กระดานข่าว Save Our Sea.net
เมษายน 24, 2024, 03:58:54 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดนี้อ่านได้อย่างเดียว ต้องการตั้งกระทู้ใหม่กรุณาใช้งานบอร์ดใหม่ที่
http://www.saveoursea.net/forums/index.php
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา สมาชิก เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10
 11 
 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2009, 11:20:03 AM 
เริ่มโดย admin - กระทู้ล่าสุด โดย admin
เอ่อ อยู่นาน เพื่อนก็ตายหมด จะเหงาไม๊ จะรู้สึกอย่างไรเวลาไปงานศพเพื่อนคนสุดท้ายแล้วเหลือแต่เรา
อยู่นานเกิน แล้วอยู่ทำอะไร ถ้าปฏิบัติเพื่อละโทษะ โมหะ โลภะ ราคะ แสวงหาเร่งเพียรสู่นิพพานให้เร็ว อันนี้เห็นสม
หากอยู่แล้ว เกิดทุกข์จากใดๆก็ตาม ยกตัวอย่างทุกใจจากเหงา ก็ทุกข์จิตตก
อยู่นาน อยู่น้อย อยู่กับตัวกรรม เคยหักชีวิตเขาไว้ ให้ดีมากมายขนาดไหน ชีวิดก็โดนหัก
แต่ที่สำคัญช่วงเวลาที่อยู่จะเลือกปฏิบัติตนเช่นไร
กฎไตรลักษณ์หาเลี่ยงได้ไม่ แม้พระพุทธองค์ก็ยังทรงแสดงให้เราประจักษ์ถึงกฎไตรลักษณ์

เพื่อนตายหมด เหงาไม๊
ตอบว่า ไม่เหงา เพราะหาเพื่อนใหม่ได้ทุกวันในเน็ต แล้วงานศพก็ไม่ค่อยอยากไปเพราะมันเศร้า ไม่จำเป็นไม่เคยไป

อยู่นานเกิน แล้วอยู่ทำอะไร
ตอบ  มีเรื่องให้ทำเยอะแยะ 24 ชั่วโมง ยังไม่พอในแต่ละวันเลย

ช่วงเวลาที่อยู่จะเลือกปฎิบัติตนเช่นไร
ตอบ  ทำใจให้สบาย ไม่เครียด อะไรจะก็เกิดก็ให้มันเกิด แล้วค่อยแก้ปัญหาเอา อย่าไปวิตกจริตก่อนเกิด บางทีมันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ไม่ใช่ในสิ่งที่ตามองเห็น หูฟัง หรือได้ยิน ไม่เบียดเบียนใคร ใครดีก็ดีตอบ ใครไม่ดีไม่ชอบเรา ก็อย่าไปยุ่งกับเขา สิ่งที่ได้ยินได้ฟังในวันนี้ พรุ่งนี้ลืมให้หมด เก็บแต่เรื่องดี ๆ ไว้ในสมอง ถึงจะตัดไม่ได้อย่างพระพุทธองค์ หรือภิกษุญาณขั้นสูงในโลกนี้ที่ถึงอย่างไรก็ยังทำจิตให้นิ่งสนิทไม่ได้ ก็ต้องพยามยามตัด ท่องไว้แค่ 2 คำ ตัดใจ

ถ้าผมจะอยุ่ดูแลเวป sos ถึงอายุ 90 ปี ถามว่าจะยังมีใครตามมาอยู่เป็นเพื่อนหรือเปล่านะ


 12 
 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2009, 10:24:05 AM 
เริ่มโดย admin - กระทู้ล่าสุด โดย admin
บอร์ดเดิม อ่านได้ที่นี่
http://www.saveoursea.net/oldboard/
http://www.saveoursea.net/boardsmf/index.php

 13 
 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2009, 10:23:35 AM 
เริ่มโดย admin - กระทู้ล่าสุด โดย lord of death
เอ่อ อยู่นาน เพื่อนก็ตายหมด จะเหงาไม๊ จะรู้สึกอย่างไรเวลาไปงานศพเพื่อนคนสุดท้ายแล้วเหลือแต่เรา
อยู่นานเกิน แล้วอยู่ทำอะไร ถ้าปฏิบัติเพื่อละโทษะ โมหะ โลภะ ราคะ แสวงหาเร่งเพียรสู่นิพพานให้เร็ว อันนี้เห็นสม
หากอยู่แล้ว เกิดทุกข์จากใดๆก็ตาม ยกตัวอย่างทุกใจจากเหงา ก็ทุกข์จิตตก
อยู่นาน อยู่น้อย อยู่กับตัวกรรม เคยหักชีวิตเขาไว้ ให้ดีมากมายขนาดไหน ชีวิดก็โดนหัก
แต่ที่สำคัญช่วงเวลาที่อยู่จะเลือกปฏิบัติตนเช่นไร
กฎไตรลักษณ์หาเลี่ยงได้ไม่ แม้พระพุทธองค์ก็ยังทรงแสดงให้เราประจักษ์ถึงกฎไตรลักษณ์

