดเวลา.....

ใต้ถุนอาคารห้องอาหาร เป็นจุดที่ใช้สำหรับการประชุมสรุปแผนการดำน้ำและการนั่งพักผ่อนหลังการดำน้ำ....


สาวๆที่เดินชมรีสอร์ตจนเหนื่อยแล้ว ใช้ห้องใต้ถุนนี้มานั่งพักผ่อนพูดคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน....

นั่งคุยกันได้พักเดียว.....สาวหนึ่งขอไปนอนพักบนห้อง  ส่วนอีกสามสาว  ยึดศาลาท่าน้ำหน้าห้องพักของสองสาย นอนคุยกันอย่างออกรส.....  

คุยกันจนเบื่อแล้ว....ก็เลยมารวมตัวกันอยู่ที่ระเบียงห้องอาหาร  เล่นเป็นนางแบบถ่ายภาพงามๆกันดีกว่า


หนูหวาน Sugary ที่หวานสมชื่อ.....

หนูอุ้ม Sky....สาวสวยประจำ SOS

หนูเบิ้ด....จิตรกรสาวผู้รวยอารมณ์ขัน...

หนูติ๋ว ตุ๊กแกผา.....พยาบาลสาวลูกคู่หนูเบิ้ด

สามสาวกับน้องติ่ง Coffee....กาแฟที่ต้องใส่น้ำตาลหวานๆเสมอ...

หนูเบิ้ดกับหนูติ๋วขอแอบอิงคุณสายน้ำ.....พี่ชายที่แสนดีของน้องๆ...

ตะวันเริ่มคล้อยต่ำลง.....


ห้าโมงเย็น....กลุ่มหนุ่มสาวที่ตามมาจากกรุงเทพฯ ก็เดินทางมาถึง....


เอ...หนูอุ้มมาถึงก่อน  หรือเพิ่งมาถึงนะ....

กระเป๋าสัมภาระของผู้มาใหม่ถูกนำมาวางที่ห้างวางของริมชายน้ำ


กระเป๋าเสื้อผ้าและเสบียงถูกยกไปไว้ตามห้องพักของแต่ละคน  ส่วนกระเป๋าอุปกรณ์ดำน้ำถูกบรรจุลงในช่องเก็บอุปกรณ์ดำน้ำ

พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง....ต่ำลง.....

มีเรือจากรีสอร์ตอื่นมาจอดเตรียมดำน้ำตอนโพล้เพล้ที่หน้า Balai.....

ตะวันก่อนตกน้ำในวันนั้น  นำมาซึ่่งความสุขใจ......เหมือนเราได้มาอยู่ใน บ้านของเรา หรือ Balai ในภาษาตากาล็อก อย่างแท้จริง.....

เช้าวันที่ 12 เมษายน 2552


เราตื่นกันแต่เช้า เพื่อเตรียมตัวดำน้ำวันแรกใน Anilao


หลังอาหารเช้าที่มีให้เลือกหลายอย่างและแสนอร่อย  เราเตรียมตัวลงไปหา Dive Leader ของแต่ละกลุ่ม แล้วประกอบอุปกรณ์จนเรียบร้อยเพื่อให้เขาและลูกเรือนำไปขึ้นเรือบังก้าของแต่ละกลุ่มที่ได้จัดไว้และมีการบรี๊ฟกันไว้ตั้งแต่หลังอาหารค่ำของคืนก่อนหน้านั้น

เมื่อคนพร้อม....อุปกรณ์พร้อม.....ก็ถึงเวลาไปดำน้ำกันแล้วค่ะ....

     

จุดดำน้ำของ Anilao ที่รู้จักกันดีนั้นมีอยู่กว่า 20 จุด  มีทั้งที่อยู่บริเวณปลายแหลม Culumpanทั้งด้านตะวันออกและตะวันตก......เกาะ  Maricaban.....เกาะ Caban....เกาะ Sombrero.....เกาะ Lipo.....เกาะ Bonito  และ เกาะ Malajibomanoc


พวกเรา 20 คน จะใช้เรือบังก้าจำนวน 4 ลำ เพื่อเดินทางออกจากรีสอร์ตไปดำน้ำวันละ 3 ไดฟ์  โดยเรือ 2 ลำจะแล่นตามกันไปดำน้ำที่จุดเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือกันได้ในกรณีฉุกเฉิน

ในแต่ละวัน.....หากเป็นการดำน้ำในจุดอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ใกล้รีสอร์ต  เรือจะออกไปดำน้ำสองไดฟ์ แล้วจึงกลับมาทานข้าวเที่ยงที่รีสอร์ต ก่อนจะออกไปดำน้ำในจุดที่ใกล้ๆกับรีสอร์ตอีกหนึ่งไดฟ์

พวกเราสามารถจะดำน้ำแบบ Beach Dive  หรือ Shore Dive   ได้ไม่จำกัดไดฟ์   แต่หลังหกโมงเย็นไปแล้วเราจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำน้ำมากน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนนักดำน้ำที่ลงดำ Night Dive ในแต่ละกลุ่มดำน้ำ


ภาพแผนที่.....จาก The Dive Site of Philippines by Jack Jackson  

#13 Layag Layag


เรือแล่นตัดคลื่นที่สูงเกือบเมตรตรงไปยังเกาะ Caban ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆที่อยู่ปลายแหลมด้านเหนือของเกาะ Maricaban ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดที่อยู่หน้าเมือง Anilao


สมาชิกในเรือของเรามี 5 คน คือน้องหนิ่ง....น้องเบิ้ด.....น้องติ๋ว....และสองสาย โดยมี Burting.....หนุ่มตากาล็อกตัวดำ....ล่ำ...เตี้ย ที่มีหน้าเปื้อนยิ้ม ยิงฟันขาวตลอดเวลา ทำหน้าที่เป็น Dive Leader ของเรา

เขาบอกเราว่าเช้าวันนี้ จะพาไปดำน้ำที่เกาะ Caban สองไดฟ์  ก่อนจะกลับไปทานข้าวเที่ยง  ระหว่างพัก จะมีน้ำชากาแฟให้เราดื่มรองท้อง


เพียง 20 นาที...เรือก็ไปจอดอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ Caban ที่ลมสงัด ทำให้น้ำบริเวณนั้นเรียบเหมือนกระจก  Burting บอกเราว่าจุดดำน้ำนี้เรียกว่า Layag Layag  เป็นจุดดำน้ำง่ายๆ สภาพเป็นแนวปะการังลาดลึกจาก 5 เมตร ลงไปจนถึงความลึกราว 18 เมตร  ช่วงนี้กระแสน้ำอ่อนมาก  แต่ก็ขอให้ระวังไม่ให้ดำน้ำออกไปนอกแนวปะการัง

เราแต่งตัวและหงายหลังลงน้ำทันทีที่พร้อม  เมื่อลอยตัวขึ้นก็ต้องรีบเอามือกันศรีษะไว้ เพื่อไม่ให้ไม้ไผ่ที่ใช้เป็นขาแมงมุมกันโคลงของเรือฟาดหัวเรา


คราวนี้ไม่มีใครร้องว่าหนาวสักคน......เมื่อทุกคนพร้อม เราก็ทิ้งตัวลงสู่ใต้ทะเลทันที


ดงปะการังอ่อนพันธุ์ Xenia sp. และเพรียงหัวหอม แย้มยิ้มคอยเราอยู่.....

ช่อดอกไม้แบบนี้มีให้เห็นทั่วไปที่ใต้ทะเลของ Layag Layag ค่ะ.....

ทากสวยๆก็มีให้ดู....


คุณหนูดี Chromodoris quadricolor   หรือชื่อสามัญว่า  Pyjalma Nudibranch ม้วนตัวอยู่บนปะการังกิ่ง สงสัยจะนึกว่าเป็นฟองน้ำกิ่งที่เป็นอาหารโปรดมั๊งคะ

Chromodoris willani  สีฟ้าลายดำ พู่และหนวดสีเงินอย่างนี้ เป็นที่ชื่นชอบของพวกเรามาก....

Discodoris boholiensis    ตัวจิ๋ว

ช่วงนี้คงเป็นฤดูผสมพันธุ์ของ Nembrotha chamberlani  ถึงได้มีการจู๋จี๋ดู๋ดี๋ให้เห็นทั่วไป....

 ปลาปากคม (Reef Lizardfish)  เห็นแล้วคงไม่ค่อยสบอารมณ์ เพราะอยู่ตัวเดียวเปลี่ยวเอกา...

ฮึ่มมมมม....แฮ่......พูดอะไรกัน....ไม่อยากฟัง.....


Indian Walkman หรือ Demon Stinger (Inimicus didactylus )    บ่นพึมพำ.....

แนวปะการังของที่นี่ เป็นแหล่งอนุบาลของสรรพชีวิตหลากหลายพันธุ์


ลูก ปลานกขุนทองย้ายหิน  ( Rockmover Wrass)  ว่ายน้ำหัวหกก้นขวิด กระดึ๋งกระดั๋ง เหมือนดีใจที่หนีโรงเรียนได้....  

