กระดานข่าว Save Our Sea.net

                               
                 ความทรงจำอันมีค่ากับ...ฉลามวาฬ...ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเล   (ภาค 2 )  

                           (http://www.saveoursea.net/boardsmf/index.php?action=dlattach;topic=131.0;attach=1594;image)


ยี่สิบกว่าปีที่ได้ลงไปดำน้ำสัมผัสโลกใต้ทะเล....สายชลได้เห็นสรรพชีวิตมากมายหลายชนิด แต่ไม่มีสัตว์ใดที่ทำให้ตื่นเต้น....ดีใจ....และมีความสุขได้เท่า  ฉลามวาฬ....ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเล

ฉลามวาฬจัดเป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก  เขาว่า...ฉลามวาฬอาจตัวยาวได้ถึง 12 เมตร แต่ฉลามวาฬกลับเป็นสัตว์ที่กินแพลงก์ตอน....ลูกปลาและสัตว์น้ำตัวเล็กจิ๋วเป็นอาหาร ไม่มีพิษภัยกับใคร ไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้ำด้วยกัน หรือแม้แต่มนุษย์

แต่ฉลามวาฬกลับถูกมนุษย์คุกคามในขั้นรุนแรง เพียงเพื่อต้องการครีบมาทำเป็นซุปหูฉลาม และนำหนังมาทำกระเป๋า...ฉลามวาฬในโลกนี้จึงมีจำนวนลดน้อยลงมาก จนถูกจัดเป็นสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์และต้องได้รับการคุ้มครองจากนานาชาติ

การที่ฉลามวาฬมีจำนวนน้อยลงมาก  จึงส่งผลให้การได้พบเห็นฉลามวาฬแหวกว่ายอยู่ในทะเลตามธรรมชาตินั้น เป็นเรื่องที่ยากเย็นเต็มที จนมักจะมีผู้กล่าวว่า ใครได้เห็นฉลามวาฬ (ซึ่งชาวทะเลไทยถือเป็นปลาแห่งเทพเจ้าแล้ว) ก็นับได้ว่าเป็นผู้โชคดียิ่งนัก.... 

                           (http://www.saveoursea.net/boardsmf/index.php?action=dlattach;topic=131.0;attach=1587;image)


ถึงแม้สายชลดำน้ำกว่าพันไดฟ์ในเวลากว่ายี่สิบปี สายชลได้มีโอกาสพบเห็นฉลามวาฬที่แหวกว่ายอยู่กลางทะเลในน่านน้ำของไทยทั้งบนผิวน้ำและใต้น้ำ  รวมแล้วเพียง  28  ครั้ง   และในต่างประเทศอีก 1 ครั้ง ถ้าจะนับเป็นตัวก็ได้ 26 ตัว  (หลักฐานไม่ครบถ้วน จึงไม่สามารถยืนยันว่าเป็นตัวเดียวกันบ้างหรือไม่)   ซึ่งทุกครั้งที่ได้พบเห็นเขา  เขานำมาซึ่งความสุขใจ  สบายใจ และความประทับใจ  ซึ่งสายชลและผู้พบเห็นร่วมกันกับสายชลสามารถรู้สึกได้เสมอมา

แต่น่าเศร้า....ที่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่สายชลได้พบฉลามวาฬที่นอนตายอยู่อย่างน่าสมเพชเวทนาบนชายน้ำ ท่ามกลางกองขยะที่สกปรกรกรุงรัง ด้วยสาเหตุแห่งความมักง่ายของมนุษย์บางคน  ซึ่งได้นำมาซึ่งความเศร้าเสียใจสู่สายชลและผู้พบเห็นโดยทั่วไป.....


                              (http://www.saveoursea.net/boardsmf/index.php?action=dlattach;topic=131.0;attach=1660;image)


การได้พบเห็นฉลามวาฬรวม  23  ครั้ง   จำนวนรวม 21 ตัว  นั้น  สายชลได้เล่าให้ทุกท่านได้อ่านแล้วที่

http://www.saveoursea.net/boardsmf/index.php?topic=131.0

ส่วนการพบเห็นฉลามวาฬทั้งที่มีชีวิตอยู่และตายไปแล้วที่เหลืออีก 9  ครั้ง จำนวน 9 ตัวนั้น สายชลกำลังจะเล่าให้ทุกท่านได้รับทราบกัน

เชิญตามสายชลมาสิคะ......

                                 (http://www.saveoursea.net/boardsmf/index.php?action=dlattach;topic=131.0;attach=1590;image)
 

มาตีตั๋ว แถวหน้า รอดูนะคะ... :-* :'(

ฉลามวาฬตัวที่  22....เศร้า
   

วันที่............................18 ตุลาคม  2548 
เวลา...........................8:30 น.
สถานที่.......................ชายคลอง หน้าวัดเจริญฯ ต. คลองด่าน อ. บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
สภาพทั่วไป................ท้องฟ้าแจ่มใส 
ลักษณะการพบ...........ซากฉลามวาฬถูกลากจากทะเลมาทิ้งไว้ที่ริมคลอง
เพศ..............................เมีย

กลางดึกของคืนวันที่ 17 ตุลาคม 2548....สายชลได้รับโทรศัพท์จากน้อง สมชาย มั่นอนันต์ทรัพย์ หัวหน้านักวิชาการศูนย์วิจัยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก  หรือน้อง Mannaisomchai ซึ่งสองสายเพิ่งได้พบที่ระยองระหว่างไปรอดูฉลามวาฬที่มาขึ้นที่หาดแหลมเจริญ ปากน้ำ เมืองระยอง

น้อง Mannaisomchai ได้แจ้งมาว่า มีผู้พบเห็นฉลามวาฬตายติดอยู่ที่โป๊ะริมทะเลเขตตำบลคลองด่าน อ. บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และได้ลากมาไว้ที่ริมคลอง หน้าวัดเจริญฯ ต. คลองด่าน อ. บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

สิ่งที่ได้ยินนั้น ทำให้เราตกใจและเศร้าใจไปตามๆกัน ในใจนั้นนึกหวั่นใจว่า ฉลามวาฬตัวนั้นจะเป็นตัวเดียวกับที่เราไปเฝ้าดูที่ระยองหรือไม่หนอ...ถ้าใช่ ทำไมเขาถึงว่ายว่าไกลได้ขนาดนี้....แล้วทำไมฉลามวาฬถึงตาย.....?

วันรุ่งขึ้น....สองสายได้เดินทางไปยังคลองด่านตามที่นัดหมายไว้กับน้องMannaisomchai โดยจอดรถที่หน้าอุโบสถวัดเจริญฯ และเดินข้ามไปยังบ้านของชาวบ้านที่ทำอาชีพประมงที่ตั้งอยู่ริมน้ำคลองด่าน

เมื่อทะลุออกไปหลังบ้าน ด้านที่เป็นท่าน้ำ ต้องสลดกับภาพของฉลามวาฬขนาดประมาณ 5 เมตรครึ่ง ที่ถูกลากขึ้นมาบนชายฝั่ง นอนจมเลนอยู่....ช่างน่าสงสารแท้ๆ 
 

จากคำบอกเล่าของเจ้าของบ้านที่ทำอาชีพประมง ทำให้ทราบว่า....เมื่อบ่ายวานนี้ (17 ต.ค. 48) ได้ออกไปตกปลาดุกทะเลที่ทะเลนอกบ้านคลองด่าน ตรงจุดที่เรียกว่า "โป๊ะ 5 วา"  เขาพบฉลามวาฬตัวหนึ่งในลักษณะจมอยู่ในโป๊ะ  จึงโดดน้ำดำลงไปดู พบว่า ฉลามวาฬตัวนี้เสียชีวิตแล้ว โดยมีเชือกผูกติดอยู่ที่หางเส้นหนึ่ง

พวกเขาจึงนำเชือกมาผูกติดกับด้านท้ายเรือ  ลากกลับเข้ามาในคลอง และลากขึ้นไปบนลานเลนริมท่าน้ำ และแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ประมงคลองด่านทราบ และประสานกันต่อๆมา

นอกจากทีม น้องสมชาย และเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้ว  ยังมีทีมสัตว์แพทย์อีก 5 - 6 ท่าน ภายใต้การนำของ "หมอหนิ่ง" หรือ ดร.นันทริกา ชันซื่อ NAUI Instructor หญิง อันดับต้นๆของเมืองไทย มาช่วยกันชันสูตร หรือ พูดง่ายๆคือ ช่วยกันผ่าเอาตับไตใส้พุงออกมาวิเคราะห์หาสาเหตุการตาย

