กระดานข่าว Save Our Sea.net

สวัสดีครับ

เมื่อวันเสาร์นี่หลานชายอายุเจ็ดแปดขวบได้มานอนค้างที่บ้านครับ

พอดีมีตู้ปลาจิ๋วอยู่ที่บ้าน เลี้ยงไม้น้ำ เลี้ยงมาตั้งนานแล้ว จนไม้น้ำมันฟูขึ้นเต็มตู้ไปหมด

เห็นหลานคนนี้มันอยากได้ตู้ปลา เลยยกให้ครับ

แต่มีแต่ตู้ไม่มีปลา เลยต้องพาทั้งหลานทั้งลูกไปสวนจตุจักร เพื่อซื้อปลาสอด (หลานแกเฉพาะเจาะจงจะเอาปลาสอดหางดาบให้ได้เลยครับ)

จอดรถที่ อาคารจตุจักรติดแอร์แล้วเดินลงมา มุ่งไปร้านขายปลาด้านในที่ขายปลาเป็นกะลามังให้ตักเองตัวละห้าบาท เราต้องเดินผ่านบริเวณร้านขายปลาทะเล และปะการังครับ

วันนั้นน่าแปลกใจ คนมุงร้านขายปะการังเยอะเป็นพิเศษ  ผมเองก็พวกอยากรู้อยากเห็น (ไทยมุง) เลยแหวกคนดูยื่นหน้าเขาไปครับ

สิ่งที่เห็นก็คือ ตู้ปลาที่เคยมี ปะการัง ดอกไม้ทะเล และกัลปังหาเต็มไปหมด กลับว่างเหลือแต่น้ำปล่าว ๆ

ในร้านมีตำรวจเพียบเลย กำลังเอาปะการังใส่กล่องโฟม

ผมก้มไปดูในกล่องโฟม มีหลายอย่างเลยครับ ไม่รู้อะไรต่อมิอะไร วางซ้อน ๆ กันเข้าไป ซ้อนกันแบบไม่มีอะไรกั้นเลย และที่สำคัญ ไม่ได้ใส่น้ำด้วยครับ
มีกล่องหนึ่งใส่แล้วเต็มปิดฝาไม่ได้ ตร.ท่านเลยเขย่าๆ เอามือกด ๆ ขยี้ ๆ ให้ปิดฝาได้ ไอ้พวกดอกไม้ทะเลที่พออยู่บนบกมองเห็นเป็นวุ้นเหลว ๆ ตร.ท่านก็ขยี้ ๆ แรง ๆ ให้มันจม แล้วปิดฝาเข้าไป

ผมเป็นสมาชิกเวบ www.siamensis.org ด้วยครับ จำได้ติดตาเลย
สมัยก่อนมีคนเอาภาพมาลง เป็นเต่าดาวพม่า (หายาก แพง และเป็นสัตว์สงวนด้วย) เต่าถูกขังอยู่ในตู้ปลาเป็นร้อย ๆ ตัวเลยครับ พราวตาไปหมด
ทีแรกคนถ่าย ๆ ไกล ๆ ก็ดูสวยดี เพราะลวดลายมันสวย   ภาพต่อมาค่อย ๆ ซูมเข้าไป ๆ  สองสามภาพ จนถึงภาพสุดท้าย
เต่าทุกตัวแห้งตายเป็นมัมมี่เลยครับ

ผมคาดว่า พวกปะการัง และดอกไม้ทะเลนี้คงอยู่ในชะตากรรมเดียวกะเต่าดาวพม่าพวกนั้น

ซวยนะครับ เกิดมาไม่ใช่คน ถ้าเป็นคนคงได้รับการดูแลอย่างดีเพราะถือว่าเป็นผู้เสียหาย
ดอกไม้ทะเลมีชีวิตนะครับ ถูกจับมาจากบ้าน แทนที่จะถูกปฏิบัติว่าเป็นผู้เสียหาย หนำซ้ำยังถูกยัดใส่กล่องโดยไม่มีน้ำ ถูกขยี้ ๆ ๆ  ปฏิบัติเยี่ยงว่าเป็นของกลาง (เยี่ยงสิ่งไม่มีชิวิต)

