สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันพุธที่ 22 ตุลาคม 2551

[สายน้ำ]

กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียง เหนือและภาคเหนือ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง สำหรับร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคใต้และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุก และฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ระมัดระวังน้ำล้นตลิ่ง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายจากการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
   

คาดหมาย

 ในช่วงวันที่ 21-22 ต.ค. คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง และฝนตกหนักในระยะแรก ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา

ในช่วงวันที่ 23-27 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน อีกครั้งหนึ่ง ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา สำหรับร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคใต้ และอ่าวไทยตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนบนโดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 25-27 ต.ค.


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 21-22 ต.ค. ขอให้ประชาชนในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิเช่น บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก หนองคาย และเลย และในช่วงวันที่ 24-27 ต.ค. บริเวณภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ตอนบน อาทิเช่น บริเวณจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจจะทำให้เกิดสภาวะน้ำ ท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือขอให้ระวังอันตรายจากการเดินเรือโดยเฉพาะในบริเวณที่มีฝนฟ้า คะนองไว้ด้วย

[สายน้ำ]

เดลินิวส์


ระบบติดตามเรือประมง

   

กรมประมง  เนคเทค และ Gisda  ร่วมกันจัดทำโครงการทดสอบการประมวลผลข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจทรัพยากรร่วมกับ ระบบติดตามเรือเพื่อตรวจหาตำแหน่งเรือทำประมง โดยพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีติดตามรถแบบเรียลไทม์ผ่านดาวเทียมเพื่อ ตรวจสอบติดตามเรือ เส้นทางการเดินเรือ ทิศทาง ความเร็วและระยะทาง สามารถตรวจสอบสถานะปัจจุบันและการเดินเรือย้อนหลังได้ มีประโยชน์ต่อเจ้าของเรือในการวางแผนออกเรือ ทั้งคำนวณปริมาณน้ำมัน เสบียง และแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน  ผ่านอีเมลและSMS บนมือถือ

[สายน้ำ]

ผู้จัดการออนไลน์


“เปิดโลกมหัศจรรย์ แดนสวรรค์เมืองพังงา”



      จังหวัดพังงา ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพังงา องค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา องค์การบริหารส่วนตำบลคึกคัก และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่ กำหนดจัดงาน “เปิดโลกมหัศจรรย์ แดนสวรรค์เมืองพังงา” ( Phang nga 2008 – Green Forever ) ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2551 ณ บริเวณเขาหลักเซ็นเตอร์ หน้าโรงเรียนบางเนียงฝั่งตะวันออก
       
       นางพรประภา ล้อสุวรรณ ผู้ อำนวยการ ททท. สำนักงานกระบี่ กล่าวว่าการจัดงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวจังหวัดพังงาครั้งนี้ ใช้แนวคิดของการเผยแพร่ภาพลักษณ์ของจังหวัดพังงาด้านความสวยงามของแหล่งท่อง เที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงความสด ความเขียวขจี และความมีเสน่ห์ของท้องทะเลอันดามันที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะเขาหลักอันเป็นที่รู้จักดีของนักท่องเที่ยว ผนวกกับกระแสของการท่องเที่ยวของโลกในปัจจุบันในอันที่จะอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติอันเป็นมรดกที่มีค่ายิ่ง นอกจากนี้แล้วยังจะเป็นการเปิดตัวจังหวัดพังงาในด้านความพร้อมที่จะต้อนรับ นักท่องเที่ยว สำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงนี้
       
       สำหรับงาน "เปิดโลกมหัศจรรย์ แดนสวรรค์เมืองพังงา" จะ มีพิธีเปิดในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2551 เริ่มด้วยขบวนพาเหรด ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป จากนั้นในเวลา 19.00-23.00 น. ของทุกวันจะมีเวทีการแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงดนตรี และการประกวด Miss Green Forever ซึ่งเป็น highlight ของงานนี้ นอกจากนี้ ในบริเวณงานยังมีการออกร้านของหน่วยงานต่างๆ สินค้า OTOP การจำหน่ายอาหารทะเลสด อาหารท้องถิ่น และขนมพื้นเมืองที่มีชื่อของจังหวัดพังงาอีกด้วย
       
