พอล วัตสัน.....ภารกิจนี้เพื่อโลก

วัตสัน ถ่ายรูปคู่กับเรือของกลุ่ม ซี เชพเพิร์ด ระหว่างถูกจับกุมโดยรัฐบาลแอฟริกาใต้ ที่ท่าเรือเคป ทาวน์ เมื่อพ.ศ.2549 (ที่มา:อีพีเอ)

พอล วัตสัน อุทิศทั้งชีวิตเพื่อต่อสู้กับใครก็ตามที่แย่งชิงทรัพยากรจากท้องทะเล

เมื่อปีที่แล้วใช้ชีวิตอยู่บนเรือนานกว่า 50 สัปดาห์ และในปีนี้ วัตสันมีเวลาอยู่ที่บ้านของตัวเองที่รัฐวอชิงตัน ในสหรัฐ เพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น โดยยึดหลักการทำงานที่ว่า "ไม่มีวันหยุดพักสำหรับภารกิจเพื่อโลก"

ชายวัย 58 ปีผู้นี้ เปิดโอกาสให้สัมภาษณ์ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน โดยไม่ต้องการให้เปิดเผยถึงสถานที่นัดพบ อ้างว่ากำลังถูกขู่ฆ่า เขามีรูปร่างท้วม ใส่เชิ้ตสีดำ มีโลโก้ของ 'ซี เชพเพิร์ด' กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติที่เจ้าตัวเป็นหัวหน้ากลุ่ม ในอดีต วัตสันเคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งดั้งเดิมของกลุ่มกรีนพีซ เมื่อราวๆ ปี 2512 และได้ถอนตัวออกในปี 2520 เนื่องจากมีหน่วยงานของรัฐเข้าซื้อกิจการองค์กรดังกล่าวไป

แม้จะภาคภูมิใจในหมายเลขสมาชิก 007 แต่สาเหตุส่วนหนึ่งที่ถอนตัวออก เป็นเพราะรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านการล่าปลาวาฬแบบถึงลูกถึงคนของกรีนพีซ มีแนวโน้มลดลง

อดีตยามชายฝั่งชาวแคนาดาผู้นี้ เริ่มก่อตั้งกลุ่ม ซี เชพเพิร์ด ในปี 2524 และบังคับบัญชาการเดินเรือมากกว่า 200 เที่ยว มีวัตถุประสงค์เพื่อยับยั้งการล่าปลาวาฬในมหาสมุทรแอนตาร์กติก และอาร์กติก, การประมงผิดกฎหมายในทะเลแปซิฟิก, การฆ่าแมวน้ำในแคนาดา และเมื่อเร็วๆ นี้ ยังมีเรื่องเกี่ยวกับการรุกพื้นที่บริเวณหมู่เกาะกาลาปาโกส ในเอกวาดอร์ และการล่าปลาฉลาม โดยใช้ยุทธวิธีที่พวกเขาเรียกว่าบุก โจมตี เผชิญหน้า และจมเรือเป็นจำนวนมาก

วัตสันและลูกเรือซึ่งทั้งหมดเป็นอาสาสมัคร ต้องเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญกับทั้งพายุ ก้อนน้ำแข็ง รัฐบาลที่ไม่เป็นมิตร และเรือประมงที่ผิดกฎหมาย ด้วยการโจมตีเรือถึง 7 ลำ จมเรืออีก 8 ลำ และเคยอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้ายหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยถูกตัดสินว่ากระทำความผิดเลยสักครั้ง เป็นเพราะพวกเขากระทำด้วยความระมัดระวัง และอยู่ภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องธรรมชาติ รวมทั้งตัววัตสันเองมั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำลงไปอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายทางทะเลระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นวิธีการที่ถูกหรือผิดกฎหมาย กลยุทธ์ของกลุ่ม ซี เชพเพิร์ด ยังรวมถึงการจู่โจมเรือล่าปลาวาฬด้วยระเบิดควัน ขว้างแผ่นเนยที่มีกลิ่นเหม็นหืนใส่ดาดฟ้าเรือของฝ่ายตรงข้าม เพื่อทำให้พื้นดาดฟ้าลื่น ขณะที่ลูกเรือล่าปลาวาฬสัญชาติญี่ปุ่นรายหนึ่งระบุว่า วัตถุดังกล่าวเป็นเหมือนสารที่มีฤทธิ์เป็นกรด

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา อาสาสมัคร 2 คนของซี เชพเพิร์ด ได้บุกขึ้นไปบนเรือยูชิน มารุ ที่ลอยลำอยู่บริเวณทะเลตอนใต้ แล้วล่ามตัวเองติดกับราวลูกกรงเรือ พร้อมกับส่งจดหมายไปยังเรือลำนั้น ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

แต่จากคำบอกเล่าของวัตสัน อาสาสมัครทั้งสองคนถูกปล่อยโดยไม่มีการดำเนินคดีแจ้งความใดๆ นั่นเป็นเพราะรัฐบาลญี่ปุ่นไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวในด้านลบเกี่ยวกับการล่าปลาวาฬมากไปกว่าประโยชน์ที่พวกเขาได้รับ

