กระดานข่าว Save Our Sea.net

ต้องขอบอกก่อนว่าที่จะเขียนถึงเนี่ย ผมรู้สึกว่าถ้าเขียนแร้ว คนจะเข้ามาว่าในเรื่องที่ไม่ตรงกับที่ตั้งใจจะเขียนถึงซักเท่าไร เพราะรู้ว่าแค่เอ่ยถึงแร้ว คนที่ไม่ชอบถึงภาครวมของสิ่งนี้ คงจะเข้ามาว่ากัน

เรื่องก็คือเรื่อง จตุคาม ผมก็นับถืออยู่ครับ ใครมาด่าผมก็คงไม่ค่อยสบายใจเท่าไร แต่เป็นเรื่องของรายละเอียดบางอย่างของส่วนผสมจตุคามอยู่รุ่นนึงหรือที่เค้าเรียกกันว่ามวลสารนั้นหละครับ

จตุคามรุ่นนี้จัดทำโดยหมอดูดังอยู่คนนึง ที่มักชอบพูดถึงดาราว่าจะเลิกกันเมื่อไรบ่อยๆครับ

ผมดูมวลสารแร้วก็ดูดี พอเรยมาข้อที่สามสิบ เจอเขียนว่า

30. น้ำตา-ปลาพยูน และไขปลาวาฬ เป็นของศักดิ์สิทธิ์จากแดนใต้ มีคุณด้านเสนห์ยาแฝด เมตตามหานิยม

เท่าที่ผมรู้ ความเชื่อเรื่องน้ำตานางเงือกหรือปลาพยูน กว่าจะได้มาต้องจับเจ้าหมูน้ำขึ้นมาทั้งเป็นๆ หาหวายมาเฆี่ยนตี จนกว่าจะมีน้ำตาออกมา แร้วเจ้าหมูก็ตายไปอย่างทรมาน

น้ำตาก็คือน้ำที่หล่อเลี้ยงความชุ่มชื้นให้กับสัตว์ที่อยู่ในน้ำเวลามันต้องขึ้นมาบนบก แบบเต่าใหญ่ไข่กลบ การหาน้ำตาพยูนเป็นความเชื่อที่ผิดๆ

ยังมีคนที่ยังงมงาย หาสิ่งเหล่านี้มาใส่ในเครืองราง ของขลัง หรือแม้แต่พระเครื่องบางรุ่นก็ยังเอาไปใส่ในท่าน

พระเครื่อง, จตุคาม, เครื่องลางของขลังส่วนมากจะหาของที่เป็นมงคลใส่เพื่อมีแต่สิ่งดีๆอยู่กับตัว

แต่ผมขอสาบส่งรุ่นนี้ครับ จะใส่เมตตามหานิยมภาษาเบื๊อกอะไรถ้าสิ่งที่หามาได้จากการทนทุกข์ทรมานสัตว์

พอดีเครื่องสแกนของผม มันกิ๊กก๊อก กดไปแร้วมันร้องดังแหงกๆสามทีแร้วนิ่งไปเรย รอเด้วนะครับ จะไปยืมเครื่องที่บริษัทมาก่อนบ่ายๆพรุ่งนี้ หรือไม่ก็ไปหาดูได้ตามแผงพระที่รับจอง ข้อที่ 30 นะครับ

กระทู้ของผมขอให้ว่าแค่เรื่องน้ำตาปลาพยูน กับพระจตุคามรุ่นี้ว่าเราควรจะทำยังไงกันดีมั่ง หรือถ้ามีเหตุการแบบนี้อีก...จะจัดการได้ยังไงมั่งครับขออย่าว่าพระอื่นๆโดยรวมเรยครับ

อ่านไปแร้ว คิดถึงแม่หมูน้ำ กับแม่หอยเป็นที่สุด ประชาชาติเก็บตัวโปรชัวร์ตัวจริงไว้ให้แร้วครับ




ขอบคุณครับ

มันน่าจะใส่สะดือหอยมือเสือป่นแถมเข้าไปด้วย จะได้เพิ่มความเจ็บปวดให้ 2 แม่อีกสักหน่อย
เพ่งเห็นตาหมอดูรายนี้ออกทีวีแว๊บๆ พูดเรื่องจตุคามฯ แต่ไม่ได้ดูว่าพูดอะไร .. มาเข้าบ้านเจอกระทู้นี้ สะอึกเลยค่ะ
พรุ่งนี้จะแจ้งแม่หมูน้ำ ว่าทำไมมีคนรีดน้ำตาปลาพยูนมาได้ ผิดกฏหมาย พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ นี่นา .. >:(
เอามาโฆษณาอย่างนี้ จับลงโทษเลยได้ไหม หรือจับเท็จว่าไม่มีของรายการนี้จริง..
ที่แน่ๆ ยังไม่ทันจะทำออกมาเสร็จเลย เสียคะแนนนิยมไปไม่กลับแล้ว  อย่างน้อยก็ชาว SOS และคนรักพยูนทั้งหลาย คงไม่บูชาเครื่องรางที่มีส่วนประกอบผิดจรรยาบรรณของผู้มีเมตตาแน่ๆ

"30. น้ำตา-ปลาพยูน และไขปลาวาฬ เป็นของศักดิ์สิทธิ์จากแดนใต้ มีคุณด้านเสนห์ยาแฝด เมตตามหานิยม"

ขอบคุณพี่ประชาชาติครับที่นำเรื่องนี้มาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน ที่เหลือก็คงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเรา ๆ ท่าน ๆ แล้วล่ะครับ ว่าจะเช่าจะบูชา เครื่องรางของขลัง ที่มีส่วนผสมที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์ และ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยกันรักษาให้พวกเขาทุกชีวิตที่ยังเหลือดำรงอยู่ต่อไป หรือไม่  ฝากให้คิดกันดูครับ  ??? ??? ???  