       สอบถามรายละเอียดของงานเพิ่มเติมได้ที่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา โทร.0-7644-3443 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ โทร.0-7562-2163


**************************************************************************************************************************


“ทต.แหลมสัก” พร้อมเปิดใช้ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวงบสร้าง 50 ล.-รับฤดูการท่องเที่ยวเชื่อมกระบี่-พังงา
 
       กระบี่ - “เทศบาลแหลมสัก” พร้อมเปิดใช้งานสะพานเทียบเรืออเนกประสงค์ ท่องเที่ยว ประมง พ.ย.นี้งบประมาณ 50 ล้านบาท รับฤดูการท่องเที่ยว เชื่อมกระบี่ พังงา
       
       นายกมล บุญธีระเลิศ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแหลมสัก กล่าวว่า ตามที่กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี ได้จัดสรรงบประมาณมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ โดยสามารถเข้าเทียบท่าได้ทั้งเรือท่องเที่ยว และเรือประมง ตั้งอยู่ ม.3 ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก ขณะนี้ตัวสะพานได้ดำเนินการเสร็จแล้วยังเหลือการปรับแต่งภูมิทัศน์ และส่งมอบให้กรมธนารักษ์ เพื่อให้กรมธนารักษ์ได้พิจารณามอบให้กับเทศบาลตำบลแหลมสักบริหารการจัดการ ต่อไป
       
       นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแหลมสัก กล่าวอีกว่า ท่าเทียบเรือแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำเพื่อการท่องเที่ยว ระหว่าง อ.อ่าวลึก กับ อ.เกาะยาว และ เกาะปันหยี จ.พังงา ซึ่งพร้อมที่จะบริการนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ นอกจากนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอย่างครบวงจร ขณะนี้ได้รับการจัดสรรงบประมาณยุทธศาสตร์พัฒนา 10 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างถนนคอนกรีตยาว 625 เมตร พร้อมระบบไฟฟ้าแสงสว่าง การปรับปรุงภูมิทัศน์จากหน้าสถานีอนามัยตำบลแหลมสักไปถึงหน้าสำนักงานเทศบาล ตำบลแหลมสัก
       
       “นอกจากนี้ จังหวัดกระบี่ได้จัดสรรงบประมาณอยู่ดีมีสุขจำนวน 540,000 บาท สร้างเรือหัวโทง จำนวน 16 ลำ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเช่าเหมาลำ ชมทิวทัศน์ธรรมชาติระบบนิเวศของป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์ของป่าไม้โกงกาง ชมถ้ำภาพเขียนสีโบราณ 700 ปี อ่าวกาโรด ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลแหล่งอื่นๆ คาดว่า จะทำให้เงินสะพัดในตำบล และพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพราะสามารถเดินทางได้สะดวก เข้าออกได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงน้ำลงก็ตาม”
       
       นายกมล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากเป็นการเพิ่มเส้นทางการท่องเที่ยวแห่งใหม่แล้ว ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงยังสามารถสร้างอาชีพได้อีกด้วย เช่น ค้าขาย ของที่ละลึก รวมทั้งสินค้าโอทอปในตำบล การให้บริการเรือหัวโทงแก่นักท่องเที่ยว เป็นการสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากอาชีพหลักคือการเกษตร สวนปาล์มน้ำมัน ยางพารา และการทำประมงพื้นบ้าน ซึ่งต่อไปทางเทศบาลตำบลแหลมสักจะนำวิทยากรที่มีความรู้ด้านการท่องเที่ยวมา ให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อเพิ่มความรู้โดยเฉพาะในเรื่องภาษาอังกฤษ ที่เป็นปัจจัยสำคัญมากที่สุด