ผมว่าไม่เกินสองวัน ทั้งกล่องต้องเหม็นเน่าเหมือนหอยเน่าคาโรงพัก ตร.ท่านคงทนไม่ไหว ทั้งกล่องต้องจบลงในถังขยะแน่นอน

เป็นไปได้มั๊ยครับ ว่าจะเอามันไปไว้ในที่พักที่เหมาะสม รอคนใจบุญ หรือ คนมีน้ำใจ พามันกลับไปปล่อยลงสู่แหล่งกำเนิด

ถ้ามีที่พักรอ SOS เอาไปปล่อยคงดีนะครับ เพราะนอกจาก SOS จะช่วยดำน้ำตัดอวน แล้ว ยังช่วยคืนสิ่งมีชีวิตพลัดถิ่นกลับสู่ธรรมชาติด้วยครับ

ผมก็คิดเรื่อยเปื่อยแบบคนธรรมดาไม่ได้มีความรู้ทางนิเวศน์วิทยานะครับ ถ้ามันไม่ถูกไม่ต้อง ขออภัย

ปล. อีกอย่างหนึ่งครับ พวกปะการังและ ดอกไม้ทะเลที่มีอยู่ในสวนจตุจักรนั้น ไม่ได้มาจากเมืองไทยทั้งหมด บ้างก็ถูกสั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ เพราะแปลกและสีสวยกว่าเมืองไทย แต่ กม. ไทยบอกไว้ว่าสิ่งเหล่านี้ห้้ามมีไว้ในครอบครอง จึงโดนจับไปด้วย ทั้ง ๆ ที่ประเทศที่ส่งมาเค้าส่งถูกต้อง
ดังนั้นคนจะปล่อยสู่ธรรมชาติ ต้องมีความรู้หน่อยนะครับ ซี้ซั้วปล่อย สปีชี่ส์ ต่างถิ่นลงไปอาจเกิดปัญหาใหญ่กับสภาพแวดล้อมได้

ขอบคุณคุณasawin ที่มาเล่าเรื่องเศร้าๆให้ฟังค่ะ....

การจับกุมผู้ค้าสัตว์สงวนและคุ้มครองนั้นสมควรแล้ว แต่การดูแลหลังการจับกุมนี่....ใช้ไม่ได้ค่ะ

เท่าที่ทราบ...การเข้าจับกุมผู้ค้าหรือผู้ครอบครองสัตว์ควบคุมหรือสัตว์สงวน มักจะมีนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัตว์นั้นๆมาร่วมดำเนินการจับกุมด้วย เพื่อที่จะได้ร่วมให้ความคิดเห็น....ดูแล....และนำสัตว์หรือซากสัตว์เหล่านั้นไปเลี้ยงหรือเก็บในลักษณะและในสถานที่ที่เหมาะสมต่อไป

กรณีนี้....น่าจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมประมง และ/หรือ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงทรัพย์ฯ ไปร่วมดำเนินการอยู่ด้วย

เรื่องนี้คงต้องฝากน้องแม่หอยช่วยกรุณาสอบถามเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงของกรมประมงดูค่ะว่ามีใครไปร่วมจับกุมด้วยหรือไม่อย่างไร....

เท่าที่ผมเห็นมานะครับ จับจากใน ไทย 80% เข้ามาจากนอก 20% เข้ามาจากนอกส่วนใหญ่เป็นปลา ก้นตู้มีไม่มากเท่าครับถ้าเทียบสัดส่วน

เรื่องเจ้าหน้าที่ ที่ไปจับ และตำรวจที่ประสาน ส่วนตัวคิดว่ายังขาดความเอาใจใส่อยู่มากครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสัตว์น้ำหรือสัตว์บกก็ตาม

ส่วน NGO ฝรั่งตาน้ำข้าว ลุยสวนทีไร เห็นแต่ผักครับ ไม่ค่อยเห็นเนื้อ พอลงข่าวได้เป็นพอ