จากการตรวจเบื้องต้น ฉลามวาฬตัวนี้เป็นเพศเมีย ขนาดความยาวประมาณ 5 เมตรครึ่ง ซึ่งใกล้เคียงกับตัวที่พบไล่กินปลาอยู่ริมหาดแสงจันทร์ และแหลมเจริญ จ.ระยอง ที่พบเห็นกันในช่วงวันที่ 11 - 15 ต.ค. 48 และหายไป โดยไม่มีรายงานการพบเห็นอีกเลยในวันที่ 16 - 17 ต.ค. 48 ที่ผ่านมา

ตัวนี้  ลายเริ่มไม่ชัดแล้ว สันนิษฐานว่า น่าจะตายมาแล้วประมาณ 2 วัน  

แต่ก่อนจะลงมือทำงาน  ต้องเอาข้อมูลทั้งหมดที่มีในมือ มาแลกเปลี่ยนและปรึกษาหารือกันก่อน จึงค่อยลงมือทำงานกันจริง

และแล้ว มีดหมอ ซึ่งต้องใช้มีดผ่าตัดที่มีความคม กรีดทะลุหนังของฉลามวาฬลงไป เพื่อนำเครื่องในออกมาตรวจพิสูจน์กันอย่างละเอียด  

เมื่อผ่ากระเพาะอาหารออกมา  พบปลากะตักและวัตถุแปลกปลอม "หลอดพลาสติค" อยู่ภายใน  โดยหลอดที่มีปลายแหลมได้ทิ่มแทงกระเพาะจนเกิดแผลมีเลือดไหลซึมจนถึงผนังชั้นนอก  ซึ่งอาจจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ แต่ขณะนั้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายที่แน่ชัดได้

ในภายหลัง....น้องสมชายได้ยืนยันมาว่า ฉลามวาฬที่ตายที่คลองด่านไม่ใช่ตัวเดียวกับที่ระยองอย่างแน่นอน

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตายนั้น.....จนบัดนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าเกิดจากอะไร แต่สำหรับสองสายแล้ว ปักใจเชื่อเสียแล้วว่าน่าจะเป็นเจ้าหลอดพลาสติกเล็กๆ ที่มนุษย์มักง่ายทิ้งลงไปในทะเลชิ้นนี้.....

มันเป็นเรื่องเศร้าใจ ที่คิดถึงทีไร....สายชลพาลน้ำไหลออกตาได้ทุกครั้ง....

ฉลามวาฬตัวที่  23....หิวโหย
   

วันที่............................18 มกราคม  2549 
เวลา...........................9:30 น.
สถานที่.......................ชายทะเลหน้าหาดข้างโรงงานบริษัท IRCP อ.เมือง จ. ระยอง
สภาพทั่วไป................ท้องฟ้าแจ่มใส  มีลมพัดมาเอื่อยๆ 
ลักษณะการพบ...........ขณะอยู่บนชายฝั่ง บนเรือดิ๊งกี้ และดำน้ำทั้งแบบ Snorkel และ SCUBA
เพศ.............................เมีย

เมื่อวันที่ 15 มกราคม  2549 น้อง สมชาย มั่นอนันต์ทรัพย์ หัวหน้านักวิชาการศูนย์วิจัยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก  หรือน้อง Mannaisomchai หนึ่งในสมาชิก SOS ได้แจ้งการพบเห็นฉลามวาฬขนาด 4 เมตร เพศเมีย มาว่ายหาอาหารประเภทแพลงก์ตอนและลูกปลากิน อยู่ที่บริเวณท่าเรือของโรงงานบริษัท  IRCP (TPI เดิม)  จังหวัดระยอง ที่มีเรือขนาดใหญ่แล่นเข้าออกอยู่ตลอดเวลา

สองสายได้ยินข่าวแล้วก็อยากจะโลดแล่นไปดูเธอ และอยากจะหาทางให้เธอได้ออกไปหาอาหารกินในน่านน้ำที่ปลอดภัยในทันทีทันใด แต่กิจธุระที่มีอยู่ ทำให้การเดินทางไปหาฉลามวาฬตัวนี้ เนิ่นนานออกไปในอีก 4 วันต่อมา

เมื่อไปถึงท่าเรือ IRCP....เราทราบจากยามว่า ฉลามวาฬสาวตัวนั้นว่ายออกไปหากินอยู่แถวชายหาดข้างๆโรงงานแล้ว เราจึงแล่นรถไปจอดริมทะเล แล้ววิ่งไปหาฉลามวาฬที่ว่ายน้ำอยู่เกือบชิดติดชายหาด

โธ่เอ๊ย....ความหิวและความไร้เดียงสา ทำให้แม่หนูฉลามวาฬตัวนี้ แหวกว่ายไปมาหาอาหารกินอยู่อย่างไม่เกรงกลัวทั้งเรือเดินสมุทรและเรือประมงที่แล่นไปมาอยู่แม้แต่น้อย....

โชคดี....ที่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของน้องสมชาย และสำนักอนุรักษ์ทะเลและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ได้มาเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยให้ฉลามวาฬตัวนี้อยู่ตลอดวันตลอดคืน

เขาอ้าปากกว้าง แล้วว่ายกลับไปกลับมาตลอดความยาวกว่าหนึ่งกิโลเมตรของชายหาดแห่งนั้นที่ลึกเพียง 2-3 เมตร  

ด้วยเรือของสำนักอนุรักษ์ และอุปกรณ์ดำน้ำของเรา ทำให้เราได้เห็นภาพที่ผิวน้ำของฉลามวาฬตัวน้ำชัดเจนขึ้น

แต่สภาพน้ำที่ขุ่นมัว ทำให้การถ่ายภาพใต้น้ำ เป็นไปได้ยากยิ่ง....

สองสายเฝ้าติดตามชื่นชมความงามน่ารักของฉลามวาฬตัวนี้อยู่เกือบสามชั่วโมง....ถ้าเราไม่หิวเสียก่อน เราก็จะเฝ้าดูเธอต่อไปเรื่อยๆ...  

ก่อนเราจะจากไป... มีชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างมาเฝ้าดูฉลามวาฬด้วยความตื่นเต้น

และจากวันนั้น....ฉลามวาฬตัวน้อยไม่กลับมาให้เห็นอีกเลย

สายชลได้แต่หวังว่า....เธอคงจะอิ่มหนำสำราญ และแข็งแรงพอที่จะว่ายออกไปหากินในทะเลลึกที่ปลอดภัยมากกว่าที่ชายหาดที่พลุกพล่านไปด้วยเรือใหญ่น้อยแห่งนี้

ฉลามวาฬตัวที่  24.... หายวับไปกับตา (Dive#1278)

วันที่.............................31 มีนาคม 2550 
เวลา ...........................8:50 น.
สถานที่........................กองหินริเชลิว
สภาพทั่วไป.................ท้องฟ้าแจ่มใส  ลมอ่อน มีริ้วคลื่นสูงราวครึ่งเมตร อุณหภูมิของอากาศและน้ำประมาณ  30 และ  25-28
                  องศาเซลเซียส  ตามลำดับ  น้ำขุ่นบางช่วงในเขตน้ำลึกเพราะมีตะกอนและแพลงตอนลอยอยู่  ผิวน้ำ
                  ใส มองเห็นได้ไกลประมาณ 10 เมตร                                 
ลักษณะการพบ............ขณะดำน้ำที่ความลึก 10 เมตร
เพศ..............................ไม่ทราบ

การดำน้ำครั้งนี้ เป็นการไปดำน้ำในไดฟ์ที่ 4 ของการทำกิจกรรมตามโครงการปล่อยหอยมือ เก็บขยะ และตัดอวน ในทะเลอันดามันครั้งที่ 2 ของสมาชิก SOS

ปรากฎการณ์ประหลาดที่เรียกว่า Red Tide  หรือ Plankton Bloom  ได้เกิดขึ้นทั่วไปในทะเลอันดามัน ทำให้น้ำทะเลบางจุดขุ่นมัว อุณหภูมิร้อนๆหนาวๆ แต่ที่น่าดีใจคือมีปลามากมายแหวกว่ายไปมาอยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะที่กองหินริเชลิว

ขณะลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อเตรียมทำ Safety Stop  สายชลเห็นฝูงปลากะมงแหวกว่ายอยู่ฝูงใหญ่ หลังฝูงปลากะมง แลเห็นจุดสีขาวพราวอยู่ เมื่อจ้องดูสักพัก ก็แน่ใจว่าเป็นฉลามวาฬที่มีขนาดใหญ่ราว 6-7 เมตร เมื่อสายชลว่ายน้ำตามไป  ฉลามวาฬตัวนั้นก็หายวับไปในมวลน้ำที่ขุ่นข้นด้วยตะกอนและแพลงก์ตอนหนาทึบ

ไม่มีประโยชน์ที่จะตามไป เพราะถึงจะไปจนถึงตัวฉลามวาฬ ก็คงไม่สามารถจะถ่ายภาพได้

เศร้าจริงๆค่ะ....แต่ยังดีที่มีกระเบนตัวเท่ากระด้งมาปลอบใจ.....