นั่นสิครับ แม่หอย เอาน้ำตามาได้ ก็แปลว่าต้องจับตัวเป็นๆหรือตายแล้วมาด้วย  มันผิดกฎหมายชัดๆ แต่ถ้าปฏิเสธว่าไม่ใช่ ก็แปลว่าแหกตาคนทั้งประเทศ ไม่น่าสนับสนุนครับ (http://www.kapook.com/msn/upload/emoticons/thumbnail/kapook-16031-5134.gif)

(http://www.saveoursea.net/oldboard/files/payoon03.jpg)

หน้าตาไร้เดียงสาอย่างนี้ไปทำลงได้ไง ...... สองสายยังไม่เคยได้เห็นพะยูนในน้ำเลย ไปตรังก็หวังจะได้ดูพะยูนในทะเลสักครั้ง แทนที่จะได้เห็นตัวเป็นๆ กลับได้เห็นแบบนี้ แต่ก็มีนะครับ คนที่จะเข้ามาเช็ดน้ำตา หาเขี้ยว แต่ ซอรี่ครับ อยู่ได้เดี๋ยวเดียว เจ้าหน้าที่ประมงก็มารับไปแล้ว.....

(http://bjcg.com/i/e/2006/04/27/134950312.gif)(http://bjcg.com/i/e/2006/11/07/103828514.gif)(http://bjcg.com/i/e/2006/07/20/113130636.gif)

โหดร้ายทารุณเป็นที่สุด ถ้าคิดว่าการทรมานสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะบนบกหรือในน้ำเพื่อที่จะได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มา
เพื่อทำให้ตัวเองมีคนนิยมชมชอม Mermaid คิดว่าคงไม่มีใครนิยมชมชอบคนที่ทำแบบนี้หรอก จริงมั้ย
แต่ใครจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่วิจารณญาณของคุณๆทุกคนเองค่ะ ???

พี่สายน้ำคะ ปลาพยูนในรูปเนี่ย เค้าจับมาทรมานเหรอคะ หรือว่ามันตายก่อนแล้วคะ
แต่ดูจากรูปน่าจะโดนทรมาน :(

(http://www.saveoursea.net/oldboard/files/payoon01.jpg)


เมื่อคืนพยายามหาเรื่องนี้เพื่อจะเอาภาพมาลง แต่หายังไม่พบ เลยหลบไปนอนเสียก่อนค่ะ... :(

พะยูนตัวที่เห็นนอนตายอยู่นี้ สันนิษฐานว่าติดอวนของชาวประมงที่ตรังแล้วขึ้นมาหายใจไม่ได้ เลยตายพร้อมลูกเล็กๆที่ลอยขึ้นมาก่อนหน้าแม่ไม่นานนัก

อ่านเรื่องเศร้านี้ได้ที่
http://www.saveoursea.net/oldboard/viewtopic.php?t=1012&sid=63f8b7f1113ec86b2be4d81ed804816f

ไปเที่ยวเมืองเหนือสองสามเที่ยวที่ผ่านมา สองสายได้ภาพแสงสีฟ้ารูปวงกลมเหมือนที่เขาบอกว่าเป็นภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาได้มากมายหลายสิบภาพ จากการใช้กล้องตัวเก่า Nikon Coolpix 995 ถ่ายภาพวัดวาอารามและสถานที่ต่างๆ

ถ้าเป็นคนงมงายเชื่อในสิ่งผิดๆ สองสายก็คงจะมีความสุขที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาโปรดมากมายอย่างนั้น แต่เพราะรู้ดีว่ามันเป็นเพียงภาพของฝุ่นละอองและไอน้ำที่ลอยอยู่ในอากาศ ที่บังเอิญกล้องเราไปจับมาได้....ก็เท่านั้น

ความเชื่องมงายของคนทุกชั้นทุกวรรณะเกิดมานมนานกาเล และเป็นเรื่องยากที่จะไปเปลี่ยนความคิดของเขาและเธอทั้งหลาย

ถ้าความงมงายนั้นไม่ไปทำให้ใครเดือดเนื้อร้อนใจ (นอกจากย่อยสลายเงินในกระเป๋าคนงมงายด้วยกันเอง) ก็ปล่อยเขาไปเถอะนะคะ  แต่ถ้ามาทำให้คนอื่นเดือดร้อนใจและกายด้วยการหลอกลวง หรือเลยเถิดเกินไปจนไม่เว้นแม้แต่การรบกวนหรือทำร้ายสัตว์สงวนอย่างพะยูนเช่นนี้ละก็ เห็นทีจะปล่อยไว้ไม่ได้

ขอสนับสนุนความคิดของน้องแม่หอย เรียกร้องให้น้องแม่หมูน้ำ แจ้งความดำเนินคดีกับคุณหมอดูชื่อดังรายนี้ซะให้เข็ด....