 14 
 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2009, 10:13:42 AM 
เริ่มโดย admin - กระทู้ล่าสุด โดย admin
ต้องการสมัครสมาชิก SOS กรุณาเข้าไปสมัครและใช้งานบอร์ดใหม่ได้ที่

http://www.saveoursea.net/forums/


 15 
 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2009, 09:15:37 AM 
เริ่มโดย เด็กน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย เด็กน้อย
เดลินิวส์

ไต้ฝุ่น'จันหอม'ถล่มภาคเหนือฟิลิปปินส์ ตาย24คน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 พ.ค.) พายุไต้ฝุ่น 'จันหอม' พัดถล่มภาคเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยความแรงลม 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดฝนตกหนัก โคลนถล่ม เสาไฟฟ้าและต้นไม้โค่นล้ม สะพานพังเสียหาย รวมทั้งหลังคาบ้านเรือนถูกพัดหายไปในหลายจังหวัดของเกาะลูซอน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 24 คน สูญหาย 3 คน ก่อนอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน และพัดลงสู่ทะเลมุ่งหน้าประเทศจีน

ทั้งนี้ พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือพื้นที่หลายจังหวัดบนภูเขา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากการถูกก้อนหินขนาดใหญ่หล่นทับ ขณะที่เรือข้ามฟากระหว่างเกาะลูซอนและเกาะใกล้เคียงยังถูกระงับไว้.
 
*************************************************************************************

เร่งเพิ่มแก้มลิง รับสนองพระราชดำริ กทม.ขยับสร้าง11จุด
 
รัฐบาลน้อมรับพระราชดำริในหลวง โครงการแก้มลิง ส่งกระทรวงเกษตรฯ ทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน บริการจัดการน้ำให้ประเทศเข้มแข็ง ส่วนกทม.สนองพระราชดำริ เตรียมแผนสร้างโครงการแก้มลิงเพิ่มอีก 11 แห่ง หลังจากมีอยู่แล้ว 21 แห่ง กักเก็บน้ำไว้ได้ 12.74 ล้านลูกบาศก์เมตร ผู้ว่าฯกทม. สั่งทุกเขต หาพื้นที่ว่างทำแก้มลิงขนาดเล็ก พักน้ำก่อนระบายต่อ เตรียมพร้อมซ่อมอุปกรณ์ให้ทันใช้งานช่วงฝนตกหนัก คาดเดือนส.ค.-พ.ย.นี้ มีพายุเข้า เน้นแก้ไขจุดน้ำท่วม 263 แห่งทั่วกทม.แล้ว

ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับโครงการระบบการบริหารจัดการน้ำท่วม หรือที่เรียกว่าแก้มลิง เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯด้วยการสร้างให้มีโครงการแก้มลิง ในการรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงในเร็ว ๆ นี้นั้น เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องนี้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานหลาย กระทรวง การบริหารจัดการน้ำ ถือเป็นเป้าหมายสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ประเทศไทยเข้มแข็ง
 
“รัฐบาลน้อมรับพระราชดำรัส และตรวจสอบดูในเรื่องของโครงการต่าง ๆ ที่มีความเป็นไปได้ในแง่ของพื้นที่ ผู้สื่อข่าวถามว่าเท่าที่ได้รับรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน กทม.น่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีการติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งสภาวะอากาศและเรื่องของน้ำอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง กทม.ก็มีความพร้อมรับมืออยู่” นายกรัฐมนตรี กล่าว
 
นายประกอบ จิรกิติ รองผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า สำหรับการทำโครงการแก้มลิงตามพระราชดำริ ในพื้นที่มีการตระหนักถึงการแก้ปัญหาและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการสร้างแก้มลิงในพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปัจจุบันมีแก้มลิงในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งสิ้น 21 แห่ง สามารถกักเก็บน้ำได้ 12.74 ล้านลูกบาศก์เมตร และอยู่ระหว่างการดำเนินการเพิ่มอีก 11 แห่ง
 