 

ลูกปลานกขุนทองลายตาข่าย (Reticulated Wrass) เข้าแถวผิดที่  ไปอยู่กับปลาพันธุ์อื่น.....

การดำน้ำไดฟ์แรกจบลงอย่างสบายๆ.....


Burting พาเราอ้อมไปทางด้านตะวันออกของเกาะ Caban และให้กัปตันเรือเสยหัวเรือเข้าไปหน้าโพรงถ้ำ เพื่อให้เราพักระหว่างการรอดำน้ำไดฟ์ต่อไป


ผ้าเช็ดตัวถูกนำมาแจกจ่ายให้เราได้เช็ดตัว  น้ำชาและกาแฟร้อนๆถูกนำมาเสริฟ  ขนมไทยๆที่มีติดกระเป๋า Goodybag ถูกนำมาแบ่งกันรับประทาน.... 

พวกเราพูดคุยกันอย่างมีความสุขสนุกสนานราวชั่วโมงหนึ่ง ก่อนจะแยกย้ายกันไปขึ้้นเรือของตัวเอง เพื่อดำน้ำในไดฟ์ต่อไป....

#15 Caban Cove


เรือแล่นออกจากหน้าถ้ำที่เราไปนั่งพัก แล้วอ้อมไปด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ Caban ที่คลื่นลมสงบ  เพื่อให้เราแต่งตัวแล้วหงายหลังลงไปในน้ำแล้วว่ายอ้อมแหลมมาทางด้านตะวันออกที่ไม่ไกลกับหน้าถ้ำที่เราจอดเรือพัก  ตรงจุดนี้แหล่ะที่ Burting เรียกว่า  Caban Cove

จุดนี้มีลักษณะคล้าย Layag Layag คือเป็นแนวปะการังผสมที่ลาดจากความลึก 5 เมตร ไปจนถึงพื้นทรายที่ลึกราว 20 เมตร


ลงไปไม่นานเราก็พบทากมากมายหลายชนิด


Chromodoris  reticulata      มีให้เห็นมากกว่าทากพันธุ์อื่น....

ไม่แน่ใจว่าคุณหนูดีจะมาประชุมเรียกร้องเสรีภาพอยู่หรือเปล่า....

หนูดี Chromodoris willani ก็มีให้เห็นมากมาย

ตัวข้างล่างนั้น ดูเหมือนจะเพิ่งผ่านการผสมพันธุ์มา เพราะท่อสืบพันธุ์ยังโบกสะบัดอยู่....

คู่ของหนูดีตัวข้างบน จะเป็นตัวนี้หรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ....

หนูดี  Halgerda  malesso    สีสันสดใส  ได้ใจดีจริงๆค่ะ....

หนูดี  Chromodoris quadricolor   สีตัดกับช่อเพรียงหัวหอมดีแท้....

ตัวนี้เฆ็นทีไรหิวทุกทีเลยค่ะ  :-*

Cadlinella ornatissima    เล็กจิ๋ว ตัวสีเหลือง มีขนสีขาว ปลายขนเป็นสีชมพูอ่อนๆ น่ารักมากค่ะ....  

เพรียงหัวหอมสีซ้วย สวย.....

รีสอร์ทน่ารักมากเลยค่ะ แต่ถ้าไม่ฟิตก็คงเล่นเอาหอบเหมือนกัน มีรูปนางแบบทั้งหลาย ไม่เห็นมีรูปพี่สายชลบ้างเลยค่ะ แสดงว่ายังถ่ายนางแบบไม่ครบ

เจ้า Halgerda  malesso เนี่ย คล้าย ๆ เจ้าตัวที่ Birdie คิดว่ามันเหมือนโมจิที่อันดามันใต้เลยค่ะ เพียงแต่หางกับเขา มีสีไม่เหมือนกัน

อืมม์   เห็นหนูดีทีไร ก็นึกถึง Gummy Worm อาหร่อย หนึบ เปรี้ยว และสีสวย เหมือนหนูดีเลยค่าาาาาาาาาาาาาาา ห่อละ $1.99 ซื้อได้ที่ Walmart.....

เอารูปออกก่อนดีกว่า เด๋วขัดอารมณ์คนชมภาพสวย ๆ จากฟิลลิปปินส์ อิอิ

นี่ก็เล็กจิ๋ว อยู่กันเป็นคู่......Chromodoris sp.   

ทากขน  Pteraeolidia ianthina มีให้เห็นทั่วไป.....

พบ Nembrotha chamberlaini  กำลังจู๋จี๋กันอีกแล้วล่ะค่ะ....

เพรียงหัวหอมที่นี่สวยจริงๆค่ะ....เห็นแล้วยิ่งหลงรักหนักขึ้นไปอีก....

:-*

แบบนี้ไม่ค่อยเคยเห็นที่ไหน  ไม่แน่ใจว่าเป็นปะการัง.....เพรียงหัวหอม  .....สาหร่าย....หรือ ฯลฯ


อยู่กันเป็นอาณาจักร  หลายๆตัวรวมกันเป็นเหมือนดอกไม้ดอกหนึ่ง  แล้วหลายๆดอกรวมเป็นช่อ....  .....

กั้งตั๊กแตน (Mantis Shrimp) โผล่หน้ามาทักทาย.....

ดอกไม้ทะเลที่นี่มีมากมาย  ทำให้มีปลาการ์ตูนมาฝากน้องสามารถอีกแล้ว


เริ่มด้วยปลาการ์ตูนลายปล้อง  (Clark's Anemonefish)  ตัวเล็กจิ๋ว (บน)  และ ตัวใหญ่ยักษ์ (ล่าง)

ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ  (Tomato Anemonefish)  แม่ - ลูก......

ตัวนี้ก็ ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ  (Tomato Anemonefish) ตัวโต  อยู่ตัวเดียวในกอดอกไม้ทะเล เลยไม่ทราบว่าตัวผู้หรือตัวเมีย


ที่น่าแปลกก็คือ ลายที่อยู่หลังตา แทนที่จะเป็นวงกลมสีขาวเรียบๆ  กลับมีลายสีขาวม้วนเป็นวงลงมาที่หน้าผากด้านขวา และลายเลอะๆที่หน้าผากด้านซ้าย


ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับปลาตัวนี้คะ....น้อง Mr. Can   

ปิดท้ายไดฟ์นี้ด้วย Coleman's Shrimp คู่หนึ่ง บน Fire Urchin  ที่เราได้เห็นก็แสนจะดีใจทุกครั้ง.....

ขอบคุณค่ะน้อง payoon....น้อง  Birdie....


งานนี้ทำหน้าที่ถือกล้องค่ะ.....เลยไม่มีรูปตัวเอง เท่าไร....

สวยแจ่มทั้งนางแบบ นายแบบ และตัวเล็กตัวน้อยในท้องทะเลเลยค่ะ....

 :-* :-* :-* ไม่ได้ไป แต่ชื่นมื่นกับภาพและเรื่องราว ...... :-* :-* :-*

พี่ค่ะ...พักผ่อนบ้างนะค่ะ โพสมาทั้งวันเลยอ่ะ... :D :D :D

ขอบคุณม๊ากมากค่ะ... :-* :-* :-*

ขอบคุณจ้ะน้อง แมลงปอ...... :-* :-* :-*


นั่นสิคะ....นั่งมาทั้งวันนี่เอง   ชักจะเหนื่อยแล้วล่ะค่ะ.....ขอบคุณที่ห่วงใยนะคะ....  

ก่อนอื่นเลย ต้องขอบอกว่าชอบภาพเปิดมากๆเลยครับ เหมือนช่อดอกไม้ใต้ทะเล ทำให้รู้สึกว่า สิ่งมีชีวิตบนโลกเรานี้ ช่างสวยงามและมหัศจรรย์จริงๆครับ  :-*

ส่วนที่พัก เก๋และน่ารักมากๆเลยครับพี่สายชล สำหรับ Balai Resort ชอบมากๆเลย แค่ชื่อรีสอร์ตและความหมายก็กินขาดแล้วครับ
ทั้งสถานที่และการตกแต่งโดนใจอย่างแรง หนำซ้ำยังกลืนกับธรรมชาติและแมกไม้บนเกาะได้อย่างลงตัว แถมยังมี "ชวนชม" จากเมืองไทยไปเชิดหน้าชูตาด้วย  :-*

อิจฉาคนที่ได้ไปมากๆเลยครับ  >:(

เห็นด้วยกับแมลงปอ พี่สายชลพักบ้างนะครับ
ยังไงเราก็รอชมได้อยู่แล้ว ขอบคุณครับผม  ;D

ขอบคุณจ้ะน้องดอกปีบ..... :-* :-* :-*


ชอบ Balai มากๆเหมือนกันค่ะ  ตอนไป Anilao ครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อน  ยังบอกกับตัวเองว่า อยากมาพักที่นี่มาก  ไม่นึกว่าวันหนึ่งจะได้มาพักที่นี่จริงๆค่ะ


ต้องเร่งลงเรื่องให้จบก่อนจะต้องไปทริปยาวๆต่อกันจนเกือบถึงปลายเดือนหน้าค่ะ   เหนื่อยอย่างไรก็ต้องทนค่ะ.....ขอบคุณที่ห่วงใยนะคะ...