สวัสดีคะพี่ๆน้องๆ SOS
          แม่หมูน้ำ ก้อทำตัว Busy เหลือเกิน ไม่ค่อยได้แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนบ่อยนัก วันนี้ทนไม่ได้ เพราะแม่หอยแจ้งข่าวเรื่องจตุคามมา .... อยากจะเห็นไอ้โปรชัวร์กัดจะๆ หน่อเดี๋ยวจะด่าผิดตัวคะ

เย้....นางเอก.....เอ๊ย....น้องแม่หมูน้ำมาแล้ว... :)

สวัสดีจ้ะ...น้องแม่หมูน้ำ  เรื่องนี้น่าสนใจนะคะ ถ้าจัดการได้ จะล้างความเชื่อผิดๆเรื่องพะยูนของคนงมงายไปได้มากเลยล่ะค่ะ

น้องประชาชาติ เจ้าขา.... ขอภาพและรายละเอียดในโบชัวร์ด่วนจี๋จ้ะ  

พี่สายชลคะ
ตามไปอ่านเรื่องน่าเศร้าแล้วค่ะ คนเราก็ทำไปได้....
ทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเองและเงิน.....
แล้วเมตตามหานิยมแบบนี้เค้าคิดได้ไงคะ ทรมานสัตว์ชัดๆ
คนเรามีพระหรือเครื่องรางของขลังเอาไว้บูชา ไว้เป็นกำลังใจทางจิตใจ ท่านก็จะช่วยแต่คนดีนะ
แต่คนเลวๆแบบนี้ท่านจะช่วยมั้ยคะ
หนูก็ไม่ได้ลบหลู่หรือว่าไม่เชื่อนะคะ แต่คิดจากหลักความจริงแล้ว มันก็น่าเศร้าใจที่เค้าทำแบบนี้

ลองคิดดูสิคะ...ถ้าเขาได้น้ำตาพะยูนมาจริงๆ มันจะเป็นสิริมงคลไปได้อย่างไร... ;)

ความเจ็บปวดและความตายที่จะทำให้ได้น้ำตามานั้น...พี่เชื่อว่า....ใครได้ไปใช้คล้องคอก็มีแต่จะซวย...ซวย....และซวย

แถมด้วยอาการทุกข์กาย...ทุกข์ใจ....และทรมานจนน้ำตาเรี่ยราด ก่อนจะตายอย่างน่าสมเพช....

ฟันธง.....

:-[

"ฟันธงด้วย"

เห็นด้วย ทุกประการ

ลองส่งดูนะครับ

แบบขยายเฉพาะจุดครับ

แม่หมูหรือแม่หอยมางานประมงน้อมเกล้าวันศุกร์หรือปล่าวครับ

จะเอาโปรชัวร์ตัวจริงไปให้ครับ

อืม....ไม่รู้จะพูดยังไงค่ะ พูดไม่ออก...
ว่าแต่ น้ำตาปลาพยูนเนี่ยเวลาเค้าไปเอามาจากพยูนน้อยน่ะ เค้าเอามายังไงคะ หมายถึงหลังจากที่ทรมานปลาพยูนน้อยจนพวกมันสาสมใจกันแล้วจนปลาพยูนน้อยร้องไห้ เค้าเก็บน้ำตามันยังไงเหรอคะ กว่าจะไปถึงที่ทำพิธีน่ะมันจะไม่แห้งไปแล้วเหรอคะ ???

เจ้าหนูจำมัย...ขี้สงสัย... :)

ชัดแจ๋วเลยจ้ะหลายประชาชาติ......ขอบคุณมากนะจ๊ะ

เห็นรายละเอียดของขลังแล้วก็ยิ่งสังเวชใจ....ทำไปได้..... :-[

ที่เคยเห็นจากตรังนั้น....เจ้าหนุ่มใหญ่วัยกลางคน ท่าทางนักเลง ไว้หนวดเฟิ้ม จับปากพะยูนที่นอนตายเปิดออกเพื่อดูว่ามีเขี้ยวไหม พอเห็นว่าไม่มี  ก็ควักผ้าเช็ดหน้าออกมา แล้วก็เช็ดไปรอบๆดวงตาของพะยูน แล้วก็พูดว่า...."นี่แหล่ะของดี...."

ที่ติดผ้าเช็ดหน้าไปนั้น....เห็นมีแต่ขี้ตาพะยูน....