 (http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=25.0;attach=893;image)

ฉลามวาฬตัวที่  25.... โธ่เอ๊ย....ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ (Dive#1279)

วันที่.............................31 มีนาคม 2550 
เวลา ...........................11:45 น.
สถานที่........................กองหินริเชลิว
สภาพทั่วไป.................ท้องฟ้าแจ่มใส  ลมอ่อน มีริ้วคลื่นสูงราวครึ่งเมตร อุณหภูมิของอากาศและน้ำประมาณ  30 และ  25-28
                  องศาเซลเซียส  ตามลำดับ  น้ำขุ่นบางช่วงในเขตน้ำลึกเพราะมีตะกอนและแพลงตอนลอยอยู่
                  ที่ความลึกจากผิวน้ำ จนถึงความลึก15 เมตร น้ำใส มองเห็นได้ไกลประมาณ 15 เมตร กระแสน้ำแปรปรวน 
ลักษณะการพบ............ขณะดำน้ำที่ความลึก 8 เมตร
เพศ..............................เมีย

หลังจากเห็นฉลามวาฬตัวที่หายวับไปกับตาในไดฟ์เช้าแล้ว สายชลได้สอบถามสมาชิกที่ลงดำน้ำทั้งในกลุ่มตัวเองและกลุ่มอื่นๆว่ามีใครเห็นฉลามวาฬตัวยาว 6-7 เมตรบ้าง ปรากฎว่าไม่มีผู้ใดเห็นแม้แต่คนเดียว สายชลเองก็ไม่มีภาพมาแสดง จึงคิดว่าคงมีคนหาว่าสายชลโม้แน่ๆเลย แต่บางคนก็เชื่อและทำท่าผิดหวังที่ไม่ได้เห็นฉลามวาฬ ซึ่งสายชลทำได้เพียงการปลอบใจว่า...."เดี๋ยวเขาก็มาให้ดูใหม่เองค่ะ"

เราลงดำน้ำกันอีกเป็นไดฟ์ที่ 5 ของทริป และเป็นไดฟ์ที่ 2 ของเช้าวันนั้น  น้ำใสกว่าตอนเช้า แต่กระแสน้ำแปรปรวน ค่อนข้างแรงที่ผิวน้ำ เราพากันดำน้ำเป็นกลุ่มๆไปเรื่อยๆ 

จนถึงเวลาต้องขึ้นสู่ผิวน้ำ.....ลูกฉลามวาฬตัวไม่ถึง 3 เมตรดี ว่ายมาข้างหลังขณะนักดำน้ำในกลุ่มของสายชลกำลังทำ Safety Stop กันอยู่  ตัวสายชลเองนั้นถือกล้องสองมือแทนคุณสายน้ำที่ยิง Safety Sausage ขึ้นไปแล้วก็ยังเกาะหินเฉยอยู่ไม่ยอมรับกล้องของตัวเองคืนไปสักที

พอหันไปเห็นฉลามวาฬ...สายชลก็เขย่าแขนคุณสายน้ำพร้อมกับส่งเสียงกรี๊ดๆ  แต่เขากลับทำเฉยๆไม่รู้ไม่ชี้  ก้มหน้าก้มตามองมือตัวเองอยู่ ที่น่าเจ็บใจ คือเขาไม่ยอมรับกล้องคืนไป

จนฉลามวาฬว่ายผ่านหัว ชนิดมือเอื้อมถึง และว่ายไปข้างหน้าแล้ว คุณสายน้ำก็ยังเฉยอยู่....ไม่รับกล้องก็ไม่รับ สายชลโยนกล้องของคุณสายน้ำทิ้งลงไปบนก้อนหินที่เขาจับอยู่ซะเลยให้รู้แล้วรู้รอด แล้วสายชลก็ว่ายตามฉลามวาฬไปเพื่อถ่ายภาพเธอ

สายไปเสียแล้ว....คุณฉลามวาฬน้อยเธอว่ายลึกลงไป และเข้าไปว่ายตีคู่กับน้อง Vita และผ่าเข้าไปกลางกลุ่มน้อง SNR ที่อยู่กันหลายคน และแล้วความชุลมุนก็เกิดขึ้น ฟองอากาศที่ฟู่ขึ้นมาจากนักดำน้ำที่ตื่นเต้นทั้งหลายที่ปะทะหน้าสายชลไม่ขาดสายนั้น ทำให้ไม่สามารถถ่ายภาพฉลามวาฬได้แม้แต่ภาพเดียว....

ได้แต่ภาพปลากบที่แกว่งไกวพู่ที่หัวไปมา ช่วยปลอบใจให้หายเศร้าได้หน่อย

ฮึ่มมมม.....คุณสายน้ำนะคุณสายน้ำ ตัวเองไม่ได้เห็นแล้ว ยังขัดลาภคนอื่นอีกแน่ะ..... :-[

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=25.0;attach=909;image)

อยากเจอบ้างจังครับพี่สายชล  ::)

อ่านเรื่องที่พี่สื่ออกมาทางตัวหนังสือแล้วทำให้ผมรู้สึกเศร้ามากๆเลยเวลาที่พบว่ามันตาย  :'( :'( :'(

เฮ้ออ...

ยังรออ่านต่อไปครับ  :-* :-* :-*

พี่ขา เดี๋ยวน้องหาภาพ ฉลามวาฬ ตัวนั้นก่อนนะจ๊ะ แล้วจะเอามาฝาก...ค่ะ
ตัวหญ่ายยย ใหญ่ค่ะ   ตอนที่เห็น เหมือนว่า กำลังนั่งรอ รถเมล์ แล้ว รถเมล์ สายนั้น ก็วิ่งผ่ามาแบบไม่จอดรับน่ะคะ
เล่นเอา ผู้โดยสาร อย่างเราๆๆ แจวตามแทบจะไม่ทัน น่ะค่ะ  ขนาด พี่ไก่น้ำ และ พี่หมู ที่ว่า ใช้ ฟิน ระดับ ธรรมดา ยังซิ่งตามซะ หูฉี่ เชียวค่ะ

เอื๊อกกกก อยากเห็นแบบนี้ อีก..... :-*  :-*

รักนะ ฉลามวาฬริเชริว....

ค่ะน้อง   pony_pop....มันเป็นเรื่องเศร้าจริงๆค่ะที่ได้เห็นภาพฉลามวาฬตายอย่างน่าเวทนาเช่นนั้น

ขออวยพรให้น้องได้เห็นฉลามวาฬเร็วๆนี้นะคะ.... :)

พรุ่งนี้จะเขียนให้อ่านต่อค่ะ....วันนี้ลูกสาวทำอาหารฝรั่งเลี้ยงเนื่องในวันแม่ รับประทานเสียจนอิ่มแปร้ หนังท้องตึง...หนังตาเริ่มหย่อนแล้วค่ะ...  :-*

เย้.....ฉลามวาฬตัวที่ใหญ่ 6-7 เมตร และเป็นตัวที่สองโหลของพี่ใช่ไหมคะ....จะรอชมค่ะ..... ขอบคุณนะคะ  :-*

ฮิๆ....คราวนั้นท่าทางไม่มีใครเชื่อพี่สักคนเลย แต่พี่รู้สึกได้ว่าเขาไม่ไปไหนหรอกนะคะ คงวนเวียนๆอยู่แถวนั้นแหล่ะ แต่ความที่น้ำขุ่นมาก เราเลยมองกันไม่เห็น

ฉลามวาฬตัวที่  25.... กันเอง (Dive # 1309)

วันที่.............................29 กรกฎาคม 2550 
เวลา ...........................16:55 น.
สถานที่........................กองหิน SOS เกาะร้านเป็ด
สภาพทั่วไป.................ท้องฟ้ามีเมฆมาก  ลมอ่อน ทะเลมีคลื่นเล็กน้อย  อุณหภูมิของอากาศและน้ำประมาณ  29 และ  26
                  องศาเซลเซียส  ตามลำดับ  น้ำใส มองเห็นได้ไกลประมาณ 15 เมตร มีแพลงก์ตอนและตะกอนบ้างเล็กน้อย   
ลักษณะการพบ............ขณะดำน้ำที่ความลึก 8 เมตร
เพศ.............................เมีย

วันนั้นเป็นวันที่สองของการปฏิบัติการใต้น้ำเก็บขยะและตัดอวนบริเวณกองหินใต้น้ำ ที่อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะร้านเป็ด  กองหินใต้น้ำแห่งนี้ไม่แน่ใจว่ามีใครเคยลงดำน้ำสำรวจแล้วหรือยัง 