นายประกอบ เผยอีกว่า นอกจากนี้ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ได้สั่งการให้ทั้ง 50 สำนักงานเขต ทำการสำรวจหาพื้น  ที่ว่างที่สามารถทำเป็นแก้มลิงขนาดเล็ก เพื่อพัก  น้ำฝนที่ตกลงมาจำนวนมากก่อนระบายลงสู่แม่   น้ำไม่ให้เกิดการท่วมขังในพื้นที่ รวมทั้งได้เตรียมบังคับใช้กฎหมายในการให้หมู่บ้านจัดสรร สร้างแก้มลิงหรือที่พักน้ำ เป็นของตนเองเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาด้วย
 
“ในสัปดาห์หน้าท่านจูมมะลี ไซยะสอน ประธานประเทศลาว จะเดินทางมาประเทศไทย ในฐานะพระราชอาคันตุกะ ซึ่ง กทม.ในฐานะเจ้าบ้านจะมีพิธีการมอบกุญแจเมืองให้แก่ท่านด้วย ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯร่วมด้วย นอกจากนี้ท่านประธานประเทศลาว ซึ่งมีความชื่นชมในพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะติดตามดูงานโครงการในพระราชดำริต่าง ๆ ของพระองค์ โดยจะมีการเยี่ยมชมโครงการแก้มลิง ในพื้นที่บึงรับน้ำหนองบอน พื้นที่เขตประเวศด้วย” รองผู้ว่าฯกทม. กล่าว
 
นายประกอบ กล่าวต่อว่า ในส่วนการป้องกันน้ำท่วมขณะนี้ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือสำหรับช่วงหน้าฝนปีนี้ โดยมีการรายงานสภาพอากาศและสภาวะฝนเปรียบเทียบ ซึ่งจากการรายงานที่ผ่านมาพบว่ามีฝนต้นฤดูตกลงมา เมื่อ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ปริมาณมากเป็นประวัติการณ์ในพื้นที่สถานีวัดน้ำฝนอุทยานเบญจสิริ 358 มม.   ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังหลายจุด ทั้งนี้กรมอุตุ  นิยมวิทยาคาดว่าจะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย 2-3 ลูก แล้วเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนาม เข้าสู่ประเทศไทยตอนบนเดือน ส.ค.-ก.ย. หรือเคลื่อนตัวผ่านอ่าวไทยเข้าสู่ภาคใต้ เดือน ต.ค.-พ.ย.นี้
 
รองผู้ว่าฯ กล่าวอีกว่า ด้านการเตรียมพร้อมในพื้นที่ กทม.มีการทำความสะอาดท่อระบายน้ำความยาว 3,811 กิโลเมตร จากทั้งหมด 5,792 กิโลเมตร ส่วนจุดอ่อนน้ำท่วม 263 จุด ใน 50 เขต เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ได้เตรียมกระสอบทราย 1.2 ล้านใบ เพื่อวางเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและริมคลองต่าง ๆ รวมทั้งเปิดทางน้ำไหลคูคลอง 1,071 แห่ง ความยาว 1,450,623 เมตร การขุดลอกคูคลอง 67 แห่ง ความยาว 84,529 เมตร จากทั้งหมด 103 คลอง ความยาว  135,535 เมตร
 
“ส่วนเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 730 เครื่อง ขณะนี้ซ่อมบำรุงเพื่อใช้งานเกือบ 100% แล้ว นอกนั้นยังเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมในหน่วยปฏิบัติการเร่งด่วน BEST เครื่องจักรกล อุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมแล้ว และสถานีสูบน้ำทั้งหมด 150 สถานี ขณะนี้มีการซ่อมบำรุงเครื่องสูบน้ำ เพื่อรองรับระบบสูบน้ำเกือบสมบูรณ์แล้ว ซึ่งในช่วงฤดูฝนนี้จะมีการเดินเครื่องสูบน้ำเต็มที่” นายประกอบ กล่าว 
 
รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กทม.ได้ลดระดับน้ำในคลองให้อยู่ที่ -0.90 ถึง -0.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง   และหากคาดว่าจะรักษาระดับน้ำไว้ที่ -1.00 ถึง-0.90 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับปริมาตรความจุในการรองรับน้ำฝนได้ ทั้งนี้ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่หากปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ไม่เกิน 60 มิลลิเมตร/ชั่วโมง จะสามารถระบายน้ำได้ไม่เกิดการท่วม ขัง แต่หากปริมาณน้ำฝนตกเกินกว่านั้นจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการระบายออกจาก  พื้นที่.