สายชลเห็นแล้วก็ทนไม่ไหว....ต้องส่งเสียงไล่ให้ไปพ้นๆเถอะ แค่นี้ก็เหลือทนแล้ว อย่าไปรบกวนพะยูนอีกเลย

 

(http://bjcg.com/i/e/2007/06/07/135310794.gif)(http://bjcg.com/i/e/2007/06/07/135310590.gif)

ส่งโปรชัวร์พระให้แม่หมูน้ำแร้วนะครับ ทาง ems เมื่อวันศุกร์

ตอนนี้ก็น่าจะถึงแร้ว

"มนุษย์"  ก็หนึ่งชีวิต
"สัตว์"   ก็หนึ่งชีวิต  ....เท่ากัน  เสมอกัน

น้องตึก หรือแม่หมูน้ำ ได้ให้ข่าวเรื่องนี้ และได้ตีพิมพ์ลงใน นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 15 กรกฎาคม 2550 ดังนี้



โวยใช้น้ำตา"วาฬ-พะยูน"สร้างจตุคามฯ

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม น.ส.กาญจนา อดุลยานุโกศล นักวิชาการประมง 8 หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีการโฆษณาชวนเชื่อว่ามีการจัดทำจตุคามรามเทพ มีมวลสารศักดิ์สิทธิ์ น้ำตาพะยูน และไขวาฬ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากแดนใต้ ว่า แม้ในทางกฎหมายไม่สามารถเอาผิดกับผู้โฆษณาได้ เพราะถึงแม้จะมีน้ำตาพะยูนหรือไขวาฬ จริงก็ตาม ก็หาทางพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ยากมาก และปัจจุบันได้จัดทำเรียบร้อยแล้ว ต้องถือว่าเป็นโฆษณาชวนเชื่อที่ทำให้คนหลงผิด และทำให้แง่มุมในการอนุรักษ์ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง

น.ส.กาญจนากล่าวว่า ตามกฎหมายคุ้มครองพะยูนนั้น ไม่สามารถจับ ดัก ล่อ หรือมีพะยูน ชิ้นส่วนพะยูนในความครอบครองได้เลย การที่จะได้น้ำตาพะยูนมานั้น ต้องจับพะยูนมาอยู่บนที่แห้ง อาจต้องทรมานพะยูนให้ได้รับบาดเจ็บ น้ำตาก็คือเมือกที่พะยูนขับออกมาให้ความชุ่มชื้นกับดวงตาพะยูน การจะได้มาซึ่งน้ำตาพะยูนไม่น่าจะกระทำได้ง่าย ส่วนไขวาฬนั้น มีวาฬหลายชนิดที่ได้รับความคุ้มครอง แต่ก็อาจหาซื้อได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะมีขายในบางประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยแล้วนั้น วาฬได้รับความคุ้มครองทุกชนิด

"ดังนั้น จึงเห็นว่าเป็นการทำให้ประชาชนโดยทั่วไปเข้าใจผิดในเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากของประเทศไทย และยังทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดๆ ในด้านคุณค่าของน้ำตาพะยูน ซึ่งเป็นประเด็นที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้พยายามรณรงค์เรื่องการอนุรักษ์ต่อเนื่องมานานกว่า 15 ปี"   นักวิชาการประมงระบุ  



...... และแม่หอยยังส่งข่าวเพิ่มเติมให้ทราบอีกว่า หมอหนิ่ง หรือ รศ. สพญ.นันทริกา ซันซื่อ ได้เขียนประเด็นนี้ลงในหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารบางฉบับแล้วด้วย ..... ถ้าทราบว่าฉบับไหนแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ

 :(
ช่วยกันเผยแพร่ให้มากๆ ค่ะ..
ประเทศเรา ดูท่าว่าจะเจริญไปมาก แต่ผู้คนดูทำท่าว่าจะงมงายไปกันใหญ่
ความเชื่อความศรัทธาถ้าเป็นไปในแนวที่จะทำให้เราคิดดี ทำดี จิตใจดี ก็น่าสนับสนุน แต่ทุกวันนี้หลายคนคงลืมไปแล้วว่าควรสร้างศรัทธาในทางที่ดี
.. ทำไปได้ไง เอาน้ำตาพยูนมาช่วยด้านเมตตามหานิยม .. อเมตตาหรือใจบาปหนาล่ะไม่ว่า
และทำไปได้ไง ถ้าไม่ได้ใช้น้ำตาพยูนจริง แต่หลอกลวงว่ามีน้ำตาพยูน ..
สงสารสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกมนุษย์เห็นแก่ได้ พากันดึงมาใช้เป็นเครื่องมือหากินไม่เว้นแต่ละวัน

เหรียญรุ่นนี้ ใครนำไปคล้องสงสัยจะไม่มีใครนิยมชมชื่นซะมากกว่าค่ะ

ไม่นิยมชมชอบแล้ว...ยังจะซวย...ซวย...ซวย....ด้วยนะคะ

ฟันอวน.....