แต่สายชลทราบจากกัปตันโชคศุลีที่พาเราไปดำน้ำทำกิจกรรมเป็นประจำว่า สมาชิก SOS เป็นนักดำน้ำกลุ่มแรกที่มากับเรือที่ยอมลงดำน้ำสำรวจกองหินตามคำขอร้องของกัปตัน เราจึงพากันเรียกหินกองนี้ในหมู่พวกเราว่า "กองหิน SOS" เสียเลย

กองหินแห่งนี้มีลักษณะเป็นภูเขาใต้น้ำที่มียอดแหลมเหมือนภูเขาไฟ ยอดหินอยู่ต่ำกว่าผิวน้ำเพียง 8 เมตร ด้านตะวันออกค่อยๆลาดเอียงลดหลั่นเหมอนขั้นบันได ส่วนด้านอื่นๆลาดชันเป็นหน้าผา ความลึกมากสุดเพียง 30 เมตร รอบๆกองหินปกคลุมไปด้วยปะการังดำที่สมบูรณ์และสวยงาม ยอดหินมีปะการังแข็งประเภทปะการังกิ่ง และปะการังโต๊ะขึ้นอยู่เป็นหย่อมๆ มีปลาหลากหลายชนิดแหวกว่ายไปมาอยู่ทั่วไป

เราดำน้ำทำงานตัดเศษอวนกันอยู่ร่วม 40 นาที ซึ่งอากาศเริ่มร่อยหรอและใกล้หมดเวลาดำน้ำเต็มที จึงพากันลอยตัวพักน้ำอยู่เหนือยอดหิน

ทันใดนั้น....ฉลามวาฬขนาด 6 เมตร ว่ายอย่างสง่างามมาจากทางทิศใต้  ห่างจากยอดหินที่เราลอยตัวอยู่ไปเพียง 7-8 เมตร

ฉลามวาฬเบนหัวออกไปทางตะวันตก.....หน้าที่เชิดขึ้น  ปากที่อ้าอยู่เพียงเล็กน้อยเหมือนแย้มยิ้ม และหางที่ค่อยๆโบกสะบัดไปอย่างช้าๆนั้น ทำให้ดูเหมือนหญิงสาวใส่ชุดราตรียาวเดินกรุยกรายอยู่บนเวทีประกวดนางงาม  

ฉลามวาฬเริ่มหันตัวกลับ มุ่งหน้าตรงมาทางที่เราเฝ้าลอยตัวคอยอยู่...พวกเราตื่นเต้นดีใจ และเริ่มดาหน้ามาคอยรับฉลามวาฬเป็นแผง

เหาฉลามและช่อนทะเลขนาดย่อมๆที่ตามติดฉลามวาฬมาเป็นขบวน ก็เริ่มดิ้นกันวุ่นวาย เมื่อฉลามวาฬว่ายใกล้พวกเรามาทุกทีๆ   

ก่อนจะถึงตัวพวกเรา.....ฉลามวาฬเริ่มหักหัวกลับกระทันหัน ตัวเป็นวงโค้ง  ก่อนที่จะสบัดหางเฉียดหน้าสายชลไปนิดเดียว....

สายชลเห็นแล้ว....เธอเป็นนางงามเพศเมียจริงๆ....

 

เธอว่ายออกไปทางทิศตะวันตกอีก....แล้วก็หันกลับมาหาเราใหม่

แสงอาทิตย์ยามใกล้อัสดงส่องผ่านน้ำทะเลที่ใสแจ๋วลงมากระทบตัวฉลามวาฬที่สวยสง่างาม ทำให้เกิดภาพที่ทำให้สายชลประทับใจยิ่งนัก

เธอโผขึ้นไปใกล้ผิวน้ำเหมือนอยากอาบแสงอาทิตย์ยามเย็น  แล้วก็ก้มหัว....และว่ายเฉียดมาใกล้เราอีกครั้ง....

การได้อยู่อย่างใกล้ชิด ทำให้สายชลเห็นรอยด่างสีน้ำตาลขนาดฝ่ามือที่โคนครีบหูล่างด้านขวา และกระจายอยู่เป็นปื้นที่ด้านล่างครีบซ้าย ในขณะที่หน้าท้องของคุณฉลามวาฬขาวผ่องป็นยองใย

รู้สึกคุณฉลามวาฬเธอจะเป็นกันเองกับเรามาก ว่ายวนไปวนมารอบๆตัวเราไม่ยอมหนีไปไหน....

เธอว่ายไป.....

แล้วก็ว่ายกลับมาอีก....

วนซ้าย....

สบัดหน้า.....

วนขวา.....

เธอวนเวียนเหมือนเล่นเอาเถิดกับพวกเราอยู่นาน จนเราเริ่มอากาศใกล้หมด ค่อยๆลอยตัวขึ้นจากน้ำที่ละคนสองคน จนขึ้นเรือกันหมดแล้ว เธอก็ยังตามมาวนรอบเรืออีกสองสามรอบ เหมือนเชิญชวนให้เราลงไปเล่นกับเธออีก

แต่เวลาหมด....หมดเวลา....เรือต้องถอนสมอ มุ่งหน้าไปหินแพ เกาะง่ามใหญ่ เพื่อให้พวกเราเตรียมตัวทำงานตัดอวนกันต่อในวันรุ่งขึ้น

สายชลประทับใจกับฉลามวาฬตัวที่ 25 ที่ได้เห็นนี้มาก เธอมีลักษณะและนิสัยเหมือนกับฉลามวาฬตัวที่ 21 ที่สายชลและพวกเราชาว SOS ได้พบระหว่างที่มาทำงานที่เกาะร้านเป็ดเมื่อปี 2548 มาก คือมีขนาดใกล้เคียงกัน....เชื่อง...เป็นกันเอง... และว่ายวนเวียนเล่นกับเราอยู่นานอย่างน่ารักน่าเอ็นดู

หรือว่าจะเป็นฉลามวาฬตัวเดียวกันนะ.....?

โอ้ยยยยยย อยากตาย ค่ะ อยากตายข้างๆ เธอนี่ล่ะค่ะ ฉลามวาฬที่รัก :-X  :-X  :-*

เห็นภาพ และ คำบรรยาย จนนึกอยากไปอยู่ใกล้ๆๆ จังเลยค่ะ

ฮี่ๆ....ฉลามวาฬตัวนี้น่ารักจริงๆค่ะน้องแม่หอย....น้อง SNR  เราไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาทำไมวนเวียนไม่ยอมหนีไปไหนอย่างนั้น ถ้ามาตั้งแต่ต้นไดฟ์ สงสัยเราจะไม่เป็นอันทำงานทำการกันแน่นอน

ก็เธอออกสวยงาม...เซ๊กซี่....ขี้เล่น ออกอย่างนั้น แถมยังกันเอ๊ง....กันเอง...อีกนะคะ.... :-*
 

ฉลามวาฬตัวที่  26.... ไฮโซ....ไฮซ้อ... (Dive # 1310)

วันที่.............................30 กรกฎาคม 2550 
เวลา ...........................8:20 น.
สถานที่........................หินแพ ชุมพร
สภาพทั่วไป.................ท้องฟ้ามีเมฆมาก  ลมอ่อน ทะเลมีคลื่นเล็กน้อย  อุณหภูมิของอากาศและน้ำประมาณ  29 และ  26
                                    องศาเซลเซียส  ตามลำดับ  น้ำใส มองเห็นได้ไกลประมาณ 20 เมตร มีแพลงก์ตอนและตะกอนบ้างเล็กน้อย   
ลักษณะการพบ............ขณะดำน้ำที่ความลึก 20 เมตร
เพศ.............................เมีย

หลังจากได้พบกับคุณนายฉลามวาฬกันเองที่กองหิน SOS ไปเมื่อเย็นวันวาน เช้าวันนี้....เราได้มาลงดำน้ำทำงานตัดอวนและเก็บขยะกันที่หินแพ ซึ่งอยู่ใกล้ๆเกาะง่ามใหญ่  ซึ่งเราได้เคยลงดำน้ำทำงานไปแล้วตั้งแต่วันแรก (28 กรกฎาคม 2550) แต่อวนที่ยังมีให้เราเก็บอีกมากมาย ทำให้เราต้องกลับมาทำงานกันอีกครั้ง

ตอนอยู่ที่เกาะร้านเป็ด เราได้ยินว่ามีผู้พบฉลามวาฬตัวโตมากที่หินแพ แม้เราอยากจะพุ่งมาที่หินแพเลยทันทีที่ได้ยินจบ แต่ภาระกิจที่ยังต้องทำที่เกาะร้านเป็ดทำให้เราตัดสินใจจะอยู่ทำงานต่อ ซึ่งก็นับว่าโชคดีที่เราได้พบประสบพักตร์และได้เล่นอยู่กับคุณนายกันเองอยู่ที่กองหิน SOS ใกล้ๆเกาะร้านเป็ดนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม....พอได้มาถึงหินแพในเช้าวันนี้ เรากระโดดลงน้ำพร้อมกับความหวังเต็มเปี่ยมว่าจะได้เห็นฉลามวาฬตัวที่ได้ข่าวมาเมื่อวาน....