#7 Twin Rocks


หลังอาหารเที่ยง.....เรามีเวลาพักนาน จนถึงบ่ายสองโมงครึ่ง   จากนั้นก็ต้องนั่งเรือไปลงตรงหน้าบ้านพักไม้หลังใหญ่ของเศรษฐีชาวตากาล็อก ที่อยู่ติดกับ Balai  ตรงบริเวณที่เราเรียกว่า Twin Rocks


สายชลถาม Burting ว่า ทำไมเราไม่ลงดำน้ำจากหน้ารีสอร์ต แล้วว่ายไปที่ Twin Rocks  เพราะอยู่ใกล้นิดเดียวเอง   เขาตอบว่า น้ำไหลจาก Twin Rocks มายังรีสอร์ตของเรา  ฉะนั้นนั่งเรือไปลงที่ Twin Rocks แล้วค่อยไหลกลับมาที่รีสอร์ตดีกว่า

เมื่อเราโดดลงไปในน้ำ ก็เห็นจริงตามที่ Burting บอก.....


บริเวณที่เราดำน้ำลงไป มีเรือบรรทุกสินค้าลำใหญ่ทำด้วยเหล็กกล้าคว่ำหน้าจมอยู่บริเวณลาดเนิน  หัวเรือจมอยู่ที่ความลึกราว 5 เมตร  ส่วนท้ายเรือจมอยู่ที่ความลึกราว 15 เมตร


ทั่วลำเรือมีปะการัง....ฟองน้ำ....และสัตว์เกาะติดอื่นๆขึ้นอยู่เต็ม


Burting พาเราตรงดิ่งไปที่ข้างลำเรือ ที่ความลึกเพียง 10 เมตร  ที่นั่นมี ปลากบ  (Sea Frog)  สีขาว ลายแดง  อย่างที่เราเรียกกันเล่นๆว่าปลากบตัวตลก (Clown Frogfish)  ขนาดเท่ากำปั้นเกาะอยู่ที่ข้างลำเรือ

ช่างน่ารักจริงๆค่ะ....  :-* :-* :-*

พู่ล่อเหยื่อที่เหมือนเบ็ดตกปลาที่เหมือนเส้นเอ็นยาวสัก 5 ซม. และปลายมีพู่เหมือนปอมๆของเชียร์ลีดเดอร์ติดอยู่นั้น ทำให้ปลากบตัวนี้น่ารักขึ้นอีกมาก....

ในซอกข้างเรือจม ใต้จุดที่ปลากบอาศัยอยู่  มีปลาจิ้มฟันจระเข้  Banded Pipefish ตัวเขื่อง ว่ายไปว่ายมาอยู่ตัวเดียว....

กระเบนจุดฟ้า (Blue - Spotted Stingray) ตัวเท่าฝ่ามือ นอนแอบอยู่ในโพรงใต้กอปะการังโขด

ลูกปลากะพงดำ (Midnight Snapper) ว่ายอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย  

มีปลาหูช้าง  Orbicular Batfish  สองสามตัวว่ายโฉบเฉี่ยวอยู่ใกล้ๆพวกเราอย่างไม่กลัวเกรง.....

ปลาตัวจิ๋ว ใสแจ๋ว อาศัยอยู่ในกอดาวขนนก....


เอ....เป็นปลาพันธุ์ไหนนะ......อยากทราบจริงๆค่ะ

เพิ่งได้เห็นทาก Nembrotha chamberlaini    ที่อยู่ตัวเดียวโดดๆ เดินหากินอยู่ตามกอปะการัง

ทากตัวจิ๋ว สีขาว ขลิบแดงอมส้ม พันธุ์ Chromodoris albonares ที่เคยเห็นที่ Puerto Galera  ที่นี่ก็มีให้ดูค่ะ....



ส่วนทากปีกภาพล่างนี้ หาดูได้ยากค่ะ กว่าจะหาได้ว่าเป็นพันธุ์   Elysia ornata   ก็เล่นเอาเหนื่อย

ทากพันธุ์ Chromodoris willani  กำลังกินฟองน้ำของโปรดอยู่อย่างเอร็ดอร่อย....

ทากทะเลที่น่ารักที่สุดในสายตาของสายชล คือ Theccera picta  ซึ่งอยู่ในตระกูล Polyceridae ซึ่งสองสายเคยเห็นครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อน ที่จุดเดียวกันนี้....

ตัวใสๆ....หูและระยางยาวๆสี่เส้น ที่ปลายมีสีแดงสด  ทำให้ทากชนิดนี้ดูโดดเด่นกว่าทากชนิดอื่นๆ.....

ทากตัวสวยที่เล็กกระจิ๋วหลิวอีกตัว  Hypselodoris krakatoa  ซึ่งถ้าไม่ถ่ายภาพออกมา แล้วมองด้วยตาเปล่า เราคงไม่ทราบว่าหนูดีตัวนี้สวยเหลือเกิน.....  

Chromodoris albopuctata   ตัวขนาด 4 ซม. ตัวนี้......หากไม่เดินสบัดกระโปรงไปมาให้เห็นชั้นในสีส้มแล้ว   เราก็จะไม่ทราบเลยว่า ทากตัวนี้สวยเซ๊กซี่ที่สุด.....

ยามอยู่นิ่งๆ.....

เริ่มเดินสบัดกระโปรง.....

เปิดกระโปรงให้ดูซะเลย......

ภาพที่ไม่คาดคิดภาพนี้้ ถ่ายมาได้ขณะทากทะเลพันธุ์  Chromodoris sp.  กำลังวางไข่อยู่บนปะการังเห็ด  จู่ๆก็มีทากขนตัวเล็กจิ๋วปรากฎตัวเข้ามาใต้กระโปรงทากตัวที่กำลังออกไข่อยู่

ลองขยายภาพดูนะคะแล้วจะเห็นทากขนตัวจิ๋วนั่น

ทาก  Chromodoris willani   และ Chromodoris annae   กินฟองน้ำอยู่คนละมุม....

อดถ่ายภาพปลาการ์ตูนลายปล้องไม่ได้สักทีค่ะ....


ตัวบนนั้นเล็กจิ๋วมากค่ะ....

ลายสวยๆบนตัวปลิงทะเล....

โพลิบแปลกๆของปะการังเห็ด.....

มีของฝากให้น้องแม่หอยด้วยค่ะ.....แต่กว่าจะได้มาต้องขอลงดำน้ำที่ Twin Rocks ถึง 2 ไดฟ์ค่ะ


เพราะไดฟ์แรกที่ลงดำน้ำที่ Twin Rocks นั้น....สองสายใช้เลนส์มาโครทั้งคู่  แต่จะให้ได้ของฝากสำหรับน้องแม่หอยนั้น เราต้องใช้เลนส์มุมกว้าง


เหตุเพราะของฝากสำหรับน้องแม่หอย เป็น หอยมือเสือพันธุ์  Tridacna Gigas  ขนาดใหญ่กว่าเมตร จำนวนหลายสิบตัว  ที่ทางการของฟิลิปปินส์ ได้นำไปปล่อยไว้ ซึ่งคงจะเป็นหลังจากที่สองสายได้ไปดำน้ำที่นี่เมื่อห้าปีก่อน....


ดูสิคะ....แต่ละตัวยิ้มบานแฉ่งทั้งนั้น....

 :-*

 
:-*

ภาพเปรียบเทียบกับนักดำน้ำค่ะ....

 :-*

Burting จะยอมพลีชีพให้น้องหอย.....

ยิ้มพิมพ์ใจ....

พี่ขา ถ้าหนูโดนหอยหนีบ หนูจะกลายเป็นไข่มุกยักษ์มั้ยคะ น่าตื่นตา แล้วก็น่ากลัวด้วยนะเนี่ย

คิกๆ....ต้องให้น้องแม่หอยมาตอบค่ะหนูเบิร์ดว่าหนูจะกลายเป็นมุกๆได้ไหม...... :-X :-X :-X


หอยมือเสือ Gigas พวกนี้ ยังโตไม่เต็มที่นะคะ  ถ้าปล่อยไว้อีกสักสี่ห้าปี น้องหอยน่าจะโตเท่าอ่างอาบน้ำ  ตอนนั้นละน้องเบิร์ดลงไปนอนได้สบายๆเลยล่ะค่ะ...

โห...เบอร์ดี้ได้ที่นอนใหม่แระ สบายเลยแฮะ  ;D ;D ;D ;D

ขอบคุณภาพสวยๆ แบบใกล้ชิดๆ .... ดำเองยังไม่เห็นชัดเท่านี้เลยคะ ....??? ???