เมื่อวานรายการสรยุทธตอนเช้ามีมาพูดเรื่องนี้ด้วยครับ

อยากให้ระบุออกสื่อไปเรยว่าเป็นรุ่นอะไร ใครเป็นผู้จัดสร้างครับ

 :( แย่จังเลยค่ะ เอาผิดกะคนทำไม่ได้เนี่ย  :'(

รุ่นนี้ ยี่ห้อ หมอดู ที่ชอบฟัน....อะไรซักอย่างแหละครับ

 ;D
หมอดูฟันอะไรไม่อยากสนใจล่ะค่ะ .. แต่พวกเรา "ฟันอวน" ได้เลย ฮิๆ.. ชอบจัง วลีของพี่สายชลเนี่ย.. :-X

แฉพะยูนตายผิดปกติคาดใช้เป็นมวลสาร

      เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นางนิศากร โฆษิตรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ได้สั่งให้จับตาอย่างใกล้ชิดว่า เริ่มมีพะยูนตายหรือเสียชีวิตผิดปกติในช่วงนี้หรือไม่  โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่ จ.ตรัง ที่เป็นแหล่งอาศัยของพะยูนมากกว่า 100 ตัว รวมถึงบริเวณทะเลตราด จันทบุรี  ซึ่งขอหน่วยงานในพื้นที่เฝ้าระวังและคุ้มครองพะยูนอย่างเต็มที่  เนื่องจากเป็นสัตว์สงวนชนิดหนึ่งใน 15 ชนิดของประเทศไทย และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในบัญชี 1 ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ดังนั้นไม่ว่าจะได้มาด้วยวิธีการไหน หรือมาจากแหล่งไหนจากประเทศอื่นๆ ก็ถือว่าผิดกฎหมายทั้งสิ้น   

     “ขณะนี้แม้จะยังเป็นเพียงข้อมูลจากการโฆษณา อาจจะนำมาใช้สร้างความศรัทธาก็ตาม แต่เหตุผลที่จะนำพะยูนมาใช้เพื่อลักษณะดังกล่าว ทาง ทช.ไม่ยอมแน่นอน  แม้ว่าตามข้อเท็จจริงอาจจะมีความเป็นไปได้น้อยที่จะหาน้ำตาพะยูนมาใช้ในพิธีกรรมดังกล่าว” นางนิศากร กล่าว

      น.ส.กาญจนา อดุลยานุโกศล หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก  สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและป่าชายเลน จ.ภูเก็ต  กล่าวว่า  สมัยก่อนคนใต้เชื่อว่าน้ำตาพะยูนเป็นยาเสน่ห์    เนื่องจากลักษณะนิสัยของพะยูนเป็นสัตว์ที่มีความรักใคร่กันมาก  หากลูกหายไป แม่ก็จะวนเวียนตามหาลูกอยู่อย่างนั้นจนทำให้ถูกจับได้ง่าย อาจทำให้คนนำไปคิดว่าจะใช้ในการสร้างเสน่ห์ เท่าที่รับฟังจากคำบอกเล่า การจะได้น้ำตาพะยูนนั้นเป็นการทรมานสัตว์มาก เพราะต้องจับพะยูนขึ้นมาบนที่แห้ง และต้องตีให้เจ็บเพื่อทำให้มีเมือกหรือน้ำตาออกมา โดยได้ปริมาณน้อยแค่สำลีซับเท่านั้น    จึงขอให้ประชาชนใช้เหตุผลก่อนตัดสินใจตามโฆษณาชวนเชื่อดังกล่าว 

      เมื่อถามว่าที่ผ่านมาพบการตายของพะยูนในลักษณะที่น่าสงสัยว่าจะถูกนำไปทรมานเพื่อเอาน้ำตาของมันหรือไม่ น.ส.กาญจนา กล่าวว่า  เป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อช่วงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สถาบันฯ ได้รับซากลูกพะยูนความยาวเมตรเศษๆ มาจากเกาะในอ่าวพังงา พบว่ารอบดวงตาซ้ายและบนหัว เหมือนถูกของมีคมเฉือนหนังออกไป ส่วนตาขวาช้ำมาก มีรอยถลอก หรือผิวหนังหายไปเล็กน้อย ซึ่งเป็นเคสแรกที่ตายแบบไม่ปกติ เพราะถ้าเป็นการติดอวนหรือติดเบ็ดจะต้องมีร่องรอย   

 ขณะที่ นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวสั้นๆ ว่า  จะบ้าไปกันใหญ่แล้ว ถ้าใครจะนำพะยูนซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองมาทำแบบนี้ ก็ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน


จาก          :          คม ชัด ลึก   วันที่ 18 กรกฎาคม 2550

หน.อุทยานฯตรังลั่นเป็นไปไม่ได้นำน้ำตาพะยูนสร้างจตุคามฯ

      ตรัง – หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ยืนยันไม่มีการนำเอาน้ำตาพะยูนจากอุทยาน ไปสร้างจตุคามรามเทพ โดยมีการดูแลและสำรวจจำนวนอยู่เป็นระยะ เชื่อเป็นกลยุทธ์สร้างข่าวของพวกหัวใส หวังผลยอดจอง
       