วัตสันทำสิ่งต่างๆ ด้วยจิตวิญญาณ การเคลื่อนไหวครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2518 เมื่อพยายามขับไล่เรือล่าปลาวาฬสัญชาติโซเวียต จนฉมวกล่าวาฬเกือบจมเรือลำเล็กของเขา

“ปลาวาฬที่กำลังจะตายเหล่านั้นมองมาที่ผม และมันก็ไปทางอื่นเพื่อเลี่ยงที่จะไม่ให้เราเกิดอันตราย” วัตสันเล่า เขาโกรธชาวรัสเซียเพราะพวกเขาจะนำไขจากปลาวาฬไปทำเป็นน้ำมันหล่อลื่นใส่ในขีปนาวุธพิสัยไกลที่สามารถยิงข้ามทวีปได้ นี่แหละคือเชาว์ปัญญาที่กำลังฆ่าความสันติสุข และสัตว์โลกเพื่อนำน้ำมันเพียงน้อยนิดไปใส่ในเจ้าอุปกรณ์สังหารที่ว่า

แม้การล่าปลาวาฬจะเป็นความวิตกกังวลอันดับต้นๆ แต่ลูกเรือของวัตสันยังเป็นแนวหน้าในการเผยแพร่ข้อมูลความหายนะของสิ่งแวดล้อมทางทะเลด้วย นอกจากนี้ พวกเขายังจับพ่อค้าปลิงทะเลผิดกฎหมาย และชาวประมงเอเชียที่ล่าปลาฉลามเพียงเพื่อนำครีบไปทำเป็นซุป

“ผมไม่สนใจว่าผู้คนจะพูดถึงผมว่าอย่างไร แต่ที่ผมจะต้องดูแลคือ ปลาวาฬ ปลาฉลามและประชากรปลาที่ไม่มีใครต่อสู้เพื่อพวกมันเลย” วัตสันบอก

ทั้งนี้ จำนวนสมาชิกของ ซี เชพเพิร์ด กำลังเติบโตขึ้น แต่ทั่วโลกแล้วก็ยังมีเพียง 50,000 คน ซึ่งน้อยกว่ามาก เมื่อเทียบกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกที่มีสมาชิก 5 ล้านคน และกรีนพีซ มีสมาชิกจำนวน 2.5 ล้านคน เกี่ยวกับเรื่องนี้ วัตสันยืนกรานว่าไม่ต้องการเปรียบเทียบกับคนอื่น

เมื่อพูดถึงประเทศเอกวาดอร์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มซี เชพเพิร์ด บอกว่าเกาะกาลาปาโกสซึ่งถูกจัดให้เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลก กำลังไปสู่หนทางตีบตัน โดยเจ้าหน้าที่รับสินบนจากพวกเรือหาปลาผิดกฎหมาย พวกเขาไม่เคยจับกุมผู้รุกล้ำเข้ามาเลย แต่เราทำ เรายึดเจ้าพวกอุปกรณ์ล่าปลาฉลามผิดกฎหมายได้เป็นพันๆ ชิ้น

นอกจากวัตสันและวิศวกรบนเรือแล้ว ลูกเรือทั้งหมด 35 คน ล้วนเป็นอาสาสมัครที่ไม่มีเงินเดือนเลย ซึ่งสมาชิกชาวอังกฤษคนหนึ่งบอกว่า ตัวเองได้ขายบ้านและย้ายกลับไปอาศัยอยู่กับพ่อแม่ เพื่อนำเงินไปใช้ระหว่างเป็นลูกเรืออยู่นานเป็นปี นับเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิต และถ้าสามารถทำสิ่งนี้ได้อีก ก็จะไปพรุ่งนี้ได้เลย

ปัจจุบันนี้ สมาชิกของซี เชพเพิร์ด มีมากกว่าจำนวนเรือที่จะพาพวกเขาออกเดินเรือได้ แต่วัตสันพยายามให้ความมั่นใจว่า ทุกคนมีโอกาสที่จะได้ทำในสิ่งพวกเขาต้องการให้ความช่วยเหลือ

เมื่อถามว่า หากประชาชนเบื่อหน่ายกับข่าวร้ายๆ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมล่ะ คำถามนี้ทำให้วัตสันดูเศร้าในทันที แต่ในที่สุดเจ้าตัวก็บอกว่า

"ไม่มีข่าวดีเลยจริงๆ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งผมถูกเรียกว่าผู้พยากรณ์เหตุร้าย แต่ความจริงก็คือ คำทำนายเหตุร้ายทั้งหมดจะเป็นจริง"

...............................................................

ที่มา : เทเลกราฟ

ภาพและเรื่องจาก.....http://www.bangkokbiznews.com/2008/06/19/news_268380.php

	ผู้เขียน	หัวข้อ: พอล วัตสัน.....ภารกิจนี้เพื่อโลก (อ่าน 3830 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้