ไม่ผิดหวังเลยค่ะ....เราได้พบฉลามวาฬที่หินแพจริงๆ...... :-*

แม้ว่าฉลามวาฬตัวนี้จะยาวเพี ยง  4 เมตร ไม่ได้ยาว 10 เมตร อย่างที่พูดๆกันก็ตาม...

ขณะที่สายชลกำลังก้มหน้าก้มตาตัดอวนที่ติดอยู่ที่กิ่งแส้ทะเลอยู่อย่างขมักเขม้น....น้องเด็กน้อยที่เป็นผู้ช่วยอยู่ได้สะกิดที่มือแล้วชี้ไปที่ผิวน้ำ

โอ้แม่เจ้า....ฉลามวาฬเพศเมียวัยละอ่อน ว่ายร่อนอยู่บนหัว พร้อมกับช่อนทะเลตัวใหญ่เป็นเมตร และเหาฉลามหลายขนาด ตามกันมาเป็นพรวน เหมือนขบวนไฮโซ....ไฮซ้อ...ที่มี Body Guard และคนรับใช้ติดตามล้อมหน้าล้อมหลังอยู่
 

อย่างนี้ต้องขอสีคุณหนูฉลามวาฬไฮโซเสียหน่อยแล้วล่ะค่ะ....

ตัดอวนใส่ถุงตาข่ายที่น้องเด็กน้อยถือให้เสร็จ สายชลก็ลอยตัวว่ายตามคุณหนูไฮโซไปทันที

อูยยยย....น่ารักน่าเอ็นดูเสียจริงๆนะแม่คุ๊ณ....นี่แม่คุณคงบุญหนักศักดิ์ใหญ่นะจ๊ะ... :-*

Body Guard ตัวยาวกว่าเมตร  เงยหน้าตาถมึงทึงมาทางสายชลเหมือนจะขู่.....

"แฮ่....อย่าเข้ามาใกล้กว่านี้นะจะบอกให้...."  

คุณหนูฉลามวาฬเริ่มเบนหัวว่ายออกไปจากกองหินแพ....

คุณช่อนทะเล หรือไฮโหลย หรือ Cobia.....ผู้ทำหน้าที่ Body Guard  ของคุณหนูไฮโซ ที่มีทั้งแบบเยาวเรศรุ่นเจริญศรี คือมีลายสีดำและสีเงินป้ายพาดข้างตัวจากหัวถึงหาง และผู้สูงอายุที่ลายจางหายเหลือแต่สีน้ำตาลแก่อมเทา รูปร่างและขนาดตัวมองเผินๆนึกว่าฉลามสีเทา (Grey Reef Shark)

คุณหนูฉลามวาฬว่ายออกไปเรื่อยๆจนลับสายตาไป....

ครู่เดียว...เธอก็ว่ายกลับเข้ามาที่กองหินอีกครั้ง แต่ลงต่ำจนเกือบติดพื้นทราย

ก่อนจะเชิดหัวขึ้น  อวดท้องขาวจั๊วน่าจูบ....

อุ๊ยยยย.....สายเอ็นเบ็ดห้อยมาจากไหน.....ยาวเฟื้อยเลย..... ;)

คุณหนูฉลามวาฬติดเบ็ดหรือ..... ;)

สายชลมองไล่ตามเส้นเอ็นเบ็ดขนาดเขื่องไปเรื่อยๆ และไปหยุดที่ปากคุณช่อนทะเลที่ว่ายอยู่ใต้ท้องคุณหนูฉลามวาฬ....

พวกเราหลายคนพยายามเข้าไปช่วยตัดสายเบ็ด แต่ก็ยังเหลือสายเบ็ดอีกยาวหลายเมตร

น่าสงสารจริงๆพ่อ Body Guard ที่เห็นแก่กินจนไปติดเบ็ด ดีนะที่รอดมาได้....

แต่ จะรอดไปได้อีกสักกี่วันหนอ..... :'(

เจ้าช่อนทะเลตัวใหญ่สุดเริ่มว่ายน้ำเป็นวงกว้างมากขึ้น เหมือนจะกันไม่ให้เราเข้าใกล้ตัวฉลามวาฬ...

ถ้าเข้าใกล้ไม่ได้....เราก็คงจะไปช่วยตัดสายเบ็ดที่ติดปากเพื่อนเจ้าไม่ได้นะจ๊ะ....

อืมมมม....แล้วจะช่วยได้อย่างไรล่ะคะนี่..... ;)

หลังจากที่วนเวียนอยู่กับเรากว่า 10 นาที....ฉลามวาฬเริ่มว่ายออกไปไกลจากกองหิน    โดยมีเจ้าช่อนทะเลลากสายเบ็ดยาวเฟื้อยติดตามไปด้วย....

เราเริ่มว่ายกลับเข้าหากองหิน แต่ไปไม่ได้ไหนไกล เพราะเศษอวนผืนมหึมา ทอดตัวยาวเหยียดอยู่ที่พื้นทรายและพาดผ่านไปบนกองหินที่มีดงปะการังดำขึ้นอยู่

ขอบคุณคุณหนูฉลามวาฬนะคะ ที่มาชี้ครีบบอกเราว่าเศษซากอวนผืนใหญ่อยู่ที่ไหน...

ถึงเวลาทำงานอีกแล้ว....เราช่วยกันเราะตัดและม้วนเศษอวนจนเป็นก้อนกลมใหญ่ และนำถุงก๊อบแก๊บมาผูกเพื่อใช้เป็นถุงลมยกเศษอวนขึ้นสู่ผิวน้ำ

น้อง Sky ที่ช่วยสายชลทำงานอยู่มาสกิดและชี้มือขึ้นข้างบน.....

มาอีกแล้วน้องฉลามวาฬ  แต่ขอทำงานก่อนนะคะ

มือยังคงทำงานไป แต่พอผูกถุงได้ใบหนึ่งแล้ว สายชลก็เผ่นจากกองอวน ว่ายไปหาคุณหนูฉลามวาฬตัวเดิม

เธอว่ายอวดโฉมกับเราและนักดำน้ำจากเรืออื่นที่เพิ่งว่ายมาสมทบอยู่อีกนานนาทีกว่าๆแล้วก็ว่ายจากไป......ส่วนเราก็ก้มหน้าก้มตาดำน้ำทำงานกันต่อ

เมื่อเราดำน้ำทำงานที่นี่อีกไดฟ์หนึ่ง  เราไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ........

แงๆๆๆๆๆ :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'(

แล้วเจอกัน......ล์ ฝากไว้ก่อนเถอะ เรียม เดี๋ยวขวัญ จะตามหาเจ้าเอง ฮิฮิ

ตาร้อนไปหมดแล้วคะ แต่ไม่เป็นไร  แค่เห็นรูปก็มีความสุขแล้วคะ  >:( >:( >:( ตอนนี้ ก็ภาวนาอยากให้ buddy กับเพื่อนร่วมแก๊งค์อีก 1 คน ได้มีโอกาสเห็นบ้าง ( พอดี trip ที่เจอเขาไม่ได้ไปด้วยคะ)  ครูบอกว่าอยากเจอได้ แต่อย่าหวังคะ  :-* :-* :-*

ทำไมลีลาท่าทางเธอถึงงดงามดุจนางพญาเลยคะ  ขนาดเห็นแต่ภาพยังรู้สึกได้ อิจฉาทุกท่านที่ได้เห็น ตัวเป็นๆจังเลย

ผู้พิทักษ์ทั้งหลายก็ดูหวง เจ้านายสุดๆเลย  เป็นภาพที่ดูแล้วเหมือนเหล่าข้าทาสบริวารตามเสด็จนางพญาแห่งท้องทะเลจังเลยค่ะ

ได้มีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์ความประทับใจกับฉลามวาฬกับพี่สายชล 3 ครั้ง มีความสุขทุกครั้ง

ครั้งแรกในชีวิตที่พบฉลามวาฬ ที่กองหินริเชลิว ถ้าหากไม่เห็น Leader สุด Hyper พี่ Sri_Nuan.Ray ตามไป ก็คงไม่กล้าว่ายตามไปด้วย แต่พอตามไปได้ ก็ไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเองไปสร้างฟองอากาศ รบกวนการถ่ายภาพเจ้าตัวน้อยของพี่สายชลเข้า.....หนูขอโทษนะคะ....ตอนนั้น พี่สายชลบอกว่ากล้องกดชัตเตอร์ไม่ได้...คงไม่อยากให้หนูรู้สึกผิด......ขอโทษจากใจจริงๆ ค่ะ

ครั้งที่สอง ที่กองหินเอสโอเอส เกาะร้านเป็ด ก็กำลังเพลิดเพลินกับนูดี้ตัวโปรดอยู่ ไม่รู้ตัวเลยว่า ฉลามวาฬตัวโต ว่ายวนไป วนมา อยู่บนหัวเราตั้งนานแล้ว คนอื่นเค้าเกาะเชือกดูจนจะขึ้นจากน้ำแล้ว ไอ้เราเซ่อซ่า เพิ่งจะเห็น ถ้าพี่สายชลไม่ชี้ให้ดู Sky คงว่ายออกห่างจากฉลามวาฬโดยไม่รู้ตัว พอเห็นปุ๊บ ก็ว่ายตามไป ตามมา จนถึงเวลาต้องขึ้นจากน้ำ สร้างความประทับใจแบบ ที่สุด....