       วันนี้ (18 ก.ค.) นายจรัญ ขุนณรงค์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง และหัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติจังหวัดตรัง กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวออกมา ว่า มีการจัดสร้างองค์จตุคามรามเทพ บางรุ่น ได้นำเอาน้ำตาพะยูนมาเป็นส่วนหนึ่งของมวลสารในการจัดสร้าง ว่า ในส่วนของจังหวัดตรังขอยืนยันว่า ไม่มีใครที่จะนำเอาน้ำตาพะยูนได้
       
       ทั้งนี้ เนื่องจากทางอุทยานได้มีการจัดเจ้าหน้าที่สายตรวจทางทะเล ออกตรวจตามบริเวณพื้นที่ที่มีพะยูนอาศัยอยู่ตลอดเวลา และเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบและถ่ายภาพพะยูน ที่กำลังขยายพันธุ์กันอยู่ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าจังหวัดตรังยังมีพะยูนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ล่าสุด จากการสำรวจพบว่ามีพะยูนอาศัยอยู่ประมาณ 148 ตัว
       
       ทั้งนี้ สำหรับกระแสข่าวการนำน้ำตาพะยูนมาจัดสร้างจตุคามฯ ตนมองว่า อาจจะเป็นการกระแส เนื่องจากขณะนี้มีการจัดสร้างจตุคามฯเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงเป็นกลยุทธ์ที่มีการหาความแตกต่างของการสร้างออกไป ก็เป็นเพราะความเชื่อที่ว่าน้ำตาพะยูนเป็นสิ่งที่หายาก เพราะกว่าที่น้ำตาพะยูนจะออกมา ก็แสดงว่า พะยูนตัวนั้นกำลังใกล้จะตาย แต่ความจริงแล้วน้ำตาพะยูนถือเป็นสารตัวหนึ่ง ที่หลั่งออกมาเพื่อเคลือบดวงตาเท่านั้นเอง
       
       หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา การตายของพะยูนในจังหวัดตรัง ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุในเครื่องมือประมงพื้นบ้าน ที่ชาวประมงเองก็ไม่มีความตั้งใจจะให้พะยูนมาติดกับดัก และอีกส่วนหนึ่งก็เป็นการตายตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
       
       อย่างไรก็ตาม การที่จะครอบครองพะยูนเป็นเรื่องยาก ถึงแม้จะเป็นซากพะยูนก็ตาม เพราะถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากพะยูนเป็นสัตว์สงวน และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหากพะยูนในจังหวัดตรังตายลง ก็จะมีการส่งไปตรวจสอบและหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต ซึ่งก็ไม่พบการตายที่ผิดปกติแต่อย่างใด
       
       นายสุริยะ วิฑูรย์พันธุ์ ประมงจังหวัดตรัง กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า จังหวัดตรัง ไม่มีการนำเอาน้ำตาพะยูนไปเป็นมวลสารในการจัดสร้างจตุคามฯอย่างแน่นอน เนื่องจากชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ที่มีพะยูนอยู่อาศัย จะมีการจัดตั้งเครือข่ายอาสาสมัครประมงพื้นบ้าน ในการตรวจสอบความผิดปกติ และดูแลความเป็นอยู่ของชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งก็ไม่พบว่ามีการล่าพะยูนเพื่อที่จะนำเอาน้ำตาไปทำกิจกรรมที่มีกระแสข่าวออกมาก
       
       การกระทำดังกล่าว ชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดตรังเองไม่มีความยินยอมอย่างแน่นอน ส่วนการเสียชีวิตของพะยูนก็มาจากความเป็นอยู่ตามธรรมชาติ โดยพบ 1 ปี จะมีพะยูนตายประมาณ 1-2 ตัว ซึ่งก็เป็นไปตามอายุไขของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
       
       อย่างไรก็ตาม จากกระแสข่าวดังกล่าวยังไม่พบบุคคลแปลกหน้า หรือบุคคลต่างถิ่นที่เข้าไปติดต่อหรือหาซื้อน้ำตาพะยูน หากมีบุคคลเหล่านี้จริง เชื่อว่า บุคคลในพื้นที่ ก็จะมีวิธีการในการป้องกันไม่ให้มีการกระทำเช่นนั้นเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน และบุคคลเหล่านั้นก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย และเรื่องดังกล่าวจะต้องมีการติดตามกันต่อไป


จาก          :          ผู้จัดการออนไลน์   วันที่ 19 กรกฎาคม 2550

นายหมอดูนักฟัน....คนนั้น ยังไงก็ใช้ไม่ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง

ถ้าได้น้ำตาพยูนมาจริง..........ก็ผิดกฏหมาย ทรมานสัตว์ ก็จะซวย...ซวย...ซวย...ทุกชาติ ทุกชาติไป
ถ้าน้ำตาพยูนไม่มีจริง..........ก็คือ โกหก หลอกลวง โฆษณาชวนเชื่อมั่วๆ เพื่อหวังผลกำไร...ก็จะซวย...ซวย...ซวย...อยู่ดีเพราะโดนคนสาบแช่ง

ถูกต้องนะคร้าบ.......
เห็นด้วยกับคุณ Sky เป็นอย่างยิ่งก๊าบ  :-X

มีข่าวเรื่องนี้ออกมาพูดถึงกันมากมาย.... :)