ขอบพระคุณค๊าบบ :-* :-* :-*

 :-* :-*

แม้ไม่ได้ไปด้วย แต่ก็รู้สึกดี๊ดีคะ..เหมือนได้ไปด้วยเลยคะ  :-* :-*

เหอะๆๆๆๆ อ่างอาบน้ำของBirdie 5555555 ท่าทางจะแย่แฮะน้องหอยเพื่อนบ้านเรา
แต่เท่าที่จำได้ พี่น้อยให้ลองนับ(dive2ที่ลงไปหาของฝากแม่หอย)เราก็ลองนับ
 :o...1-2-3  ตรงนั้นอีก :o 3-4-5-6 ตรงนู้นก็มี :o 7-8-...ตรงนั้นก็เยอะ
     :oนับไปนับมา พอมากกว่า20 ก็เลิกนับเลยค่ะ......
มันเยอะจริงๆเลย นับไม่หวัดไม่ไหว.....แต่ที่รู้ๆมันใหญ่มากกกกกกกกก อยู่กันเป็นหมู่คณะเลยก็มี
แหะๆมานั่งตั้งตาดูต่อแถวต่ออีกคนคับบบบบบ......

ขอบคุณค่ะน้องแมลงปอ....น้อง WayfarinG....น้อง kungkings....น้องตุ๊กแกผา.... :-* :-* :-*
 

หลังการดำน้ำไดฟ์แรกที่ Twin Rock เสร็จสิ้น  เมื่อโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ  ก็พบว่าเรามาอยู่หน้า Balai แล้ว....


ขาไป...ลงเรือ   ส่วนขากลับ.....เราเดินขึ้นฝั่งหน้า Balai


ส่วนไดฟ์ที่สองที่ Twin Rocks นั้น .....เราไปทางเรือ แล้วก็กลับมา Balai ทางเรือ  เหตุเพราะกระแสน้ำเกิดเปลี่ยนทิศ  ไม่ไหลจาก Twin Rocks มาที่ Balai แต่กลับไหลไปที่หัวแหลม Calumpan แทน     

ดำน้ำไปสามไดฟ์ต่อวันแล้ว  เป็นอันพอสำหรับสองสาย ที่ถือคติพจน์ หรือ Motto ที่ว่า


"Three dives a day,  keep the Bends away"


ฉะนั้น....หลังดำน้ำครบสามไดฟ์แล้ว  เราก็อาบน้ำแต่งตัว แล้วก็นั่งเล่นนอนเล่นอย่างสบายอารมณ์


พวกเราบางคนที่มีคติพจน์เหมือนสองสาย  ตัวอย่างเช่นน้องหนิ่ง  หรือ "ป๋าหนิ่ง" ของน้องๆ มีความสุขกับการนั่งเลือกซื้อไข่มุกที่ชาวบ้านหอบลูกจูงหลาน พายเรือมาขาย

ดูมาด "ป๋าหนิ่ง" ขณะกำลังหอบเงินใส่กระเป๋า เตรียมมาเลือกซื้อไข่มุกสิคะ....

"ป๋าหนิ่ง"  ขณะเลือกดูไข่มุกที่พ่อค้านำมาขาย  และเจรจาต่อลองราคา  จนพ่อค้าหน้าเหี่ยวแล้วเหี่ยวอีก  โดยมีเลขานุการิณี "ปิ๋ม" คอยช่วยดูและช่วยจดราคาของไข่มุกและชื่อเจ้าของไข่มุกที่ฝากมาซื้อหรือซื้อไปฝาก บนกระดาษห่อไข่มุกแต่ละห่อที่ตกลงราคากันได้แล้ว  พร้อมทำบัญชีหางว่าวรายละเอียดการซื้อขายให้ป๋าหนิ่งอย่างละเอียด

ส่วนหนุ่มสาวที่ยังแข็งแรงอยู่ ก็พากันเตรียมตัวดำน้ำแบบ Beach Dive ฟรีก่อนหกโมงเย็น ซึ่งหากเกินเวลาดังกล่าวจะถูกเก็บเงินค่าดำน้ำเพิ่มทันที

 

 :-*

ผมขี้ร้อนคร้าบ.....

พร้อมแล้ว....

เตรียมลงน้ำ....

จะลงดี....หรือไม่ลงจะดีกว่า.....

ฮ่อๆ....ลงดีกว่านิ.....

กำลังใจดีอย่างนี้.....ไม่ลงได้ไง.....

หมดไปอีกวันหนึ่ง.....ด้วยความสุขสนุกสนาน....

#14  Kirby's Rock


เช้าวันใหม่.....และเป็นวันที่สองของการดำน้ำที่ Anilao


Burting  สั่งให้กัปตันเรือบังก้าแล่นเรือตรงดิ่งและไปจอดที่หัวเกาะ Caban ด้านตะวันออกเฉียงเหนือ  ไม่ไกลจากจุดดำน้ำ Layag Layag นัก


เมื่อเราทิ้งตัวลงไปใต้น้ำก็พบแนวหินที่อยู่ขอบนอกของเกาะ Caban ส่วนยอดของแนวหินนั้นอยู่ใต้ผิวน้ำที่ความลึกเพียง 7 เมตร  Burting พาเราว่ายลัดเลาะลงไปตามแนวผาของกองหินนั้นที่หักโค้งออกไปด้านตะวันออก 

เวลาผ่านไปไม่ถึงสองนาที....เขาให้เราหยุดรอที่ขอบผา  ส่วนตัวเขาเองทิ้งตัวดิ่งลงไปที่พื้นทรายเบื้องล่างที่มีความลึกราว 28 เมตร ซึ่งที่นั่นมีกัลปังหาพัดสีแดงอมม่วงต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านสยายอยู่ติดเชิงผาไม่ห่างจากพื้นทรายนัก


เขามองหาอะไรบนกิ่งกัลปังหาอยู่สักพักหนึ่ง และแล้วก็กวักมือให้เราลงไปหาเขาที่ละคู่ๆอย่างที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว  เมื่อคู่หนึ่งลงไปดูและถ่ายภาพแล้วก็ว่ายกลับขึ้นไปที่ขอบผา  แล้วคู่ต่อไปจึงทิ้งตัวลงไปหาเขา


สองสายลงไปที่ต้นกัลปังหานั้นเป็นคู่สุดท้าย  แล้วเราก็ได้เห็นภาพนี้ค่ะ.....


Pygmy Seahorse พันธุ์  Hippocampus denise   (ตัวเล็กและผอมกว่าพันธุ์  Hippocampus bargibanti ที่เราได้เห็นที่ Puerto Galera)  จำนวนสองตัวใช้หางเกาะกิ่งกัลปังหา จากกิ่งนั้นไปกิ่งนี้ เหมือนลูกลิงที่แสนซน....

มองเห็นไหมคะว่า ม้าน้ำแคระคู่นั้นอยู่ตรงไหน.....

ถ้ายังไม่เห็น....Burting จะชี้ให้ดูค่ะ.....

น่ารัก....น่าเอ็นดู....นะคะ....

จริงๆแล้ว....Burting บอกว่า กัลปังหาต้นนี้มีม้าน้ำแคระตั้ง 6 ตัว  แต่เพราะน้ำลึกมาก  จึงไม่มีเวลาจะหาและชี้ให้เราดูจนครบ


อิๆ....แค่ม้าน้ำแคระเพียง 2 ตัวนี่ เราก็พอใจแล้วล่ะค่ะ


เราลอยตัวขึ้นไปที่ขอบผา  ในขณะที่ Burting  ยังรอชี้ม้าน้ำแคระให้ Pong....Dive Leader ของกลุ่มน้องเบาหวิว ที่ตีเรือคู่มากับเราได้ดู


ที่ขอบผา....มีอะไรที่น่าสนใจให้เราดูมากมาย


ตัวอย่างเช่น.....กุ้งแส้ทะเล  (Seawhip shrimp) สีออกเหลืองใส ลายสีขาว เกาะนิ่งอยู่บนกิ่งแส้ทะเล

โดยทั่วไปแล้วกุ้งชนิดนี้จะอยู่เป็นคู่บนกิ่งแส้ทะเลเดียวกัน  แต่วันนั้น เราเห็นเขาเพียงตัวเดียว....

ทาก Glossodoris atromarginata หรือ "ไข่เจียว" ที่เราเรียกกันเล่นๆนั้น  ดูสีจะอ่อนและตัวกลมบานฟูกว่าที่เห็นในบ้านเรา

อยู่ท่ามกลางวงล้อมของปลิงเหลืองที่ดูเหมือนทากทะเลอย่างนี้.....ไม่ทราบใครจะกินใครกันแน่  หรือแค่เพื่อนกำลังเล่นกัน....

ทากทะเลพันธุ์ Chromodoris geometrica ที่ถ่ายภาพออกมากี่ครั้งๆ ก็ดูภาพออกเบลอๆทุกที....

 

เช่นเดียวกับ Hypselodoris purpureomaculosa ตัวนี้ที่ดูสวยสดใส แต่ถ่ายภาพออกมาดูเหมือนเบลอๆเช่นกัน

ทากปุ่ม Phyllidia varicosa     ซึ่งดูสามัญ แต่ไม่ค่อยได้เห็นที่ใต้ทะเลของ Anilao นัก

ไข่ทากสีแดงสดเหมือนดอกกุหลาบ....