[สายน้ำ]

ข่าวสด


ศูนย์ฯประมงกระบี่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ปลาทะเลสวยงามมูลค่าสูง-แหล่งท่องเที่ยวดูงาน

กระบี่ - นายไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ กล่าวว่า ปัจจุบันทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำมูลค่า สูงได้หลายชนิด อาทิ ปลากะรังดอกแดง ปลาเก๋า ปลาช่อนทะเล ปลาหมอทะเล ปลากะพงขาว ปลากุสหลาด เป็นต้น เพื่อให้เกษตรกรได้มีตัวเลือกในการนำพันธุ์สัตว์นำเหล่านี้ไปเพาะเลี้ยง ป้องกันความเสี่ยง ในเรื่องของราคาที่ไม่แน่นอน เนื่องจากบางชนิดก็ราคาสูง แต่บางชนิดก็มีราคาตกต่ำ ขึ้นอยู่กับตลาด นอกจากนี้ ก็ยังได้มีการเพาะเลี้ยงสัตว์ทะเลสวยงามได้อีกหลายชนิดด้วย เช่น ปลาการ์ตูน ปลานกนางแอ่น ปลาหูช้าง ปลาม้าน้ำ ปลาสลิดหินฟ้าเหลือง ปลาตะกรับลายเสือ ปลานีออนเมเซล ปลากะรังหน้างอน ปลากะรังหงส์ เป็นต้น

ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยฯ ยังกล่าวอีกว่า ตอนแรกทางศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุ์สัตว์เพาะพันธุ์ปลากะรัง ดอกแดง เนื่องจากประเทศไทยส่งออกปลากะรังดอกแดงมาเป็นอันดับหนึ่ง จากนั้นก็เพาะพันธุ์ปลากะรัง เสือและปลากะรังหน้างอนหรือปลากะรังหงส์มีราคาสูง ตกกิโลกรัมละประมาณ 4,000-5,000 บาท ในปีนี้ศูนย์วิจัยฯ ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาหมอทะเล และปลากุสหลาด เป็นปลาที่มีราคาสูง ส่วนปลากะรังก็เป็นปลาที่นิยมบริโภคกันมาก นับว่าศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่สามารถเพาะพันธุ์สัตว์น้ำได้ เกือบทุกชนิดแล้ว นี่คือความภาคภูมิใจ และยังเป็นผลดีกับเกษตรกรที่จะได้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพ และนอกจากจะเป็นศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์น้ำมูลค่าสูงหลายชนิดแล้วยังมีการเพาะ พันธุ์ปลาทะเลสวยงามอีกด้วย

"ตอนแรกเพาะเลี้ยงปลาในกระชังเพียงอย่าง เดียวจากนั้นก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชม และรู้สึกชอบจึงบอกกันปากต่อปากจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมมาก ขึ้น ทำให้จังหวัดเห็นความสำคัญ โดยในปี พ.ศ. 2548 จังหวัดได้สนับสนุนงบประมาณ 8 ล้านบาท เพื่อปรับภูมิทัศน์บริเวณบ่อเลี้ยงปลา แต่รูปแบบก็ยังเป็นการแสดงขั้นตอนการเพาะเลี้ยง การดำเนินการ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉลี่ยแล้วปีละประมาณ 4-5 หมื่นคน และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจ คือ มีนักเรียน นักศึกษาเข้ามาศึกษาดูงาน เพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งด้วย"


***********************************************************************************************************************************


เรือกอและ                 :                คอลัมน์ รู้ไปโม้ด



เรือกอและ เป็นเรือประมงชายฝั่งของลูกลุ่มน้ำบางนรา และลูกทะเลมุสลิมแห่งท้องทะเลปัตตานีและนราธิวาส กับอีกบางส่วนของสงขลา คือทะเล ต.เก้าเส้ง อ.เมือง คำว่า "กอและ" เป็นภาษามลายู เขียนเป็นตัวอักษรโรมันว่า KOLEK แปลว่า โคลงเคลง ล่องลอย