ครั้งที่สามที่หินแพ ได้ว่ายตามไปสมทบพี่สายชลช่วงหลัง ดีที่ว่ายตามไปทัน และก็เอาเราไปทิ้งที่ซากอวนที่ยาวมากๆ ให้เราได้ใช้เวลาตัดๆ เลาะๆ กันอยู่นาน แต่ฉลามวาฬคงคำนวนเวลากลับมาให้รางวัลเราผิดไปหน่อย มาเร็วไป เรายังเลาะอวนไม่เสร็จเลย ต้องรีบพุ่งไปดูเค้าอีกรอบก่อนจะกลับมาเก็บอวนที่เหลือต่อ....เฮ้อ หรือคุณเธอมีรับโชว์ตัวที่ไหนต่อก็ไม่รุ...ไม่รู้จะรีบร้อนไปไหน...ไอ้เรา ขึ้นๆ ลงๆ ดูคุณเธอเหนื่อยเลย.....

ฮี่ๆ....กดชัตเตอร์ไม่ได้จริงๆค่ะ น้อง Sky เพราะฟองอากาศที่ฟู่ๆขึ้นมาบดบังหน้ากล้องจนกล้องโฟกัสไม่ได้

กล้อง D70 นั้น....พอโฟกัสไม่ได้.....ก็จะกดชัตเตอร์ไม่ได้ค่ะ.... :)

แต่ไม่เป็นไรค่ะ....แค่เห็นด้วยตาก็นับเป็นบุญแล้ว และอย่าลืมนา.... พี่เป็นคนเดียวที่ได้เห็นฉลามวาฬตั้งสองตัวที่ริเชลิวในวันนั้น (เชื่อไหมคะ...อิๆ)

สรุปแล้ว....จากเดือนมกราคม จนถึงปลายเดือนกรกฏาคม ปี 2550   สายชลได้เห็นฉลามวาฬต่อเนื่องกันมากที่สุด คือ 5 ตัว นับเป็นปีทองในชีวิตการดำน้ำเลยนะคะนี่

แหม๋.....อยากไปชุมพรอีกแล้วค่ะ เผื่อจะได้เห็นฉลามวาฬอีกสักตัวสองตัวนะคะ.....   :-X

อ้อ....เกือบลืม

น้อง Sky โปรดนำภาพฉลามวาฬตัวน้อยๆทีริเชลิวที่หนูถ่ายไว้ได้มาช่วยลงให้เห็นเป็นขวัญตาหน่อยนะคะ.... :-*

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ได้เลยค่ะ พี่สายชล  

ภาพนี้ ตอนนั้น มือใหม่ๆ เลยค่ะ เห็นฉลามวาฬครั้งแรกในชีวิต ไม่รู้ต้องถ่ายมุมไหน

สวย แจ่มมมมมมมมมมมมมมมมมม มากไอ้น้อง...........

อืมมม....ใช่จ้ะ สวยแจ่มออกนะจ๊ะ

ขอบคุณจ้ะหนู Sky....

เพิ่งกลับมาสังเกตุรูป ว่าอ้าปากกินแพลงตอนด้วย

รูปนี้ ถ่ายทิ้งทวน ตอนที่บัดดี้อากาศหมด ก็เลยไม่สามารถ ตามติด พี่สายชล Hyper#1 และพี่ Sri_Nuan.Ray Hyper#2 ได้ Hyper#3 ก็เลยต้อง พักน้ำ.....หยุดซ่าได้แล้ว......

อ้าววววไม่ใช่ กำลัง อ้าปากบอกรัก พวกเราหรือจ๊ะ....  :-X  :-X

โอ้วววววว อันนี้ แล้วแต่ว่าหัวใจใครกำลังคิดอะไรนะคะ ของ Sky ก็คงคิดถึงแต่เรื่องกิน ส่วนตอนนี้ พี่Sri.... ของเรา อาจจะกำลังมีความรัก In Love ก็เลยคิดถึงแต่เรื่อง ฟามร้ากกกกกกกก
 :-X

รักตัว กลัวตาย น่ะสิจ๊ะน้องรัก......  :-*  :-*

(http://www.naturethai.org/forum/smileys/penquin/pen1_03.gif) อันนี้ หนูก็เป็นนะค้า......

ก๊ากกกกก..... :-X

 :)
โอ้โห.. ชอบรูปรวมหมู่ไฮเปอร์กับฉลามวาฬของน้อง Sky จังเลยค่ะ มุมเก๋มาก..
ส่วนรูปอื่นๆ ของทุกท่านนั้นสวยแจ่มบรรเจิดสุดใจไม่ต้องบอกอยู่แล้วค่ะ.. :-* :-*

ว่าแต่ว่า.. ไม่เจื้อจ้ะ..ไม่เจื้อ..ว่าไฮเปอร์#2 และ #3 จะรักตัวกลัวตาย .. ฮิๆ..

แห่ะๆ....คนถือกล้องพร้อม Strobe 2 ตัวในภาพของน้อง Sky นั้น ไม่ใช่สายชลแน่ๆเลยค่ะ เพราะ Strobe อันใหญ่ของสายชลจะอยู่ทางซ้ายมือและใช้ขายึดแบบต่อเป็นท่อนล็อคติดกัน ส่วนด้านขวาจะเป็น Strobe อันเล็ก ขายึดจะสั้นกว่าและเป็นแบบชิ้นเดียวบิดได้  อีกอย่างคือ ขาของ Strobe ทั้งสองข้าง จะกางออกกว้างสุดระนาบเดียวกับหน้ากล้อง ไม่ได้หดเข้ามาเหมือนในภาพ

วันนั้นสายชลใส่ Bio-Fins สีดำ ที่ใบฟินจะเป็นแบบแยกออก (Split Type)  ลำตัวและขาก็ไม่ได้ล่ำบึ่กขนาดนั้นค่ะ เข้าใจว่าคนในภาพจะเป็นผู้ชายที่ไม่ได้อยู่ในเรือลำเดียวกับเรา

ส่วนตัวสายชลเองนั้นลอยตัวอยู่บนขอบหินเฝ้าดูอยู่ด้านบน ไม่ได้ตามลงไปว่ายคู่กับฉลามวาฬอย่างในภาพ เหตุเพราะตอนหันไปเห็นฉลามวาฬนั้นกำลังทำSafety  Stop อยู่บนยอดหิน  พอฉลามว่ายข้ามหัวไปอย่างรวดเร็วแล้วมุดลงต่ำไปทางน้องๆที่ว่ายอยู่ลึกลงไปเกือบ 10 เมตร  สายชลจึงไม่อยากไฮเปอร์มุดน้ำดำลึกไล่กวดตามฉลามวาฬลงไปจากจุดที่ลอยตัวอยู่ค่ะ  

sky คงอธิบายภาพผิดไป ที่ว่า Hyper# 1, Hyper #2 และกลุ่มของ sky ที่ตามฉลามวาฬน้อยต่อไปนั้น
ตามไป แต่ไม่ได้อยู่ในภาพค่ะ ในภาพเป็นชายชาวต่างชาติ ที่ทั้ง เข่า ทั้ง ศอก ใส่หนู ??? ไม่ทราบได้ว่า ตั้งใจหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ กระแทก Sky มาทีนึงแล้ว ก็ไม่หยุดอ่ะ ตอนหลัง หนูก็เลย เตะกลับไปมั่ง เรื่องไร ให้ใครมารังแกเราฝ่ายเดียวใช่ป่าว.....

ฮ่าๆ.....ถูกใจ....ใช่เลย....น้อง Sky

หญิงไทยใจเด็ด...แกร่งดั่งเพชร....คมดั่งมีด...