เพรียงหัวหอมของที่นี่ก็สวยมากค่ะ.....


เพรียงหัวหอมรูปร่างโปร่งใส สีส้มหวาน อยู่กันเป็นโคโลนีอย่างนี้ ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก...

เพรียงหัวหอมสีฟ้าอย่างนี้มีให้เห็นเกลื่อนกลาด  แต่ตัวนี้ไม่ธรรมดาค่ะ เพราะที่ช่องเล็กที่ทำหน้าที่เหมือนก้น มีเมือกใสๆเป็นข้อๆต่อกันเป็นสาย


ไม่ทราบว่าเป็นของเสียที่ถูกถ่ายออกมา หรือว่าไข่ของเพรียงหัวหอมกันแน่นะคะ...

เพรียงหัวหอมที่ดูธรรมดาๆ....แต่ถ่ายภาพออกมาทีไร สวยถูกใจทุกครั้งค่ะ...

สีสันและลวดลายสดใส ตัวโตและแบนๆที่ยื่นออกมาจากกองหินนี้  จะเป็นหนอนตัวแบน....หรือทากกันนะ....   

อ้าววว....ไม่ใช่ทั้งหนอนตัวแบนหรือทากสักหน่อย....


ที่แท้ก็หางของปลาไหลลายจุด Starry Eel   นั่นเอง....

ปลาไหลหน้าคล้ายๆตัวข้างบน แต่คนละลาย....

ปลาไหลมอเรย์ตาขาว....

ลูกปลาสิงโต....

ลูกปลาแมงป่อง.....

ปลากล่องลายจุด  (Boxfish) เพศเมีย  

ลูกปลาวัว  (Leatherjacket)  ตัวจิ๋ว.....

ปลาผีเสื้อที่สีและลายหวานแหววเข้ากับสภาพแวดล้อมมาก....

ปิดท้ายด้วยปูปะการังอ่อน Hoplophrys oatesii   สีชมพูหวานแหวว ที่อาศัยเป็นครอบครัวอยู่บนต้นปะการังอ่อนสีแดงสด....

เท่าที่เห็น....มีปูอยู่ 4 ตัว กระจัดกระจายกันอยู่บนปะการังอ่อนต้นเล็กนิดเดียวนี้....

#18 Bethlehem


หลังดำน้ำที่ Kirby's Rock แล้ว.....Burrting ก็พาเราไปพักที่โพรงถ้ำที่อยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ Caban เหมือนวันวานที่ผ่านมา

พักกันอยู่ได้สักชั่วโมงหนึ่ง  เราก็ออกไปดำน้ำกันตรงช่องแคบระหว่างด้านใต้ของเกาะ Caban กับด้านเหนือของเกาะ Maricaban ซึ่งมีหมู่บ้านเล็กๆ แต่โบสถ์ของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาธอลิค ตั้งอยู่

เห็นอย่างนี้...ฉันก็เลิกสงสัยแล้วว่าทำไมจุดดำน้ำนี้จึงชื่อ  Bethlehem ซึ่งเป็นชื่อของเมืองที่เชื่อกันว่าเป็นที่ประสูติของพระเยซูเจ้า


สภาพของจุดดำน้ำแห่งนี้แปลกไปจากจุดดำน้ำอื่นๆที่เราเคยดำมาแล้วใน Anilau คือเป็นร่องน้ำที่มีแต่ทรายกับกองหินไม่มากนักและน้ำค่อนข้างจะขุ่น มีตะกอนลอยฟ่องอยู่ทั่วไป   ที่ใต้ทะเลและชายฝั่งด้านที่ติดกับหมู่บ้าน  กระแสน้ำค่อนข้างแปรปรวน  คือที่ผิวน้ำ น้ำจะไหลจากตะวันตกไปตะวันออก  ส่วนที่ก้นช่องแคบความลึกราว 20 เมตร นั้น  น้ำไหลออกจากตะวันออกไปตะวันตก


แผนการดำน้ำที่ Burting วางไว้ว่าเมื่อลงไปที่ก้นทะเลในช่องแคบแล้ว เราจะไหลตามน้ำไปทางตะวันออก จึงกลายเป็นการว่ายต้านน้ำไป จนเราหมดแรง ต้องลอยตัวตามน้ำกลับมาที่เรือจอดใหม่  แต่พอเลยตัวขึ้นมาใกล้ผิวน้ำ ก็กลายเป็นว่าเราต้องว่ายต้านน้ำกลับเรือไปเสียอีก


ที่นี่ไม่ค่อยมีสิ่งที่สวยงามและน่าสนใจมากนัก  ที่ดุจะน่าสนใจที่สุดก็คือพวกปลาต่างๆ เช่น


ปลาจิ้มฟันจระเข้ Robust Ghost Pipefish ตัวจิ๋วที่ลอยตัวอยู่ท่ามกลางตะกอนที่ลอยฟ่อง....
   

ปลาเหยี่ยว Blotched Hawkfish มีให้เห็นตามฟองน้ำครก....

หรือตามกอปะการัง......

ปลาปักเป้าหนามสั้น (Short - Spined  Porcupinefsih)  หลบอยู่ตามซอกปะการังโขด

ปลาตั๊กแตนหินเขี้ยวแถบฟ้า (Bluestriped  fangblenny)  โผล่ออกมาจากรูฟองน้ำครกจิ๋ว

ปลาตั๊กแตนหิน หรือ ตุ๊ดตู่หน้าลายตัวนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ....

ปลาอะไรไม่ทราบค่ะ.....ชอบตรงเส้นสีทองข้างลำตัวที่โค้งตวัดปลายมากค่ะ....

Humpbacked STonefish  หน้าดุจัง.....

ปลาข้างใส (Razorfish)  ฝูงหนึ่งว่ายไปมาอยู่แถวแนวปะการังใกล้ชายฝั่ง

แจ๋วแว๋วคะพี่....ขอบคุณค๊าบบ  ;D ;D ;D

บรรยายประกอบท่าของแต่ละคน ขำดีค่ะ...โดยเฉพาะ ลงไม่ลงของพี่ติ๋ว....สีหน้าให้เลยค่ะ  :-X :-X

ขอบคุณจ้ะหนูแมลงปอ..... :-*


พี่ชอบภาพน้องจาค่ะ....น่ารักสุดๆ.... :-*

ทากที่นี่มีไม่มาก และแต่ละตัวเล็กจิ๋ว ไม่เกินเซ็นติเมตรทั้งนั้นค่ะ


ทากตัวจิ๋วที่สวยและหาดูยากมาก ..... Phyllidia polkadotsa  

ตัวนี้เห็นมาแล้วที่ Puerto Galera......


ทากตัวจิ๋ว สีขาวขอบตัวออกส้มแดง.....Chromodoris albonares

ตัวนี้ไม่ใช่ทากทะเล แต่เป็นหนอนตัวแบนที่ห่อตัวเองเหมือนกับทาก....

ทากทะเล....Risbecia tryoni

ว้าววววว.. รอไม่ไหวค่ะ ขออนุญาตปราดและปาดเข้ามากรี๊ดกับของฝากหน่อยนะคะพี่น้อยขา..
 .. โห..เป็นเหมือนอย่างที่เราฝันกันเลยนะคะ อยากให้ลูกหอยที่เรานำไปปล่อย อยู่ยงคงกระพันโตวันโตคืนเป็นดงหอยมือเสืออย่างของเขามั่ง
แม้ของเราจะไม่ใหญ่โตมโหฬารเหมือนเจ้าหอยมือเสือยักษ์  แต่ถ้าอยู่กันเยอะๆ ก็จะบรรเจิดเหมือนกันนะคะ
แอบคิดเข้าข้างลูกๆ เราว่า สีสันสวยงามบรรเจิดกว่าหอยยักษ์เป็นไหนๆ .. ;D
ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับของฝากถูกใจมาก (Save ไว้ชมเรียบร้อย.. อิ อิ) :-* :-*

นอกจากกรี๊ดของฝากใหญ่ยักษ์แล้ว กรี๊ดฝูงปลิงเหลืองด้วยค่ะ.. อะไรจะมาชุมนุมกันเยอะแยะขนาดนั้น  ดูท่าจะเป็นปลิงเด็กๆ วัยรุ่นมาตั้งแก๊งค์ก่อกวนสาวน้อยไข่เจียวกระโปรงบานนะคะ..
.. ชอบภาพสารพัดเพรียงหัวหอมมากๆ เลยค่ะ  สารพัดหนูดีด้วย.. โอยยยย..ชอบไปโม๊ดดดด..