ต้องขอขอบคุณ น้องประชาชาติ ที่แจ้งเรื่องนี้มาให้เราทราบ และขอขอบคุณ น้องแม่หอยและ น้องแม่หมูน้ำ ที่ช่วยดำเนินการจนมีการออกข่าวประจานความงมงาย....เหลวไหล....ไม่ได้เรื่อง...ของคนบางคนให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ค่ะ

น้องแม่หมูน้ำเพิ่งส่งเสื้อยืดน่ารักมากๆ 2 ตัว  และหนังสือเรื่อง "พะยูนผู้น่ารัก" มาให้สองสาย 20 เล่ม

เสื้อยืดนั้นน้องแม่หมูน้ำส่งให้สองสาย ส่วนหนังสือนั้นเพื่อให้ช่วยแจกจ่าย อันเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพะยูนให้ผู้คนได้รู้ว่า พะยูนน่ารักเพียงใด และจะได้ไม่ไปคิดหรือเชื่อผิดๆเกี่ยวกับพะยูนอีก

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=78.0;attach=1813;image)

ขอขอบคุณน้องแม่หมูน้ำมากๆค่ะ สองสายจะทำตามความประสงค์ของน้องแม่หมูน้ำต่อไปค่ะ

ตอนนี้...สายชลอยากทราบที่อยู่ของหมอดูคนนั้นค่ะ จะได้ส่งหนังสือไปให้สักเล่มสองเล่ม  ใครทราบช่วยบอกหน่อยนะคะ

งานนี้ ใน กูเกิ้ล หาได้มั้ยคะ พี่สายชล

จากหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ วันที่ 22 กค 50 คอลัมพระ

--@@-- “สายตรงคนนิยมพระ” อาทิตย์ที่ ๒๒ ก.ค. “สลดครับสลด” สุดสลดกับผู้สร้าง “จตุคามรามเทพ” ที่หาจุดขายมาเพื่อระบาย “จตุคามฯ” ที่ตัวเองสร้าง “ขายได้” ด้วยการโฆษณานำ “น้ำ ตาปลาพะยูน” ซึ่งเป็น “สัตว์สงวน” มาเป็นมวลสารผสมเนื้อ “ตะวันบูรพา” จึงขอบอกว่านั่นละคือ “บาป” ที่จะติดตามเพราะหากจะนำ “น้ำตา” ออกมาจาก “ปลาพะยูน” ก็ต้องใช้วิธีให้มัน “บาดเจ็บ” อย่าง “แสนสาหัส”
 
--@@-- การกระทำแบบนี้จึงถือเป็นการ “ทรมานสัตว์” ด้วยเจตนาเพียงเพื่อสร้าง “ความร่ำรวย” ให้ตัวเองโดยไม่นำพากับหลัก “ศาสนาพุทธ” ที่บัญญัติว่าการกระทำที่เป็นการ “ทรมานชีวิต” ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็คือ “บาปอันมหันต์” ฉะนั้นหากใครผู้ใด “นำไปบูชา” ถือเป็นการ “ส่งเสริม” ให้มีการ “ทำบาป” ผู้ส่งเสริมจึง “ไม่ละพ้นบาป” นั้นไปด้วย “ตะวันบูรพา” จึงขอเรียกร้องให้ “ผู้ศรัทธาจตุคามฯ” อย่าส่งเสริมการทำบาปโดย “งดการบูชา” จตุคามฯรุ่นที่ใช้ “น้ำตาปลาพะยูน” เป็นส่วนผสมทุกกรณี
 
--@@-- พร้อมขอเรียกร้องให้ “กรมการศาสนา” และ “สำนักงานพระพุทธศาสนา” รวมทั้ง “กรรมการมหาเถรสมาคม” ตลอดทั้ง “ผู้เกี่ยวข้อง” กับการสร้าง “วัตถุมงคล” ทุกองค์กรออกมากำจัด “การทำบาป” อย่าให้มาแปดเปื้อนกับ “วัตถุมงคล” เพราะหากทุกองค์กรที่เอ่ยมา “ไม่มีมาตรการกำจัดแล้ว” อีกหน่อยพวกที่ขาด “สามัญสำนึก” จะนำ “การทำบาป” มาแปดเปื้อนกับ “วัตถุมงคล” ต่อ ๆ ไป
 
--@@-- เพราะแค่มี “พระบางรูป” ออกมาสร้าง “จตุคำ” รวมทั้งออกมาเป็น “นางรำ” ในพิธีสร้าง “จตุคามฯ” ถือได้ว่าเป็นการ “หมิ่น” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่กับ “คนไทย” มาแต่โบราณ ฉะนั้นอย่าปล่อยให้การสร้าง “วัตถุมงคล” ที่คนไทยค่อนประเทศศรัทธาต้อง “แปดเปื้อน” ไปกับสิ่งชั่วร้ายที่ “คิดทำได้เช่นไร” ทั้งหลายเลย --@@-- วันนี้เริ่มต้นด้วยเรื่อง “ไม่เจริญใจ” ก็ขอย้ำให้ทุกท่านที่ “อ่านความจริง...อ่านเดลินิวส์” อภัยด้วยเพราะ “ตะวันบูรพา” ทนไม่ได้ที่เห็นพวก “สิ้นคิด” ออกมาสร้าง “สิ่งสกปรก” ให้ก่อเกิดกับ “วัตถุมงคล” ที่เรา ๆ ท่าน ๆ ศรัทธาเนื่องจาก “ตะวันบูรพา” เพียงลำพังไม่อาจ “กำจัด” พวกมันได้จึงต้องวอน “องค์กร” รวมทั้ง “พวกเรา” ชาวพุทธช่วยกัน “กำจัดมัน” วัตถุมงคลไทยจึงจะไร้ “สิ่งเลวทราม” เข้า