เรือร่ำ รวยสีสันสารพัดฉูดฉาดงดงาม และเอกลักษณ์อีกประการที่ชัดเจนด้วยเป็นมรดกวัฒนธรรมตกทอดมาช้านาน คือส่วนหัวและท้ายเรือที่สูงขึ้นจากลำเรือ โดยที่ลำเรือกอและแบ่งเป็น 4 ขนาดตามความยาวของลำเรือ คือ ขนาดใหญ่ยาว 25 ศอก ขนาดกลางยาว 22 ศอก ขนาดเล็กยาว 20 ศอก และขนาดเล็กมากเรียกว่า ลูกเรือกอและ ยาว 6 ศอกโดยประมาณ

ตลอดลำเรือประณีตสวยด้วยลวดลายที่ผสมกลมกลืน ระหว่างลายมลายู ลายชวา และลายไทย แต่ ละลายมาจากความเชื่อ จากเรื่องเล่า จากตำนานนิยายที่บอกเล่าสืบกันมารุ่นสู่รุ่น รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และสังคมความเป็นอยู่ที่ประกอบด้วยชน 4 เชื้อชาติ ไทยพุทธ ไทยมุสลิม ชาวชวา และชาวจีน ความหลากหลายทางวัฒนธรรมสะท้อนโดดเด่นอยู่บนลำเรือกอและ

ช่างที่ เขียนลวดลายแทบทุกคนเป็นจิตรกรพื้นบ้าน ไม่เคยร่ำเรียนศิลปะจากสถาบันทางการศึกษาใดๆ ฝีมือสุดวิจิตรสืบทอดจากบรรพบุรุษ เป็นประสบการณ์ตรงและจริงของแท้ ทั้งนี้ นอกจากลายไทย เช่น ลายกระหนก ลายบัวคว่ำบัวหงาย ลายหัวพญานาค และเหราแล้ว มักนิยมเขียนรูปสัตว์น้ำ ทิวทัศน์ ที่สำคัญคือสัตว์ในตำนาน หรือวรรณคดี เช่น หนุมานจับสุวรรณมัจฉา ราหูอมจันทร์ เมขลาล่อแก้ว รามสูรขว้างขวาน

รวม ถึงสารพันนก อาทิ นกกาเฆาะซูรอ หรือนกกากะสุระ นกกรุดา หรือนกครุฑ นกบือเฆาะมาศ หรือนกยูงทอง และนกบุหรงซีงอ หรือสิงหปักษี ที่เชื่อกันว่ามีเขี้ยวเล็บและมีฤทธิ์เดชมาก ดำน้ำเก่ง เป็นที่เชื่อมั่นของชาวเรือกอและมาแต่โบราณ ตลอดจนมังกรและนกกระเรียนแบบจีน

ส่วน ช่างต่อเรือกอและส่วนใหญ่เป็นมุสลิมที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่ง ทะเลของอ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เรียนรู้วิธีการต่อเรือกอและมาจากบรรพชน จากรุ่นพ่อถึงลูกหลานตามลำดับ ฝีมือช่างต่อเรือวัดกันตรงรายละเอียด คือช่างผู้มีฝีมือจะไม่ใช้ตะปู แต่จะนำไม้ชนิดเดียวกับลำเรือมาเหลาทำเป็นสลักใช้แทนตะปู ไม้ทำลำเรือต้องเป็นไม้เนื้อแข็งเพื่ออายุการใช้งานได้ยืดยาวหลายปี ที่นิยมคือไม้จืองา (ไม้ตะเคียนทอง) ไม้หลุมพอ และไม้สยา