ปาดบ้างค่ะ

ขอกรี๊ดด้วยยยยยยยยยยยยย

ขอบคุณค่ะน้องแม่หอย และน้องโอ...... :-* :-* :-*


ดีใจที่น้องแม่หอยชอบดงหอยมือเสือยักษ์ค่ะ.....เสียดายที่น้ำขุ่นไปหน่อย ภาพเลยไม่ค่อยแจ่มนักนะคะ


ดูอย่างไรๆ....น้องหอย T. squamosa ของเราก็สวยกว่าหอยยักษ์เยอะเลยจริงๆค่ะ   ถ้าเขาได้อยู่เป็นดงโดยไม่ถูกรบกวนเหมือนของ Anilao เราก็คงจะดีใจกันมากๆนะคะ

เราต้องช่วยกันสร้างฝันไว้.....แล้ววันหนึ่งฝันของเราก็จะเป็นจริง...... :P

ปิดท้ายการดำน้ำที่ Bethlehem ด้วยดาวทะเลสีฟ้าที่มีเปลือกหอยฝังติดแน่นอยู่ที่ขาด้านหลัง จนเปลือกหอยเปลี่ยนเป็นสีฟ้าและกลายเป็นส่วนหนึ่งของดาวทะเลไป


สวยดีค่ะ.....   

#9 Bubble Point


หลังอาหารเที่ยงที่ Balai.....ทุกคนหนีไปนอนหลับพักผ่อนกันเกือบหมด มีแต่ป๋าหนิ่งที่ลงไปนั่งเลือกซื้อไข่มุกง่วนอยู่คนเดียว


บ่ายสองโมงครึ่งวันนั้น....ทุกคนลงเรือแยกย้ายกันไปดำน้ำในจุดที่ Dive leader ของเรือแต่ละลำจะกำหนด  ยกเว้นสองสายที่ขออยู่โยงเนื่องจากคุณสายน้ำไม่ค่อยสบาย


เช้าวันใหม่.....อาการของคุณสายน้ำสบายดีขึ้นแล้ว  เราจึงลงเรือไปดำน้ำกับน้องๆได้.....


เรือของเราห้าคนแล่นอ้อมแหลม Calumpan ไปทางทิศตะวันออก เลยโรงแรมใหญ่ไปนิดเดียว   Burting บอกเราว่าวันนี้จะพาเราไปดูภูเขาไฟใต้น้ำ....


เมื่อเราลงไปถึงลานทรายสีออกเหลืองๆเขียวๆที่ความลึกเพียง 8 เมตร  เราก็เห็นฟองอากาศเล็กบ้างใหญ่บ้าง ผุดขึ้นมาจากพื้นทรายเป็นบริเวณกว้าง.....
 

ตรงบริเวณที่อยู่ใกล้ฝั่ง น้ำจะค่อนข้างขุ่น  พอลงไปที่ที่ลึกขึ้นๆ  น้ำก็ใสขึ้นเรื่อยๆ  ฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาก็หนาตามากขึ้น.....


ฟองอากาศที่เกิดขึ้นนี้  เกิดจากสายธารลาวาสายเดียวกับ ภูเขาไฟ Taal ซึ่งเคยอยู่ติดทะเล  แต่ปัจจุบันชายฝั่งได้ยื่นออกมา จนทำให้ภูเขาไฟ Taal อยู่ห่างจากทะเลถึง 16 กม. แต่สายลาวาก็ยังแผ่สาขาอยู่ในทะเล และก๊าซที่อยู่ในสายลาวาก็เล็ดลอดออกมาจากพื้นทรายใต้ทะเลอยู่ตลอดเวลา

สองสายเคยเห็นฟองอากาศแบบนี้มาแล้วแถวใต้ทะเลที่ด้านเหนือของเมือง Manado เกาะ Sulawesi ประเทศ Indonesia  แต่ก็ยังอดจะตื่นเต้นอีกไม่ได้ที่ได้เห็น  เช่นเดียวกับน้องๆที่ได้เห็นฟองอากาศใต้ทะเลในลักษณะนี้....

 :-*

 :-*

ฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาพาความร้อนจากลาวาขึ้นมาด้วย.....


อย่างนี้ต้องพิสูจน์......

อืมมมมมม.....ร้อนจริงๆค่ะ.....

เราชื่นชมกับฟองอากาศจากสายลาวาภูเขาไฟจนพอใจแล้ว  Burting  ก็พาเราว่ายน้ำไปจนถึงหน้าผาซึ่งเป็นจุด Drop Off ที่ความลึกราว 20 เมตร


เราลงดำไปตามหน้าผาที่มาลักษณะเป็นกำแพงที่เต็มไปด้วยปะการัง กัลปังหา ดอกไม้ทะเล ฟองน้ำ ดาวขนนก   ฯลฯ


ดำน้ำทั้งที่ Puerto Galera และ Anilao มาก็หลายไดฟ์ เพิ่งได้เห็นปะการังดำเป็นครั้งแรก   เลยต้องขอถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานหน่อยค่ะ.....

กลุ่มของ Pong ว่ายตามมา เลยได้ถ่ายภาพ Pong ไว้เป็นที่ระลึก....

เบื้องหลังของผู้ที่ถ่ายภาพสวยๆที่เราจะได้ชมกันต่อไป......


น้องสายรุ้ง.....

น้อง Sugary.....

ที่นี่มีสรรพชีวิตที่น่าสนใจให้เราถ่ายภาพพอควร.....


ตัวแรกเป็นหอยเบี้ย (Allied Cowry)  สีชมพูที่เกาะอยู่บนแส้ทะเลสีเดียวกัน.....

หนอนตัวแบน  Pseudoceros bifurcus ตัวเล็กจิ๋ว  ลองเทียบขนาดกับ Pointer ดูนะคะ.....  

ส่วนทาก  Hypselodoris apolegma  ตัวนี้ใหญ่กว่าหัวแม่มือ  และยาวราว 8 ซม.


ดูคล้ายๆ Hypselodoris bullocki    แต่ตัวเป็นสีม่วงเข้ม ขอบที่เป็นสีขาวๆรอบๆตัว ใหญ่กว่าและมีลวดลายสวยกว่ามาก พู่เหงือกและหูสีเหลืองเข้มสดใสกว่ามาก
 

ใหญ่จนตกใจเลยล่ะค่ะ.....

ทากขน  Flabellina rubrolineata เดินวาดลวดลายสบัดขนไปมา.....

ทากตัวโตอีกตัวหนึ่ง Tambja morosa เนื้อตัวมอมแมมด้วยตะกอนทราย

กุ้งดอกไม้ทะเลที่มีไข่เต็มตัว....คือจากหัวจรดหาง.....

ส่วนกุ้งตัววนี้ไม่มีไข่.....โผล่หน้าออกมาทักทายพวกเรา....

นานๆทีจะได้เห็นปลาการ์ตูนส้มขาว  (False Clown Anemonefish) หรือ นีโม  ซึ่งท่าทางเรียบร้อย ขี้อาย....

ผิดกับปลาการ์ตูนลายปล้อง  (Clark's Anemonefish) ที่ตัวโต และชอบทำตัวเป็นนักเลงโต


ทั้งไล่กัดนักดำน้ำ.....

ทั้งข่มขู่....ป๊อกๆๆ.....

ที่ดีใจมาก คือได้เห็น  ปลาการ์ตูนสกั๊ง  Skunk Anemonefish  (Amphiprion sandaracinos  )  ซึ่งแตกต่างจากปลาการ์ตูนอินเดียนที่เราได้เห็นทั่วไปในทะเลอันดามัน ซึ่งฝรั่งจะเรียก False-Skunk Striped Anemonefish (Amphiprion akallopisos  ) ตรงเส้นสีขาวที่พาดอยู่ไม่ได้เริ่มที่ปากบนไปถึงหาง   แต่จะเริ่มจากปากล่างไปจนจรดหาง

ปลาการ์ตูนสกั๊งคู่นี้ กำลังดูแลไข่อย่างขันขันแข็ง

ของฝากสำหรับน้องสามารถอีกตัวหนึ่งค่ะ.....

ปลาสลิดหินฟ้าหางส้ม  Yellowtail Blue Damselfish ( Chrysiptera parasema  ) ที่เหมือนมีแสงนีออนในตัว   

เขาอยู่กันเป็นฝูง และค่อนข้างจะเชื่องค่ะ

ที่ทำให้ยิ้มได้ด้วยเอ็นดู  ต้องยกให้กับ  ลูกปลานกแก้วสองสี   Bicolour parrotfish (Cetoscarus   bicolor  )   ตัวเล็กจิ๋ว ที่ว่ายเหมือนลอยละล่องไปตามกอปะการัง

ที่ Anilau.....จุดดำน้ำไหนๆก็มีเพรียงหัวหอมและฟองน้ำครกให้ชมค่ะ....

ก่อนจะว่ายกลับขึ้นเรือ.....น้องเต่ากระแสนสวยว่ายมาทักทายพวกเรา....

เขาว่ายไปเรื่อยๆเหมือนไม่สนใจพวกเรา.....

จู่ๆ....น้องเต่าก็หยุดกึก  แล้วหันมามองหน้าคุณสายน้ำ


จากนั้นก็ว่ายตรงดิ่งเข้าไปหาคุณสายน้ำ และทำหน้าซาบซึ้ง  เหมือนจะบอกว่า  "ป่ะป๋า....คิดถึงจัง"


เล่นเอาคุณสายน้ำต้องรีบว่ายหนีน้องเต่าอุตลุต.....