เย้........วงการพระแอนตี้แร้ว ดีใจจริงๆ

เจ้าตัวทำเรื่องยังออกโรงให้สัมภาษณ์สู้ว่า "ไม่เห็นจะเป็นอะไรเรย ไม่ใช่เรื่องแปลก โบราณก็ทำกัน"

ก็พวกโบราณ อ้างโบราณ ไม่รับรู้โลกภายนอกมั่งเรย

ไดโนเสาถึงสูญพันธ์แบบนี้หน่ะ เพราะปรับตัวไม่เป็น

ดีใจลิงโลดอยู่ตอนเช้า ตอนเย็นนั่งเศร้าใจต่อ

เจออีกสามรุ่น ติดตามรุ่นหมอเดามาติดๆ

แจ้งแม่หอยแระแม่หมูน้ำแร้วครับ

ขออนุญาติลงรูปให้ดูนะครับ

ที่สำคัญที่สุด สอดคล้องกับหัวข้อข่าวก่อนหน้านี้ ไม่รู้จะพูดยังไง

ทั้งสามรุ่น จัดทำจากวัดที่ตรังเองเรย

อันแรก เขียนว่า - น้ำตาปลาพยูน Update 3 กุมภาพันธ์ 2550

จากมวลสารรุ่น อริยทรัพย์ฯ วัดในเตา จังหวัดตรัง

วัดเดียวกัน อีกรุ่น

ใช้กระดูกปลาพะยูนลงในนั้นเรย

ขอก๊อบมาลงครับ

ขุมทองจตุรทิศไตรมาศ 50

 3.7 พิมพ์เล็กมหาว่านดำปิดทอง   10           300         3,000 
 3.8 พิมพ์เล็กเนื้อผงไม้แกนเมื่อย      ฝังตะกรุดเงิน  ฝังเม็ดเหล็กไหลตาน้ำ 1        2,000         2,000 
 3.9 พิมพ์เล็กเนื้อกระดูกปลาพะยูน  ฝังตะกรุดเงิน  ฝังเม็ดเหล็กไหลตาน้ำ 1        2,000         2,000 
 3.10 พิมพ์เล็กเนื้อผงไม้ตะเคียน         ฝังตะกรุดเงิน  ฝังเม็ดเหล็กไหลตาน้ำ 1        2,000         2,000 

2 เนื้อไม้แกนเมื่อย     
 2.1 เนื้อไม้แกนเมื่อยดำ 10           200         2,000 
 2.2 เนื้อไม้แกนเมื่อยแดง 10           200         2,000 
 2.3 เนื้อไม้แกนเมื่อยขาว 10           200         2,000 
3 เนื้อกระดูกปลาพะยูน   
 3.1 เนื้อกระดูกปลาพะยูนดำ 10           200         2,000 
 3.2 เนื้อกระดูกปลาพะยูนแดง 10           200         2,000 
 3.3 เนื้อกระดูกปลาพะยูนขาว 10           200         2,000 
4 เนื้อไม้ตะเคียนทอง

วัดแจ้ง จังหวัดตรัง เอากับเค้าด้วย

รุ่น พูนสมบัติมหาจักรพรรดิ

ลงว่า มวลสาร
ภาพที่ 3.  คือ  น้ำตาปลาดุหยง หรือ ที่รู้จักคือ น้ำตาปลาพยูน

โว้ย................อารายกันน้า.........เบื่ออย่างแรง

หน.อุทยานฯตรังลั่นเป็นไปไม่ได้นำน้ำตาพะยูนสร้างจตุคามฯ

ละเมอลั่นเรยนะหัวหน้า

อยากดูชัดๆ หาในกูเกิ้ล หาคำว่า   

น้ำตาปลาพะยูน     จตุคาม

รีบดูก่อนจะลบนะครับ

อ่านต่อ รุ่นอริยะทรัพย์

มี - กัลปังหาดำ กันภูติพราย  พรายน้ำ

- กัลปังหาขาว  เจ้าแห่งเสน่ห์

ปลูกปะการัง ช่อมกัลปังหากันแทบตาย

แบบนี้ยังไงก็หมดครับ

เวรกรรม....นึกว่ารายเดียว ที่ไหนได้ มาเป็นกระตักเลย

เฮ้อออ....เสียชื่อคนเมืองตรังหมด

แย่จังเลย

  ทำไปได้นะคนเรา....... น่าสงสารสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลจัง.......:(   :(  :'(