 16 
 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2009, 09:11:52 AM 
เริ่มโดย เด็กน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย เด็กน้อย
ไทยรัฐ

อย่ากลัวคลอรีน ในน้ำก๊อก

ทุกวันนี้การสื่อสารทันสมัยกันมากขึ้น บางคนได้รับอีเมล์ส่งต่อๆ กันมาเกี่ยวกับข่าวสารสุขภาพ ที่ดูน่ากลัว อย่างเรื่องคลอรีนในน้ำประปา หรือน้ำก๊อกที่มีคนหัวใสนำไปทำการตลาดกับเครื่องกรองน้ำราคาแพงก็เป็นหนึ่งในข่าวสารลักษณะนี้

มักมีการกล่าวอ้างว่ามีข้อมูลวิจัยจากต่างประเทศ พบว่าคลอรีนในน้ำประปาก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งที่เรียกว่า ไตรฮาโลมีเธนส์ จนอาจทำให้ ผู้บริโภคน้ำประปาตื่นตระหนกตกใจกันขึ้นว่าไม่ควรดื่มน้ำก๊อก เรื่องนี้ นางยิ่งลักษณ์ ธัญญะโชโต ผู้อำนวย-การฝ่ายสื่อสารองค์กร การประปานครหลวง (กปน.) ชี้แจงว่า  น้ำประปาเป็นน้ำที่ผลิตมาจากน้ำดิบตามธรรมชาติย่อมมีสารอินทรีย์ที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตปะปนอยู่ เมื่อทำปฏิกิริยาเคมีกับคลอรีน ทำให้เกิดสารประกอบเคมีที่เรียกว่า Trihalomethanes (THMs) หรือ "ไตรฮาโลมีเธนส์" ที่ผ่านมา กปน.ติดตามการศึกษาและวิจัยของพิษภัยสารตัวนี้มาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งองค์การอนามัยโลกได้กำหนดคลอรีนอิสระคงเหลือในน้ำประปาไว้ไม่ต่ำกว่า 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร และสูงสุดไม่เกิน 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร

ทั้งยังได้เคยว่าจ้างให้ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ตรวจหา"ไตรฮาโลมีเธนส์" ในน้ำประปาของ กปน. และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพของผู้บริโภค ซึ่งได้ผลออกมาว่าปริมาณสาร "ไตรฮาโล-มีเธนส์" ในน้ำประปาต่ำกว่าเกณฑ์กำหนดขององค์การอนามัยโลกมาก จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งน้อยมาก

แต่ถ้าหากยังไม่มั่นใจและต้องการกำจัด "ไตรฮาโล-มีเธนส์" ก็ทำได้ง่ายมาก เนื่องจากจัดอยู่ในกลุ่มสารอินทรีย์ ระเหยง่าย ทำได้เพียงแค่ รองน้ำประปาตั้งทิ้งไว้ในภาชนะเปิด ประมาณ 15 นาทีถึงครึ่งชั่วโมง ปริมาณ "ไตรฮาโลมี-เธนส์" ซึ่งมีอยู่ในระดับต่ำและไม่ส่งผลต่อสุขภาพ รวมทั้งคลอรีนซึ่งอาจส่งผลต่อกลิ่นและรสของน้ำก็จะระเหยหมดไปเอง ไม่จำเป็นต้องไปซื้อเครื่องกรองน้ำราคาแพงที่บอกว่า สามารถกำจัด"ไตรฮาโลมีเธนส์" ได้

หากต้องการความมั่นใจยิ่งขึ้นไปอีก สามารถ นำน้ำประปาไปต้มก่อนโดยเปิดฝาภาชนะไว้ขณะต้มก็ช่วยได้เช่นกัน เพราะน้ำประปาต้มเดือดถือเป็นน้ำดื่มที่สะอาดและปลอดภัยที่สุด.