ไอ้เจ้านี่แน่เลยที่เรียกพี่จ๋อมว่าปะป๊ะ  55555

พอตามคุณสายน้ำไม่ทัน....น้องเต่าก็ลงนอนราบกับพื้นทราย  ให้เวลาเราได้ไปนอนชื่นชมน้องเต่าจนพอใจและอิ่มใจ....


การดำน้ำที่ Bubble Point จบลงด้วยความชื่นมื่นของพวกเราทุกคน......  

อ้าว! ขอโทษค่ะที่มาผิดจังหวะ  :( :( :(

เหอๆๆๆๆ แล้วก็เป็นที่มาของเต่าเรียกพ่อ คับท่าน....แหะๆ พี่จ๋อมไม่โกรธหรอกคับ แค่จำได้ :-X :-X :-X.....โอ้ย!!!!

...ที่Bubble เนี่ย เรามายืนยัน นั่งยัน นอนยันด้วยอีกคนว่า....มันฮ้อนจริงๆเน่อ เพราะคุณLeader Berting ให้ถอดถุงมือ เอามือเปล่าไปวางทดสอบกันเลยจริงๆๆๆๆ โดนหมดทุกคนคับ......ขอบอก

อิๆ.....สงสัยคุณสายน้ำจะไม่ได้ฟอกสบู่มาหลายวัน  น้องเต่าเลยต้องมาตามหาพ่อ.....


ขอบอก.....พี่สองสายไม่ได้ถอดถุงมือไปอังฟองร้อนๆนั่นนะจ๊ะ  เพราะรู้อยู่ก่อนแล้วว่ามัน.....ร้อน....น...น...น....

อ้าว! งั้นหนูสองคนแล้วก็พี่หนิ่ง ก็เลยกลายเป็นนู๋ทดลองสิค่ะเนี่ย....แต่มันก็คุ้มน๊ะค่ะ  ทรายใต้ทะเลตรงนั้นนนนน มันฮ้อนนนนนนนน ...และที่สำคัญ พี่เบิ๊ดBuddyของหนูชอบมากๆ 55555

ก๊ากกกก......แม่นแล้วหนูติ๋วจ๋า..... :-X :-X :-X


นอกจากมันจะร้อนแล้ว  ก๊าซกำมะถันที่ขึ้นมากับฟองอากาศและจับอยู่บนพื้นทราย  ยังจะช่วยทำให้มือ (รวมทั้งเล็บ)ของหนูนุ่มนวล  และกัดขี้ไคลตามมือออกจนขาวจั๊ว..... :) ;D :)   

จาก Bubble Point ที่อยู่ปลายแหลม Calumpan .....เรือแล่นไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อข้ามช่องแคบ Maricaban ไปยังริมฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นส่วนหนึ่งทางด้านตะวันออกของเกาะ Maricaban

เรือไปจอดตรงสวนมะพร้าวเลยหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง.....เราทยอยเดินลงจากเรืออย่างดีใจ....


อ้าวววว.....ใครเดินตกน้ำไปล่ะนั่น....   

ที่ดีใจนั้น....เป็นเพราะเราจะได้เข้าห้องน้ำฉิ่งฉ่องกันแล้ว.....


ทราบแล้วใช่ไหมคะว่าเราไปฉิงฉ่องกันที่ไหน และอย่างไร.... ;D

จากนั้น...เราก็แยกย้ายไปหาที่นั่งพักกันใต้ร่มมะพร้าว....


พ่อเด็กเรือทั้งสองลำที่แล่นตามกันไปตลอดนั้น  ช่วยกันสอยมะพร้าวจากต้นที่เรานั่งอยู่ใกล้ๆเพื่อจะนำมาให้เราดื่มน้ำและกินเนื้อ


แต่พักเดียวเราต้องกระโดดหนีกันกระเจิง  เพราะเสียงตูมๆ ตามด้วยลูกมะพร้าวที่วิ่งตรงเข้ามาหาพวกเราที่ไปนั่งอยู่แถวนั้น.....


เกือบจะได้เป็นเป้านิ่ง ถูกลูกโบว์ลิ่งมะพร้าววิ่งเข้าถล่มแล้วไหมล่ะ..... 

Burting และ Pong ช่วยกันเฉือนมะพร้าวให้เราได้ดื่มน้ำและกินเนื้อกัน....

ลีลาการกินเนื้อมะพร้าวนี่....ไม่มีใครเกินคุณสายน้ำ....

พอได้เนื้อและน้ำมะพร้าวบนเกาะ Maricaban เข้าไป......พวกเราก็เปลี่ยนเป็นเด็กใสๆหัวใจคิกขุอาโนเน่ะกันไปหมด


เอ....ภาพล่างนั้น  น้องติ่งกำลังชี้นิ้วมือซ้ายไปที่น้องติ๋ว  เพื่อจะส่งซิกอะไรนะ.....

สงสัยเหนื่อยจากการหนี(ลูก)เต่าแน่เลย หรือไม่ก็อ้อนพี่สายชล555555.......

หุๆ.....จริงๆคุณสายน้ำเริ่มเป็นหวัดและมีไข้นิดๆแล้วล่ะค่ะ.... :-X

ปลากบ (ปะการัง) ที่น้องติ่งเก็บได้แถวชายหาด......


อืมมมม....น่าจะเป็นลางว่าเราต้องเจอปลากบตัวเล็กจิ๋วอย่างนี้แน่ๆเลย....

ถึงเวลาออกไปดำน้ำอีกแล้วค่ะ....

เราพากันเดินขึ้นเรืออย่างกระฉับกระเฉง....ยกเว้นคุณสายน้ำที่เริ่มส่อแววว่าอยากนอนมากกว่าจะดำน้ำ....

#22 Apple Point


เรือขยับไปจากจุดที่เราจอดพักไปทางด้านเหนืออีกนิดเดียวก็ถึงจุดดำน้ำที่ชื่อ Apple Point  น้ำดูใสมากเมื่อมองจากผิวน้ำ  แต่เมื่อเราทิ้งตัวลงไปใต้น้ำ ก็เห็นว่าน้ำใสจริง แต่มีตะกอนทรายสีขาวลอยฟ่องเต็มไปหมด

ภูมิประเทศของจุดดำน้ำนี้ เป็นกองหินสูงๆต่ำๆอยู่ใกล้ๆแนวชายหาด  จากนั้นเป็นลานทรายที่ค่อยๆลาดลงไปที่ละน้อยๆ จนถึงความลึกสูงสุดราว 20 เมตร


ตามกองหินนั้น ประดับประดาด้วยดาวขนนกหลากสีสัน  ฟองน้ำ ไฮดรอยด์  ปะการังแข็งทั้งแบบโขดและแบบกิ่ง

ปลาตัวเล็กตัวน้อยประเภทปลากะรังจิ๋ว (Basslet)  และปลาสลิดหิน (Damsel) นานาชนิดอาศัยอยู่ตามกอปะการังแข็ง....

 :-*

ปลาสามครีบลายตรง (Neon Threefins) ที่นี่เชื่องมากๆค่ะ....  

ตัวนี้เหมือนปลาปากคม หรือปลาตุ๊กแก (Lizardfish)  แต่ตัวเล็ก และลายสวยกว่าเยอะเลยค่ะ


ปลาอะไรคะน้องสามารถ..... ;)

อดถ่ายภาพนักเลงโตไม่ได้สักที.....ปลาการ์ตูนลายปล้อง (Clark's Anemonefish)

ตัวนี้เด็ดสุด.....ปลาไหล Ribbon Eel  วัยรุ่นสีดำ แสนเชื่องที่ไม่หลบกล้อง

ตัวโตอย่างนี้....อีกไม่นานคงเปลี่ยนเป็นหนุ่มสีฟ้าแล้ว

ตัวนี้ก็น่ารักค่ะ....

ปลาวัวเขา (Thornback Cowfish) วัยรุ่น เขาเริ่มงอกแล้ว

ปูอุรังอุตัง (Urang-Utang Crab)  ตัวโตที่ไม่อายคนเช่นกัน....


ดูดีๆ.....น้องปูลิงยิ้มให้ด้วยนะคะ.....

ทากทะเลที่นี่มีหลายพันธุ์และสวยๆทั้งนั้นค่ะ....


ทาก Flabellina rubrolineata   เดินต้วมเตี้ยมอยู่บนพื้นทรายขาวสะอ้าน...

ทากปุ่ม Phylidia ocellata ที่โดดเด่นด้วยสีสันและลวดลายวงแหวนสีดำเต็มวงบ้าง ครึ่งวงบ้างที่อยู่บนตัวสีเหลืองสด และปุ่มปมสีขาว

Risbecia tryoni  

Halgerda  malesso     

Hypselodoris maculosa  เป็นทากตัวจิ๋วสวยหวานมที่สายชลเพิ่งได้เห็นเป็นครั้งแรกค่ะ

Burting เรียกสายชลไปถ่ายภาพทากตัวนี้ตอนใกล็จะหมดเวลาดำน้ำ......กว่าจะถ่ายได้ใช้เวลาอยู่นาน จนเกือบติดดีคอม.....