ปัจจุบันมี กอและอยู่ 2 แบบ คือ แบบหัวสั้น และแบบหัวยาว โดยที่แบบหัวยาวก็ยังแบ่งเป็น 2 แบบย่อยๆ คือ แบบมาเลเซีย ซึ่งมีลักษณะแข็งและแคบ กับแบบบาฆะ (ตะวันตก) มีลักษณะยาว โค้ง กว้างและอ่อนช้อย

ส่วนประกอบของเรือกอและ มีดังนี้ "ปาแปทูวอ" คือขอบเรือที่นูนออกมาข้างนอก เป็นลักษณะกันชนยาวตลอดลำเรือ "กอมา" คือส่วนล่างของปาแปทูวอ ซึ่งทำรอยแซะเนื้อไม้และเจาะรูไว้สำหรับผูกสิ่งของ เช่น เชือกเสาตะเกียง เชือกของใบเรือ และโอ่งใส่น้ำ "จาปิ้ง" คือส่วนของหัวเรือ เป็นที่สิงสถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองลูกเรือ "ลูแว" คือส่วนของหัวเรือ มี 2 ด้าน คือ ด้านแม่อยู่ทางซ้ายมือ เรียกว่า ลูแวอีบู และด้านลูกอยู่ทางขวา เรียกว่า ลูแวอาเนาะ "บูเระแด" คือส่วนท้ายของเรือสำหรับติดตั้งหางเสือและเครื่องยนต์ และถ้าเรือแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนหัวเรียกว่า "ปาลอ" ส่วนกลาง (ลำเรือ) เรียกว่า "ตือเราะ" ส่วนท้ายเรียกว่า "ปูงง"

[สายน้ำ]

กรุงเทพธุรกิจ


ค้านอ้างโค่นป่าทำลายกับระเบิด



ชาวบ้าน เด็กเยาวชนบ้านผักกาด ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จันทบุรี มาชุมนุมประท้วง ระบุว่าสถาบันราชภัฎรำไพพรรณีจันทบุรีร่วมกับทหารและนายทุนวางแผนโครงการ พัฒนาพื้นที่ทุ่นระเบิดชายแดน ให้เป็นสวนยางพาราและแหล่งท่องเที่ยว โดยจะโค่นป่าเข้าไปทำลายกับระเบิดรัศมี 2ตร.กม. หรือกว่า1,200ไร่

[Sri_Nuan.Ray]

อ่านข่าวของ "ศูนย์ฯประมงกระบี่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ." แล้วปลื้มค่ะ


ดีใจกับ ท่านผอออไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ พี่สามารถ พี่อาคม ด้วยค่ะ  ที่ทำผลงานดีๆๆ ให้เป็นที่รู้จัก ของคนทั่วไป...

ขอให้รักษาชื่อเสียงให้นานๆๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ   

[สายชล]

เป็นปลื้มด้วยอีกสองคนค่ะ......

ข้าราชการของกรมประมงเก่งๆ....ดีๆ.....มีอยู่มากมาย น่าภูมิใจและดีใจที่ได้รู้จักทุกๆท่านจริงๆค่ะ (น้องแม่หอย....ผอ. ไพบูลย์....น้องสามารถ...น้องอาคม....น้องกัน....ฯลฯ  ยิ้มหวานๆหน่อยค่ะ)

[ตุ๊กแกผา]

สงสัยนู๋ กับน้องๆ ชาวชมรมนักนิยมฯ คงจะไปค่ายฯกันแบบเปียกๆ แน่แล้ว เพราะว่าจะไปกุยบุรี จ.ประจวบฯ เขตฝนเลย

เป็นกำลังใจให้พวกนู๋ๆ ตัวเล็กๆ ด้วยคับ.....ไปวันนี้แล้ว.....

[สายชล]

เปียกแน่ๆ.....แต่ก็ขอให้ทั้งพี่เลี้ยงและน้องเลี้ยงมีความสุขสนุกสนานกับการอออกค่ายกันถ้วนหน้านะจ๊ะ....

[ตุ๊กแกผา]

ขอบคุณค่ะ