 17 
 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2009, 09:01:36 AM 
เริ่มโดย เด็กน้อย - กระทู้ล่าสุด โดย เด็กน้อย
กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุม ทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนมากกว่าภาคอื่นๆ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันโดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศา
โดยมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในระยะนี้ ลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับจะมี หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออก และอ่าวไทยตอนบนในช่วงวันที่ 10-15 พ.ค. ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนจะเพิ่มมากขึ้น ส่วนภาคใต้มีฝนกระจาย ข้อควรระวัง 

ข้อควรระวัง

 ในช่วงวันที่ 10-15 พ.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก

 18 
 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2009, 10:55:00 PM 
เริ่มโดย marine_wi - กระทู้ล่าสุด โดย Oo
เดี๋ยวพี่จะตามไปดูนะจ๊ะ 
อยากอ่านๆๆ

 19 
 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2009, 05:48:29 AM 
เริ่มโดย สายน้ำ - กระทู้ล่าสุด โดย สายน้ำ
เนชั่นแชนแนล : เนชั่นทันข่าว


ไกด์ดำน้ำแฉขบวนการทัวร์ท่องเที่ยวลอบขนปะการัง

นาย พลศิริ ศุภศรี อายุ 37 ปี ผู้ประกอบการธุรกิจดำน้ำ บริษัท SEAMOTH & DIVE CENTER & TOUR จ.ตรัง เปิดเผยว่า จากการดำน้ำสำรวจแหล่งปะการังในท้องทะเลตรัง โดยเฉพาะหมู่เกาะต่างๆ เช่น เกาะเชือก เกาะม้า เกาะแหวน เกาะกระดาน และเกาะลิบง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามและมีชื่อเสียงใน จ.ตรัง ที่นักดำน้ำทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีความหลากหลายทางระบบนิเวศน์ และความอุดมสมบูรณ์

ขณะนี้ ได้มีขบวนการลักลอบเก็บปะการังตามเกาะต่างๆ แอบแฝงปะปนเข้ามาในกลุ่มของนักท่องเที่ยว โดยบางรายยอมลงทุนซื้อกรุ๊ปทัวร์แบบเหมา เพื่อเข้ามาเก็บปะการังโดยเฉพาะ โดยทำทีลงเล่นน้ำชมปะการัง และเมื่อได้จังหวะเหมาะก็ดำน้ำใช้เครื่องมือเก็บปะการังใส่กระสอบปุ๋ยขึ้นมา ไว้บนเรือ

หลังจากนั้นจะนำขึ้นฝั่งส่งขายให้กับนายทุนในตลาดมืด บางชนิดราคาสูงสุดจะอยู่ที่หลักหมื่นบาทขึ้นไป ซึ่งขึ้นอยู่กับ ลักษณะ ขนาด อายุและคุณสมบัติการใช้งาน เป็นส่วนประกอบ นอกจากนัน้ยังยอมรับว่า มีนักดำน้ำนอกระบบบางรายเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบเก็บปะการังด้วย

สำหรับปะการังใน 4 เกาะของ จ.ตรัง ที่ถูกกลุ่มมิจฉาชีพลักลอบเก็บส่วนใหญ่จะเป็น ปะการังซีแฟน ปะการังแส้ ฯลฯ ซึ่งปะการังเหล่านี้จะเป็นที่นิยมนำไปทำเป็นของที่ระลึก ของประดับ และของตกแต่งบ้านเรือน ขายตามชายหาดและรีสอร์ท

ทั้งนี้ไม่เฉพาะแต่ ปะการังเท่านั้นที่ถูกกลุ่มมิจฉาชีพแอบขโมยยังมีปลาการ์ตูน หอยบางชนิดที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์อย่างเช่นหอยมือเสือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคู่บ่าวสาวในระหว่างเข้าร่วมพิธีวิวาห์ใต้สมุทร จ.ตรัง ก็จะมีออร์เดอร์ นำไปทำของที่ระลึก เช่น ที่เขี่ยบุหรี่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นตามร้านอาหารชายทะเล หรือหากเป็นหอยขนาดใหญ่ก็จะทำอ่างล้างหน้าตามรีสอร์ทต่างๆ

อย่างไร ก็ตามจากผลกระทบดังกล่าว ส่งผลให้ปริมาณปะการังใน 4 เกาะของ จ.ตรัง อาทิ เช่น ปะการังซีแฟน ปะการังแส้ โดยภาพรวมลดลง ประมาณ 20-30 % นอกจากนั้นยังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยจะเห็นได้ว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำลดปริมาณลง และหันไปดำน้ำที่จังหวัดใกล้เคียง เช่น กระบี่ พังงาและภูเก็ตแทน และยังทำให้ระบบนิเวศน์เปลี่ยนแปลงไป


 20 
 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2009, 05:46:32 AM 
เริ่มโดย สายน้ำ - กระทู้ล่าสุด โดย สายน้ำ
X-cite  ไทยโพสต์