Jorunna funebris กำลังกอนฟองน้ำสีม่วงของโปรด...

Nembrotha chamberlaini  ตัวใหญ่ที่หากินอยู่บนยอดหิน....

ชอบหน้าแดงๆและปากสีฟ้าของ Nembrotha chamberlaini    มากค่ะ...

ปิดท้ายด้วยหนอนตัวแบนแสนสวย.....Pseudoceros lindae  

อ้าวววว.....คุณสายน้ำจะกลายเป็นปะการังให้เต่ากินไปซะแล้ว...... :-X


เอ....แล้วจะเป็นปะการังชนิดไหนล่ะคะ....เต่าถึงจะยอมกิน..... ;)

มันเป็นแค่ลายที่มีมากกว่าปกติ แต่ก็พบได้น้อยมาก ผมก็เพิ่มเห็นในปลาการ์ตูนมะเขือเทศเป็นครั้งแรกนี่แหละครับ
แต่ถ้าเป็นส้มขาว หรือเพอร์คูลา จะพบได้ค่อนข้างบ่อย อย่างที่พี่สองสายเคยดูเพอร์คูลาที่ผมเลี้ยงที่มีปานสีขาวที่หัวไงครับ

นี่เป็นตัวอย่างของปลาการ์ตูนส้มขาว ที่มีลายสีขาวมากผิดปกติ จาก photobucket.com

(http://i401.photobucket.com/albums/pp98/Christos_Clowns/49004940.jpg)

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะน้องสามารถ.... :-* :-* :-*


เจ้านีโมตัวในภาพที่น้องนำมาลงให้ชมนั้น ลายไม่บอกเลยนะคะว่าเป็นนีโม  สัตว์ด้วยกันเองเขาเห็นถึงความแตกต่างในเรื่องนี้ และเขามีความรู้สึกต่อด้านที่ไม่เหมือนเพื่อนพ้องน้องพี่ไหมคะ... ;)


ดูในภาพ....เหมือนมีไข่ติดอยู่ที่ฉากหลังด้วย ใช่ไหมคะ....

ตัวเล็กตัวน้อย เก็บเรียบกริ๊บเลยค่ะ พี่สายชล แต่ละรูป ชัดกริ๊กๆ น่ารักมากๆ เลยค่ะ  :-*

ขอบคุณจ้ะหนูอุ้ม..... :-* :-* :-*


ต้องไปพัทยาตั้งแต่บ่ายวันศุกร์  จะกลับถึงกรุงเทพฯก็เที่ยงๆวันจันทร์   ตอนนี้ใช้ Net ผ่านโทรศัพท์มือถือที่ช้ามากไม่ทันใจ เลยยังลงเรื่อง Anilao ต่อไม่ได้.....


อิๆ.......ยังเหลืออีก 2 จุดดำน้ำที่มีของเด็ดๆอีกมากมาย  โปรดรอชมต่อนะคะ....

มาปูเสื่อ .. รอชมภาพสวยๆ ของพี่สายชลค่ะ .... :-* :-*

กลับมาแล้วค่ะ.....กลับมาแล้ว..... 8)


ขอบคุณค่ะน้อง Sunshine ..... อ่านต่อได้เลยค่ะ.... :-* :-* :-*

Secret Bay


Burting  บอกเราว่า  มีจุดำน้ำลับสุดยอดที่ Larry   ได้ค้นพบด้วยตัวเอง  มีลูกค้าของ Balai เท่านั้นที่ได้ไปดำน้ำที่จุดนี้.....


เมือเราลงไปที่จุดดำน้ำแห่งนี้  ก็รู้ได้ททันทีว่า ที่นี่เป็นจุดดำน้ำที่เรียกว่า  Muck Diving   คือเป็นพื้นทรายที่ไร้แนวปะการัง  มีแต่กอฟองน้ำเล็ก  ไฮดรอย์  ก้อนหิน และพื้นทรายสีคล้ำๆให้ได้เห็น


แต่อย่างนี้แหล่ะ.....ของดีมีให้ดูเพรียบ......


ของดีตัวแรกที่มานอนคอยเราอยู่ใต้ท้องเรือ.....เห็นแล้วก็ต้องร้องกรี๊ดๆ.......


ปลานกกระตั้ว  หรือที่ฝรั่งเขาเรียกว่า Cockkatoo  Waspfish  สีน้ำตาลอมแดง ที่ตัวเล็กกว่านิ้วก้อย  ตัวยาวเพียง 3 ซม.


สองสายเคยเห็นปลา   Cockkatoo ที่ Lembeit  Strait , Indonesia ซึ่งตัวใหญ่กว่านี้  เวลาเขาเดินไปสองสามก้าว เขาก็จะล้มแผละไปด้านข้าง  แต่เจ้าหนูตัวน้อยนี้จะเกาะอยู่นิ่งๆ ไม่กระดุกกระดิกไปไหน....

นี่ก็เป็นลูก Waspfish อีกตัวหนึ่ง ขนาดเล็กกว่านิ้วก้อย ซึ่งดูจะคล้ายๆกับ Sailfin Waspfish  แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่หรือไม่นะคะ

เขาน่ารักตรงที่ตาแป๋วแหวว และตัวสีดำสนืท มีลายขาวบริเวณครีบหน้าถึงหลังตา

ปลาหน้าตาประหลาดๆมีอยู่มากมาย.....ส่วนมากจะอยู่ในตระกูล Scorpionfish

ตัวนี้ใหญ่กว่าปลาย Pointer นิดเดียว...

ตัวนี้เหมือนมีเขาที่หัว.....

อิๆ....จบไม่ได้ซะที..... ;)


เห็นทีจะต้องยกเรื่องดำน้ำที่ฟิลิปปินส์นี่ไปบ้านใหม่ซะแล้วล่ะค่ะ..... :) ;D :)   

ฮ่าๆ อ่านแต่คำบรรยาย ไม่ได้เห็นรูป นึกภาพปลาไม่ออก

อย่างนี้ต้อง รอไปชมกระทู้ต่อที่บ้านใหม่ด้วยคนครับ  :-*

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก

ตั้งใจไว้ซะดิบดีว่า วันหยุดวันนี้จะมานั่งดื่มด่ำกับกระทู้นี้ให้เต็มตา
(เวลาดูที่ออฟฟิซ มันต้องแอบๆดูเร็วๆอ่ะค่ะ)

แต่ไหง รูปหายไปหมดเลยล่ะเนี่ย
แงๆๆ

 :'( :'(

อ่า ภาพหายไปไหนหมดอ่ะคับ

ยังไงก็จะรอ รอต่อไปอ่ะ    :o :o :o

แห่ะๆ.....รูปอีไปเที่ยว....ปูเดี๊ยวก้อกลับมา.....ฮ่อๆ..... :-X :-X :-X

ยังดูรูปไม่ได้ง่าาาา   :'( :'(

ภาพ Icon สมาชิกเริ่มมาแล้วค่ะ  เดี๋ยวอย่างอื่นก็ตามมาเองนะคะหนูหวาน.... :-*

หุๆ....สงสัยได้ยกเรื่องนี้ไปอยู่บอร์ดใหม่แน่ๆ..... ;)


กว่าจะมีเวลาลงเรื่องลงภาพอีกทีก็ปลายเดือนดนู่นแหล่ะค่ะ.....พี่น้อง..... ;D

 8) 8) 8)   เพิ่งไปแจ้งความมาค่ะ ว่ารูปสวยๆในบ้าน  SOS. หายค่ะ

ตำรวจบอกว่า กำลัง แกะรอยคนร้ายอยู่ ให้ จายเย็นๆ 

พี่สองสยต้องติด เหล็กดัดและสัญญาณกันขโมยแล้วหล่ะๆ อดดูรูปสวยๆให้หายคิดถึงเลย

ภาพไม่ได้หายจ้ะน้องสายรุ้ง.....เพียงแต่เรามองไม่เห็น.... :-X :-X :-X


เดี๋ยวยกทั้งสองเรื่องไปโพสในบอร์ดใหม่ดีกว่า......แต่คงต้องรอไปสักสองสามอาทิตย์นะจ๊ะ  เพราะจะต้องออกทริปสามทริปติดกัน.... 8)


พรุ่งนี้เช้ามืดจะออกเดินทางไปโลซินแล้ว  และจะกลับมา มีเวลาว่างวันที่ 15 พฤษภาคมนี้วันเดียว ก่อนจะบินไป Labuan, Malaysia ในวันรุ่งขึ้น  กลับมาถึง 22 พฤษภาคม ก็ดิ่งไปชุมพร


อย่างไรก็ฝากดูแลบ้านกันด้วยนะคะ  น้องโป๋และพี่น้องทุกท่าน.... :-* :-* :-* 


ถ้าใครว่างในวันที่ 15 พฤษภาคม......นัดไปทานข้าวเย็นกันที่งาน TDEX ศูนย์ฯสิริกิติ์  ดีไหม.....  ;)