เรื่องอะไรให้มาข่มเหงกันฝ่ายเดียว....จริงไหมคะ.... :-X :-X :-X

คนมากมายที่ห้อมล้อม ชุลมุนวุ่นวายไล่กวดฉลามวาฬตัวเล็กนั้นอยู่...เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สายชลไม่อยากว่ายตามฉลามวาฬไป ด้วยเกรงจะเกิดการกระทบกระทั่งกันอย่างที่เกิดขึ้นกับน้อง Sky  กลายเป็นกรณี "วินิจ 2" ไป
 ;D

ฉลามวาฬตัวที่  27.... คุณนายจ่ายตลาด...    (Dive # 1411)

 วันที่............................26 กรกฎาคม 2551 
เวลา ...........................8:20 น.
สถานที่........................หินแพ ชุมพร
สภาพทั่วไป.................ท้องฟ้ามีเมฆมาก  ลมอ่อน ทะเลมีคลื่นเล็กน้อย  อุณหภูมิของอากาศและน้ำประมาณ  29 และ  26
                  องศาเซลเซียส  ตามลำดับ  น้ำค่อนข้างใส มองเห็นได้ไกลประมาณ 10 เมตร มีแพลงก์ตอนและตะกอนลอยฟ่อง   
ลักษณะการพบ...........ขณะดำน้ำที่ความลึก 15 เมตร
เพศ............................เมีย

หนึ่งปีผ่านไป....พวกเราชาว SOS กลับไปดำน้ำทำงานกันที่ทะเลอ่าวไทยหน้าเมืองชุมพรกันอีกครั้ง  วันแรกของการทำงาน เราลงดำน้ำกันแต่เช้า เป้าหมายคือการดำน้ำตัดอวนเก็บขยะกันอยางที่เคยปฏิบัติมา

ลงไปได้ไม่นาน สายชลก็เห็นฝูงเหาฉลาม (Slender Suckerfish) กว่าโหลมารวมตัวว่ายวนไปมา ซึ่งน่าแปลกมาก

เอ....หรือจะมีปลาตัวใหญ่ๆ อย่างฉลามวาฬ อยู่แถวๆนี้.....


(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1136.0;attach=17330;image)


ปลายไดฟ์.....สายชลเห็นคุณสายน้ำยกกล้อง VDO ขึ้นถ่ายอะไรอยู่ที่ผิวน้ำ จึงเงยหน้ามองตาม.....

อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดดดด....ฉลามวาฬขนาด 6 เมตร ว่ายนวยนาดอยู่ใกล้ๆผิวน้ำ.....


(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1113.0;attach=17091;image)


ฉลามวาฬค่อยๆว่ายผ่านไป....

หันไปมองคุณสายน้ำ.....ไหง๋ยังเงยหน้าถ่ายอยู่ท่าเดิม.....

สายชลเคาะถังเรียก....คุณสายน้ำก็เฉย.....

คอยไม่ไหวแล้วค่ะ....สายชลตีฟินฉับๆว่ายตามคุณฉลามวาฬไป....

โชคดี....คุณฉลามวาฬท่านตีโค้งกลับมาหา......แจ่มแจ๋วไปเลยค่ะ

บริวารมากมายล้วนแต่ตัวเล็กตัวน้อย  ไม่ใหญ่เป็นเมตรอย่างคุณช่อนทะเลที่ติดตามคุณนายฉลามวาฬไฮโซที่พบที่นี่เมื่อปีที่แล้ว....   


(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1113.0;attach=17092;image)

 


ไม่ต้องตีฟินให้เหนื่อย....ฉลามวาฬว่ายมาหาเองอย่างช้าๆ....

สวย...และสง่างามเหลือเกิน   


(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1113.0;attach=17093;image)


อูยยยย....ฉลามวาฬหันมาใกล้ๆจนแทบชน  ต้องหลบเข้าไปอยู่ใต้ท้อง.....

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1113.0;attach=17094;image)


ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าเป็นคุณนายหรือคุณชายฉลามวาฬ....

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1113.0;attach=17157;image)


คุณฉลามวาฬ ว่ายเนิบๆผ่านไปช้าๆ....หางเกือบฟาดหัวสายชล

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1113.0;attach=17097;image)


ยังชื่นใจไม่เต็มอิ่มเลย....ขอว่ายตามไปหน่อยนะคะ  ท่าทางเธอดูสบายใจ เหมือนคุณนายกำลังไปจ่ายตลาดในซุปเปอร์มารเก็ตใหญ่ ติดแอร์เย็นฉ่ำ

ช่อนทะเลตัวเกือบเมตรว่ายมาจากไหนไม่ทราบ ตามประกบฉลามวาฬ ทำหน้าที่เหมือนบอดี้การ์ด

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1113.0;attach=17100;image)

ดูมุมนี้มั่นใจว่าเป็นคุณนายฉลามวาฬแน่นอน....
(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1113.0;attach=17101;image)


อากาศใกล้จะหมด  หยุดตามคุณฉลามวาฬดีกว่า

แต่มั่นใจ....ต้องได้พบคุณนายฉลามวาฬอีก.....   

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1113.0;attach=17102;image)

ฉลามวาฬตัวที่  28....สติแตก (Dive # 1414)

วันที่............................27 กรกฎาคม 2551 
เวลา ...........................8:35 น.
สถานที่........................หินแพ ชุมพร
สภาพทั่วไป.................ท้องฟ้ามีเมฆมาก  ลมปานกลาง ทะเลมีคลื่นเล็กน้อย  อุณหภูมิของอากาศและน้ำประมาณ  29 และ  27
                  องศาเซลเซียส  ตามลำดับ  น้ำขุ่น  มองเห็นได้ไกลประมาณ 8 เมตร มีแพลงก์ตอนและตะกอนลอยฟ่อง   
ลักษณะการพบ...........ขณะดำน้ำที่ความลึก 15 เมตร
เพศ............................เมีย

เช้าวันรุ่งขึ้นจากที่ได้เห็นฉลามวาฬ   เราลงดำน้ำกันที่หินแพอีกครั้ง   

ก่อนจะหมดเวลาดำน้ำที่หินแพในไดฟ์สุดท้ายได้ไม่นาน.....สายชลก้มๆเงยๆทักทายปลาการ์ตูนที่มีอยู่มากมายที่ใก้ลยอดหินแพ  คุณสายน้ำส่งเสียงอู้ๆเรียก แล้วชี้มือไปเหนือหัว...... 

สายชลเงยหน้าตาม ก็เห็นฉลามวาฬว่ายแบบสติแตกอยู่ใกล้ผิวน้ำ  โดยมีนักดำน้ำว่ายกวดตามมาเป็นพรวน

ใต้ท้องคุณฉลามวาฬไม่มีเหาฉลามเกาะ มีแต่ปลาช่อนทะเลฝูงใหญ่เกาะอยู่แทน แถมขนาดตัวที่ยาวราว 4 เมตรกว่าๆและผอมเพรียว  ทำให้เชื่อว่า ฉลามวาฬตัวหลังนี้ไม่ใช่คุณนายฉลามวาฬที่เห็นในทริปแรก....

โชคดีจริงๆค่ะ....ที่เราได้รางวัลจากการทำดีเพื่อทะเลไทยครั้งนี้เป็นฉลามวาฬถึงสองตัวในทริปเดียว....

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1113.0;attach=17103;image)

ฉลามวาฬตัวที่  29....สุชาดา    (Dive # 1414)

วันที่...........................13 กันยายน 2551 
เวลา ...........................15:30 น.
สถานที่........................กองชุมพร
สภาพทั่วไป.................ท้องฟ้ามีเมฆมาก  ลมปานกลาง ทะเลมีคลื่นสูงกว่าเมตร  อุณหภูมิของอากาศและน้ำประมาณ  29 และ  27
                                    องศาเซลเซียส  ตามลำดับ  น้ำขุ่น  มองเห็นได้ไกลประมาณ 8 เมตร มีแพลงก์ตอนและตะกอนลอยฟ่อง   
ลักษณะการพบ...........ขณะดำน้ำที่ความลึก 5 เมตร
เพศ............................เมีย

หลังอาหารมื้อเที่ยง  คลื่นลมที่เกาะเต่าอ่อนลงกว่าตอนช่วงเช้า....แต่ก็ยังไม่น่าไว้วางใจนัก  เราดูท่าทีดินฟ้าอากาศไปจนถึงบ่ายสามโมง.....ลมเริ่มอ่อนลงไป จนทำให้เราตัดสินใจแล่นเรือไปที่กองชุมพร ซึ่งได้รับทราบว่ามีอวนผืนใหญ่ติดอยู่แถวกองหินด้านใต้

ขนาดลมอ่อนลงแล้ว แต่คลื่นก็ยังสูงกว่าเมตร  ขณะตัดสินใจจะเดินหน้าต่อหรือวกกลับไปที่เกาะเต่าดี  น้องหนอมก็วิ่งมาบอกว่าเรือที่จอดอยู่ที่กองชุมพรวิทยุมาบอกว่าฉลามวาฬสองตัวว่ายเล่นอยู่ที่กองชุมพร

พวกเราดีใจกันมากที่ได้ยินเช่นนั้นต่างรีบลงไปแต่งตัวกันอย่างขมีขมัน  โชคดีเหลือเกินที่เมื่อใกล้กองชุมพร ลมก็อ่อนลงมาก จนความสูงของคลื่นลดลงต่ำกว่าหนึ่งเมตร

เรือสองลำผูกทุ่นอยู่ที่กองชุมพร.....นักดำน้ำบนเรือทั้งสองที่อยู่บนเรือต่างออกันอยู่บนดาดฟ้าเรือ  และชี้มือชี้ไม้บอกว่าฉลามวาฬสองตัวว่ายอยู่ใต้ท้องเรือนั่นเอง....