รวบขบวนการขนน้ำมันเถื่อนแก๊งตร.น้ำ

      ตร.สัตหีบบุกรวบขบวนการลักลอบขนน้ำมันเถื่อน  ขณะกำลังถ่ายขึ้นจากเรือประมงดัดแปลงคาหนังคาเขา  คนขับรถซัดทอด  "จ่าเบิ้ม"  ตำรวจน้ำร่วมด้วย  แต่เคลียร์กันไม่ได้ถูกนำตัวไปดำเนินคดี

     เมื่อเวลา  04.45  น.  วันที่  7  พฤษภาคม  พ.ต.อ.สมชาย  สุนทวนิค  ผกก.สภ.สัตหีบ  จ.ชลบุรี  ได้นำกำลังเข้าจับกุมขบวนการขนน้ำมันเถื่อน  ขณะทำการถ่ายจากเรือประมงที่ท่าเทียบเรือสะพานภิรมย์   หมู่  3  ต.แสมสาร  อ.สัตหีบ  คนงานที่กับกับรถบรรทุก  2  คน  และลูกเรือประมงพร้อมไต๋เรือ  5  คนไหวตัวทัน  พากันโดดลงทะเลหนีรอดไปได้

     เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายสาคร   พงษ์ชัย  อายุ  30  ปี  อยู่บ้านเลขที่  90/11   หมู่  11   ต.ทางขวาง  อ.แวงน้อย  จ.ขอนแก่น  คนขับรถบรรทุก  6  ล้อ  ยี่ห้อฮีโน่  สีขาว  ทะเบียน  83-3278  สมุทรปราการ  ที่ท้ายรถบรรทุกถังน้ำมัน  200  ลิตร  34  ถัง  นายพร  ดางลอย  อายุ  42  ปี  อยู่บ้านเลขที่  87/5  หมู่  6  ต.หนองโสน  อ.สามง่าม  จ.พิจิตร  คนขับรถกระบะมิตซูบิชิ  สตราด้า  สีบรอนซ์ทอง  ทะเบียน  ณจ.-9869  กทม.  ที่ท้ายรถบรรทุกถังน้ำมัน  200  ลิตร  อยู่  8 ถัง  นายปรัชญา  ตะโส  อายุ  34  ปี   อยู่บ้านเลขที่  314/28  หมู่  7  ต.บางเมืองใหม่  อ.เมืองสมุทรปราการ  คนขับรถบรรทุกมิตซูบิชิ  สตราด้า  สีบรอนซ์  ทะเบียน  ลร.-7980  ท้ายรถบรรทุกถังน้ำมัน  200  ลิตร  อยู่  8  ถัง  เอาไว้  พร้อมกับตรวจสอบเรือประมงดังกล่าวที่กำลังถ่ายน้ำมันอยู่

     พบเป็นเรือประมงดัดแปลงเพื่อบรรทุกน้ำมันขนาด  9  วา  2  ศอก  ชื่อปิยชล  ทะเบียนเรือ  รย.1142  สีฟ้าขาว  ในระวางเป็นห้องบรรจุถังพลาสติก  16  ถัง  แต่ละถังจุ  1   พันลิตร  รวมทั้งสิ้น  10,800  ลิตร  ขณะถูกจับกุมมีการถ่ายน้ำมันขึ้นรถแล้ว  3,800  ลิตร   และพบบัตรประชาชนตกอยู่บนเรือ  1  ใบ  ชื่อนายบุญเรือน  สร้อยจิตร  อายุ  52  ปี   อยู่บ้านเลขที่  45  หมู่  5  ต.พรมเทพ  อ.ท่าตูม  จ.สุรินทร์  คาดว่าจะเป็นไต๋เรือจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

     นายสาครคนขับรถบรรทุก  6  ล้อ  ให้การว่า  มีนายทุนใน  จ.สมุทรปราการ  จ้างวานให้บรรทุกน้ำดีเซล   1  หมื่นลิตร  โดยให้ประสานกับจ่าเบิ้มตำรวจน้ำในพื้นที่  ที่หมายเลข  08-6663-6184  พาเข้ามาที่สะพานเทียบเรือ  ก่อนหน้านี้ขนไปแล้ว  1  ครั้ง  พอครั้งที่  2   ก็ถูกจับ  นายสาครได้โทรศัพท์ไปหาจ่าเบิ้ม  บอกว่าถูกตำรวจจับก็ตัดสายทิ้ง  แต่ต่อมาก็มีตำรวจน้ำนายหนึ่งโทร.มาขอพูดกับชุดจับกุม  แต่เคลียร์ไม่ได้


หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.068 วินาที กับ 15 คำสั่ง