นักดำน้ำกลุ่มแรกที่แต่งตัวพร้อมแล้วพากันกระโดดลงน้ำกันตูมๆ....

สิ่งที่เราได้เห็น....ฉลามวาฬขนาด 3.5 - 4 เมตร ที่น่ารักน่าเอ็นดูกำลังว่ายวนเวียนอยู่ใต้ท้องเรือนั่นเอง.....
(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1252.0;attach=18646;image)


ดูเธอช่างไร้เดียงสา  ไม่รู้เลยว่า การมาดำน้ำอยู่ใต้เรือใหญ่ หรือใกล้ผิวน้ำอย่างนี้นั้นมันอันตรายเพียงใด 

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1252.0;attach=18647;image)

เรายังไม่ทันได้เก็บขยะหรือตัดอวนให้เป็นเรื่องเป็นราวตามที่ตั้งใจเลย.....เราก็ได้รับรางวัลเป็นการล่วงหน้าจากทะเลซะแล้ว.....

ความสุขที่ได้เห็นฉลามวาฬ เป็นเรื่องที่เกินคำบรรยาย....

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1252.0;attach=18517;image)

โดยเฉพาะคนที่ได้เห็นฉลามวาฬเป็นครั้งแรกในชีวิต......อย่างน้องอ้วน  ที่หลงรักฉลามวาฬตัวนี้เข้าเต็มเปา จนถึงกับตั้งชื่อเธอว่า "สุชาดา"
(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1252.0;attach=18648;image)


แม้ฉลามวาฬที่น่ารักว่ายจากไปใต้ท้องน้ำที่ขุ่นมัวเบื้องล่าง....

ความสุขและความประทับใจ จะคงอยู่ชั่วนิรันดร์.....

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1252.0;attach=18650;image)

ฉลามวาฬตัวที่  30....สุมิตรา     (Dive # 1414)

วันที่...........................13 กันยายน 2551 
เวลา ...........................15:50 น.
สถานที่........................กองชุมพร
สภาพทั่วไป.................ท้องฟ้ามีเมฆมาก  ลมปานกลาง ทะเลมีคลื่นสูงกว่าเมตร  อุณหภูมิของอากาศและน้ำประมาณ  29 และ  27
                  องศาเซลเซียส  ตามลำดับ  น้ำขุ่น  มองเห็นได้ไกลประมาณ 8 เมตร มีแพลงก์ตอนและตะกอนลอยฟ่อง   
ลักษณะการพบ...........ขณะดำน้ำที่ความลึก 5 เมตร
เพศ............................เมีย


หลังจากฉลามวาฬตัวที่ 29 นาม "สุชาดา" ว่ายหายไป เราเริ่มดำน้ำทำหนาที่มองหาเศษอวนตัดกันต่อไปด้วยใจเปี่ยมสุข

ที่ลึกใกล้พื้นทรายน้ำขุ่นข้นจนมองแทบไม่เห็นอะไร แต่ก็ยังโชคดีที่มีฉลามกระทิง (Bull Shark) 3-4 ตัวมาวนเวียนให้เห็น แถมด้วยปลาหมอทะเลยาวกว่าเมตรอีกหนึ่งตัวที่นอนอยู่ในลอบใหญ่

ปลายๆไดฟ์....เราเริ่มไต่ระดับขึ้นสู่ผิวน้ำ......

ขณะลอยตัวเพื่อเตรียมทำ Safety Stop""""น้องกุ้ง Kungkings เข้ามาสะกิดสายชล แล้วชี้มือไปเบื้องบน.....

กรี๊ดๆ....ฉลามวาฬตัวยาวราว 5 - 6 เมตรว่ายวนเวียนอยู่ใกล้ๆผิวน้ำ....

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1252.0;attach=18652;image)



แต่จะใช่ตัวเดียวกันหรือมิใช่.....ฉลามวาฬตัวไหนๆก็ทำให้พวกเราสุขใจได้เสมอ....

(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1252.0;attach=18653;image)



น้องโหง๋วผู้ได้เห็นฉลามวาฬเป็นครั้งแรกในชีวิตเช่นเดียวกับน้องอ้วน  ทำท่าโอบกอดน้องสุมิตราอยู่ห่างๆ เหมือนอยากจะบอกว่า......... "รักเธอสุดหัวใจ"   


(http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?action=dlattach;topic=1252.0;attach=18655;image)

ยิ่งดูรูป และ อ่านคำบรรยายของพี่สายชล ก็ยิ่งหลงรักเจ้าตัวใหญ่อย่างจับใจ ..  :-* :-*



เห็นแล้วก็เห็นอีกได้.. ไม่เคยเบื่อเลย..  :-*

ใช่ค่ะ....ไม่เคยเบื่อเลย....

ดำน้ำทุกครั้งก็หวังว่าจะได้พบฉลามวาฬ....

ถ้าไม่เจอครั้งนี้....ก็ยังมีหวังต่อไปว่าจะเจอกันครั้งหน้า...

ทำให้คนหาว่าบ้า.....แก่จะตายแล้วยังดำน้ำอยู่ได้.....

(http://www.naturethai.org/forum/smileys/penquin/pen1_122.gif) 

คราย ๆ มานว่าพี่สองสายของนู๋...บังอาจมากกกกกกก >:( >:( >:( 
นึกทีไรก็ต้องอมยิ้ม อิ่มใจทุกครั้งที่คิดถึง สุมิตรากะสุชาดา ...เธอช่างน่ารักซะเหลือเกินนนนนนนนนน :-* :-* :-*

น้องกุ้ง  kungkings และน้องภาณุ ก็เป็นอีกสองสมาชิกของเราที่ได้เห็นฉลามวาฬเป็นครั้งแรก......และยังคงสุขใจ.....อิ่มเอิบใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

เขาว่า.....ฉลามวาฬเป็นปลาของเทพเจ้า  หากเราทำดี...คิดชอบ....ฉลามวาฬจะมาให้เราเห็นและนำความสุขความเจริญมาสู่เรา

เชื่อไม่เชื่อ....เรื่องนี้อยู่ที่ใจค่ะ..... :-*

ทริปอันดามันเหนือและใต้.....สายชลนัดทั้งฉลามวาฬและกระเบนราหูเตรียมไว้ให้น้องๆอาสาสมัครผู้ร่วมทริปทุกคนแล้วนะคะ.... ;D

 :-* :-* :-*

ถึงแม้จะไม่เคยเห็นฉลามวษฬในทะเลซักครั้ง แต่อ่านข้อความข้างบนแล้ว ..
รู้สึกดีไปด้วยจริงๆ

 :-* :-* :-*

น้องน่าจะได้พบประสบพักตร์กับน้องฉลามวาฬตอนไปทำงานกับ SOS ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้านะคะน้องดอกปีบ..... :-*

ถ้าได้ไปเห็นน้องฉลามวาฬแบบ น้ำใสๆ แถวทะเลอันดามัน คงจะมีความสุข เหมือนทุกครั้งที่เจอแน่ๆเลยค่ะ

อ่านสนุกมากเลยค่ะพี่น้อย  สงสัยต้องไปทำ record ส่วนตัวแล้วว่า เจอที่ไหน ยังไงแบบพี่น้อย เก็บไว้เป็นความประทับใจส่วนตัว

แค่เห็น 2 หน 3 ตัว หนูก็ดีใจจะแย่แล้วค่ะ   พี่น้อยทำพิธีเรียก แบบว่า จงมา จงมา ได้เลยค่ะ  (เอาเวทมนตร์เข้าช่วย แฮะ แฮะ)